สวัสดีค่ะ คือช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาเราไปเรียนซัมเมอร์ที่ขอนแก่น หุหุ แล้วได้ไปเช่าหอหอนึงเป็นหอเปิดใหม่ เราก็ไปอยู่กับเพื่อน 2 คน
แบบห้องเล็กมากตกแต่งเป็นห้องพักสไตล์เมียน้อยเหมือนในละครที่เคยดู แต่เราก็ไม่ได้อะไร คิดว่าห้องพักยังไงก็ช่างมันเหอะ เราตั้งใจมาเรียน
อ่อ เราเอามอเตอร์ไซค์มาด้วยเพราะอยู่ 2 เดือนจะได้ไปไหนมาไหนสะดวก แล้วที่นี้เพื่อนเราลืมเอาหมวกกันน็อคมา เลยต้องไปซื้อใหม่
ใส่ได้แค่วันเดียว วันต่อมาหมวกกันน็อคหาย คือของเรากับของคนอื่นยังอยู่ แต่เพื่อนเราหายไปใบเดียว ไปบอกลุงคนที่แกดูแลหอ
แกก็หัวเราะ แล้วบอกว่าคราวหลังหนูเอาขึ้นห้องไปด้วยเลยนะ จะได้ไม่หายอีก คืออะไร !! ไม่คิดจะเช็คกล้องวงจรปิดอะไรให้หน่อยหรอ
ใบละ 200 เชียวนะเฟ้ย แบบคือเพื่อนเพิ่งซื้อด้วยอะ เพื่อนเราก็บอกช่างเหอะ ขี้เกียจพูด เลยแล้วๆไป จากนั้น 2-3 วันหมวกกันน็อคเราหาย
เราไปบอกลุงดูแลหอ ลุงบอกสงสัยน้องแม่บ้านใส่ไปเมื่อกี้บอกจะไปซื้อของ คือเราก็งง คืออยากใส่ไปก็ใส่ไปเลยอะหรอ พอเราได้หมวกคืน
เราเอาไว้บนห้องไม่เคยเอาลงมาอีกเลย อีกเรื่อง คือ หอมี 7 ชั้น ติดเราเตอร์
ชั้นละ 1 เครื่อง เราเล่นเน็ตไม่ได้เลย เซ็งมาก เราอุตส่าห์ออกมานั่งเล่นหน้าห้อง หน้าเครื่องเราเตอร์เลย ยังเล่นไม่ได้อีก จนเพลียเราก็ช่างเหอะ
ทนๆไป แล้วในลิฟต์ที่หอจะมีกระดาษกฎของหอเยอะแยะมากมาย มีข้อนึง บอกว่าห้ามเอาคนมาค้างที่ห้องเด็ดขาด หากเอามาจะต้องไปเสีย
ค่ารายหัวที่จะมาพักอีก คืองงอะ เราก็จ่ายค่าห้องปะยังจะเก็บอะไรเพิ่มอีกหรอ แต่เราไม่ได้พาใครมานอน ก็เลยแล้วไป
นอกจากที่นี้ค่าห้องจะแพงแล้ว ค่าน้ำเหมาก็ 150 บาท ต่อหัว อยู่ 2 คน ก็ 300 แพงมากจริงๆ คืออาบน้ำก็แค่ตอนเช้าไปเรียนกับตอนเย็นแค่นั้นอะ
พอเรารู้ว่าค่าน้ำแพงขนาดนี้ เราก็ใช้ให้คุ้มจ้า55555 ซักผ้าเอง เราล้างห้องน้ำอาทิตนึง 2-3 ครั้ง บางทีนอนไม่หลับตีสองตีสาม ลุกขึ้นมาล้าง
ห้องน้ำซะเลย งานอดิเรก คิดแพงต้องใช้ให้คุ้ม ค่าไฟนี่ก็หน่วยละ 10 ยิ่งอยู่นานกฎที่มีอยู่ในลิฟต์ก็มีมาแปะเพิ่มขึ้นทุกที
