ครั้งแรกกับการรีวิว.........และประเดิมด้วยการเดินทางออกนอกประเทศเลยจ๊า (ช่างกล้า)
........... ทริปปีนัง ประเทศมาเลเซีย 4 วัน 3 คืน (2-5 พ.ค.2558)............
ใช้เวลาตัดสินใจเดินทาง 1 คืนเท่านั้น
รุ่งขึ้นไปต่อ Passport, หาโรงแรม ฯลฯ มีเวลาก่อนเดินทาง 7 วัน ลุ้นว่า Passport จะส่งมาทันรึป่าว
เริ่มอ่านรีวิว ที่เที่ยว อาหาร การเดินทาง เช็คค่าเงิน* (ตอนเราไป ค่าเงิน MYR=9.1)
......เมื่อพาสฟอร์ต พร้อม ตั้งงบไว้ 2500 บาท.....
ทุกคนรอบข้างค่อนข้างตกใจ ที่เราตัดสินใจไป
ออกตัวก่อนเลยว่า...... ภาษาอังกฤษเข้าขั้นห่วยแตกมาก
ภาษาท้องถิ่นก้อไม่ได้ และไม่เคยไปปีนังมาก่อน
เดินทางวันที่ 2 พ.ค. ด้วยรถตู้ หาดใหญ่ - ปีนัง (ซื้อตั๋ว ไป- กลับ 750 บ.)
ที่พักจองผ่าน Booking.com (Hutton Mansion Heritel 3 คืน 56 RM)
เราเดินทางไปถึงที่พัก ประมาณบ่าย 2 โมง
ห้องพักแอร์รวม ช - ญ ..... เตียงแบ่งเป็นล็อคๆ ส่วนตัวดีมากค่ะ
ไม่ต้องกลัวแอร์ไม่เย็นน๊ะ .... แอร์เย็นดีมากเลย (หนาวไปด้วยซ้ำ)
ไม่มีผ้าขนหนูให้นะค่ะ แต่เราขอเจ้าของเกสเฮ้าท์
กว่าจะเรียบเรียงประโยคได้..... (ดันฟังเราไม่รู้เรื่องอีก)
สุดท้ายใช้ไม้ตาย.............. ชี้เอาเลย
I want That !!!
หลังเก็บของเรียบร้อย ก้อออกตามล่า Sim มาเลเซียกันเลย
เพราะเรามาคนเดียว หากฉุกเฉิน ไม่มี WIFI จะได้ไม่ลำบาก
เดินทางที่พัก ไปซื้อซิมที่ ห้าง Komtar ถือเป็นศูนย์กลางของตัวเมืองปีนังเลย (อ่านจากรีวิวมา ที่นั้นมีขาย )
เดินไปไม่ไกลจากที่พักค่ะ ประมาณ 15 นาที ก้อถึงแล้ว
บอกว่าต้องการ Internet Sim ไม่เน้นโทร
ร้านหยิบ ของ Hotlink มาให้ค่ะ ค่าเสียหาย 10RM
(ฟังคนขายไม่ค่อยเข้าใจ แต่จับใจความได้ว่า ไม่ต้องเติมเงินแล้ว ใช้อินเตอร์เน็ตได้เลย)
เราอ่านรีวิวมาว่าน้ำที่นั้นค่อนข้างแพงกว่าบ้านเรา
สำหรับทริปประหยัดแบบนี้ เรามีวิธีแก้จร้า ...
ใช้ขวดเปล่า ไปกดน้ำที่ตู้สาธารณะ 0.1 RM (ราคาน้ำที่นั้น ขวดลิตร ประมาณ 3 RM แพ๊ง!!!!)
