มีใครเคยไปสัมภาษณ์งานแล้วประทับใจกับการต้อนรับที่ทำให้บุคคลธรรมดาอย่างเรารู้สึกเหมือนเป็นแขกคนสำคัญบ้างไหมคะ
ลองมาแบ่งปันเรื่องราวกันดูค่ะ
ส่วนเคสของจขกท. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานหลายปีแล้วค่ะ เริ่มจากจขกท.เริ่มนอยด์ๆกับที่ทำงานเก่าเรื่องไร้สาระ
ถึงขั้นลาออกโดยที่ยังไม่ได้ไปสม้ครงานที่ไหน
จำได้ว่าวันนั้นพอลาออกปุ๊บ คืนนั้นกลับมาบ้านก็ร่อนเรซูเม่เลยค่ะ ส่งไปมั่วๆมึนๆสี่ห้าที่
พอตอนเช้าเข้าประชุมเสร็จก็เห็นมีเบอร์โทรมาสองสามเบอร์ สรุปก็คือ พอฝ่ายบุคคลได้รับเมล์ของจขกท.เค้าก็โทรติดต่อนัดสัมภาษณ์เลย
จขกท.ก็เลยนัดวันอาทิตย์ถัดไป
เนื่องจากงานที่สมัครไปอยู่ค่อนข้างไกล ต้องนั่งรถขึ้นเรือหลายต่อ แต่จขกท.ไม่หวั่นค่ะ ทำงานไปเรื่อยๆจนถึงวันต้องเดินทาง
สมมติว่าพรุ่งนี้เป็นวันสัมภาษณ์งาน วันนี้กำลังเดินทางก็มีโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลโทรมา
ฝ่ายบุคคล: ไม่ทราบว่าพี่เดินทางมาอย่างไรคะ
จขกท.: พี่นั่งรถบัสไปค่ะ นั่งรถบัสเสร็จจะไปต่อเรือ เดี๋ยวคงถึงประมาณค่ำๆ
ฝ่ายบุคคล: แล้วพี่รู้จักXXXรีสอร์ทเราด้วยเหรอคะ มาถึงเกาะแล้วจะมายังงัย
จขกท.: อ๋อไม่ยากเลยค่ะ ไปถึงเดี๋ยวพี่ก็เดินๆหาเช่ามอเตอร์ไซต์แล้วค่อยๆขับไปสัมภาษณ์งานก็ได้ค่ะ
ฝ่ายบุคคล: ไม่ได้นะคะ พี่เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวแบบนั้นมันอันตราย
จขกท.: ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้สบายมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน เก้าโมงเช้านะคะ
ฝ่ายบุคคล: ไม่ได้หรอกค่ะมันไม่ปลอดภัย เอาอย่างนี้นะคะ เราจัดรถตู้ไปรับพี่ที่ท่าเรือ ถ้าพี่ขึ้นเรือแล้วรบกวนโทรบอกด้วยนะคะ จะได้จัดรถไปรับถูก
จขกท.: ขอบคุณมากๆค่ะ
ฝ่ายบุคคล: พี่มีที่พักแล้วยังคะ
จขกท.: ยังเลยค่ะ เกิดมาก็เพิ่งเคยมาเกาะ...นี่แหล่ะค่าา
ฝ่ายบุคคล: คือว่าตอนนี้บ้านพักพนักงานของเราเต็ม เอาอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวเราจะจัดห้องพักให้พักในโรงแรมแทนก็แล้วกัน
จขกท.: ....................งง............แบบว่าตั้งตัวไม่ทัน หมดกันอนาคตสาวแว๊น อยู่ดีๆก็กลายเป็นคุณหนูมีรถมารับไปพักโรงแรม
.........................................................................
