[CR] ตะลุยญี่ปุ่น แดนปลาดิบด้วยตัวเอง กับ ทริปครั้งแรก ไปเอง วางแผนเอง เที่ยวเอง 10 วัน 9 คืน (>o<)

สวัสดีค่ะ ทุกคน เราขอมารีวิวไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก อาจะเป็นข้อมูลช่วย support สำหรับนักท่องเที่ยว แบกเป้ มือใหม่ได้บ้างน้าาา

การเดินทางครั้งนี้....อยากไปมานานแล้ว ประเทศญี่ปุ่นเนี้ย (เพราะเราจบวิชาเอกภาษาญี่ปุ่นมา เลยอยากจะงัดภาษาที่เรียนมาใช้บ้าง ที่ว่าตื่นมาก็ได้ยินแต่ภาษาญี่ปุ่น พูด ฟัง ใครก็เป็นภาษาญี่ปุ่น รู้สึกว่ามัน "ใช่" อ่า เพ้อออเสียงดัง)

การเดินทางครั้งนี้ฝากชีวิตไปกับ Air Asia X จองในราคาโปรโมชั่นตั้งแต่ปีที่แล้ว 2014 เลยได้ราคาถูกหน่อย แฮ่ๆ (แต่ก็ไม่ได้ถูกมากน่ะ ไปกลับ บินตรง BKK - NARITA คนละ 16,773 บาท ราคานี้รวมจองที่นั่ง+ค่าภาษีสนามบิน+ค่าภาษีอื่นๆ) เดินทาง 10 วัน 9 คืน
(20 April - 30 April 2015)

มาเริ่มการเดินทางวันแรกเลยดีกว่า
Day 1 ---> 21 April 2015 ( Yamashita Park - China town - Yokohama stadium )

เดินทางถึงสนามบินนาริตะ เวลา 8.10 AM อากาศเย็นกำลังพอดีประมาณ 18 องศา



ลงจากเครื่องแล้วอย่าลืมเตรียมเอกสารพาสปอร์ต ใบขาเข้าญี่ปุ่น (ที่กรอกบนเครื่องบิน) เอกสารการจองโรงแรม แผนการเที่ยวให้เรียบร้อยน่ะ ไว้สำหรับยื่น ตม. ญี่ปุ่น (กรณีถ้าขอเรียกดูเอกสาร) ของเราผ่านฉลุย แต่ว่าของแฟนเราแอบขอเรียกดูเอกสารด้วย ฮ่าๆ



วันนี้มีผู้ใหญ่ใจดีมารับที่สนามบิน เลยไม่ต้องเสียค่าซื้อตั๋วรถไฟไปโตเกียว งั้นไปเที่ยวโยโกฮาม่า (Yogohama) ก่อนล่ะกันน่ะ วันนี้เที่ยวฟรีสไตล์ ในระหว่างนั่งรถไปโยโกฮาม่า (Yogohama) ขณะที่ติดไฟแดง เห็นเด็กอนุบาล (น่าจะพามาเดินเล่นข้างนอก) น่ารักมากๆเลย ที่นี้พี่เลี้ยงดูแลเด็กๆดีมาก ใส่รถเข็นกันเลยทีเดียว



ใกล้ถึงแล้ว ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะโยโกฮาม่า (Yokohama-koen) กัน!



แทน แท๊นน! ถีงแล้ว เดินมาสักพักก็เจอ"ถนน" ที่ดูสะอาดตา สีเขียวร่มรื่น จะอยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Park) ข้างทางคือ     "ต้นซากุระ" ที่ร่วงหมดแล้ว แอบเสียใจมาช้าไป ร้องไห้

ทางเข้าสวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Park) จะมีรูปปั้นเทพธิดาแห่งสายน้ำ อยู่ด้านหน้าเลย ยืนแบกไหน้ำ ด้วยท่าที่สง่างามมาก แต่ก็แอบสะพรึงเล็กน้อย 