เช้าวันที่ 2 ...... แผนเดินชมเมือง GeorgeTown ย้ำว่า
"เดิน" ... เพื่อความประหยัด
ออกเดินประมาณ 10 โมง ..... เข้าซอยนั้น .... ออกซอยนี้... ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ
ค่อนข้างชิลว์เวอร์ (อากาศก้อร้อนเวอร์ๆ เหมือนกัน)
คนส่วนใหญ่ที่กำลังวางแผนอยากไป "ปีนัง" คงหนีไม่พ้น Wall Art น่ารัก ๆ ให้ได้แชะภาพกัน
ภาพวาดตามผนัง มีอยู่กระจายๆ ทั่ว GeorgeTown รวมทั้ง ศิลปะลวดดัดเป็นรูปต่างๆ
ก้อมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ...... เหมือนเป็นการตามล่า RC เก็บแต้มไปทั่วเมือง
อากาศทั้งร้อน แดดแรงส์ประหนึ่งว่าโลกอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์แค่คืบเดียว
เดินไปเรื่อยๆ สังเกตไปเรื่อย หันไป หันมา จนคอจะหลุด
ขาก้อเมื่อย เท้าก้อปวด หน้ามืดจะเป็นลม
แต่อดทนสู้มากๆ .... ไม่ยอมเช่าจักรยานจร้า (ท่องไว้ว่า
"ประหยัด - ประหยัด" )
เดินไปเรื่อย ผ่านสถานที่สำคัญๆ ที่เป็นแลนด์มาร์คของปีนัง
เดินเรื่อยๆๆๆ ห๊าาาา...... ผ่านมาแล้วเกือบ 6 ชั่วโมง
เดินผ่านมาริมทะเลพอดี แวะพักซักหน่อย
ท่าเรือสำราญสตาร์ครูซจร้า....
โอ้ยยยย.................... เหนื่อยจะตายแร๊ะ >>>> กลับโรงแรมดีกว่า
นั่งรถเมล์ฟรี จาก Jetty >> Komtar .... แล้วเดินกลับโรงแรมต่อจร้า
ค่ำๆ .... นั่งรถเมล์ สาย 104 ไปลง Gurney Drive (1.40 RM)
Gurney Drive ลักษณะคล้ายตลาดโต้รุ่งบ้านเรา
มีร้านขายอาหารเป็นสิบๆ ร้านเรียงกันไป
เมนูคืนนี้ จัดเป็น บะหนี่เกี๋ยวน้ำ (5.5 RM)
แวะร้านของทอดซักหน่อย .... มีของทอดวางอยู่เยอะแยะ
อาบังจะแจกจาน เราก้อหยิบใส่ได้เลย แล้วเอาไปให้อาบังราดน้ำจิ้ม
น้ำจิ้มออกหวานๆ เผ็ดนิดๆ เปรี้ยวน้ำมะขามหน่อยๆ ก้อโอเคสำหรับคนไม่กินเผ็ดอย่างเรา
.............................................................................................................................
วันที่ 3 .................. ปวดตัวและปวดเท้ามาก เพราะเมื่อวานแบกร่างอ้วนๆ เดินไปทั่วเมือง
ตื่นสายจร้า !!!!! กว่าจะจัดการตัวเองเรียบร้อย กว่าจะกินมื้อเช้าเสร็จ กว่าจะพิลี้พิไลบิดซ้ายขวา
ออกจากโรงแรมเกือบเที่ยง.............. เป้าหมายวันนี้คือ Penang Hill + วัด เก๊ก ลอค ซี
เดินทางโดยรถเมล์ สาย 204 (จะผ่านวัดเก๊ก ลอค ซี ก่อนถึงปีงนังฮิลล์) .... 2 RM
ระหว่างนั่งรถเมล์จร้า...เราเสล่อไปทักสาวฝรั่งข้างๆ Where are you? (ประโยคโครตเบสิก)
พอเราทักเท่านั้นแร๊ะ.....กลายเป็นคุยกันยาวเลยจร้า
จนกลายเป็นบั๊ดดี้เที่ยว Penang Hill + วัด เก๊ก ลอค ซี ด้วยกันเลย
( เราถึงกับเงิบ .... คือพูดไม่ได้ ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง )
ประโยคยาวๆ นี่ เราตายสนิท .... จะพูดอราย มือไม้ไปก่อนเลยจร้า
Yes ...No ..... Yeah ...... That way .... This way .....ชี้นุ้น ชี้นี้ไปเรื่อย
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับฝรั่งยาวๆ และไม่มีใครช่วย (ปวดกบาลมาก)
Penang Hill View ....... มองเห็น Penang Bride ด้วยน๊า....
ค่าขึ้นปีนังฮิลล์ ราคานักท่องเที่ยง 30 RM (ถือว่าแพงน๊ะ ด้านบนก้อไม่ค่อยมีอรายมากมาย)
..........มีการคล้องกุญแจเก๋ๆ นึกว่ามา Seoul Tower น๊ะเนี่ย........
แต่สำหรับคนที่มีความรักห่วยแตกอย่างเรา..........อยากจะเอาเลื่อยมาตัดของทุกคนให้พังหมด!!!!
