ออกตัวก่อนเลยว่า ผมไม่เคยดู Mad Max ทั้ง 3 ภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ Mad Max แต่อย่างใด ในตอนแรกผมคิดว่าคงเป็นหนังบันเทิงแฟนตาซีทั่วไปสไตล์ John Carter หรือไม่ก็ Gladiator แต่ผมคิดผิดมหันต์ เมื่อได้เข้าไปดูเรื่องนี้ ผมถึงกับจิกเบาะและลุ้นสุดตัวไปกับความมันส์และความอลังการของการระเบิดตูมตามแบบโคตรเท่ ซึ่งจะบอกว่าเนื้อเรื่องนั้นก็ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่มากนักหรอก กับการแย่งชิงทรัพยากรบนโลก การคุมอำนาจ การหักหลัง และการตามหาสถานที่อยู่อาศัยในโลกอนาคตที่มีความเป็นไปได้สูง ตัวหนังเองคุมโทนและอารมณ์ได้อยู่หมัดตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจบเรื่อง ไม่มีช่วงไหนที่ทำให้เรารู้สึกเบื่อ หรือคิดอย่างอื่นได้เลย มันเป็นเหมือนหนัง Road Trip ที่มีแต่การไล่ล่าและการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งตลอด 120 นาทีของหนัง และความบ้าคลั่งนั้นก็มีอยู่ในทุกตัวละครในหนัง แม้แต่เพลงประกอบก็บิ๊วได้ตลอดเวลา การออกแบบฉากต่างๆ ในหนัง การตัดต่อ ถือว่าลงตัวและเท่แบบที่ไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อน แม้แต่หนังระเบิดตูมตามบู๊ล้างผลาญอย่าง Transformers, Bad Boys 2 หรือหนังตระกูล Fast & Furious ก็ดูธรรมดาไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องนี้
Mad Max: Fury Road ถือเป็นมาตรฐานของหนังแอ๊คชั่นระดับ Masterpiece ใหม่ที่บอกได้เลยว่า ทำไว้สูงมาก ทั้งด้านอารมณ์ การออกแบบฉากบู๊ ความบันเทิง และการใส่ตัวละครที่มีความเป็นสตรีแกร่งเอาไว้ในหนัง ทำให้คนดูเอาใจช่วยแทบทุกตัวละครจริงๆ การจะดูหนังเรื่องนี้ไม่ต้องศึกษาเนื้อหาหรือตัวละครมาก่อน เพราะคุณสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในหนัง โดยไม่ต้องย้อนกลับไปดูภาคก่อนๆ ยกเว้นตัวละครของ Max ที่มีอดีตมาให้หลอนเรื่อยๆ ถ้าอยากรู้เบื้องลึกก็ควรกลับไปดูภาคก่อนๆ
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ผู้กำกับ George Miller ที่เคยกำกับ Happy Feet, Babe: Pig in the City มาจะทำหนังได้โหดและมันส์ขนาดนี้ บอกได้คำเดียวว่า เรื่องนี้เหมาะแก่การชมในโรงภาพยนตร์จอใหญ่ๆ และระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่ออรรถรสที่เต็มเปี่ยมของความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบจริงๆ
[Grade A]
MAD MAX: FURY ROAD หนังแอ๊คชั่นที่ดีและมันส์ที่สุดในรอบหลายปี
ออกตัวก่อนเลยว่า ผมไม่เคยดู Mad Max ทั้ง 3 ภาคก่อนหน้านี้ ซึ่งผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ Mad Max แต่อย่างใด ในตอนแรกผมคิดว่าคงเป็นหนังบันเทิงแฟนตาซีทั่วไปสไตล์ John Carter หรือไม่ก็ Gladiator แต่ผมคิดผิดมหันต์ เมื่อได้เข้าไปดูเรื่องนี้ ผมถึงกับจิกเบาะและลุ้นสุดตัวไปกับความมันส์และความอลังการของการระเบิดตูมตามแบบโคตรเท่ ซึ่งจะบอกว่าเนื้อเรื่องนั้นก็ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่มากนักหรอก กับการแย่งชิงทรัพยากรบนโลก การคุมอำนาจ การหักหลัง และการตามหาสถานที่อยู่อาศัยในโลกอนาคตที่มีความเป็นไปได้สูง ตัวหนังเองคุมโทนและอารมณ์ได้อยู่หมัดตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจบเรื่อง ไม่มีช่วงไหนที่ทำให้เรารู้สึกเบื่อ หรือคิดอย่างอื่นได้เลย มันเป็นเหมือนหนัง Road Trip ที่มีแต่การไล่ล่าและการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งตลอด 120 นาทีของหนัง และความบ้าคลั่งนั้นก็มีอยู่ในทุกตัวละครในหนัง แม้แต่เพลงประกอบก็บิ๊วได้ตลอดเวลา การออกแบบฉากต่างๆ ในหนัง การตัดต่อ ถือว่าลงตัวและเท่แบบที่ไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อน แม้แต่หนังระเบิดตูมตามบู๊ล้างผลาญอย่าง Transformers, Bad Boys 2 หรือหนังตระกูล Fast & Furious ก็ดูธรรมดาไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องนี้
Mad Max: Fury Road ถือเป็นมาตรฐานของหนังแอ๊คชั่นระดับ Masterpiece ใหม่ที่บอกได้เลยว่า ทำไว้สูงมาก ทั้งด้านอารมณ์ การออกแบบฉากบู๊ ความบันเทิง และการใส่ตัวละครที่มีความเป็นสตรีแกร่งเอาไว้ในหนัง ทำให้คนดูเอาใจช่วยแทบทุกตัวละครจริงๆ การจะดูหนังเรื่องนี้ไม่ต้องศึกษาเนื้อหาหรือตัวละครมาก่อน เพราะคุณสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในหนัง โดยไม่ต้องย้อนกลับไปดูภาคก่อนๆ ยกเว้นตัวละครของ Max ที่มีอดีตมาให้หลอนเรื่อยๆ ถ้าอยากรู้เบื้องลึกก็ควรกลับไปดูภาคก่อนๆ
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ผู้กำกับ George Miller ที่เคยกำกับ Happy Feet, Babe: Pig in the City มาจะทำหนังได้โหดและมันส์ขนาดนี้ บอกได้คำเดียวว่า เรื่องนี้เหมาะแก่การชมในโรงภาพยนตร์จอใหญ่ๆ และระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่ออรรถรสที่เต็มเปี่ยมของความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบจริงๆ
[Grade A]