หอนี่เป็นญาติกับศาสตราจารย์อัมบริดจ์หรอ ติดกฎเพิ่มเอาๆ นึกว่าอยู่ฮอกวอตต์ แต่แอบสะใจเล็กๆ เพราะตรงกระดาษกฎมีรอยเล็บขูด รอยดำ
รอยฉีก5555 คงมีคนไม่เห็นด้วยเยอะ แล้วก็หอนี้มียามนะ คุณลุงยามน่ารักมากเลย แต่น่าสงสาร หอใหญ่มากแต่มีเก้าอี้ตัวเดียวให้ลุงยามประจำตำแหน่ง
เก้าอี้ตัวเดียวไม่มีโต๊ะอะไรให้ลุงยามวางของเลย อย่างที่รู้ประเทศไทยนี่ร้อนมากร้อนแบบวัวตายควายล้มเลย เปรียบเทียบกับหอข้างๆ
เป็นหอเล็กๆ แต่ยามหอข้างๆ มีแบบเป็นตู้ยามอะ มีพัดลม มีทีวีให้ดู ยามหอเรามีเก้าอี้ตัวเดียวนั่งข้างกำแพงหน้าตาน่าสงสาร เราก็ทำได้แค่
เวลาไปข้างนอกก็ซื้อผลไม้มาฝากลุงยามบ้าง ขนมบ้าง ให้กำลังใจลุงยามเล็กๆ แล้วอยู่ๆวันนึงลุงยามก็หายไป เราก็คิดว่าลุงคงลากลับบ้านมั้ง
สงกรานต์จะได้ไม่ต้องกลับจะได้เฝ้าหอเต็มที่ แต่หลังจากเรากลับมาจากกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เราก็ไม่เคยเจอลุงยามอีกเลย ไม่รู้ลุงไปอยู่ไหน
แต่คิดถึงนะคะลุง หวังว่าจะสบายดี แต่ก็นั้นแหละหลังเรากลับมาทีหอช่วงสงกรานต์ ก็มีกระดาษแปะไว้ในลิฟต์บอกว่า มีการทำความสะอาดให้ทุกห้อง
ช่วงสงกรานต์ เก็บค่าทำความสะอาดห้องละ 250 บาท เราก็โห แพงจังอะ ก่อนหน้านี่มันเคยมีกระดาษแปะไว้ว่า หากต้องการทำความสะอาด คิดครั้ง
ละ 100 บาท แต่เราไม่เคยคิดจ้างมาทำ เพราะทำเองได้ นี่คือมาทำเอง แล้วยังมาคิดตั้ง 250 เรานี่เซ็งเลย อยู่หอตังค์ยิ่งไม่ค่อยมี เราก็อดทนๆ
เพราะเดี่ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว พอมาเดือนนี้ เพื่อนเราที่เป็นเมท ย้ายห้องไปอยู่อีกห้องคือห้องตรงกันข้าม เพราะมีเพื่อนอีกคนเขาย้ายออกไป
แต่ตามสัญญาต้องเช่า 2 เดือน ถึงแม้ว่าเพื่อนย้ายออกไปแล้วแต่ก็ต้องเสียเงินอยู่ดี เพื่อนเราที่เป็นเมทเลยย้ายไปอยู่แทนแล้วจะไปเคลียร์ค่าห้อง
กับเพื่อนคนนั้นแทน เราก็อยู่มาเรื่อยๆ แบบเซ็งๆกับหอ ทยอยปิดคอร์สเรียนไป มาวันที่ 28 เมษา เพื่อนเราที่เคยเป็นเมทอะที่อยู่ห้องตรงข้าม
บอกว่าเดี๋ยวกลับก่อนนะ ไว้เจอกันที่ รร. เราก็โอเคบาย เพราะวันที่ 29 เมษาเราก็จะตามไป แล้วนางก็เคลียร์ค่าห้องแล้วจากไป
