ผมก็เป็นเด็กนักเรียน ม.ปลาย ธรรมดาๆคนหนึ่งแต่จริงๆแล้วทุกวันนี้ในหัวผมมีแต่เรื่องเต็มไปหมดทั้งเรื่องที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทั้งเรื่องความหวังอีกมากมายที่พ่อกับแม่ฝากเอาไว้ ทั้งเรื่องเกรดที่โรงเรียน จริงๆแล้วที่บ้านผมไม่ใช่ครอบครัวที่เคร่งเรื่องเรียนอะไรมากมาย แต่พอผมขึ้น ม.ปลาย มาพ่อกับแม่ก็เริ่มเคร่งขึ้น เริ่มบังคับให้ผมอ่านหนังสือ เลิกเล่นโทรศัพท์ ในขณะเดียวกันพ่อกับแม่ก็ชอบพูดเสมอๆว่า "พ่อกับแม่ไม่ได้หวังอะไร อย่าไปเครียด" แต่ในใจผมก็รู้ว่าพวกท่านหวังไว้เยอะมาก ส่งผมไปเรียนพิเศษ ตอนปิดเทอม กับ วันเสาร์-อาทิตย์ ผมก็ต้องเข้ากรุงเทพไปเรียนพิเศษ ผมก็เข้าใจว่าพ่อกับแม่ที่บังคับให้เราเรียนก็เพราะเขาอยากให้เราได้ดี ทุกวันนี้ผมกลับมานั่งคิดคำนวณค่าเรียนพิเศษทั้งหมดที่พ่อกับแม่จ่ายไป ก็เหยียบหลักแสนแล้ว เพราะผมเรียนสายศิลป์ภาษา ค่าเรียนภาษาที่ 3 แพงมากอยู่ ไหนจะค่าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ที่เรียนทุกวัน ทั้งวันธรรมดา รวมถึงวันเสาร์อาทิตย์ด้วย ตารางเรียนพิเศษตอนเปิดเทอมของผม คือ จันทร์-พฤหัส 5โมงเย็นถึง 6 โมง ครึ่ง เรียนภาษาอังกฤษ 6.30-20.00 เรียน conversation วันเสาร์ เช้า ภาษาอังกฤษ บ่าย ภาษาญี่ปุ่น วันอาทิตย์ ภาษาอังกฤษทั้งวัน ชีวิตผมเหมือนจะคลุกอยู่กับการเรียน แต่ผมก็นั่งคิดอยู่ว่าคนที่หาเงินมาให้เราเรียนจะเหนื่อยขนาดไหน ผมจึงต้องตั้งใจและพยายามมากกว่านี้ ผมแบกความหวังของพ่อกับแม่เอาไว้ และผมก็เชื่อว่าเด็ก ม.ปลาย อีกหลายคนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เรียนพิเศษ อ่านหนังสือ ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อที่จะให้กำลังใจเพื่อนๆ ม.ปลายทุกคน ให้พยายามเข้าไว้ สักวันเราก็ต้องผ่านมันไปได้ ถึงแม้บางทีมันจะเหนื่อยหรือว่า ยากลำบาก แต่พอเราทำได้ คนที่หาเงินมาให้เราเรียน เขาก็จะมีความสุข ตัวผมเองก็ขอสัญญากับตัวเองไว้ ว่าผมจะต้องพยายาม เพื่อที่จะสอบเข้า มหาวิทยาลัยที่ผมหวังไว้ให้ได้ ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน ผมก็จะขอสู้กับมัน เพื่อนๆกับ คุณพ่อ คุณแม่ท่านอื่นๆ ก็เหมือนกันสู้ต่อไปครับ อย่ายอมแพ้นะครับ
~ชีวิตเด็กม.ปลายที่แบกความหวังของพ่อแม่~