ผมไม่เคยตรวจร่างการเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ใช้ชีวิตปกติทั่วๆ ไป แต่มักชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง และชอบดื่มเบียร์ด้วยแทบทุกวัน คิดหลงว่าสุขภาพตนเองแข็งแรงดีทุกอย่าง ผมสูง 166 Cm. หนัก 65 Kg.
อาการเตือนเริ่มแรก เช้าวันจันทร์ที่ 27 เม.ย.58 ไปทำงานปกติ (ระยะทาง 15 Km.) เป็นวิศวกรโยธา หน่วยงานราชการ ช่วงเย็นเลิกงานปกติ หิ้วกระเป๋าเอกสารกลับถึงรถแล้ว แต่ลืมกุญแจรถยนต์ที่โต๊ะเครื่องคอมฯ รีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้น 3 เริ่มรู้สึกเวียนหัวตาลายเห็นภาพซ้อน นั่งที่โต๊ะทำงานพักสักครู่อาการดีขึ้น ขับรถกลับบ้านรับภรรยาปกติ
เช้าวันอังคารที่ 28 เม.ย.58 ตื่นขึ้นมาประมาณตี 5 จะเดินเข้าห้องน้ำ รู้สึกเวียนหน้าตาลาย มองเห็นภาพซ้อนเป็น 2 ภาพ มองกระจกตาเอียงไม่เท่ากัน ตาข้างซ้ายเขมาก จึงบอกภรรยาว่าวันนี้ไปทำงานขับรถไม่ได้ ภรรยาเห็นตกใจมากร้องไห้ด้วย รีบโทรบอกเพื่อนที่ทำงานให้พาไปส่งโรงพยาบาลสมเด็จฯ ศรีราชา ไปถึงโรงพยาบาล หมอตรวจอาการและวัดความดันสูงมาก และส่งเอกเรย์ CT-SCAN ที่สมอง ในช่วงประมาณ 3 ทุ่ม (รอนานมาก) หมอวิเคราะห์ว่า ภาพเอกเรย์ออกมาไม่ชัดเจน ชี้ชัดไม่ได้ จึงแนะนำให้เอกเรย์ MRI สมอง ที่โรงพยาบาลสมิตติเวช ศรีราชา และนำผลเอกเรย์ MRI สมอง มาส่งให้หมอโรงพยาบาลสมเด็จฯ ในวันพุธที่ 6 พ.ค.58 เวลา 14.00 น. (เพราะเนื่องจากเป็นวันหยุดหลายวัน หมอเฉพาะทางปฎิบัติช่วงวันราชการ) แล้วจึงจ่ายยาลดความดัน ออกใบรับรองแพทย์ และให้กลับมาพักผ่อนที่บ้าน
เช้าวันพุธที่ 29 เม.ย.58 ตื่นขึ้นมา อาการตาเข มองเห็นภาพซ้อนยังเหมือนเดิม มีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ คิดมากใจสั่นไปหมด กลัวว่าจะรักษาไม่หาย จึงบอกภรรยา ไหนๆก็จะไปเอกซ์เรย์ MRI สมองที่โรงพยาบาลสมิตติเวช ศรีราชา แล้วก็รักษาเลย เพราะจะรอถึงวันที่ 6 พ.ค.58 คงไม่ไหวสุขภาพกายและสุภาพจิตเสียแน่ พอไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ให้บริการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม ได้รับความช่วยเหลือดีมาก การทำงานเป็นระบบรวดเร็วทันใจ มาตรฐานสากล ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก ผมถูกส่งเข้าห้อง ICU ทันที หมอต่อระบบอุปกรณ์ต่างๆ ตรวจร่างกายทุกอย่าง เครื่องมือแพทย์ทันสมัยมาก ผลการตวจ ความดันโลหิตสูง 220 , ไขมันในเลือดสูง 277 ,ส่วนหัวใจ เบาหวาน อยู่ในเกณฑ์ปกติ หมอถามประวัติและบอกให้ญาติรีบไปขอแผ่นเอกซ์เรย์ (แผ่น CD) จากโรงพยาบาลสมเด็จฯ เพื่อมาตรวจวิเคราะห์เบื้องต้น หมอวรา (แพทย์เฉพาะทาง) วินิจฉัยได้ทันที สาเหตุน่าจะเกิดจาก เส้นเลือดในสมองตีบ เส้นประสาทตาคู่ที่ 3.... ควบคุมกล้ามเนื้อกรอกลูกตา ฯลฯ จึงรีบฉีดยาสลายลิ่มเลือดไว้ก่อนทันที แล้วส่งตรวจเอกซ์เรย์ MRI สมองทันที นานเกือบ 2 ชั่วโมง (อยู่ภายในอุโมงค์ตื่นเต้นน่ากลัว ไฟแสงสี และเสียงคลื่นวิทยุแม่เหล็กไฟฟ้า ดังอยู่ตลอดเวลาไม่กล้ามองเลย นึกถึงพ่อแม่ ปูย่าตายายและญาติพี่น้องต่างๆที่ล่วงลับไปแล้ว นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกจิพระอาจารย์ต่างๆ พร้อมสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรต่างๆ) หลังผล MRI ออกมาชัดเจนมากแล้ว มีเส้นเลือดตีบเส้นระบบประสาทตาจุดเล็กๆ เป็นไปตามผลที่วิเคราะห์ไว้เบื้องต้น หมอจึงจัดยารักษาได้ถูกต้อง
อาการรักษาดีขึ้นเรื่อยๆ การมองเห็น ตาเริ่มหายเขแล้ว แต่ยังเห็นเป็นภาพซ้อนอยู่ แต่ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้กำลังใจจากหมอ,พยาบาลและภรรยาที่น่ารัก เริ่มมีพลังและกำลังใจมาก นอนอยู่ห้อง ICU หนึ่งวันหนึ่งคืน พยาบาลตรวจอาการทุกชั่วโมง และอยู่ห้องพิเศษ VIP ชั้น5 2 คืน พยาบาลดูแลตลอดเวลาทุก ๆ 2 ชั่วโมง ห้อง VIP บรรยากาศดีมากเหมือนโรงแรมเลย ทิวทัศน์สวยงาม มองเห็นทะเล เกาะลอย และเกาะสีชัง สวยงามมากครับ) หลังจากนั้นจึงกลับมาพักฟื้นที่บ้าน
หลังจากนั้นตื่นเช้าขึ้นมาสดชื่น ดูทีวีได้แต่มองเห็นภาพซ้อนอยู่บ้างไม่มาก ทานยาที่หมอสั่งตามกำหนด อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ครับในแต่ละวัน พักผ่อนพักสายตาบ้าง จนกระทั่งไม่เห็นภาพซ้อนแต่สายตายังพริ้วอยู่ไม่มาก ช่วงนี้ผมเริ่มออกกำลังกายปั่นจักรยาน,ขับรถยนต์ภายในหมู่บ้านและเดินซื้อของที่ตลาดได้ (ใช้หลัก 4 อ ตามหมอบอกครับ คือ อาหารดี อารมณ์ดี อากาศดี ออกกำลังกายดี) หมอนัดตรวจผลอาการวันเสาร์ที่ 9 พ.ค.58 อาการรักษาดีขึ้นมากเลยครับ หมอจึงจัดและปรับตัวยาให้ใหม่ พร้อมให้ใบรับรองแพทย์ หยุดพักฟื้นต่ออีก 1 อาทิตย์ พร้อมนัดตรวจอีกครั้ง วันเสาร์ที่ 16 พ.ค.58 เมื่อวานที่ผ่านมา ตรวจอาการเกือบหายสมบูรณ์แล้วมองเห็นภาพชัดเจน อาการพลิ้วภาพมีนิดหน่อย เฉพาะเวลาหันมองภาพซ้ายขวาเร็วๆ เพราะอยู่ในระหว่างพักฟื้น แต่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ กว่า 95 % แล้ว (หมอบอกจะหายสมบูรณ์อย่างน้อยประมาณ 1 เดือน) จึงยอมอนุญาตให้ทำงานได้ครับ
ประสบการณ์จริง มองเห็นภาพซ้อน จากโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง
อาการเตือนเริ่มแรก เช้าวันจันทร์ที่ 27 เม.ย.58 ไปทำงานปกติ (ระยะทาง 15 Km.) เป็นวิศวกรโยธา หน่วยงานราชการ ช่วงเย็นเลิกงานปกติ หิ้วกระเป๋าเอกสารกลับถึงรถแล้ว แต่ลืมกุญแจรถยนต์ที่โต๊ะเครื่องคอมฯ รีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้น 3 เริ่มรู้สึกเวียนหัวตาลายเห็นภาพซ้อน นั่งที่โต๊ะทำงานพักสักครู่อาการดีขึ้น ขับรถกลับบ้านรับภรรยาปกติ
เช้าวันอังคารที่ 28 เม.ย.58 ตื่นขึ้นมาประมาณตี 5 จะเดินเข้าห้องน้ำ รู้สึกเวียนหน้าตาลาย มองเห็นภาพซ้อนเป็น 2 ภาพ มองกระจกตาเอียงไม่เท่ากัน ตาข้างซ้ายเขมาก จึงบอกภรรยาว่าวันนี้ไปทำงานขับรถไม่ได้ ภรรยาเห็นตกใจมากร้องไห้ด้วย รีบโทรบอกเพื่อนที่ทำงานให้พาไปส่งโรงพยาบาลสมเด็จฯ ศรีราชา ไปถึงโรงพยาบาล หมอตรวจอาการและวัดความดันสูงมาก และส่งเอกเรย์ CT-SCAN ที่สมอง ในช่วงประมาณ 3 ทุ่ม (รอนานมาก) หมอวิเคราะห์ว่า ภาพเอกเรย์ออกมาไม่ชัดเจน ชี้ชัดไม่ได้ จึงแนะนำให้เอกเรย์ MRI สมอง ที่โรงพยาบาลสมิตติเวช ศรีราชา และนำผลเอกเรย์ MRI สมอง มาส่งให้หมอโรงพยาบาลสมเด็จฯ ในวันพุธที่ 6 พ.ค.58 เวลา 14.00 น. (เพราะเนื่องจากเป็นวันหยุดหลายวัน หมอเฉพาะทางปฎิบัติช่วงวันราชการ) แล้วจึงจ่ายยาลดความดัน ออกใบรับรองแพทย์ และให้กลับมาพักผ่อนที่บ้าน
เช้าวันพุธที่ 29 เม.ย.58 ตื่นขึ้นมา อาการตาเข มองเห็นภาพซ้อนยังเหมือนเดิม มีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ คิดมากใจสั่นไปหมด กลัวว่าจะรักษาไม่หาย จึงบอกภรรยา ไหนๆก็จะไปเอกซ์เรย์ MRI สมองที่โรงพยาบาลสมิตติเวช ศรีราชา แล้วก็รักษาเลย เพราะจะรอถึงวันที่ 6 พ.ค.58 คงไม่ไหวสุขภาพกายและสุภาพจิตเสียแน่ พอไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ให้บริการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม ได้รับความช่วยเหลือดีมาก การทำงานเป็นระบบรวดเร็วทันใจ มาตรฐานสากล ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก ผมถูกส่งเข้าห้อง ICU ทันที หมอต่อระบบอุปกรณ์ต่างๆ ตรวจร่างกายทุกอย่าง เครื่องมือแพทย์ทันสมัยมาก ผลการตวจ ความดันโลหิตสูง 220 , ไขมันในเลือดสูง 277 ,ส่วนหัวใจ เบาหวาน อยู่ในเกณฑ์ปกติ หมอถามประวัติและบอกให้ญาติรีบไปขอแผ่นเอกซ์เรย์ (แผ่น CD) จากโรงพยาบาลสมเด็จฯ เพื่อมาตรวจวิเคราะห์เบื้องต้น หมอวรา (แพทย์เฉพาะทาง) วินิจฉัยได้ทันที สาเหตุน่าจะเกิดจาก เส้นเลือดในสมองตีบ เส้นประสาทตาคู่ที่ 3.... ควบคุมกล้ามเนื้อกรอกลูกตา ฯลฯ จึงรีบฉีดยาสลายลิ่มเลือดไว้ก่อนทันที แล้วส่งตรวจเอกซ์เรย์ MRI สมองทันที นานเกือบ 2 ชั่วโมง (อยู่ภายในอุโมงค์ตื่นเต้นน่ากลัว ไฟแสงสี และเสียงคลื่นวิทยุแม่เหล็กไฟฟ้า ดังอยู่ตลอดเวลาไม่กล้ามองเลย นึกถึงพ่อแม่ ปูย่าตายายและญาติพี่น้องต่างๆที่ล่วงลับไปแล้ว นึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกจิพระอาจารย์ต่างๆ พร้อมสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรต่างๆ) หลังผล MRI ออกมาชัดเจนมากแล้ว มีเส้นเลือดตีบเส้นระบบประสาทตาจุดเล็กๆ เป็นไปตามผลที่วิเคราะห์ไว้เบื้องต้น หมอจึงจัดยารักษาได้ถูกต้อง
อาการรักษาดีขึ้นเรื่อยๆ การมองเห็น ตาเริ่มหายเขแล้ว แต่ยังเห็นเป็นภาพซ้อนอยู่ แต่ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้กำลังใจจากหมอ,พยาบาลและภรรยาที่น่ารัก เริ่มมีพลังและกำลังใจมาก นอนอยู่ห้อง ICU หนึ่งวันหนึ่งคืน พยาบาลตรวจอาการทุกชั่วโมง และอยู่ห้องพิเศษ VIP ชั้น5 2 คืน พยาบาลดูแลตลอดเวลาทุก ๆ 2 ชั่วโมง ห้อง VIP บรรยากาศดีมากเหมือนโรงแรมเลย ทิวทัศน์สวยงาม มองเห็นทะเล เกาะลอย และเกาะสีชัง สวยงามมากครับ) หลังจากนั้นจึงกลับมาพักฟื้นที่บ้าน
หลังจากนั้นตื่นเช้าขึ้นมาสดชื่น ดูทีวีได้แต่มองเห็นภาพซ้อนอยู่บ้างไม่มาก ทานยาที่หมอสั่งตามกำหนด อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ครับในแต่ละวัน พักผ่อนพักสายตาบ้าง จนกระทั่งไม่เห็นภาพซ้อนแต่สายตายังพริ้วอยู่ไม่มาก ช่วงนี้ผมเริ่มออกกำลังกายปั่นจักรยาน,ขับรถยนต์ภายในหมู่บ้านและเดินซื้อของที่ตลาดได้ (ใช้หลัก 4 อ ตามหมอบอกครับ คือ อาหารดี อารมณ์ดี อากาศดี ออกกำลังกายดี) หมอนัดตรวจผลอาการวันเสาร์ที่ 9 พ.ค.58 อาการรักษาดีขึ้นมากเลยครับ หมอจึงจัดและปรับตัวยาให้ใหม่ พร้อมให้ใบรับรองแพทย์ หยุดพักฟื้นต่ออีก 1 อาทิตย์ พร้อมนัดตรวจอีกครั้ง วันเสาร์ที่ 16 พ.ค.58 เมื่อวานที่ผ่านมา ตรวจอาการเกือบหายสมบูรณ์แล้วมองเห็นภาพชัดเจน อาการพลิ้วภาพมีนิดหน่อย เฉพาะเวลาหันมองภาพซ้ายขวาเร็วๆ เพราะอยู่ในระหว่างพักฟื้น แต่อาการดีขึ้นเรื่อยๆ กว่า 95 % แล้ว (หมอบอกจะหายสมบูรณ์อย่างน้อยประมาณ 1 เดือน) จึงยอมอนุญาตให้ทำงานได้ครับ