ไปต่อกันที่
วัด เก๊ก ลอค ซี (วัดเต่า) ....วัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญที่สุดในปีนัง
เดินสำรวจไปทั่วๆ มีชาวพุทธมาไหว้พระไม่มากนัก อาจเป็นเพราะเราไปในวันทำงานปกติ
เราไม่ได้เดินขึ้นไปถึงตรงชั้นบนสุด เพราะต้องเสียอีก 2 RM (ซึ่งคิดไปเองว่าคงไม่มีอรายมาก)
.................นั่งรถเมล์กลับ GeorgeTown ไปเดินเล่นต่อในเมืองดีกว่า ................
มื้อเย็นวันนี้ เดินผ่านย่าน Litter India จัดข้างแกงภารตะซักหน่อย
เลือกเมนูที่ไม่เสี่ยงตายมากนัก ไข่เจียว + ไก่ทอด แล้วกัน
สรุป.......... รสชาติไข่เจียวนี่เราโครตไม่โอเคมากๆ เครื่องเทศและหอมใหญ่มหาศาลที่อยู่ในนั้น (กินไม่ได้เลยจร้า)
ส่วนไก่ทอดก้อแห้งๆ ชืดๆ แต่ยังฝืนกินได้ ....(เพราะเสียดายเงินมาก มื้อนี้ 7.5 RM)
....................................................................................................................
วันสุดท้าย............. เราออกไปเดินเล่นแถวโรงแรมตอนเช้า รอรถตู้มารับกลับไทย
สรุปค่าเสียหายทั้งหมด............. งบไม่เกิน 2500 บาท (เหลืออีกด้วยน๊ะ)
จบการเดินทางสำหรับเท้าอ้วนคู่นี้ ขอบคุณตัวเองที่กล้าตัดสินใจเดินทาง
ทั้งๆที่พูดภาษาอังกฤษก้อไม่ค่อยได้ ใจก้อโครตอ่อนแอ
หลายเหตุการณ์ที่เกิดระหว่างทริป ทั้งหลงทาง, แบตโทรศัพท์หมด, ไม่มี map
จำสายรถเมย์ไม่ได้, รองเท้ากัด , ซิมไทยหล่นหาย ฯลฯ
ขอบคุณการตัดสินใจของตัวเอง
เราบอกตัวเองเลยว่า...... เราเจ๋งมาก!!!!
การเดินทางครั้งนี้อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ ของใครหลายคน
แต่สำหรับเรามันคือประสบการณ์ที่สำคัญมากชีวิตอย่างนึงเลย
[CR] เรื่องเล่าจากเท้าอ้วน >>แบกเป้คนเดียวไปเปรี้ยวปีนัง 4 วัน 3 คืน ..... [ 2250 บาท]
........... ทริปปีนัง ประเทศมาเลเซีย 4 วัน 3 คืน (2-5 พ.ค.2558)............
ใช้เวลาตัดสินใจเดินทาง 1 คืนเท่านั้น
รุ่งขึ้นไปต่อ Passport, หาโรงแรม ฯลฯ มีเวลาก่อนเดินทาง 7 วัน ลุ้นว่า Passport จะส่งมาทันรึป่าว
เริ่มอ่านรีวิว ที่เที่ยว อาหาร การเดินทาง เช็คค่าเงิน* (ตอนเราไป ค่าเงิน MYR=9.1)
......เมื่อพาสฟอร์ต พร้อม ตั้งงบไว้ 2500 บาท.....
ทุกคนรอบข้างค่อนข้างตกใจ ที่เราตัดสินใจไป
ออกตัวก่อนเลยว่า...... ภาษาอังกฤษเข้าขั้นห่วยแตกมาก
ภาษาท้องถิ่นก้อไม่ได้ และไม่เคยไปปีนังมาก่อน
ที่พักจองผ่าน Booking.com (Hutton Mansion Heritel 3 คืน 56 RM)
เราเดินทางไปถึงที่พัก ประมาณบ่าย 2 โมง
ห้องพักแอร์รวม ช - ญ ..... เตียงแบ่งเป็นล็อคๆ ส่วนตัวดีมากค่ะ
ไม่ต้องกลัวแอร์ไม่เย็นน๊ะ .... แอร์เย็นดีมากเลย (หนาวไปด้วยซ้ำ)
ไม่มีผ้าขนหนูให้นะค่ะ แต่เราขอเจ้าของเกสเฮ้าท์
กว่าจะเรียบเรียงประโยคได้..... (ดันฟังเราไม่รู้เรื่องอีก)
สุดท้ายใช้ไม้ตาย.............. ชี้เอาเลย I want That !!!
