(ย้อนรอยละครช่อง7)แหวนทองเหลือง อีกหนึ่งละครคุณภาพของกวาง กมลชนก

ขอบคุณภาพจากเพจเฟสบุ๊ค ภาพจากหนังสือเรื่องย่อละครไทย(moouanbook)ครับ


แหวนทองเหลือง
ออกอากาศในปี 2547
บทประพันธ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี
กำกับการแสดง ไพโรจน์ สังวริบุตร
                     รุจน์ รณภพ
ผลิตโดย บริษัท ดีด้า วีดิโอ โปรดักชั่น จำกัด
ออกอากาศ ทุกวัน เวลา18.30น. ทางช่อง7
นำแสดงโดย
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
กมลชนก เขมะโยธิน
เขตต์ ฐานทัพ
จีรนันท์ มะโนแจ่ม
วรุฒ วรธรรม
ปกรณ์ พรพิสุทธิ์
ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี
สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์
กชกร นิมากรณ์
สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์
นาท ภูวนัย
เอกพัน บรรลือฤทธิ์
เยาวเรศ นิสากร
มรกต มณีฉาย
สิริยา นฤนาท
เรื่องย่อ
นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ วันที่ 8 ธันวาคม 2488 กองทัพญี่ปุ่นอันเกรียงไกร เปิดการโจมตีทั้งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ ต่อประเทศกลุ่มที่เป็นพันธมิตรของอังกฤษ อเมริกา และเนเธอแลนด์ ส่วนหนึ่งของกองทัพญี่ปุ่น ได้บุกขึ้นประเทศไทยหลายจุด กองทัพไทยต้องยอมจำนน ต้องทำสัญญาเข้าร่วมรบกับฝ่ายอักษะ ประกอบด้วยญี่ปุ่น เยอรมัน และอิตาลี ทำให้ชาติไทยต้องตกอยู่ในภาวะสงครามตั้งแต่นั้นโดยที่ไม่มีใครต้องการ คนไทยกลุ่มหนึ่งทั้งในและนอกประเทศ ประกอบด้วยทั้งทหารและพลเรือน ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้นอย่างลับๆ เพื่อกู้ชาติและเพื่อศักดิ์ศรีของชาติ ในขั้นแรก ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายชนะ รุกไล่ฝ่ายสัมพันธมิตรจนฐานทัพเรือที่เพิร์ลฮาเบอร์ เกาะฮาวายของสหรัฐถูกถล่ม ยึดครองเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทรแปซิฟิก ยึดครองฟิลิปปินส์มุ่งหน้าเข้าพม่า ขับไล่อังกฤษผู้ยึดครองพม่าออกไป และเริ่มลุกลามเข้าสู่อินเดีย แต่แล้วในที่สุดญี่ปุ่นผู้เริ่มรุกราน ก็ถูกตีถอยร่นมาจากทุกสมรภูมิ สัมพันธมิตรจึงส่งเครื่องบินเข้าโจมตีไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ทำให้ประชาชนเกิดการระส่ำระสายต้องอพยพหลบหนีกันอลหม่านทุกวัน จนกระทั่งญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ต่อสัมพันธมิตร จากนั้นทหารพันธมิตรก็เข้ามาเต็มเมือง ธุรกิจการค้าต่างเริ่มเฟื่องฟูรุ่งเรือง