พอมาวันที่ 29 เมษา ที่รอคอยจะได้กลับบ้านแล้ว พ่อเราบอกว่ากว่าจะมาถึงคง 2-3 ทุ่ม ให้ไปเคลียร์ค่าห้องไว้ ดึกๆจะได้ไม่ไปรบกวน
เราก็ไปบอกลุงเจ้าของหอว่าจะออกแล้ว แกก็เปิดสมุดนั้น ดูสมุดนี้ เป็นชม. อะ ไม่เสร็จซักที แต่ที่เรามาจ่ายจะจ่ายแค่ค่าน้ำค่าไฟ
เพราะค่าห้องเราเสียไปตั้งแต่ต้นเดือนเมษาแล้ว เพราะลุงแกบอกจ่ายก่อนค่อยอยู่ แกก็เดือนถือสมุดมาตรวจๆ ดูห้องเรานะ
ออ เราทำสะดืออ่างล้างมือหักอะ ไม่รู้หักได้ไง งงเหมือนกัน แกก็มาเช็คห้องเรา เช็คห้องน้ำอะไรงี้ เราก็คิดว่าแกคงคิดค่าเสียหายไปละ
สรุปรวม ค่าไฟเราพันกว่าบาท ค่าน้ำค่าไฟ ค่านู้นนี่นั้น รวมเป็นสองพันกว่าบาท เราก็เฮ้ออ แพงจัง นี่ขนาดเปิดแอร์แค่ตอนกลางคืน
แต่ก็เอาเถอะให้มันจบๆ ไป
แล้วที่นี้แกก็ถามถึงเมทเรา แกบอกว่าแกคิดค่าน้ำผิด เราเลยต้องโทรหาเมทให้มาเคลียร์กับแก คือลุงแกก็ด่าว่าย้ายห้องไม่บอก พวกเราผิด
โอเค เราขอโทษไป แล้วแกก็ไปคิดค่าน้ำห้องเมทเราเป็น 2 คน ทั้งๆที่เมทเราอยู่คนเดียว เราก็อธิบายว่า ลุงคะ เดือนมีนาห้องนั้นมีเพื่อนอีกคนอยู่
พอเดือนเมษาเพื่อนคนนั้นออก เพื่อนหนูเลยเข้าไปอยู่แทน ก็สรุปว่าเพื่อนหนูอยู่คนเดียว แกก็ยังคิดค่าน้ำห้องเมทเรา ทั้ง 2 เดือน เป็น
อยู่ 2 คนอีก เมทเราก็เลยบอกว่าช่างมันเหอะ เบื่อแล้ว เราก็เคลียร์ค่าห้องรวมเสร็จ กำลังจะขึ้นห้อง ลุงแกก็มาถามว่าพ่อจะมารับกี่โมง
เราก็บอกน่าจะมาถึง 2-3 ทุ่มค่ะ แกบอกงั้นลุงขอคิดว่าไฟเพิ่มนะ กว่าพ่อหนูจะมาหนูคงจะเปิดแอร์ ดูทีวี 2-3 ชม. ไฟน่าจะขึ้นซัก 4 หน่วย
ลุงขอค่าไฟเพิ่มอีก 40 บาท เราก็เห้ยย ขนาดนั้นเลยหรอ เราก็ยอมๆจ่ายไป เราก็โทรไปบ่นกับแม่ แม่เราก็บอกแค่ว่าอดทนลูก หนูต้องอดทน
เราต้องเจอคนอีกมาก เราก็โอเคใจร่มๆ ขึ้นมาบ้าง ในที่สุดพ่อเราก็มารับ แต่พ่อมาคนเดียว แม่ไม่ได้มา เรากับพ่อก็ช่วยกันยกมอไซค์
ขึ้นรถ แต่แบบเจ้าของหอที่เป็นผู้ชายก็นั่งอยู่ตรงนั้นอะ ไม่คิดจะมีน้ำใจช่วยยกเลย นั่งมองเรากับพ่อยกมอไซค์ขึ้นรถกระบะ เราก็ช่างเหอะจะไปแล้วแหละ
หลังจากเรากลับมา เราก็ลืมๆไปแล้ว แต่ก็แบบบอกเลยจะไม่มีวันไปอีกเลย มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลาน ผ่านมา 2 อาทิต