หลังเก็บของเรียบร้อย ก้อออกตามล่า Sim มาเลเซียกันเลย
เพราะเรามาคนเดียว หากฉุกเฉิน ไม่มี WIFI จะได้ไม่ลำบาก
เดินทางที่พัก ไปซื้อซิมที่ ห้าง Komtar ถือเป็นศูนย์กลางของตัวเมืองปีนังเลย (อ่านจากรีวิวมา ที่นั้นมีขาย )
เดินไปไม่ไกลจากที่พักค่ะ ประมาณ 15 นาที ก้อถึงแล้ว
บอกว่าต้องการ Internet Sim ไม่เน้นโทร
ร้านหยิบ ของ Hotlink มาให้ค่ะ ค่าเสียหาย 10RM
(ฟังคนขายไม่ค่อยเข้าใจ แต่จับใจความได้ว่า ไม่ต้องเติมเงินแล้ว ใช้อินเตอร์เน็ตได้เลย)
เราอ่านรีวิวมาว่าน้ำที่นั้นค่อนข้างแพงกว่าบ้านเรา
สำหรับทริปประหยัดแบบนี้ เรามีวิธีแก้จร้า ...
ใช้ขวดเปล่า ไปกดน้ำที่ตู้สาธารณะ 0.1 RM (ราคาน้ำที่นั้น ขวดลิตร ประมาณ 3 RM แพ๊ง!!!!)
เช้าวันที่ 2 ...... แผนเดินชมเมือง GeorgeTown ย้ำว่า "เดิน" ... เพื่อความประหยัด
ออกเดินประมาณ 10 โมง ..... เข้าซอยนั้น .... ออกซอยนี้... ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ
ค่อนข้างชิลว์เวอร์ (อากาศก้อร้อนเวอร์ๆ เหมือนกัน)
คนส่วนใหญ่ที่กำลังวางแผนอยากไป "ปีนัง" คงหนีไม่พ้น Wall Art น่ารัก ๆ ให้ได้แชะภาพกัน
ภาพวาดตามผนัง มีอยู่กระจายๆ ทั่ว GeorgeTown รวมทั้ง ศิลปะลวดดัดเป็นรูปต่างๆ
ก้อมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ...... เหมือนเป็นการตามล่า RC เก็บแต้มไปทั่วเมือง
อากาศทั้งร้อน แดดแรงส์ประหนึ่งว่าโลกอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์แค่คืบเดียว
เดินไปเรื่อยๆ สังเกตไปเรื่อย หันไป หันมา จนคอจะหลุด
ขาก้อเมื่อย เท้าก้อปวด หน้ามืดจะเป็นลม
แต่อดทนสู้มากๆ .... ไม่ยอมเช่าจักรยานจร้า (ท่องไว้ว่า "ประหยัด - ประหยัด" )
เดินไปเรื่อย ผ่านสถานที่สำคัญๆ ที่เป็นแลนด์มาร์คของปีนัง
เดินเรื่อยๆๆๆ ห๊าาาา...... ผ่านมาแล้วเกือบ 6 ชั่วโมง
เดินผ่านมาริมทะเลพอดี แวะพักซักหน่อย
ท่าเรือสำราญสตาร์ครูซจร้า....
โอ้ยยยย.................... เหนื่อยจะตายแร๊ะ >>>> กลับโรงแรมดีกว่า
นั่งรถเมล์ฟรี จาก Jetty >> Komtar .... แล้วเดินกลับโรงแรมต่อจร้า
ค่ำๆ .... นั่งรถเมล์ สาย 104 ไปลง Gurney Drive (1.40 RM)
Gurney Drive ลักษณะคล้ายตลาดโต้รุ่งบ้านเรา
มีร้านขายอาหารเป็นสิบๆ ร้านเรียงกันไป
เมนูคืนนี้ จัดเป็น บะหนี่เกี๋ยวน้ำ (5.5 RM)
แวะร้านของทอดซักหน่อย .... มีของทอดวางอยู่เยอะแยะ
อาบังจะแจกจาน เราก้อหยิบใส่ได้เลย แล้วเอาไปให้อาบังราดน้ำจิ้ม
น้ำจิ้มออกหวานๆ เผ็ดนิดๆ เปรี้ยวน้ำมะขามหน่อยๆ ก้อโอเคสำหรับคนไม่กินเผ็ดอย่างเรา
.............................................................................................................................
