มืดมากขอความช่วยเหลือ หยุดจ่ายหนี้มา๑ปี อยากจะจ่ายต่อจะเริ่มยังไงก่อนครับ

สวัสดีครับ
ผมมีหนี้สิ้นทั้งหมดประมาณ ๑๗๐๐๐๐ (แสนเจ็ด) ทำบัตรเครดิตนู่นนี่ตั้งแต่ทำงานแรก ๆ
ยอมรับว่าช่วงแรกมีภาระต้องจ่ายเยอะจริงๆ และคิดว่าตัวเองเอาอยู่ และทำทั้งกับสถาบันการเงินและธนคารรวม ๕ แห่ง
แต่ท้ายที่สุดที่บ้านเกิดปัญหาผมต้องลาออกไปช่วย และไม่มีปัญญาที่จะส่งบัตรอีกต่อไป
จากที่เคยจ่ายขั้นต่ำ ก็ไม่มีจ่าย เพราะไม่มีรายได้ ธนคารก็ทวงทุกวัน จนสุดท้ายก็หนี ปิดเครื่องเปลี่ยนเบอร์โทร
ประกอบกับย้ายที่อยู่แล้วไม่ได้แจ้งกับเจ้าหนี้ หนังสือทวงหนี้ก็คงไปที่เดิม

ตอนนี้ผมกำลังจะกลับไปทำงาน เงินเดือนก็น้อยนิด สามหมื่นต้นๆ ไม่รู้จะจ่ายยังไงถึงจะหมด หลังจากที่ลุ่มๆดอนๆ ใช้ชีวิตช่วยทางบ้านและรับงานฟรีแลนซ์ประทังชีวิตไปวันๆ
แต่คิดว่าเมื่อเข้าสู่ระบบผมคงต้องถูกทวงแน่ๆ
แต่จะกลับไปจ่ายก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เพราะย้ายออกจากที่อยู่เดิม ไม่ได้รับเอกสารอะไรเลย
แล้วธนาคารก็ติดต่อผมไม่ได้

หากผมจะกลับไปจ่ายขั้นต่ำโดยเอาบิลเก่าไปเริ่มทยอยจ่าย จะเป็นไรไหมครับ เงินเราที่จ่ายมันจะมีผลไหม
หรือผมต้องติดต่อธนคารครับ เมื่อจ่ายแล้วบัตรเครดิตผมก็ไม่สามารถใช้ได้ตามเดิมแล้วใช่ไหมครับ



ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อันดับแรกต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับว่าเครดิตของคุณนั้นยู่ยี่ยับเยินพังพินาศย่อยยับไม่เหลือชิ้นดีแล้ว นับจากตอนนั้นเค้าคงมีการติดตามทวงถามและฟ้องร้องคุณไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคุณคงแพ้คดีหลุดลุ่ยไปหมดแล้ว เพราะจากที่เล่ามาคงไม่ได้ไปศาลเลยสักนัด (หรืออาจจะไม่แม้กระทั่งเห็นหมายศาล)

มาถึงตรงนี้แล้วผมคิดแค่ว่าถ้าจะหนีหนี้ ก็ต้องหนีให้สุด แต่ก็แน่นอนว่าการจะเติบโตขึ้นในอนาคตด้วยมาตรฐานการเงินเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ยากมากที่ในอนาคตเมื่อเริ่มมั่นคง อยากจะมีบ้าน มีรถ ลงทุน ออม อะไรต่างๆ เครดิตที่เสียไปแล้วแทบจะเรียกได้ว่าธนาคารจะไม่พิจารณาอะไรเลย

แต่สำหรับผมก็ต้องขอชมเชยในข้อที่ว่า เมื่อตอนนี้มีเงินแล้ว เริ่มฐานะการเงินดีขึ้นบ้าง อยากเริ่มเคลียร์หนี้และแก้ไขปัญหาชำระหนี้ ก็นับว่าดีมาก เพราะโดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ที่ทั้งเงินฝืดเริ่มตามมา และ GDP ทำท่าจะเตี้ยลงจนติดลบ ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่น้อยยยยมากกกกกที่คิดว่าจะกลับไปใช้หนี้ของเดิม

ทางเลือกที่ผมจะแนะนำคือ บรรดาหนี้สินทั้งหลาย บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด บัตรต่างๆ อันดับแรก รวบรวมก่อนว่ามีหนี้สินกับบัตรอะไร ธนาคารไหนสถาบันการเงินไหนบ้าง จากนั้นลองรวมตัวเลขดูด้วยว่า แต่ละบัตรมียอดเงิน ยอดหนี้เท่าไหร่ เช่นบางบัตรอาจจะเป็นไปได้ว่าคงรูดเต็มวงเงิน ก็ว่าไป เช่นธนาคารไก่ 20,000 ธนาคารไข่ 30,000

ทีนี้ก็เดินหน้าไปสู่ธนาคารแต่ละแห่ง ให้เขาเช็คให้ว่ามียอดเงินเท่าไหร่ยังไงบ้าง จากนั้นไปเจรจากับแต่ละธนาคาร ขอเจรจาไกล่เกลี่ย ประนอมหนี้กับเจ้าหนี้บัตรแต่ละราย เช่นบางแห่งยอดหนี้ (สมมติ) 40,000 แต่ดอกเบี้ยบานเข้าไปรวมเป็นหนี้ไปแล้ว 80,000 ก็ขอไกล่เกลี่ยว่า ขอลดต้นได้ไหม ลดดอกได้ไหม พูดง่ายๆคือ ทำยังไงก็ได้ให้หนี้มันน้อยที่สุด เมื่อได้ยอดหนี้ที่เราคิดว่าโอเคแล้ว เช่นธนาคารให้ผ่อนแต่ต้นคืน (สมมตินะครับ) กลไกต่อไปคือ ทำยังไงก็ได้ให้ธนาคารยินยอมให้ผ่อนหนี้นั้นในระยะยาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

หลังจากนั้นเมื่อเคลียร์หนี้เสร็จสิ้นแล้ว (หลังจากงวดสุดท้ายของบัตรใบสุดท้าย) ก็อาจจะต้องใช้เวลารอในการที่ธนาคารจะใช้เวลาในการลบข้อมูลหรือการถอดคุณออกจาก Black List จากสำนักงานเครดิตแห่งชาติ (บูโร) ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา และแน่นอนว่าประวัติทางการเงินเสียๆทั้งหลาย ยังอาจมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อต่างๆในอนาคตด้วย (แม้ว่าจะเกินกว่าระยะเวลานั้นไปอีกนานแล้วก็ตาม)

หมายเหตุ : กรณีต่างๆและตัวเลขทางการเงินต่างๆเป็นเพียงการสมมติ เป็นตัวอย่าง มิใช่ความเป็นจริงและไม่สามารถยกเป็นตัวอย่างได้ การพิจารณาแก้ไขปัญหาหนี้สินต่างๆขึ้นอยู่กับข้อเสนอของคุณ และข้อเสนอของธนาคาร ซึ่งต้องใช้การเจรจาสำหรับการประนอมหนี้เหล่านั้นได้ สมมติฐานและตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างที่มิได้ยึดถือขึ้นกับความเป็นจริง

ผิด ตก ยกเว้น (E&OE)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่