พอดีว่าได้จับ ได้ลอง ได้เล่น ทั้งสองรุ่นนี้ เลยอยากเอามาเล่าสู่กันฟังสักเล็กน้อยค่ะ 
ถ้าพูดถึง SPEC ของสองรุ่นนี้ หลายๆ คนอาจจะง ว่าทำไม ZR1500 ความละเอียด 16ล้านพิกเซล แต่ ZR3500 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ก็แอบงงเหมือนกันค่ะ เลยไปถามผู้รู้มา ก็ได้ความคร่าวๆ ง่ายๆ ประมาณว่า
ZR3500 เซ็นเซอร์ใหญ่กว่าค่ะ 1/1.7 นิ้ว แต่ ZR1500 เซ็นเซอร์เล็กกว่า คือ 1/2.3 นิ้ว อ๊ะๆ อย่างงกันนะ มันเป็นเลขเศษส่วน ดังนั้นเลขน้อยมีค่ามาก เลขมากมีค่าน้อย จำกันได้รึเปล่า ?
ว่าแล้วก็ช่างมันเหอะค่ะ ยังไงก็ไม่สนใจอยู่ดี เราไปดูภาพที่ได้กันดีกว่า เนอะ
รูปลักษณ์ภายนอก แน่นอนว่ากล้องรุ่นใหม่ วัสดุดูดี สีเงามุกสวยใสวิบวับ และการเคลือบมุก ทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้ยากกว่านะคะ
รูปลักษณ์ของตัวกล้อง ZR3500 จะค่อนข้างจับได้ถนัดมือเพราะมีที่รองนิ้วให้จับได้สะดวกขึ้นค่ะ
รวมไปถึงมีปุ่ม Wi-Fi ทำให้การแชร์ภาพ สามารถกดปุ่มเพื่อทำเข้าสู่โหมด Wi-fi ได้ทันที
ในส่วนของสายชาร์จ กล้อง ZR3500 จะสามารถใช้สายชาร์จ Micro USB ทั่วไป ที่ใช้มือถือ Android ได้ นั่นหมายความว่า คุณไม่ต้องพกสายชาร์จเพิ่ม ใช้เส้นเดียวกับโทรศัพท์คุณได้เลย เอ๊ะ! แต่ถ้าคนใช้ไอโฟน เรื่องนี้ก็คงไม่มีผล รึเปล่า
ความสามารถในการถ่ายที่แสงน้อย รับรองได้ว่า ZR3500 ทำได้ดีกว่ามากค่ะ
คราวนี้ลองถ่ายบนขาตั้งกล้อง กับอะไรที่นิ่งๆ ดูบ้าง เดี๋ยวจะหาว่า ลำเอียง
ความสามารถในการไล่สีของ ZR3500 ดีกว่าค่อนข้างชัดค่ะ ภาพครอบ 100% จากภาพบนนะคะ
คราวนี้เลยสรุปคร่าวๆ ข้อแตกต่างของ 2 รุ่นนี้ได้ดังนี้ค่ะ
1. เรื่องที่เห็นได้ชัดง่ายๆ คือเรื่อง Wi-Fi ซึ่ง ZR3500 ถ่ายแล้วพร้อมแชร์ได้เลย และสามารถใช้งานมือถือเราเป็นรีโมทได้ ช่วยให้การถ่ายภาพตัวเอง และเรากับเพื่อนทำได้ดีขึ้นมากๆ
2. เรื่องถ่ายคน อันนี้ ZR3500 ชนะเลิศค่ะ เพราะนอกจากจะไล่สีสันได้ดีกว่าแล้ว ยังมีโหมด MakeUp BKT (ช่างภาพเค้าเรียก ถ่ายคร่อม) ให้เลือกใช้
3. Mode BS ของ ZR3500 มีมากกว่า ทำให้เราได้ภาพที่หลากหลายกว่านะคะ หนุ่มๆ อาจไม่สนใจเพราะสามารถตั้งค่ากล้องต่างๆ ได้เอง แต่สำหรับสาวๆ น่าจะได้ใช้ประโยชน์
