มีประสบการณ์สมัยยังเรียนอยู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ตอนนั้น (พ.ศ. ๒๕๕๔) จขกทยัง เรียนต่อระดับบัณฑิตศึกษา และจำเป็นต้องไปร่วมงานประชุมวิชาการที่หน่วยงานราชการซึ่งให้ทุนการศึกษาจัดขึ้นใน “โรงแรมแถวพัทยา" ตามเงื่อนไขการรับทุน
การประชุมครั้งนั้นคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ถ้าเพียงแต่โรงแรมที่ทางหน่วยงานเลือกไม่ใช่ “อดีตโรงแรมไฟไหม้" แม้จะเปลี่ยนชื่อไปแล้วก็เถอะค่ะ
ตอนแรก จขกท โล่งอกที่ในจดหมายที่แนบมากับกำหนดการการประชุมแจ้งว่า ดิฉันได้พัก “ห้องชั้น ๔" ซึ่งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่พอไปถึงสถานที่จริง กลับต้องย้ายไป “ห้องชั้น ๙" ชั้นที่ร่ำลือกันว่ามีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก
ดิฉันได้พักกับรุ่นน้องป.โท ๒ คน ในคืนนั้นพวกเราจึงจับกลุ่มคุยกันพร้อมกับเปิดโทรทัศน์ไปด้วย เผอิญว่าละครที่เปิดทิ้งไว้ คือ เซน สื่อรักสือวิญญาณ ตอนเกี่ยวกับห้องพักผู้ป่วยผีสิง
พอละครดำเนินเรื่องมาถึงฉากที่ “วันใหม่" (คุณพีค ภัทรศยา) ตะโกนว่า “ห้องนี้มีผี!" ทันใดนั้น...ไฟในห้องพักของดิฉันก็ดับลงประมาณ ๑๐ วินาทีเห็นจะได้
พอไฟมา พวกเราเลยเปลี่ยนช่อง แล้วสรุปกันว่าตะกี้นี้คงไฟตก หลังจากคุยต่อสักพักก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เมื่อถึงตาดิฉัน...ขณะที่กำลังแปรงฟันอยู่หน้าอ่างล้างมือซึ่งติดกระจกบานใหญ่ เงาสะท้อนในกระจกก็ทำให้ดิฉันเห็น “ผู้หญิงต่างชาติ" วิ่งผ่านหลังจากทางด้านอ่างอาบน้ำแล้วทะลุประตูห้องน้ำหายไป
ไม่ใช่ดิฉันไม่กลัวนะคะ แต่ครั้นจะโวยวายก็ใช่ที่ ดีไม่ดีน้องนุ่งจะตกใจกลัว พาลจะนอนไม่หลับเอา ดิฉันจึงรีบแปรงฟัน อาบน้ำ ก่อนนอนก็สวดมนต์แบบ “จัดเต็ม" และแผ่เมตตาให้ “แหม่มในกระจก"...ดีที่ครั้งนั้นห้อยเหรียญรูปท่านคุณนรราชมานิตไป จึงอธิษฐานขอบารมีท่านให้คุ้มครองพวกเรา
น่าแปลกนะคะที่คืนนั้นทั้งรุ่นน้องทั้งดิฉันหลับสบายจนถึงเช้า
จบแล้วค่ะ
ห้องนี้มีผี
การประชุมครั้งนั้นคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ถ้าเพียงแต่โรงแรมที่ทางหน่วยงานเลือกไม่ใช่ “อดีตโรงแรมไฟไหม้" แม้จะเปลี่ยนชื่อไปแล้วก็เถอะค่ะ
ตอนแรก จขกท โล่งอกที่ในจดหมายที่แนบมากับกำหนดการการประชุมแจ้งว่า ดิฉันได้พัก “ห้องชั้น ๔" ซึ่งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่พอไปถึงสถานที่จริง กลับต้องย้ายไป “ห้องชั้น ๙" ชั้นที่ร่ำลือกันว่ามีผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก
ดิฉันได้พักกับรุ่นน้องป.โท ๒ คน ในคืนนั้นพวกเราจึงจับกลุ่มคุยกันพร้อมกับเปิดโทรทัศน์ไปด้วย เผอิญว่าละครที่เปิดทิ้งไว้ คือ เซน สื่อรักสือวิญญาณ ตอนเกี่ยวกับห้องพักผู้ป่วยผีสิง
พอละครดำเนินเรื่องมาถึงฉากที่ “วันใหม่" (คุณพีค ภัทรศยา) ตะโกนว่า “ห้องนี้มีผี!" ทันใดนั้น...ไฟในห้องพักของดิฉันก็ดับลงประมาณ ๑๐ วินาทีเห็นจะได้
พอไฟมา พวกเราเลยเปลี่ยนช่อง แล้วสรุปกันว่าตะกี้นี้คงไฟตก หลังจากคุยต่อสักพักก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เมื่อถึงตาดิฉัน...ขณะที่กำลังแปรงฟันอยู่หน้าอ่างล้างมือซึ่งติดกระจกบานใหญ่ เงาสะท้อนในกระจกก็ทำให้ดิฉันเห็น “ผู้หญิงต่างชาติ" วิ่งผ่านหลังจากทางด้านอ่างอาบน้ำแล้วทะลุประตูห้องน้ำหายไป
ไม่ใช่ดิฉันไม่กลัวนะคะ แต่ครั้นจะโวยวายก็ใช่ที่ ดีไม่ดีน้องนุ่งจะตกใจกลัว พาลจะนอนไม่หลับเอา ดิฉันจึงรีบแปรงฟัน อาบน้ำ ก่อนนอนก็สวดมนต์แบบ “จัดเต็ม" และแผ่เมตตาให้ “แหม่มในกระจก"...ดีที่ครั้งนั้นห้อยเหรียญรูปท่านคุณนรราชมานิตไป จึงอธิษฐานขอบารมีท่านให้คุ้มครองพวกเรา
น่าแปลกนะคะที่คืนนั้นทั้งรุ่นน้องทั้งดิฉันหลับสบายจนถึงเช้า
จบแล้วค่ะ