มีเบอร์แปลกโทรมา นี่หนูห้อง... ใช่ไหม ใช่ค่ะ คือลุงหอเองนะ จะโทรมาบอกว่า ลุงยังไม่ได้คิดค่าสะดืออ่างล้างมือหัก เราก็ห่ะ !!!!!! อะไรว่ะ
แล้ววันนั้นที่เก็บไปเกือยสองพันกว่านี่ยังไม่ได้คิด ลุงแกก็บอก 550 บาทนะ ห้องอื่นเขาก็หักหลายห้องนะเสียเหมือนกัน ราคาเท่ากัน
เราก็แบบ ลุงก็ควรจะคิดนะ ถ้าห้องอื่นก็หักมันหมายความว่า ของในห้องลุงมันไม่มีประสิทธิภาพ แกก็บอกว่าจะหักจากค่าประกันห้องนะ
คือแม่เพื่อนเราเป็นคนจ่ายค่าประกันห้องให้ ลุงแกยังไม่โอนค่าประกันห้องคืนให้แม่เพื่อนเราไง แกบอกยังไงไปเคลียร์กันเองนะ เราก็โอเค !!
หลังจากวางสาย เราก็นั่งบ่นๆๆๆ กับเพื่อน 10 นาที ผ่านไป โทรมาอีก ลุงแกบอกว่า เออหนู วันนั้นลุงคิดค่าทำความสะอาดห้องผิดนะ
ค่าทำความสะอาดห้องรวมวันนั้นที่หนูจ่าย 350 มันผิดนะ ลุงคิดผิด ความจริงมันต้องจ่าย เพิ่มอีก 250 นะ งั้นลุงจะหักจากค่าประกันห้องอีกนะ
หนูไปเคลียร์กันเอาเอง เราก็อ้าววว เห้ยยย หักอะไรกูอีก แล้วแกก็วางสายไป เราก็นั่งคุยกะเพื่อน เพื่อนเราบอกโทรกลับไปเลย ถามให้เคลียร์ๆ
เราก็โทรกลับไป เราก็ถามว่า ลุงคะ ค่าทำความสะอาดนี่ยังไง หนูไม่เคยจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดเลย จะเสียก็แค่ 250 ที่ลุงบอกบังคับ
ช่วงสงกรานต์ ลุงก็บอก ค่าทำความสะอาดห้องหลังจากที่หนูออกมาแล้วไง พอหนูออกมาแล้วเขาก็ต้องทำความสะอาด เลยต้องคิดเพิ่ม
แต่เออ วันนั้นหนูจ่ายมา 350 แล้วใช่ไหม จ่ายเพิ่มอีก 150 นะ เราก็ หึๆ เมื่อกี้ยังบอกกู 250 ถ้าไม่โทรมานี่คงไม่ลดเนอะ ลุงบอกทั้งหมดเป็น
จ่าย 600 นะ แล้วก็หัวเราะ ฮ่าๆๆๆๆ เข้าใจรึยังหนู คือ หัวเราะอะไร !!!!!!! หัวเราะทำไม อีกคนเครียดอยู่เนี่ย จะได้เสียตังค์
แต่แม่เราบอกว่าเงินประกันอยู่กับเขาเขาจะหักอะไรก็ได้ เรานี่หดหู่มาก ตอนบอกต้องไปจ่ายตังค์ให้หออีก 600 เนี่ย แม่ก็ได้แค่บอก
ให้เอาตังค์ไปจ่ายให้แม่เพื่อน เรานี่ยังไม่รู้เลยวว่าห้องเพื่อนเราที่เคยเป็นเมทจะโดนหักอะไรบ้างไหม
เวลาจะเลือกหอก็ นอกจากจะดูห้อง ดูความปลอดภัยแล้ว อย่าลืมดูเจ้าของหอกันด้วยนะคะ
สุดท้ายสำหรับหอนี้บอกได้เลย ลาก่อนนนน !!!!!!!!!!!!!!!!