4. สายชาร์จ Micro USB โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องนี้มากค่ะ เพราะเวลาเดินทาง ต้องเตรียมสายชาร์จหลายเส้นก็ยุ่งยากอยู่ แล้วถ้าสายชาร์จหาย อันนี้ก็วุ่นนะคะ ถ้าใช้สายทั่วไปได้ ก็สะดวกนักแล
5. เรื่องเช็นเชอร์รับภาพที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ภาพที่ได้ ไล่โทนสีสวยขึ้น คุณภาพสวยขึ้น และการถ่ายภาพแต่ละครั้งก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
6. รุ่น ZR3500 มีโหมด Quick Collage หรือโหมด สร้างภาพปะติดอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นมา ทำให้เราสามารถรวมภาพหลายๆ ภาพ เป็นภาพเดียวในแบบน่ารักๆ ให้เราใช้งานได้ทันที อันนี้สะดวกมากเลยค่ะ เพราะเวลาเราดูภาพทีละเยอะๆ แล้วต้องส่งให้เพื่อนๆ หรือส่งเข้ามือถือเราเองเพื่อแชร์ขึ้นเฟซ ใช้โหมดนี้แล้วได้ภาพหลายภาพ แล้วส่งครั้งเดียว แชร์ได้เลย ไม่ต้องไปปรับแต่งบนมือถืออีก
คราวนี้เราไปดูภาพในสถานการณ์ต่างๆ กันบ้างค่ะ
โหมดถ่ายน้ำตก
โหมด หน้าชัด หลังเบลอ
โหมด HDR ถ่ายย้อนแสง
ถ่ายภาพบุคคล ทั่วๆ ไป ปรับ Level สูงสุด ทั้งสองกล้องเลยค่ะ
Skin tone +6 /Smooth Skin +12
รู้สึกว่าภาพบน จะปรับเยอะไปหน่อย สำหรับ ZR3500 ปรับน้อยหน่อยน่าจะดีกว่า
Skine tone 3 / Smooth Skin +6
ภาพยิงแฟลช ดูบ้าง ZR3500 จะดูผิวนวลกว่า และยังปรับหน้าเนียนได้
ปิดท้ายด้วยภาพน้องหมาเค้าเอง YOYO in ฟรุ๊งฟริ๊ง กับโหมด Art Effect ภาพนวล และภาพ Toy Camera
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ
แอบโฆษณา แฟนเพจสักเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเหมาะสมรึเปล่า ใครรัก ใครชอบ แวะไปคลิกไลค์เพจน้องฝันได้ที่
http://www.facebook.com/funniifc นะค้า
[SR] รีวิวกล้อง CASIO ZR3500 VS ZR1500 แบบง่ายๆ ฉบับสาวๆ ใช้งานค่ะ
ถ้าพูดถึง SPEC ของสองรุ่นนี้ หลายๆ คนอาจจะง ว่าทำไม ZR1500 ความละเอียด 16ล้านพิกเซล แต่ ZR3500 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
ก็แอบงงเหมือนกันค่ะ เลยไปถามผู้รู้มา ก็ได้ความคร่าวๆ ง่ายๆ ประมาณว่า
ZR3500 เซ็นเซอร์ใหญ่กว่าค่ะ 1/1.7 นิ้ว แต่ ZR1500 เซ็นเซอร์เล็กกว่า คือ 1/2.3 นิ้ว อ๊ะๆ อย่างงกันนะ มันเป็นเลขเศษส่วน ดังนั้นเลขน้อยมีค่ามาก เลขมากมีค่าน้อย จำกันได้รึเปล่า ?