ระหว่างทางก็เจอสิ่งนี้! ที่พื้นจะมีบล็อคหินเป็นสัญลักษณ์์ของเมืองโยโกฮาม่า (เป็นเสน่ห์อีกอย่างนึงที่เราชอบ><) รอบๆสวนสาธารณะ จะมี ดอกไม้ทิวลิปสีดำ แดง ดอกไม้สวยๆปลูกประดับ อยู่รอบๆ เมื่อเดินเข้าด้านในสวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Park) ก็จะเจอกับ เรือฮิคาวะมารุ (Hikawa-Maru) เป็นเรือโดยสารและโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ที่ปลดระวางตั้งแต่ พ.ศ.2503 จอดอยู่ สามารถซื้อบัตรเข้าไปชมได้ แต่เราไม่ได้ชมขอถ่ายรูปพอ แต่ที่แน่ๆ ลำใหญ่มากกก เก็บรูปไม่ได้ทั้งลำ เพลียเลย

ที่นี้ นอกจากเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของโยโกฮาม่าแล้ว ยังเป้นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น คนชรา คนทำงาน ก็จะมาเดินเล่น พักทานข้าวเที่ยง จูงน้องหมามาเดินเล่น นั่งปิคนิค ชิลๆในสวนแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ผ่อนคลายอารมณ์ ที่นิยมชมชอบของคนที่นี้เลยก็ว่าได้



เดินเล่นเรื่อยๆ ก็เป็นเวลาประมาณ 10.30 น. เริ่มหิวเพราะไม่ได้กินอะไรกันเลยตั้งแต่เช้า เพราะฉะนั้นเริ่มเวลามื้อเที่ยงเลยล่ะกัน มาฝากท้องที่ย่านไชน่าทาวน์ (มาตั้งไกลกินอาหารจีน ตามใจผู้ใหญ่พาไป กินฟรี)

และย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้น ซาลาเปา ว่าแต่ที่นี้ลูกใหญ่มาก หอม น่ากิน แต่ก็แค่ได้เดินผ่าน

ร้านอาหารย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นบุฟเฟ่ต์ ทานไม่อั้น เป็นโปรที่น่าลอง และก็ได้ลอง (ว่าแต่ร้านที่กินลืมถ่ายรูปมาแหะ มัวแต่กินนน)

พออิ่มแล้ว ก็เดินเล่นภายในถนนเส้นนี้จะมีร้านขายของที่ระลึก น่ารักๆ ของหวานเรียงรายสองข้างทางเลยน่ะค่า อย่ามัวแต่รีบช้อปน่ะ เก็บเงินไว้บ้าง ยังมีอีกหลายวัน (คือบอกตัวเอง)



ออกมาจากย่านไชน่าเทาวน์แล้ว ก็เดินเลาะตามริมทะเลที่เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Park) กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ก็เจอตึกแดงใหญ่เลย ที่นี้เรียกว่า ตึกแดง (Red Brick Warehouse) เป็นอาคารสีแดงที่สร้างจากอิฐสีแดงสองหลัง เมื่อก่อนเป็นโกดังสินค้าของท่าเรือโยโกฮาม่า ตอนนี้เป็นร้านค้าเต็มไปหมด เราก็ได้แต่มองจากระยะไกลๆ เพราะเรากำลังเดินทางไปดูเบสบอล



ก่อนจะไปสนามเบสบอล แวะนั่งกระเช้าที่ สวนสนุก CosmoWorld นั่งกระเช้าชิวๆ ดูบรรยากาศเมืองโยโกฮาม่าได้รอบทิศ แต่ว่าเรามาเช้าเกินไปไม่มีคนเล่นเลย (วันนี้เป็นวันธรรมดา คนเลยน้อย) ฮ่าๆ แต่พนักงานก็ยังทำงานปกติ ดูแลอย่างดี สมกับประเทศที่ชอบโค้งงงง เยี่ยมเยี่ยม จากนั้นก็ไปเล่น โคสเตอร์ต่อ อย่างมันส์ (หัวฟูกันเลยทีเดียว ทั้งขบวนนั่งกันแค่สามคนค่ะ)







เสร็จจากที่ สวนสนุก CosmoWorld แล้วก็นั่งแท็กซี่ไปสนามเบสบอลต่อ ไปถึงประมาณ บ่ายสองนิดๆ