สรุป คืนนั้นจขกท.มีรถมารับ พอมาถึงโรงแรม check in เข้าห้องพัก แบบว่ามีความสุขมาก
อยู่ดีๆก็ได้พักห้องสวีทซีวิว รีสอร์ทก็ซ๊วยสวย แถมตอนเช้ามีอาหารให้ทานฟรีอีก รู้สึกว่า เฮ้ย
เราแค่มาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเรื่อยเปื่อยธรรมดา ต้องดูแลกันดีขนาดนี้เลยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย
ประทับใจสุดๆ
ตอนนั้นคิดว่าเอาวะ....ต่อให้ไม่ได้งานก็ไม่เป็นไร คุ้มสุดๆ นึกว่ามาเที่ยวเสียอีก
พอถึงเวลาสัมภาษณ์งาน กับ GM แปลกดีที่ลักษณะการคุยไม่ค่อยเหมือนการสัมภาษณ์งานเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เหมือนคุยเรื่องทั่วไป แล้วก็ถามว่าเราต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ พร้อมทำงานเมื่อไหร่
นัดทำงานเรียบร้อย จขกท.ก็เดินออกมาจากห้อง GM แบบงงๆว่านี่เดี๊ยนได้งานแล้วเหรอ
พอออกมาจากสัมภาษณ์ ก่อนที่ฝ่ายบุคคลจะส่งกลับ เค้าก็พาไปดูไปเลือกบ้านพักค่ะ มีค่าเช่าบ้านให้
เราก็คิดในใจ ดีจังวุ๊ย มีพาไปดูอพาร์ทเม็นท์ ดูบ้านเช่าตั้งหลายที่ด้วย บริการดีสุดเลยเลยที่นี่
แล้วจขกท.ก็ทำงานที่นั่นได้ 1 ปี ถือว่าเป็นช่วงเสวยบุญ เนื่องจากไปทำงานไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ
มันสบายจนรู้สึกว่าสบายไปไหม ทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเล๊ยยย อยู่นานกว่านี้กลัวว่าจะเสียประวัติ
กลัวอนาคตใครถามว่าวันๆทำอะไรมั่ง...ไม่กล้าตอบว่าไม่ได้ทำอะไรเล๊ยยย 555
สุดท้าย จขกท.ก็โบกมือบ๊ายบายดินแดนแสนสุข แบบไม่กล้าเขียนที่นี่ลงในเรซูเม่ไม่รู้เพราะไม่รู้จะบอกโลกว่าวันๆเราทำอะไรบ้าง ละอายใจค่ะ
แบบว่ามันสบายเกิ๊นน
................................................................
อยากจะรู้ว่ามีองค์กรแบบนี้สักกี่ที่ๆจะใส่ใจความรู้สึกของพนักงานนับตั้งแต่สัมภาษณ์
เพื่อนๆใครเคยเจอแบบนี้บ้างไหมคะ
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับทริปสัมภาษณ์งานที่ประทับใจสุดๆ
ลองมาแบ่งปันเรื่องราวกันดูค่ะ
ส่วนเคสของจขกท. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานหลายปีแล้วค่ะ เริ่มจากจขกท.เริ่มนอยด์ๆกับที่ทำงานเก่าเรื่องไร้สาระ
ถึงขั้นลาออกโดยที่ยังไม่ได้ไปสม้ครงานที่ไหน
จำได้ว่าวันนั้นพอลาออกปุ๊บ คืนนั้นกลับมาบ้านก็ร่อนเรซูเม่เลยค่ะ ส่งไปมั่วๆมึนๆสี่ห้าที่
พอตอนเช้าเข้าประชุมเสร็จก็เห็นมีเบอร์โทรมาสองสามเบอร์ สรุปก็คือ พอฝ่ายบุคคลได้รับเมล์ของจขกท.เค้าก็โทรติดต่อนัดสัมภาษณ์เลย
จขกท.ก็เลยนัดวันอาทิตย์ถัดไป
เนื่องจากงานที่สมัครไปอยู่ค่อนข้างไกล ต้องนั่งรถขึ้นเรือหลายต่อ แต่จขกท.ไม่หวั่นค่ะ ทำงานไปเรื่อยๆจนถึงวันต้องเดินทาง
สมมติว่าพรุ่งนี้เป็นวันสัมภาษณ์งาน วันนี้กำลังเดินทางก็มีโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลโทรมา
ฝ่ายบุคคล: ไม่ทราบว่าพี่เดินทางมาอย่างไรคะ
จขกท.: พี่นั่งรถบัสไปค่ะ นั่งรถบัสเสร็จจะไปต่อเรือ เดี๋ยวคงถึงประมาณค่ำๆ