แชร์ประสบการณ์หอพัก...ที่เราจะไม่มีวันกลับไปเสียเงินอีก !!!!
แบบห้องเล็กมากตกแต่งเป็นห้องพักสไตล์เมียน้อยเหมือนในละครที่เคยดู แต่เราก็ไม่ได้อะไร คิดว่าห้องพักยังไงก็ช่างมันเหอะ เราตั้งใจมาเรียน
อ่อ เราเอามอเตอร์ไซค์มาด้วยเพราะอยู่ 2 เดือนจะได้ไปไหนมาไหนสะดวก แล้วที่นี้เพื่อนเราลืมเอาหมวกกันน็อคมา เลยต้องไปซื้อใหม่
ใส่ได้แค่วันเดียว วันต่อมาหมวกกันน็อคหาย คือของเรากับของคนอื่นยังอยู่ แต่เพื่อนเราหายไปใบเดียว ไปบอกลุงคนที่แกดูแลหอ
แกก็หัวเราะ แล้วบอกว่าคราวหลังหนูเอาขึ้นห้องไปด้วยเลยนะ จะได้ไม่หายอีก คืออะไร !! ไม่คิดจะเช็คกล้องวงจรปิดอะไรให้หน่อยหรอ
ใบละ 200 เชียวนะเฟ้ย แบบคือเพื่อนเพิ่งซื้อด้วยอะ เพื่อนเราก็บอกช่างเหอะ ขี้เกียจพูด เลยแล้วๆไป จากนั้น 2-3 วันหมวกกันน็อคเราหาย
เราไปบอกลุงดูแลหอ ลุงบอกสงสัยน้องแม่บ้านใส่ไปเมื่อกี้บอกจะไปซื้อของ คือเราก็งง คืออยากใส่ไปก็ใส่ไปเลยอะหรอ พอเราได้หมวกคืน
เราเอาไว้บนห้องไม่เคยเอาลงมาอีกเลย อีกเรื่อง คือ หอมี 7 ชั้น ติดเราเตอร์
ชั้นละ 1 เครื่อง เราเล่นเน็ตไม่ได้เลย เซ็งมาก เราอุตส่าห์ออกมานั่งเล่นหน้าห้อง หน้าเครื่องเราเตอร์เลย ยังเล่นไม่ได้อีก จนเพลียเราก็ช่างเหอะ
ทนๆไป แล้วในลิฟต์ที่หอจะมีกระดาษกฎของหอเยอะแยะมากมาย มีข้อนึง บอกว่าห้ามเอาคนมาค้างที่ห้องเด็ดขาด หากเอามาจะต้องไปเสีย
ค่ารายหัวที่จะมาพักอีก คืองงอะ เราก็จ่ายค่าห้องปะยังจะเก็บอะไรเพิ่มอีกหรอ แต่เราไม่ได้พาใครมานอน ก็เลยแล้วไป
นอกจากที่นี้ค่าห้องจะแพงแล้ว ค่าน้ำเหมาก็ 150 บาท ต่อหัว อยู่ 2 คน ก็ 300 แพงมากจริงๆ คืออาบน้ำก็แค่ตอนเช้าไปเรียนกับตอนเย็นแค่นั้นอะ
พอเรารู้ว่าค่าน้ำแพงขนาดนี้ เราก็ใช้ให้คุ้มจ้า55555 ซักผ้าเอง เราล้างห้องน้ำอาทิตนึง 2-3 ครั้ง บางทีนอนไม่หลับตีสองตีสาม ลุกขึ้นมาล้าง
ห้องน้ำซะเลย งานอดิเรก คิดแพงต้องใช้ให้คุ้ม ค่าไฟนี่ก็หน่วยละ 10 ยิ่งอยู่นานกฎที่มีอยู่ในลิฟต์ก็มีมาแปะเพิ่มขึ้นทุกที
หอนี่เป็นญาติกับศาสตราจารย์อัมบริดจ์หรอ ติดกฎเพิ่มเอาๆ นึกว่าอยู่ฮอกวอตต์ แต่แอบสะใจเล็กๆ เพราะตรงกระดาษกฎมีรอยเล็บขูด รอยดำ
