วิบากกรรมการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลในอังกฤษ



วิบากกรรมการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลในอังกฤษ
หากกล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลแล้ว ตัวอย่างการเปลี่ยนผ่านอันหนึ่งที่สมควรเรียนรู้ไว้เพื่อเป็นกรณีศึกษาก็คงจะหนีไม่พ้น รายงานการศึกษาของ ดร.สิขเรศ ศิรากานต์ นักวิชาการอิสระที่ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก Digital TV in Thailand ที่ได้มีการอ้างอิงกันอยู่ในแวดวงข่าวสารด้านทีวีดิจิตอล รวมทั้งแหล่งข้อมูลอื่นๆที่พอจะอ้างอิงได้ เรามาดูกันนะครับว่าวิบากกรรมการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลในอังกฤษที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไร

ประเทศอังกฤษนั้นถือว่าเป็นต้นแบบที่มีความแข็งแกร่งในแง่ของสื่อสารมวลชนประเทศหนึ่ง เราอาจจะได้ยินชื่อช่องข่าวดังอย่าง CNN ของอเมริกา หรือ BBC ของอังกฤษ แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็ตรงที่ว่า BBC ไม่ใช่แค่ช่องข่าว แต่เป็นองค์กรผลิตรายการคุณภาพระดับโลก พร้อมกับการทำหน้าที่ๆไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใคร ไม่ต้องกลัวนักการเมือง ไม่ต้องห่วงว่าเสนอข่าวไปกระทบยักษ์ธุรกิจแล้วโฆษณาจะไม่มีมาลง ถือได้ว่าเป็นสื่อที่เป็นกลางมากที่สุดในโลกเจ้าหนึ่ง

เหตุผลที่ทำแบบนั้นได้เพราะ BBC ไม่ได้ใช้เงินของรัฐบาล ไม่ได้มีรายรับจากการโฆษณา จึงไม่ต้องเกรงใจรัฐบาลหรือธุรกิจยักษ์ใหญ่ใดๆ ท่านอาจจะสงสัยว่าแล้ว BBC เอารายได้มาจากไหน ตอบแบบสั้นๆแล้วก็คือคนอังกฤษเองช่วยกันจ่าย รูปแบบการจ่ายก็คือทุกปี ประชากรของอังกฤษที่มีเครื่องรับทีวีที่บ้านจะต้องไปจ่ายค่าธรรมเนียมการดูทีวี (TV License) ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ที่ 145 ปอนด์ต่อปี หรือราว 4500 บาท โดยรัฐบาลจะจ่ายให้ส่วนหนึ่งในนามของผู้มีรายได้น้อย การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดูทีวีนั้นถือเสมือนเป็นภาษีชนิดหนึ่งที่ต้องจ่าย หากใครไม่จ่ายก็จะต้องเสียค่าปรับมหาโหด จะมีรถลาดตะเวณตรวจจับผู้ที่หลีกเลี่ยงด้วย

กลับมาสู่เรื่องการเปลี่ยนผ่านทีวีดีจิตอลในอังกฤษกันต่อนะครับ ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นในช่วงแรกของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิตอลประมาณปี 1998 ถึงปี 2002 อันเนื่องมาจากคณะกรรมการอิสระเพื่อการกำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ของอังกฤษ (Independent Television Commission – ITC) เกิดภาวะเกรงการผูกขาดข้ามสื่อของกลุ่ม News Corp ที่เป็นเจ้าของสื่อหนังสือพิมพ์ของเจ้าพ่อสื่อระดับโลกที่ชื่อ รูเพิร์ด เมอร์ด็อด ซึ่งหากใครอยู่อังกฤษในช่วงนั้นจะเห็นการกล่าวถึงชื่อของคนๆนี้ในสื่อบ่อยมาก เหมือนตอนต้มยำกุ้งบ้านเราที่เราจะได้ยินชื่อ โซรอส จนคุ้นหูนั่นแหละครับ

ความกลัวดังกล่าวทำให้ รูเพิร์ด เมอร์ด็อค ถูกเชิญให้ถอนตัวออกจากการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลในช่วงต้นๆ ของกระบวนการ

โดยในช่วงต้นทาง ITC ออกแบบ MUX ของโครงข่ายการกระจายสัญญาณทีวีดิจิตอลไว้ 6 โครงข่าย โดยครึ่งหนึ่งจัดสรรให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่เดิมนั่นคือ BBC , ITV + Channel4 (D3&4) และ Channel 5 (ช่องทีวีที่เพิ่งเกิดใหม่) ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะไว้ประมูลกันทีหลัง อาจจะเมื่อการเปลี่ยนผ่านช่องทีวีหลักๆเป็นทีวีดิจิตอลแล้ว

สำหรับผู้ผลิตเนื้อหารายการ (Content) ทาง ITC ก็ได้เชิญชวนผู้ประกอบการโทรทัศน์ที่ผลิตรายการป้อนให้กับ ITV Channel4 อย่าง Carlton Television, Granada TV และ BSkyB ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของเมอร์ด็อคที่ได้รับความนิยมสูงมานาน แต่ต่อมา BSkyB ก็ถูกขอให้ถอนตัวเพราะทาง ITC เกรงว่าจะเป็นการผูกขาดสื่อเพราะตอนนั้น BSkyB มีช่องทีวีดาวเทียมมากถึง 140 ช่อง หากให้มีการดำเนินการทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินด้วยแล้วเกรงว่าจะผูกขาดสื่อทุกชนิดไม่ว่าสิ่งพิมพ์ วิทยุ ทีวีภาคพื้นดิน ทีวีดาวเทียม อันอาจจะเกิดปัญหาที่จะแก้ไขได้ยากในอนาคต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่