วันนี้เป็นแขกวีไอพีเลย ได้มาดูทีม Yokohama DeNA BayStars ซ้อมก่อนลงแข่ง คนไทยที่มาเที่ยวญี่ปุ่นไม่ค่อยจะได้เข้าดูอ่ะ (คิดเองน่ะ เพราะตอนที่เราเข้าไปคุยกับนักกีฬา พอเราบอกว่าเรามาจากประเทศไทย นักกีฬาก็บอกว่า โอ้วว จริงเหรอ! แล้วก็สวนกลับว่า "สวัสดีครับ" เฮ้ย ฮ่าๆ เค้าบอกเราว่าเคยไปเที่ยวประเทศไทยมา ที่พัทยา อืมมม) ต้องรู้จักคนในอะไรประมาณนี้แระ (อันนี้ไม่แน่ใจน่ะ) เอาเป็นว่า เดินเข้ามาในสนามแล้ว โอ้ววว สนามใหญ่มากแล้วคนมาดูอะไรกันเหรอ แค่นักกีฬามาซ้อมเบสบอล แต่พอคุยกับผู้ใหญ่ใจดีแล้วก็เพิ่งเข้าใจ และเพิ่งรู้ว่าเป็นทีมที่ดังมากในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ มีแฟนคลับท่วมท้น เพราะฝีมือพี่เค้าดีจริงๆ มีทั้งนักข่าว เจอกัปตันทีม เจอผู้เล่นหลายๆคนในทีม แต่เราไม่รู้จักสักคน ที่แน่ๆผู้ใหญ่ใจดีที่พาเรามานั้น คือว่าแฟนคลับตัวจริง แถมยังเป็นเพื่อนกับคนในทีมเบสบอลด้วย (อันนี้ก็ไม่รู้ว่าไปทำธุรกิจอารัยกันน่ะ) กำไรทริปนี้จริงๆ คือ เชื่อว่าน้อยมากที่ได้เข้าไปดูด้านในและชิดขอบสนามแบบนี้ (เราไม่ได้ยินภาษาไทยเข้ามาในหูเลย เลยมโนว่าน่าจะเป็นเราเพียงคู่เดียว กิกิ) ปลาบปลื้มมม ฮ่าๆ



การแข่งขันเริ่มแล้วววว (18.00 น.) ตื่นเต้นนน เพราะนี้คือครั้งแรกที่จะดูเบสบอล และ Yokohama stadium มันอลังการมาก เชื่อจริงๆว่ากีฬาเบสบอลเป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ทุกคนมากันเต็มสนาม จัดเต็มด้วยเสื้อผ้า คอสตูม ของนักกีฬาที่ตนเองชอบ มีทุกวัย พูดเลย ทึ่ง!!

เรานั่งที่ VIP แบบโต๊ะชุด (น่าจะมีแบบ VIP อีกน่ะ แต่แค่นี้ก็ VIP สำหรับเราแระ เพราะราคาตรงนี้ประมาณ 25,000 เยน/5 ใบ/ 1 กลุ่ม) มีเก้าอี้ชุดนั่งได้ประมาณสี่คน แถมไม่ต้องซื้อตั๋ว เข้าชมฟรี ข้าวฟรี น้ำฟรี นั่งเชียร์เนียนๆ โอ้วว ชีวิตดีดี๊ เพราะมีคนจ่ายให้ ฮ่าๆ

(ว่าแต่ยิ่งค่ำ อากาศก็ยิ่งหนาว ขนาดนี้เดือนเมษายนน่ะ สั่นเลยย)



ตกใจน่ะ เวลาเค้าเชียร์กัน เสียงดัง พร้อมเพรียง โอ้ววว และเพิ่งรู้ว่าการเชียร์เบสบอลก็จะมีเพลงเชียร์ประจำตัวนักกีฬาแต่ละคนไปด้วย คือ เราต้องจำทั้งหมดมั้ย ฮ่าๆ แน่นอนพึมพำไปเนียนๆ (หลังๆก็ร้องได้น่ะ กิกิ)