รอยฉีก5555 คงมีคนไม่เห็นด้วยเยอะ แล้วก็หอนี้มียามนะ คุณลุงยามน่ารักมากเลย แต่น่าสงสาร หอใหญ่มากแต่มีเก้าอี้ตัวเดียวให้ลุงยามประจำตำแหน่ง
เก้าอี้ตัวเดียวไม่มีโต๊ะอะไรให้ลุงยามวางของเลย อย่างที่รู้ประเทศไทยนี่ร้อนมากร้อนแบบวัวตายควายล้มเลย เปรียบเทียบกับหอข้างๆ
เป็นหอเล็กๆ แต่ยามหอข้างๆ มีแบบเป็นตู้ยามอะ มีพัดลม มีทีวีให้ดู ยามหอเรามีเก้าอี้ตัวเดียวนั่งข้างกำแพงหน้าตาน่าสงสาร เราก็ทำได้แค่
เวลาไปข้างนอกก็ซื้อผลไม้มาฝากลุงยามบ้าง ขนมบ้าง ให้กำลังใจลุงยามเล็กๆ แล้วอยู่ๆวันนึงลุงยามก็หายไป เราก็คิดว่าลุงคงลากลับบ้านมั้ง
สงกรานต์จะได้ไม่ต้องกลับจะได้เฝ้าหอเต็มที่ แต่หลังจากเรากลับมาจากกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เราก็ไม่เคยเจอลุงยามอีกเลย ไม่รู้ลุงไปอยู่ไหน
แต่คิดถึงนะคะลุง หวังว่าจะสบายดี แต่ก็นั้นแหละหลังเรากลับมาทีหอช่วงสงกรานต์ ก็มีกระดาษแปะไว้ในลิฟต์บอกว่า มีการทำความสะอาดให้ทุกห้อง
ช่วงสงกรานต์ เก็บค่าทำความสะอาดห้องละ 250 บาท เราก็โห แพงจังอะ ก่อนหน้านี่มันเคยมีกระดาษแปะไว้ว่า หากต้องการทำความสะอาด คิดครั้ง
ละ 100 บาท แต่เราไม่เคยคิดจ้างมาทำ เพราะทำเองได้ นี่คือมาทำเอง แล้วยังมาคิดตั้ง 250 เรานี่เซ็งเลย อยู่หอตังค์ยิ่งไม่ค่อยมี เราก็อดทนๆ
เพราะเดี่ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว พอมาเดือนนี้ เพื่อนเราที่เป็นเมท ย้ายห้องไปอยู่อีกห้องคือห้องตรงกันข้าม เพราะมีเพื่อนอีกคนเขาย้ายออกไป
แต่ตามสัญญาต้องเช่า 2 เดือน ถึงแม้ว่าเพื่อนย้ายออกไปแล้วแต่ก็ต้องเสียเงินอยู่ดี เพื่อนเราที่เป็นเมทเลยย้ายไปอยู่แทนแล้วจะไปเคลียร์ค่าห้อง
กับเพื่อนคนนั้นแทน เราก็อยู่มาเรื่อยๆ แบบเซ็งๆกับหอ ทยอยปิดคอร์สเรียนไป มาวันที่ 28 เมษา เพื่อนเราที่เคยเป็นเมทอะที่อยู่ห้องตรงข้าม
บอกว่าเดี๋ยวกลับก่อนนะ ไว้เจอกันที่ รร. เราก็โอเคบาย เพราะวันที่ 29 เมษาเราก็จะตามไป แล้วนางก็เคลียร์ค่าห้องแล้วจากไป
พอมาวันที่ 29 เมษา ที่รอคอยจะได้กลับบ้านแล้ว พ่อเราบอกว่ากว่าจะมาถึงคง 2-3 ทุ่ม ให้ไปเคลียร์ค่าห้องไว้ ดึกๆจะได้ไม่ไปรบกวน