มีการนำรูปแบบธุรกิจใหม่เข้ามาดำเนินกิจการ คนไทยบางกลุ่มกลายเป็นเศรษฐีรุ่นใหม่ และหนึ่งในจำนวนนั้นมีดวงใจ ตัวเอกของนิยายเรื่องนี้รวมอยู่ด้วย แหวนทองเหลือง เป็นนิยายคล้ายเรื่องจริงของหญิงสาวเชียงใหม่คนหนึ่ง กับนายทหารหนุ่มนักเรียนนอกชาวกรุง ที่มั่นคงต่อความรักอย่างแน่นแฟ้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามที ทั้งสองก็ยังมั่นคงในความรักเสมอมา ทั้งสองคนเริ่มพบกันที่เชียงใหม่ เมื่อดวงใจหญิงสาวชาวบ้านผู้ต่ำต้อย ซึ่งหลงรักร้อยเอกกฤษฎา ลูกชายท่านเจ้าคุณเทศา ผู้เป็นนายของกำนันปานผู้บิดา ดวงใจหลงรักรูปของกฤษฎามาตั้งแต่แตกเนื้อสาว และแล้ววันหนึ่งโดยไม่คาดฝัน กฤษฎาก็พาตัวจริงมาให้ดวงใจพบเห็น ใช่แต่ดวงใจจะหลงรักกฤษฎาฝ่ายเดียว กฤษฎาเองก็หลงรักดวงใจไม่ต่างกัน ทั้งสองหลบหลีกผู้คนไปท่องเที่ยวหาความสุขด้วยกัน จนได้เสียกัน แต่แล้วด้วยความรักชาติซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้กฤษฎาต้องจากดวงใจมาทั้งๆ ที่ไม่อยากจากโดยมิได้บอกเล่าเก้าสิบ เพียงแต่หวังว่าเมื่อหน้าที่ของเสรีไทยซึ่งเป็นหน่วยกู้ชาติใต้ดิน และสงครามสิ้นสุดจะกลับมาหาดวงใจ ก่อนจากกันกฤษฎามอบสร้อยคอและล็อคเก็ตให้ดวงใจไว้ ส่วนดวงใจมอบแหวนทองเหลือไร้ค่าให้กฤษฎาไว้เช่นกัน กฤษฎาไม่เคยถอดแหวนวงนี้ออกจากมือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดวงใจเฝ้ารอการกลับมาของร้อยเอกกฤษฎาด้วยความหวัง แต่ดวงใจตั้งครรภ์ขึ้นมาจึงทำให้กันปานโกรธแค้นยิ่งนัก ยิ่งรู้ดวงใจท้องกับกฤษฎายิ่งเสียใจ และด้วยความจงรักภักดีต่อเจ้าคุณเทศา ผู้มีบุญคุณช่วยชุบชีวิตกำนันจากโจรให้มาเป็นพลเมืองดี ทำให้กำนันไม่ปริปากเอ่ยให้ผู้ใดรู้ว่าดวงใจท้องกับกฤษฎา และสั่งห้ามดวงใจเอ่ยชื่อกฤษฎาให้ได้ยินอีกเป็นอันขาด กำนันได้ใช้โซ่ตรวนกักขังดวงใจไว้ในบ้าน เนื่องจากดวงใจพยายามจะหนีไปตามหากฤษฎาให้ได้ ต่อมาได้มีลูกชายเศรษฐีผู้หนึ่ง ซึ่งหลงรักดวงใจตั้งแต่ก่อนบวช พอสึกออกมาแล้วจึงได้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอ และไม่รังเกียจแม้ว่าดวงใจจะท้องไม่มีพ่อก็ตามที แม้ไม่เต็มใจ แต่เพื่อรักษาหน้าของลูกสาว กำนันปานตัดสินใจรับการสู่ขอ มิใยที่ดวงใจจะทัดทาน มิใยจะต้องทุบตีลูกสาวที่รักเหมือนดวงใจของกำนันเอง กำนันก็ต้องยอม วันแต่งงาน ดวงใจถูกล่ามโซ่รออยู่ในห้อง ขบวนขันหมากแห่ใกล้เข้ามาทุกที ดวงใจพยายามสะเดาะโซ่มาหลายวันแล้ว แต่ไม่อาจทำสำเร็จได้ ผลที่สุดด้วยใจอันมุ่งมั่นแน่วแน่และด้วยความเข็มแข็งของดวงใจ ทำให้ดวงใจตัดสินใจเฉือนเนื้อตัวเองที่ส้นเท้าออกไป เพื่อให้เท้าลอดออกมาจากห่วงโซ่ได้ และเธอก็ทำสำเร็จ ดวงใจกระโดดหนีลงจากเรือนกระเซอะกระเซิงเข้าไปในป่า กำนันส่งคนติดตามไล่ล่าเต็มที่ ดวงใจได้รับความช่วยเหลือจากชาวป่าสองผัวเมีย เมียท้องพอๆ กับดวงใจ ดวงใจขอแลกเสื้อผ้ากับเมียชาวป่า และขายสร้อยคอเพื่อเอาเงินติดตัวเดินทาง แล้วอาศัยล่องแพมากับคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในเมือง หลายวันต่อมา บรรดาคนติดตามดวงใจได้พบศพของผัวเมียคู่นั้นถูกเสือฆ่าตาย จึงพากันเข้าใจผิดว่าดวงใจตาย เพราะหญิงคนนั้นใส่ชุดของดวงใจและใส่สร้อยของดวงใจ กำนันเสียใจมาก นำศพของดวงใจมาฝังไว้หลังบ้าน และทำการปิดตายเรือนรับรองหลังใหญ่ของเจ้าคุณเทศาที่กฤษฎามาพัก
ดวงใจมาที่สถานีรถไฟเพื่อขึ้นกรุงเทพตามหากฤษฎา แต่เงินที่มีอยู่ร่อยหรอลง ทำให้ไม่พอค่าโดยสาร ดวงใจตัดสินใจเดินตามทางรถไฟไปเรื่อยๆ ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะถึงกรุงเทพ เดินทางรอนแรมมาหลายวัน ดวงใจหมดแรงล้มลงอยู่บนทางรถไฟนั่นเอง ขณะนั้นนายสถานีกำลังโยกรถตรวจสภาพรางรถไฟมาพบเข้า คิดว่าดวงใจอยากฆ่าตัวตาย จึงช่วยพาดวงใจกลับมาส่งไว้ที่บ้านนายสถานีอนามัย เมื่อดวงใจรู้สึกตัว ก็เริ่มเจ็บท้องจะคลอดลูก พอดีในช่วงนั้นหมอเมตตามาจากกรุงเทพฯ เพื่อตรวจอนามัยจังหวัดที่นั่น หมอจึงทำคลอดให้ดวงใจ ได้ลูกเป็นหญิง หมอสอบถามดวงใจได้ความว่าดวงใจต้องการไปกรุงเทพฯเพื่อตามหาสามีชื่อร้อยเอกกฤษฎา บ้านอยู่ทุ่งมหาเมฆ มีต้นเฟื่องฟ้าสีแดงสดหน้าบ้านที่กรุงเทพฯให้ได้ หมอเกิดความเวทนาและเอ็นดูดวงใจ จึงให้ดวงใจติดตามเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาสามี ทางด้านร้อยเอกกฤษฎา ทำหน้าที่เสรีไทยด้วยความเข้มแข็ง และซื่อสัตย์ ไม่ยอมให้ผู้ใดรู้ที่อยู่ และรู้ว่ากำลังทำสิ่งใด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของขบวนการ ทั้งๆ ที่คิดถึงดวงใจและห่วงเจ้าคุณเทศาผู้บิดามาก กฤษฎาทนกล้ำกลืนความคิดถึงและความทุกข์โศกทั้งหมด แล้วตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จนได้รับความเชื่อถือยกย่องจากหัวหน้าหน่วย และเพื่อนร่วมงานทั่วไป ทางฝ่ายเจ้าคุณเทศา ตรอมใจที่ลูกชายคือกฤษฎาหายไปไม่มีวี่แวว ถึงกับล้มป่วยและได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้การกุศล ส่วนบ้านที่อยู่ยกให้ภรรยาน้อย ภรรยาน้อยได้นำบ้านหลังนั้นไปขายให้กับนักธุรกิจ เปิดบ่อน