เอารูปสาวๆ มาฝากค่ะ น้องๆเหล่านี้คือนางฟ้าบริการ (อันนี้เราตั้งให้นะ) จะขายเครื่องดื่ม เบียร์ กาแฟ ชา ข้าวกล่อง ให้กับผู้ชมทั่วสนาม ย้ำ! ทั่วสนามจริงๆมีเกือบ ร้อยกว่าคนได้ เยอะมากกก แต่ละคนก็จะเดินขึ้น เดินลง พร้อมตะโกนว่า "สนใจจะรับมั้ยค่ะ ?" ใครจะรับก็ยกมือ น้องเค้าก็จะรีบวิ่งเข้าหาทันที ฮ่าๆ น่ารักจริงๆ แต่ว่าพอหลังสามทุ่มทุกคนจะหายไปในพริบตาเลยทีเดียว เพราะเป็นกฏว่าห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว (อันนี้ถามผู้ใหญ่ใจดีมา) แล้วยิ่งใครพารถส่วนตัวมา ห้ามดื่มนะคะ โดนจับแน่ๆ ฮ่าๆ

(กฎหมายบ้านเค้าเข้มจริงๆ แต่เป็นพี่ไทย ตีสามยังไม่เลิก เอ้า! ชนแก้ว)



ผู้ใหญ่ใจดีซื้อเสื้อให้เราด้วย ไม่รู้หรอกน่ะ เค้าคือใคร แต่นายทำโฮมรันได้ กรี๊ดดดด เค้าชื่อ "TSUTSUGOH"

พระจันทร์พระจันทร์พระจันทร์ยิ้มประหลาดใจ

ณ เพลานี้ ก็ปาเข้าไป สี่ทุ่มแล้วคร้าา ต้องรีบกลับไปเชคอินที่โรงแรมอีก

โรงแรมที่เราพักชื่อ Mystay Ueno Inaricho จองตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนแรกจะจองแถวชินจุกุ ชิบูย่า แต่เต็มเร็วมากและแพง ฮ่าๆ (ประหยัดงบ) ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง เรื่องความสะดวกสบาย ใกล้สถานีรถไฟมั้ย? แพงมั้ย? แต่สรุปว่ามันเยี่ยมมาก ใกล้สถานี Inaricho ที่สามารถนั่งไปแค่ป้ายเดียวก็ถึง สวนสาธารณะอุเอะโนะ ตลาดอะเมโยโก และอีกสองป้ายก็ถึงวัดอาสะกุสะ โอ้ว ใกล้จัง แถวนี้สงบมาก ตู้กดน้ำอัตโนมัติ (มีเยอะ และเผลอกดเกือบทุกตู้ มันจะเหมือนมนต์สะกด "กดชั้นน่ะ" หยอดเหรียญเดี๋ยวนี้ ฮ่าๆ มโนเอง) มีร้านกาแฟด้วย และที่สำคัญ มี Minitop และ lawson เป้าหมายเลย เพราะเท่าที่รู้มินิมาร์ทญี่ปุ่นมีทุกอย่าง และข้าวปั้นอร่อย ฮ่าๆ

(เราถ่ายตอนเช้าวันรุ่งขึ้น  เพราะถึงห้อง เช็คอิน อาบน้ำ แล้วก็นอนเลย เหนื่อยยย ทั้งยืน เดิน มาทั้งวัน)



ส้วมในตำนานที่คนมาญี่ปุ่นต้องกล่าวถึง มันคือ feeling เวลามันฉีดก้นเอง ที่นี้มีเป็นรีโมทแยกออกมา (ไม่ได้ถ่ายไว้ ฮ่าๆ) และจะบอกว่าไม่ต้องซื้อแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำเลยน่ะ ใครซื้อมาถือว่าพลาดมาก ฮ่าๆ ใช้เดือนนึงก็ไม่หมด

พอมาเปิดประตูด้านหลังมาก็เจอ Tokyo sky tree ด้วย แท่นแท๊นนน

เราพักทั้งหมด 8 คืน (คืนสุดท้ายเราไปนอนสนามบินนาริตะ กลัวขึ้นเครื่องไม่ทัน Flight 9.05 AM) ราคาทั้งหมด 67,900 เยน จองผ่านเว็ป booking.com อยากจะบอกว่า ประทับใจกับการบริการที่นี้มาก ถ้ามาแถวนี้อีก ก็จะกลับมาพักอีกแน่นอน ( พนักงานน่ารัก พูดเลย)

จบปริปวันนี้ ถือว่าคุ้มมาก เพราะฟรีตลอดทริป Yokohama ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี (ขากลับยังมาส่งที่โรงแรมอีกต่างหาก เกรงใจสุดๆ)
ชื่อสินค้า:   โตเกียว ญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่