เราก็ไปบอกลุงเจ้าของหอว่าจะออกแล้ว แกก็เปิดสมุดนั้น ดูสมุดนี้ เป็นชม. อะ ไม่เสร็จซักที แต่ที่เรามาจ่ายจะจ่ายแค่ค่าน้ำค่าไฟ
เพราะค่าห้องเราเสียไปตั้งแต่ต้นเดือนเมษาแล้ว เพราะลุงแกบอกจ่ายก่อนค่อยอยู่ แกก็เดือนถือสมุดมาตรวจๆ ดูห้องเรานะ
ออ เราทำสะดืออ่างล้างมือหักอะ ไม่รู้หักได้ไง งงเหมือนกัน แกก็มาเช็คห้องเรา เช็คห้องน้ำอะไรงี้ เราก็คิดว่าแกคงคิดค่าเสียหายไปละ
สรุปรวม ค่าไฟเราพันกว่าบาท ค่าน้ำค่าไฟ ค่านู้นนี่นั้น รวมเป็นสองพันกว่าบาท เราก็เฮ้ออ แพงจัง นี่ขนาดเปิดแอร์แค่ตอนกลางคืน
แต่ก็เอาเถอะให้มันจบๆ ไป
แล้วที่นี้แกก็ถามถึงเมทเรา แกบอกว่าแกคิดค่าน้ำผิด เราเลยต้องโทรหาเมทให้มาเคลียร์กับแก คือลุงแกก็ด่าว่าย้ายห้องไม่บอก พวกเราผิด
โอเค เราขอโทษไป แล้วแกก็ไปคิดค่าน้ำห้องเมทเราเป็น 2 คน ทั้งๆที่เมทเราอยู่คนเดียว เราก็อธิบายว่า ลุงคะ เดือนมีนาห้องนั้นมีเพื่อนอีกคนอยู่
พอเดือนเมษาเพื่อนคนนั้นออก เพื่อนหนูเลยเข้าไปอยู่แทน ก็สรุปว่าเพื่อนหนูอยู่คนเดียว แกก็ยังคิดค่าน้ำห้องเมทเรา ทั้ง 2 เดือน เป็น
อยู่ 2 คนอีก เมทเราก็เลยบอกว่าช่างมันเหอะ เบื่อแล้ว เราก็เคลียร์ค่าห้องรวมเสร็จ กำลังจะขึ้นห้อง ลุงแกก็มาถามว่าพ่อจะมารับกี่โมง
เราก็บอกน่าจะมาถึง 2-3 ทุ่มค่ะ แกบอกงั้นลุงขอคิดว่าไฟเพิ่มนะ กว่าพ่อหนูจะมาหนูคงจะเปิดแอร์ ดูทีวี 2-3 ชม. ไฟน่าจะขึ้นซัก 4 หน่วย
ลุงขอค่าไฟเพิ่มอีก 40 บาท เราก็เห้ยย ขนาดนั้นเลยหรอ เราก็ยอมๆจ่ายไป เราก็โทรไปบ่นกับแม่ แม่เราก็บอกแค่ว่าอดทนลูก หนูต้องอดทน
เราต้องเจอคนอีกมาก เราก็โอเคใจร่มๆ ขึ้นมาบ้าง ในที่สุดพ่อเราก็มารับ แต่พ่อมาคนเดียว แม่ไม่ได้มา เรากับพ่อก็ช่วยกันยกมอไซค์
ขึ้นรถ แต่แบบเจ้าของหอที่เป็นผู้ชายก็นั่งอยู่ตรงนั้นอะ ไม่คิดจะมีน้ำใจช่วยยกเลย นั่งมองเรากับพ่อยกมอไซค์ขึ้นรถกระบะ เราก็ช่างเหอะจะไปแล้วแหละ
หลังจากเรากลับมา เราก็ลืมๆไปแล้ว แต่ก็แบบบอกเลยจะไม่มีวันไปอีกเลย มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลาน ผ่านมา 2 อาทิต
