ถึงขั้นต้องมาตั้งกระทู้เปิดบริสุทธิ์!!(ไม่เคยตั้ง) กันเลยทีเดียวนะครับ
สำหรับหนังเรื่องนี้ ที่อยากดูและได้ดูสมใจในวันนี้
เข้าเรื่องเลย(คห.ส่วนตัวสำหรับหนังเรื่องนี้)
เป็นหนังที่ทุกคนที่เป็นคอหนังแนวสยองขวัญเฝ้าจับตามอง(สำหรับหนังลอกผีชีวะในแบบไทยย้อนยุค) แต่สุดท้ายก็ต้องนั่งมองและจับตา(กลัวหลับ!!)
ทำไมนะเหรอ?? เพราะ เพราะ เพราะ เพราะ มันค่อนข้างแย่ในตอนกลางๆถึงตอนท้ายๆ
ตอนแรกๆละเป็นไง? ดี!! น่ากลัว!! ตกใจ!! ลุ้นระทึก!! ได้อารมณ์คนชอบหนังแนวนี้มากกกกก
ผีค่อยๆออกมา มีซาวน์ให้ชวนลุ้นและทำให้ตกใจ แม้กระทั่งเสียงผู้หญิงตีเหล็ก!! (ไอ่ฝัด!! เสียงคนสะดุ้งในโรง 555+)
แต่ฉากหนังตอนกลางๆถึงท้ายๆ ย้อนให้นึกถึงหนังพระนเรศวรตั้งแต่ภาคแรกยันสุดท้ายเลยครับ
เพราะเป็นฉากเดียวกันแน่นอน เท่าที่ได้สังเกต และไตร่ตรองดู
มันเหมือนจะโยงเรื่องนี้กับอีกเรื่องให้เป็นเรื่องเดียวกัน ยังไง ยังงั้น
และผู้กำกับ คงมองข้ามข้อสำคัญของการสร้างหนัง สยองขวัญ คือ....... "หนังสยองขวัญต้องคู่กับตอนกลางคืนและต้องลุ้นระทึกอยู่ตลอด"
ไม่ใช่ผีวิ่งออกมากันปาวๆ ในตอนเช้า สาย บ่าย เย็น แบบนี้ครับ
และฉากดราม่าเยอะไป จนทำให้ตอนท้ายๆคิดว่า กำลังดู "ขวัญเรียม" ภาค ผีชีวะ(ไทย) อยู่หรือเปล่า
สรุป ในความคิดของผม คิดว่าถ้าหนังเรื่องนี้ ตัวเอกตายน้อยและไม่ไวกว่านี้ หนังมีแต่ฉากตอนกลางคืนมากกว่านี้ และเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำเป็นหมู่บ้านเก่าๆแก่ๆในป่า แบบชาวเขา ไม่ใช่ฉากเดิมของพระนเรศฯ คงทำให้ได้อรรถรสมากกว่านี้ และมีโอกาสจะมีภาคต่อไปยาวๆ แบบฉบับผีชีวะไทย
แต่ต้องยอมรับ ว่าภาพ เสียง และเอฟเฟคการแต่งหน้า เจ๋งมาก!! หนังไทยได้พัฒนาแล้ว
ผมให้กลับไปคิดดูนะครับ ผมเสียตังตั๋วโซฟา450สำหรับดูหนัง เรื่องนี้ ผมไม่เสียดายครับ เพราะเป็นบทเรียน(สำหรับตัวผม) และสนับสนุนหนังไทย
ขอบคุณครับ สำหรับผมคงมีแค่นี้
ปล.ใครใคร่ด่า>ด่า กระทู้เสรีครับผม
หลังจากได้สัมผัสกับหนัง "ผีห่าอโยธยา" ผลลัพธ์ที่ได้คือ...?
สำหรับหนังเรื่องนี้ ที่อยากดูและได้ดูสมใจในวันนี้
เข้าเรื่องเลย(คห.ส่วนตัวสำหรับหนังเรื่องนี้)
เป็นหนังที่ทุกคนที่เป็นคอหนังแนวสยองขวัญเฝ้าจับตามอง(สำหรับหนังลอกผีชีวะในแบบไทยย้อนยุค) แต่สุดท้ายก็ต้องนั่งมองและจับตา(กลัวหลับ!!)
ทำไมนะเหรอ?? เพราะ เพราะ เพราะ เพราะ มันค่อนข้างแย่ในตอนกลางๆถึงตอนท้ายๆ
ตอนแรกๆละเป็นไง? ดี!! น่ากลัว!! ตกใจ!! ลุ้นระทึก!! ได้อารมณ์คนชอบหนังแนวนี้มากกกกก
ผีค่อยๆออกมา มีซาวน์ให้ชวนลุ้นและทำให้ตกใจ แม้กระทั่งเสียงผู้หญิงตีเหล็ก!! (ไอ่ฝัด!! เสียงคนสะดุ้งในโรง 555+)
แต่ฉากหนังตอนกลางๆถึงท้ายๆ ย้อนให้นึกถึงหนังพระนเรศวรตั้งแต่ภาคแรกยันสุดท้ายเลยครับ
เพราะเป็นฉากเดียวกันแน่นอน เท่าที่ได้สังเกต และไตร่ตรองดู
มันเหมือนจะโยงเรื่องนี้กับอีกเรื่องให้เป็นเรื่องเดียวกัน ยังไง ยังงั้น
และผู้กำกับ คงมองข้ามข้อสำคัญของการสร้างหนัง สยองขวัญ คือ....... "หนังสยองขวัญต้องคู่กับตอนกลางคืนและต้องลุ้นระทึกอยู่ตลอด"
ไม่ใช่ผีวิ่งออกมากันปาวๆ ในตอนเช้า สาย บ่าย เย็น แบบนี้ครับ
และฉากดราม่าเยอะไป จนทำให้ตอนท้ายๆคิดว่า กำลังดู "ขวัญเรียม" ภาค ผีชีวะ(ไทย) อยู่หรือเปล่า
สรุป ในความคิดของผม คิดว่าถ้าหนังเรื่องนี้ ตัวเอกตายน้อยและไม่ไวกว่านี้ หนังมีแต่ฉากตอนกลางคืนมากกว่านี้ และเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำเป็นหมู่บ้านเก่าๆแก่ๆในป่า แบบชาวเขา ไม่ใช่ฉากเดิมของพระนเรศฯ คงทำให้ได้อรรถรสมากกว่านี้ และมีโอกาสจะมีภาคต่อไปยาวๆ แบบฉบับผีชีวะไทย
แต่ต้องยอมรับ ว่าภาพ เสียง และเอฟเฟคการแต่งหน้า เจ๋งมาก!! หนังไทยได้พัฒนาแล้ว
ผมให้กลับไปคิดดูนะครับ ผมเสียตังตั๋วโซฟา450สำหรับดูหนัง เรื่องนี้ ผมไม่เสียดายครับ เพราะเป็นบทเรียน(สำหรับตัวผม) และสนับสนุนหนังไทย
ขอบคุณครับ สำหรับผมคงมีแค่นี้
ปล.ใครใคร่ด่า>ด่า กระทู้เสรีครับผม