วันที่ 3 .................. ปวดตัวและปวดเท้ามาก เพราะเมื่อวานแบกร่างอ้วนๆ เดินไปทั่วเมือง
ตื่นสายจร้า !!!!! กว่าจะจัดการตัวเองเรียบร้อย กว่าจะกินมื้อเช้าเสร็จ กว่าจะพิลี้พิไลบิดซ้ายขวา
ออกจากโรงแรมเกือบเที่ยง.............. เป้าหมายวันนี้คือ Penang Hill + วัด เก๊ก ลอค ซี
เดินทางโดยรถเมล์ สาย 204 (จะผ่านวัดเก๊ก ลอค ซี ก่อนถึงปีงนังฮิลล์) .... 2 RM
ระหว่างนั่งรถเมล์จร้า...เราเสล่อไปทักสาวฝรั่งข้างๆ Where are you? (ประโยคโครตเบสิก)
พอเราทักเท่านั้นแร๊ะ.....กลายเป็นคุยกันยาวเลยจร้า
จนกลายเป็นบั๊ดดี้เที่ยว Penang Hill + วัด เก๊ก ลอค ซี ด้วยกันเลย
( เราถึงกับเงิบ .... คือพูดไม่ได้ ฟังออกบ้าง ไม่ออกบ้าง )
ประโยคยาวๆ นี่ เราตายสนิท .... จะพูดอราย มือไม้ไปก่อนเลยจร้า
Yes ...No ..... Yeah ...... That way .... This way .....ชี้นุ้น ชี้นี้ไปเรื่อย
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับฝรั่งยาวๆ และไม่มีใครช่วย (ปวดกบาลมาก)
Penang Hill View ....... มองเห็น Penang Bride ด้วยน๊า....
ค่าขึ้นปีนังฮิลล์ ราคานักท่องเที่ยง 30 RM (ถือว่าแพงน๊ะ ด้านบนก้อไม่ค่อยมีอรายมากมาย)
..........มีการคล้องกุญแจเก๋ๆ นึกว่ามา Seoul Tower น๊ะเนี่ย........
แต่สำหรับคนที่มีความรักห่วยแตกอย่างเรา..........อยากจะเอาเลื่อยมาตัดของทุกคนให้พังหมด!!!!
ไปต่อกันที่วัด เก๊ก ลอค ซี (วัดเต่า) ....วัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญที่สุดในปีนัง
เดินสำรวจไปทั่วๆ มีชาวพุทธมาไหว้พระไม่มากนัก อาจเป็นเพราะเราไปในวันทำงานปกติ
เราไม่ได้เดินขึ้นไปถึงตรงชั้นบนสุด เพราะต้องเสียอีก 2 RM (ซึ่งคิดไปเองว่าคงไม่มีอรายมาก)
.................นั่งรถเมล์กลับ GeorgeTown ไปเดินเล่นต่อในเมืองดีกว่า ................
มื้อเย็นวันนี้ เดินผ่านย่าน Litter India จัดข้างแกงภารตะซักหน่อย
เลือกเมนูที่ไม่เสี่ยงตายมากนัก ไข่เจียว + ไก่ทอด แล้วกัน
สรุป.......... รสชาติไข่เจียวนี่เราโครตไม่โอเคมากๆ เครื่องเทศและหอมใหญ่มหาศาลที่อยู่ในนั้น (กินไม่ได้เลยจร้า)
ส่วนไก่ทอดก้อแห้งๆ ชืดๆ แต่ยังฝืนกินได้ ....(เพราะเสียดายเงินมาก มื้อนี้ 7.5 RM)
....................................................................................................................
วันสุดท้าย............. เราออกไปเดินเล่นแถวโรงแรมตอนเช้า รอรถตู้มารับกลับไทย
สรุปค่าเสียหายทั้งหมด............. งบไม่เกิน 2500 บาท (เหลืออีกด้วยน๊ะ)
จบการเดินทางสำหรับเท้าอ้วนคู่นี้ ขอบคุณตัวเองที่กล้าตัดสินใจเดินทาง
ทั้งๆที่พูดภาษาอังกฤษก้อไม่ค่อยได้ ใจก้อโครตอ่อนแอ
หลายเหตุการณ์ที่เกิดระหว่างทริป ทั้งหลงทาง, แบตโทรศัพท์หมด, ไม่มี map
จำสายรถเมย์ไม่ได้, รองเท้ากัด , ซิมไทยหล่นหาย ฯลฯ
ขอบคุณการตัดสินใจของตัวเอง
เราบอกตัวเองเลยว่า...... เราเจ๋งมาก!!!!
การเดินทางครั้งนี้อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ ของใครหลายคน
แต่สำหรับเรามันคือประสบการณ์ที่สำคัญมากชีวิตอย่างนึงเลย