ว่าแล้วก็ช่างมันเหอะค่ะ ยังไงก็ไม่สนใจอยู่ดี เราไปดูภาพที่ได้กันดีกว่า เนอะ
รูปลักษณ์ภายนอก แน่นอนว่ากล้องรุ่นใหม่ วัสดุดูดี สีเงามุกสวยใสวิบวับ และการเคลือบมุก ทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้ยากกว่านะคะ
รูปลักษณ์ของตัวกล้อง ZR3500 จะค่อนข้างจับได้ถนัดมือเพราะมีที่รองนิ้วให้จับได้สะดวกขึ้นค่ะ
รวมไปถึงมีปุ่ม Wi-Fi ทำให้การแชร์ภาพ สามารถกดปุ่มเพื่อทำเข้าสู่โหมด Wi-fi ได้ทันที
ในส่วนของสายชาร์จ กล้อง ZR3500 จะสามารถใช้สายชาร์จ Micro USB ทั่วไป ที่ใช้มือถือ Android ได้ นั่นหมายความว่า คุณไม่ต้องพกสายชาร์จเพิ่ม ใช้เส้นเดียวกับโทรศัพท์คุณได้เลย เอ๊ะ! แต่ถ้าคนใช้ไอโฟน เรื่องนี้ก็คงไม่มีผล รึเปล่า
ความสามารถในการถ่ายที่แสงน้อย รับรองได้ว่า ZR3500 ทำได้ดีกว่ามากค่ะ
คราวนี้ลองถ่ายบนขาตั้งกล้อง กับอะไรที่นิ่งๆ ดูบ้าง เดี๋ยวจะหาว่า ลำเอียง
ความสามารถในการไล่สีของ ZR3500 ดีกว่าค่อนข้างชัดค่ะ ภาพครอบ 100% จากภาพบนนะคะ
คราวนี้เลยสรุปคร่าวๆ ข้อแตกต่างของ 2 รุ่นนี้ได้ดังนี้ค่ะ
1. เรื่องที่เห็นได้ชัดง่ายๆ คือเรื่อง Wi-Fi ซึ่ง ZR3500 ถ่ายแล้วพร้อมแชร์ได้เลย และสามารถใช้งานมือถือเราเป็นรีโมทได้ ช่วยให้การถ่ายภาพตัวเอง และเรากับเพื่อนทำได้ดีขึ้นมากๆ
2. เรื่องถ่ายคน อันนี้ ZR3500 ชนะเลิศค่ะ เพราะนอกจากจะไล่สีสันได้ดีกว่าแล้ว ยังมีโหมด MakeUp BKT (ช่างภาพเค้าเรียก ถ่ายคร่อม) ให้เลือกใช้
3. Mode BS ของ ZR3500 มีมากกว่า ทำให้เราได้ภาพที่หลากหลายกว่านะคะ หนุ่มๆ อาจไม่สนใจเพราะสามารถตั้งค่ากล้องต่างๆ ได้เอง แต่สำหรับสาวๆ น่าจะได้ใช้ประโยชน์
4. สายชาร์จ Micro USB โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องนี้มากค่ะ เพราะเวลาเดินทาง ต้องเตรียมสายชาร์จหลายเส้นก็ยุ่งยากอยู่ แล้วถ้าสายชาร์จหาย อันนี้ก็วุ่นนะคะ ถ้าใช้สายทั่วไปได้ ก็สะดวกนักแล
5. เรื่องเช็นเชอร์รับภาพที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ภาพที่ได้ ไล่โทนสีสวยขึ้น คุณภาพสวยขึ้น และการถ่ายภาพแต่ละครั้งก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
6. รุ่น ZR3500 มีโหมด Quick Collage หรือโหมด สร้างภาพปะติดอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นมา ทำให้เราสามารถรวมภาพหลายๆ ภาพ เป็นภาพเดียวในแบบน่ารักๆ ให้เราใช้งานได้ทันที อันนี้สะดวกมากเลยค่ะ เพราะเวลาเราดูภาพทีละเยอะๆ แล้วต้องส่งให้เพื่อนๆ หรือส่งเข้ามือถือเราเองเพื่อแชร์ขึ้นเฟซ ใช้โหมดนี้แล้วได้ภาพหลายภาพ แล้วส่งครั้งเดียว แชร์ได้เลย ไม่ต้องไปปรับแต่งบนมือถืออีก
คราวนี้เราไปดูภาพในสถานการณ์ต่างๆ กันบ้างค่ะ
โหมดถ่ายน้ำตก
โหมด หน้าชัด หลังเบลอ
โหมด HDR ถ่ายย้อนแสง
ถ่ายภาพบุคคล ทั่วๆ ไป ปรับ Level สูงสุด ทั้งสองกล้องเลยค่ะ
Skin tone +6 /Smooth Skin +12
รู้สึกว่าภาพบน จะปรับเยอะไปหน่อย สำหรับ ZR3500 ปรับน้อยหน่อยน่าจะดีกว่า
Skine tone 3 / Smooth Skin +6
ภาพยิงแฟลช ดูบ้าง ZR3500 จะดูผิวนวลกว่า และยังปรับหน้าเนียนได้
ปิดท้ายด้วยภาพน้องหมาเค้าเอง YOYO in ฟรุ๊งฟริ๊ง กับโหมด Art Effect ภาพนวล และภาพ Toy Camera
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ
แอบโฆษณา แฟนเพจสักเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเหมาะสมรึเปล่า ใครรัก ใครชอบ แวะไปคลิกไลค์เพจน้องฝันได้ที่
http://www.facebook.com/funniifc นะค้า