เปิดคลับกลางคืนสำหรับนักท่องเที่ยว หมอเมตตาพาดวงใจมาถึงกรุงเทพฯ ให้ดวงใจอาศัยที่บ้าน แม่ของหมอเอ็นดูดวงใจโดยเฉพาะแม่หนูตัวน้อยลูกสาวของดวงใจมาก ดวงใจนั้นขยันขันแข็งไม่ดูดาย ทำงานบ้านทุกอย่าง ตลอดจนช่วยหมอในเรื่องรักษาพยาบาลคนป่วย จนสามารถรู้จักชื่อยา และหยิบยาได้ถูกต้อง ถูกใจหมอและคุณแม่ของหมอมาก ดวงใจใช้เวลาว่างตามหากฤษฎาเป็นปี ทั่วทุ่งมหาเมฆ หาบ้านที่มีดอกเฟื่องฟ้า ซึ่งมีเป็นจำนวนมากมาย ในที่สุดดวงใจก็พบบ้านของกฤษฎา โดยสอบถามจากคนเก่าแก่ในบ้าน ทราบว่ากฤษฎาหายสาบสูญและบ้านได้ถูกขายไปทำคลับและบ่อนแล้ว โดยภรรยาน้อยของเจ้าคุณพ่อของกฤษฎานั่นเอง คนใช้เก่าแก่ยังเล่าอีกว่า ได้ข่าวลือมาว่ากฤษฎาเสียชีวิตในสงครามไปแล้ว
  ดวงใจเศร้าเสียใจมาก ซมซานกลับ ปรับทุกข์กับหมอ หมอเห็นอกเห็นใจดวงใจ หมอแอบหลงรักดวงใจมานาน ยิ่งเมื่อทราบว่าสามีของดวงใจเสียชีวิต หมอจึงเกิดความหวัง ในที่สุดวันหนึ่งหมอจึงเสนอตัวขอแต่งงานกับดวงใจ ดวงใจตกใจมาก เพราะคิดไม่ถึง ดวงใจปฏิเสธหมอ โดยบอกว่าได้ให้คำมั่นสัญญากับสามี และตัวเองไว้ว่าจะไม่มีชายอื่นอีกแล้ว นอกจากกฤษฎา ดวงใจเกิดความรู้สึกผิดและไม่สบายใจที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องผิดหวัง เมื่อไม่สามารถจะทดแทนพระคุณได้ ดวงใจจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านหมอ ในตอนเช้าตรู่วันหนึ่ง ดวงใจอุ้มลูกน้อยกระเซอะกระเซิงออกมา พร้อมด้วยเงินในกระเป๋าจำนวนหนึ่งที่เก็บสะสมไว้จากการที่หมอให้เป็นค่าตอบแทนในการทำงานให้หมอ ขณะอุ้มลูกเดินมา เสียงหวอดังขึ้น ดวงใจพาลูกหาที่หลบระเบิด ปรากฏว่ามีคนร้ายถือโอกาสกระชากกระเป๋าดวงใจไป ทำให้ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่แดงเดียว จนกระทั่งพบแม่ค้าข้าวแกง หนูน้อยเกิดหิวร้องงอแงขอกินอาหาร ดวงใจตัดสินใจเรียกแม่ค้าหาบเร่ผู้นั้นหยุด แม่หนูทานจนอิ่ม แม่ค้าขอเก็บเงิน ดวงใจไม่มีให้ เกือบถูกแม่ค้าเล่นงาน หาว่าหลอกกินฟรี ในที่สุดแม่ค้าก็เข้าใจ และกลับสงสารดวงใจ จึงพาไปหายายประคองเจ้าของบ้านที่แม่ค้าอาศัยอยู่เช่นกัน ยายประคองผู้ปากร้ายแต่ใจดี ไม่พอใจในขั้นแรก แต่เมื่อเสาวรสซึ่งเป็นหญิงสาวพเนจรเหมือนกันและมาอาศัยอยู่กับยายประคองรับรอง ยายประคองก็ใจอ่อนให้ดวงใจอาศัยอยู่ด้วย ดวงใจ เสาวรส จึงสนิทสนมกัน และสาบานเป็นพี่น้องกันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เดี๋ยวเรื่องย่อจะมาต่อให้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่