ฝ่ายบุคคล: แล้วพี่รู้จักXXXรีสอร์ทเราด้วยเหรอคะ มาถึงเกาะแล้วจะมายังงัย
จขกท.: อ๋อไม่ยากเลยค่ะ ไปถึงเดี๋ยวพี่ก็เดินๆหาเช่ามอเตอร์ไซต์แล้วค่อยๆขับไปสัมภาษณ์งานก็ได้ค่ะ
ฝ่ายบุคคล: ไม่ได้นะคะ พี่เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวแบบนั้นมันอันตราย
จขกท.: ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้สบายมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน เก้าโมงเช้านะคะ
ฝ่ายบุคคล: ไม่ได้หรอกค่ะมันไม่ปลอดภัย เอาอย่างนี้นะคะ เราจัดรถตู้ไปรับพี่ที่ท่าเรือ ถ้าพี่ขึ้นเรือแล้วรบกวนโทรบอกด้วยนะคะ จะได้จัดรถไปรับถูก
จขกท.: ขอบคุณมากๆค่ะ
ฝ่ายบุคคล: พี่มีที่พักแล้วยังคะ
จขกท.: ยังเลยค่ะ เกิดมาก็เพิ่งเคยมาเกาะ...นี่แหล่ะค่าา
ฝ่ายบุคคล: คือว่าตอนนี้บ้านพักพนักงานของเราเต็ม เอาอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวเราจะจัดห้องพักให้พักในโรงแรมแทนก็แล้วกัน
จขกท.: ....................งง............แบบว่าตั้งตัวไม่ทัน หมดกันอนาคตสาวแว๊น อยู่ดีๆก็กลายเป็นคุณหนูมีรถมารับไปพักโรงแรม
.........................................................................
สรุป คืนนั้นจขกท.มีรถมารับ พอมาถึงโรงแรม check in เข้าห้องพัก แบบว่ามีความสุขมาก
อยู่ดีๆก็ได้พักห้องสวีทซีวิว รีสอร์ทก็ซ๊วยสวย แถมตอนเช้ามีอาหารให้ทานฟรีอีก รู้สึกว่า เฮ้ย
เราแค่มาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเรื่อยเปื่อยธรรมดา ต้องดูแลกันดีขนาดนี้เลยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย
ประทับใจสุดๆ
ตอนนั้นคิดว่าเอาวะ....ต่อให้ไม่ได้งานก็ไม่เป็นไร คุ้มสุดๆ นึกว่ามาเที่ยวเสียอีก
พอถึงเวลาสัมภาษณ์งาน กับ GM แปลกดีที่ลักษณะการคุยไม่ค่อยเหมือนการสัมภาษณ์งานเท่าไหร่
ส่วนใหญ่เหมือนคุยเรื่องทั่วไป แล้วก็ถามว่าเราต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ พร้อมทำงานเมื่อไหร่
นัดทำงานเรียบร้อย จขกท.ก็เดินออกมาจากห้อง GM แบบงงๆว่านี่เดี๊ยนได้งานแล้วเหรอ
พอออกมาจากสัมภาษณ์ ก่อนที่ฝ่ายบุคคลจะส่งกลับ เค้าก็พาไปดูไปเลือกบ้านพักค่ะ มีค่าเช่าบ้านให้
เราก็คิดในใจ ดีจังวุ๊ย มีพาไปดูอพาร์ทเม็นท์ ดูบ้านเช่าตั้งหลายที่ด้วย บริการดีสุดเลยเลยที่นี่
แล้วจขกท.ก็ทำงานที่นั่นได้ 1 ปี ถือว่าเป็นช่วงเสวยบุญ เนื่องจากไปทำงานไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ
มันสบายจนรู้สึกว่าสบายไปไหม ทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเล๊ยยย อยู่นานกว่านี้กลัวว่าจะเสียประวัติ
กลัวอนาคตใครถามว่าวันๆทำอะไรมั่ง...ไม่กล้าตอบว่าไม่ได้ทำอะไรเล๊ยยย 555
สุดท้าย จขกท.ก็โบกมือบ๊ายบายดินแดนแสนสุข แบบไม่กล้าเขียนที่นี่ลงในเรซูเม่ไม่รู้เพราะไม่รู้จะบอกโลกว่าวันๆเราทำอะไรบ้าง ละอายใจค่ะ
แบบว่ามันสบายเกิ๊นน
................................................................
อยากจะรู้ว่ามีองค์กรแบบนี้สักกี่ที่ๆจะใส่ใจความรู้สึกของพนักงานนับตั้งแต่สัมภาษณ์
เพื่อนๆใครเคยเจอแบบนี้บ้างไหมคะ