"มาร์ค"ซัดระบอบ "ทักษิณ"เข้ามา ทำประเทศขัดแย้ง เหตุต้องการเอาชนะกฎหมาย แนะ คสช.เร่งเขียนกติกาประเทศที่เป็น ปชต. บอกพร้อมลงเลือกตั้งครั้งหน้า ลั่นไม่สำเร็จเตรียมวางมือการเมือง
http://www.matichon.co.th/online/2015/05/14318450741431845483l.jpg
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งในบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพการเป็นนักการเมือง” ให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ม.รังสิต ว่า หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมขณะนี้ตนถึงยังเป็นนักการเมือง ในสภาวะที่สังคมและผู้มีอำนาจแสดงความรังเกียจนักการเมือง และนักการเมืองถูกมองในทางลบ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองกว่า 23 ปี ไม่มีช่วงไหนที่คนยกย่องสรรเสริญนักการเมือง และที่ผ่านนักการเมืองตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด แต่สิ่งเหล่านี้เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างกับในต่างประเทศ ที่คนมีความศรัทธาต่อนักการเมืองหรือองค์กรทางการเมืองลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบหลาย 10 ปี ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเมืองเป็นเรื่องการจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ โดยเฉพาะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องพร้อมรับการตรวจสอบและยอมรับการเปิดโปงในสิ่งที่ทำไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นจุดที่ทำให้ตนเปลี่ยนมุมมองอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย โดยอาศัยกลไกของประชาชนและประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการเมืองในช่วง 10 ปีหลัง ที่ระบอบทักษิณเข้ามาทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง ซึ่งความขัดแย้งในประเทศไทยจะไม่จบตราบที่ทักษิณยังต้องการเอาชนะกฎหมายไทย ฉะนั้นจึงต้องถามว่าประชาชนว่าเลือกอย่างไร มี 2 ตัวเลือกคือ 1.ใจแข็งอย่ายอมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ตายไปเอง หรือ 2.ยอมพ.ต.ท.ทักษิณ ชนะระบบยุติธรรม ซึ่งตนเลือกข้อแรกอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าข้อ 2 เป็นไปไม่ได้
"ผมมีเวลาเหลือทำงานทางการเมืองอีกไม่มากนัก ไม่ทราบว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมพร้อมที่จะลงสมัครอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็จบ ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้านมา 3 ครั้ง มากพอแล้ว เป็นครั้งที่ 4 อีกคงไม่ได้ แต่หากได้ทำงานอีกก็จะทำอย่างเต็มที่ เดิมเคยคิดไว้ว่าถ้าไม่มีอะไรสะดุดเมื่ออายุ 50 ปี ก็จะเลิกเล่นการเมือง เสร็จจากงานการเมืองผมก็จะไปทำอย่างอื่นแล้ว ซึ่งจากการทำงานการเมืองมา 23 ปี ในภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า แม้ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ แต่เราก็ต้องต่อสู้ไป"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เมื่อเกิดคสช. ขึ้นมา แม้จะอยากหรือไม่อยากให้เกิด แต่สิ่งที่หวังคือต้องทำให้กติกา และบ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ได้ ซึ่งใน10 ปี ข้างหน้าคงไม่มีคสช. แน่นอน สิ่งที่ตนอยากเห็นคือ การจัดการระบบการเมืองให้เข้ารูปเข้ารอยให้เร็วที่สุด เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งหากกลไกการเมืองล้มเหลว การปฏิรูปก็เดินไปไม่ได้ ฉะนั้นใน 1-2 ปี ควรทำระบบให้ดีและทำสังคมให้เข้มแข็ง จึงอยากเห็นคนในสังคมตื่นตัวมากขึ้น
มาร์ค ซัด! ระบอบทักษิณ ทำชาติขัดแย้ง ชี้รอให้ตายไปเอง มากกว่ายอมให้ชนะระบบยุติธรรม
http://www.matichon.co.th/online/2015/05/14318450741431845483l.jpg
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยรังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งในบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพการเป็นนักการเมือง” ให้แก่นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ม.รังสิต ว่า หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมขณะนี้ตนถึงยังเป็นนักการเมือง ในสภาวะที่สังคมและผู้มีอำนาจแสดงความรังเกียจนักการเมือง และนักการเมืองถูกมองในทางลบ ซึ่งตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองกว่า 23 ปี ไม่มีช่วงไหนที่คนยกย่องสรรเสริญนักการเมือง และที่ผ่านนักการเมืองตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด แต่สิ่งเหล่านี้เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างกับในต่างประเทศ ที่คนมีความศรัทธาต่อนักการเมืองหรือองค์กรทางการเมืองลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบหลาย 10 ปี ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเมืองเป็นเรื่องการจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ โดยเฉพาะนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องพร้อมรับการตรวจสอบและยอมรับการเปิดโปงในสิ่งที่ทำไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นจุดที่ทำให้ตนเปลี่ยนมุมมองอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย โดยอาศัยกลไกของประชาชนและประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการเมืองในช่วง 10 ปีหลัง ที่ระบอบทักษิณเข้ามาทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง ซึ่งความขัดแย้งในประเทศไทยจะไม่จบตราบที่ทักษิณยังต้องการเอาชนะกฎหมายไทย ฉะนั้นจึงต้องถามว่าประชาชนว่าเลือกอย่างไร มี 2 ตัวเลือกคือ 1.ใจแข็งอย่ายอมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ตายไปเอง หรือ 2.ยอมพ.ต.ท.ทักษิณ ชนะระบบยุติธรรม ซึ่งตนเลือกข้อแรกอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าข้อ 2 เป็นไปไม่ได้
"ผมมีเวลาเหลือทำงานทางการเมืองอีกไม่มากนัก ไม่ทราบว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมพร้อมที่จะลงสมัครอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็จบ ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้านมา 3 ครั้ง มากพอแล้ว เป็นครั้งที่ 4 อีกคงไม่ได้ แต่หากได้ทำงานอีกก็จะทำอย่างเต็มที่ เดิมเคยคิดไว้ว่าถ้าไม่มีอะไรสะดุดเมื่ออายุ 50 ปี ก็จะเลิกเล่นการเมือง เสร็จจากงานการเมืองผมก็จะไปทำอย่างอื่นแล้ว ซึ่งจากการทำงานการเมืองมา 23 ปี ในภาพรวมยังไม่พอใจ แต่สิ่งที่เคยทำไปก็ไม่ได้สูญเปล่า แม้ขณะนี้บ้านเมืองไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ แต่เราก็ต้องต่อสู้ไป"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เมื่อเกิดคสช. ขึ้นมา แม้จะอยากหรือไม่อยากให้เกิด แต่สิ่งที่หวังคือต้องทำให้กติกา และบ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนให้ได้ ซึ่งใน10 ปี ข้างหน้าคงไม่มีคสช. แน่นอน สิ่งที่ตนอยากเห็นคือ การจัดการระบบการเมืองให้เข้ารูปเข้ารอยให้เร็วที่สุด เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งหากกลไกการเมืองล้มเหลว การปฏิรูปก็เดินไปไม่ได้ ฉะนั้นใน 1-2 ปี ควรทำระบบให้ดีและทำสังคมให้เข้มแข็ง จึงอยากเห็นคนในสังคมตื่นตัวมากขึ้น