มีเบอร์แปลกโทรมา นี่หนูห้อง... ใช่ไหม ใช่ค่ะ คือลุงหอเองนะ จะโทรมาบอกว่า ลุงยังไม่ได้คิดค่าสะดืออ่างล้างมือหัก เราก็ห่ะ !!!!!! อะไรว่ะ
แล้ววันนั้นที่เก็บไปเกือยสองพันกว่านี่ยังไม่ได้คิด ลุงแกก็บอก 550 บาทนะ ห้องอื่นเขาก็หักหลายห้องนะเสียเหมือนกัน ราคาเท่ากัน
เราก็แบบ ลุงก็ควรจะคิดนะ ถ้าห้องอื่นก็หักมันหมายความว่า ของในห้องลุงมันไม่มีประสิทธิภาพ แกก็บอกว่าจะหักจากค่าประกันห้องนะ
คือแม่เพื่อนเราเป็นคนจ่ายค่าประกันห้องให้ ลุงแกยังไม่โอนค่าประกันห้องคืนให้แม่เพื่อนเราไง แกบอกยังไงไปเคลียร์กันเองนะ เราก็โอเค !!
หลังจากวางสาย เราก็นั่งบ่นๆๆๆ กับเพื่อน 10 นาที ผ่านไป โทรมาอีก ลุงแกบอกว่า เออหนู วันนั้นลุงคิดค่าทำความสะอาดห้องผิดนะ
ค่าทำความสะอาดห้องรวมวันนั้นที่หนูจ่าย 350 มันผิดนะ ลุงคิดผิด ความจริงมันต้องจ่าย เพิ่มอีก 250 นะ งั้นลุงจะหักจากค่าประกันห้องอีกนะ
หนูไปเคลียร์กันเอาเอง เราก็อ้าววว เห้ยยย หักอะไรกูอีก แล้วแกก็วางสายไป เราก็นั่งคุยกะเพื่อน เพื่อนเราบอกโทรกลับไปเลย ถามให้เคลียร์ๆ
เราก็โทรกลับไป เราก็ถามว่า ลุงคะ ค่าทำความสะอาดนี่ยังไง หนูไม่เคยจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดเลย จะเสียก็แค่ 250 ที่ลุงบอกบังคับ
ช่วงสงกรานต์ ลุงก็บอก ค่าทำความสะอาดห้องหลังจากที่หนูออกมาแล้วไง พอหนูออกมาแล้วเขาก็ต้องทำความสะอาด เลยต้องคิดเพิ่ม
แต่เออ วันนั้นหนูจ่ายมา 350 แล้วใช่ไหม จ่ายเพิ่มอีก 150 นะ เราก็ หึๆ เมื่อกี้ยังบอกกู 250 ถ้าไม่โทรมานี่คงไม่ลดเนอะ ลุงบอกทั้งหมดเป็น
จ่าย 600 นะ แล้วก็หัวเราะ ฮ่าๆๆๆๆ เข้าใจรึยังหนู คือ หัวเราะอะไร !!!!!!! หัวเราะทำไม อีกคนเครียดอยู่เนี่ย จะได้เสียตังค์
แต่แม่เราบอกว่าเงินประกันอยู่กับเขาเขาจะหักอะไรก็ได้ เรานี่หดหู่มาก ตอนบอกต้องไปจ่ายตังค์ให้หออีก 600 เนี่ย แม่ก็ได้แค่บอก
ให้เอาตังค์ไปจ่ายให้แม่เพื่อน เรานี่ยังไม่รู้เลยวว่าห้องเพื่อนเราที่เคยเป็นเมทจะโดนหักอะไรบ้างไหม
เวลาจะเลือกหอก็ นอกจากจะดูห้อง ดูความปลอดภัยแล้ว อย่าลืมดูเจ้าของหอกันด้วยนะคะ
สุดท้ายสำหรับหอนี้บอกได้เลย ลาก่อนนนน !!!!!!!!!!!!!!!!