ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ทำงานทางด้าน Solar มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เคยเห็นราคาระบบ Solar ตั้งแต่เกือบ 300 บาทต่อวัตต์ จนในปัจจุบันราคาไม่เกิน 100 บาทต่อวัตต์ และภาครัฐยังมีแนวทางในการสนับสนุนที่ชัดเจนขึ้น เช่นโครงการ Solar Roof Top สำหรับบ้านเรือน บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่จำหน่ายอุปกรณ์ และรับติดตั้งระบบ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีการให้ข้อมูลว่าถ้าเข้าร่วมโครงการ Solar Roof Top สำหรับบ้านเรือนด้วยเงินลงทุนประมาณ 300,000 บาท จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 8 ปี และถ้าคิดระยะเวลาทั้งโครงการ 25 ปีจะได้ผลตอบแทน (IRR) มากกว่า 10%



    แต่ปรากฏว่าปัจจุบันมีคนเข้าร่วมโครงการ Solar Roof Top ของบ้านเรือนไม่ถึง 20% ของโควตาที่ภาครัฐกำหนดไว้ เกิดอะไรขึ้น?? ด้วยความสงสัยผมเลยลองทำแบบสอบถาม Online เพื่อหาคำตอบของประเด็นดังกล่าวและนี่คือผลลัพธ์โดยสรุป

    1.    คนตอบแบบสอบถามจำนวน 75 คน ส่วนมากเป็นพนักงานบริษัทเอกชน (53%) และมีอายุระหว่าง 30-40 ปี (61%) ซึ่งน่าจะเป็นตัวแทนของชนชั้นกลางในสังคมได้

    2.    ความสนใจต่อโครงการ Solar Roof Top ส่วนมากจะสนใจแต่ไม่มีเงินลงทุน (41%) รองลงมาคือ ไม่ทราบรายละเอียดของโครงการจึงตัดสินใจไม่ได้ มีสูงถึง 29% และมีเพียง 6% เท่านั้นที่ไม่สนใจเพราะมองว่าผลตอบแทนไม่คุ้มค่า

    3.    ผมลองเสนอโปรโมชั่นเป็นตัวอย่างให้เลือก ปรากฏว่า โปรโมชั่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ “บริษัทขอเช่าหลังคาบ้านท่านเพื่อติดตั้ง Solar และแบ่งรายได้จากการขายไฟ ให้ 10% โดยขอให้ท่านบำรุงรักษาเบื้องต้นให้” (46%) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนแต่ให้ผลตอบแทนต่ำ  รองลงมาคือ “สามารถผ่อนชำระค่าติดตั้งกับทางบริษัท ดอกเบี้ยและระยะเวลาเหมือนกับผ่อนรถยนต์” (24%) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการลงทุนครั้งแรก

   4.    ข้อเสนอแนะอื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทางด้านเทคนิค เช่น อยากได้ระบบไปทดลองเพื่อเก็บข้อมูลก่อนการตัดสินใจ, อยากทราบแผนรองรับในกรณีอินเวอร์เตอร์ชำรุด เป็นต้น

    ดังนั้นผมคิดว่าถ้าอยากให้โครงการ Solar Roof Top ได้รับความนิยมมากกว่านี้ประเด็นที่ต้องพัฒนาขึ้นคือ การประชาสัมพันธ์โครงการที่มีประสิทธิผลดีกว่านี้, ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนในรูปแบบต่างๆ, การบริหารจัดการความเสี่ยงทางด้านเทคนิค

    โดยท่านสามารถเข้าไปทำแบบสอบถามดังกล่าวและดูผลลัพธ์ได้ที่ http://goo.gl/forms/MspEJ5p4xL