เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ บ้านเช่าหรืออพาร์ทเม้นท์รวมทั้งคอนโดที่ผุดขึ้นมาให้เช่ากันเป็นดอกเห็ดกันมากมายก่ายกอง จากประสบการ์ณที่เราเคยผ่านมา เช่าจากสมัยเป็นนักเรียนนักศึกษา จนถึงสมัยปัจจุบันจนมีลูกแล้ว เปลี่ยนจากห้องเช่าเป็นอพาร์ทเม้นเป็นบ้านมั่งสลับกันไปตามความสะดวกในการเรียน และการทำงาน คือสมัยเรียนใกล้ที่ไหนก็เช่าที่นั่น ส่วนมาสมัยเริ่มทำงานก็เน้นเอาสะดวกในการเดินทางเป็นหลัก เจอให้เช่าดีมั่ง ไม่ดีมั่ง (อย่าบอกให้ผ่อนบ้านเองนะคะ เนื่องจากเรายังไม่พร้อมเลยไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว) ก็เลยต้องเช่าเขาไปเรื่อย กฎหรือระเบียบการเช่าก็รับทราบและ ไม่เคยปฏิบัติผิดกฎการเช่าเลยเนื่องจากเรารู้อยู่แล้วการเช่าบ้านหรืออพาร์ทเม้นท์มีกฎอย่างไรบ้าง เช่น ห้ามขีดเขียนผนัง ห้ามตอกตะปู ห้ามติดโปสเตอร์ ห้ามทำสีถลอก ฯลฯ อีกมากมาย เราไม่เคยมีปัญหากับที่ไหนเลย ไม่ว่าสัญญากฎต่างๆ เช่น ต้องจ่ายก่อนวันที่เท่าไร ไม่เกินวันที่เท่าไร ย้ายออกต้องแจ้งล่วงหน้า เราก็ทำตามกฎของผู้ให้เช่ามาตลอด แต่ยิ่งอยู่มาหลายที่ ก็ยิ่งทราบปัญหา ว่าผู้ให้เช่าบางคน หรืออพาร์ทเม้นท์ บางทีก็ไม่มีความเป็นธรรมในการบริการลูกเช่าเลย มันอาจเป็นความอัดอั้นตันใจของเรามาตลอด เราดูแลบ้านหรือห้องให้เขาดีมากๆ แต่สิ่งที่เราได้รับจากการแจ้งย้ายหรือย้ายออก มันทำให้เรารู้ถึงด้านมืดของจิตใจคนเราค่ะ ตอนเราย้ายเข้าทุกทีก็จะรู้สึกว่า เขาบริการเราดีให้ความจริงใจดี แต่พอย้ายออกมันหน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะ อย่างเรื่องที่เราเคยเจอมา อยากจะเล่าให้กับคนที่ยังจำเป็นต้องเช่าบ้านเหมือนเรา รับรู้เป็นประสบการณ์หรือร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราค่ะ ว่าเราคิดถูก ผิด หรือคิดมากเกินไปค่ะ
ซึ่งที่เราอยากเล่าให้ฟัง ถึงความน่ารังเกียจ ขอใช้คำนี้เลยนะคะ ถึงเจ้าของบ้าน คือบ้านหลังนี้ที่เราเช่าอยู่แถวทวีวัฒนาค่ะ เป็นโสนบ้านแฝดให้เช่า มีประมาณสิบกว่าหลัง ตอนแรกเราไปดูก็อืมดูน่าอยู่ดี (เราดูมาจากเน็ตสมัยเป็น OLX) คือก็ก่อนหน้านี้เราเช่าห้องอยู่มาก่อนของเยอะและลูกเริ่มเดินได้จึงอยากหาที่อยู่ใหม่ให้สะดวกกว่าเดิม ก็เลยโทรคุยโทรถามกับเจ้าของทางโทรศัพท์ เขาพูดจากดีมาก จะเข้ามาอยู่วันไหนก็ได้ หรือสะดวกจะเข้ามาดูวันไหนก็ได้ตามใจน้อง พี่สะดวกตลอด พูดดีจนเราอยากอยู่เลยทีเดียวก็เลยตกลงเช่า (ค่าเช่าเดือนละ 5,000 นะตอนนั้น ค่ามัดจำ 5,000 ล่วงหน้า 5,000 คือจ่ายก่อนเข้าอยู่ 10,000 )นัดทำสัญญา วันทำสัญญาเสร็จก็ได้กุญแจเลย และเริ่มย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ แต่สิ่งแรกที่ต้องแปลกใจคือค่าน้ำค่าไฟแพงมาก ทั้งที่บอกว่ารัฐบาลไม่ได้บวกเพิ่ม แอร์ก็ไม่มีนะคะ แต่ทำไมค่าไฟแพงมาก แพงกว่าเช่าอพาร์มเม้นท์อยู่อีก พออยู่ได้สักสองเดือนก็ลองเลียบๆเคียงๆ ถามคนข้างบ้านดู เขาก็บ่นเหมือนกัน เรากับแฟนก็เลยเอะใจ โทรถามเขาว่ามิสเตอร์ไฟนี่แยกหรือรวมค่ะ มิสเตอร์น้ำด้วย เขาบอกว่าแยกบ้านละอัน แต่รวมมิสเตอร์ไว้ที่อื่น และล็อคกุญแจไว้ด้วย ลูกบ้านจะไปดูก็ไม่ได้ ค่าบ้านก็ต้องโอนทางธนาคารตลอด เราก็เริ่มคิดว่ามันไม่แฟร์แล้ว แต่จะทำอะไรเขาได้ค่ะ ก็เขาไม่ให้ดู ขอบิลค่าน้ำค่าไฟก็ไม่ให้ (ทั้งที่บอกว่ารัฐบาล) เขาจะทำบิลรวมยอดมาให้เลยทีเดียวค่ะ เอาก็เอา เราก็เลยเริ่มหาบ้านเช่าใหม่ที่ดีกว่านี้ค่ะ พอดีไปเจอมาอีกทีหนึ่งแถวหน้าสายสอง ก็เลยตกลงไปกับเจ้าของใหม่ว่าจะย้ายเข้าสิ้นเดือนเลย พอดีมีคนจ่อคิวอยู่ถ้าเราไม่เอาก็จะมีคนแย่งเราก็เลยต้องรีบตกลงค่ะ แต่ก็กลัวมีปัญหากับที่เก่านะคะ ซึ่งสัญญาระบุไว้ว่า "ต้องอยู่ครบ 6 เดือนและต้องแจ้งล่วงหน้า 30 ก่อนย้ายออก" แต่เราแจ้งก็กลางเดือนแล้ว เราอยู่มา 7 เดือนค่ะ เราก็เลยไม่แน่ใจว่าเขาจะยึดมัดจำไหม เราก็เลยโทรไปถามเจ้าของบ้านคนเก่าก่อนค่ะ เผื่อเขาแจ้งว่าไม่ได้ เราจะได้อยู่ให้ครบ 30 ก่อนแล้วค่อยออก เราก็โทรไปถามเขาว่าพี่ค่ะ คือหนูจะออกก่อน 15 วันได้ไหม สิ้นเดือนนี้อะค่ะ แต่หนูมาแจ้งพี่ก็กลางเดือนแล้ว ไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ พี่เขาก็บอกว่า "ไม่เป็นไรน้อง ออกวันไหนก็ได้" เราก็เลยยิงคำถามตรงเลย "แล้วค่ามัดจำอะค่ะ" พี่เขาบอกว่าไม่มีปัญหาน้องไม่ต้องเป็นห่วง เราก็แบบว่าโล่งค่ะ แต่พอสิ้นเดือน เราจะออก นัดคืนบ้านกัน แกก็มากับสามีเลยค่ะ เขาแจ้งว่า เอาเป็นว่าเดือนสุดท้ายไม่ต้องจ่ายนะน้อง เราก็รู้อยู่แล้วแหละ ก็แหมจ่ายล่วงหน้าไปแล้วนิ 5,000 แล้วอีก 5,000 ล่ะ ชั้นจะได้คืนไหม ต้องบอกเลยนะคะ สองผัวเมียทำเป็นตีมึนค่ะ บอกว่าหักค่าน้ำค่าไฟ ค่าทำความสะอาดนะ หายกัน เราก็ยืนงงกันอยู่หัก ค่าทำความสะอาดกับค่าน้ำค่าไฟ 5,000 บ้านเหรอ เราก็ขอดูบิลค่าน้ำค่าไฟ แกบอกไม่มีไม่ได้เอามาอ้าว
ทำงี้ได้ไง เราก็เลยถามไปตรงๆ เลยว่าไหนพี่ว่าค่ามัดจำไม่มีปัญหาไงคะ แล้วทำงี้ได้ไหม เขาบอกว่า "ที่บอกว่าไม่มีปัญหาคือ พี่ก็หักน้องไปเลยไม่ต้องคืนน้องไงคะ พี่ก็ไม่มีปัญหาไงคะ" อ้าวพูดแบบเชี่ยๆ เราเริ่มโมโห แฟนเริ่มโวยวาย ว่าพูดงี้ได้ไหม เขาก็บอกว่าหักค่าทำความสะอาดไง ค่าเดินสายอินเตอร์เน็ตด้วยไง เราก็อ้าว เราก็ถามเขาก่อนขออินเตอร์เน็ตแล้ว เขาบอกว่า เดินไว้ก็ดีเพิ่มคนเช่าอื่นจะใช้ ตอนนั้นยังบอกว่าดีๆ เลย ทีตอนเนี่ยกลับมาบอกว่าต้องคิดค่าเสียหาย
ดู๊ดูคนเราสิคะ เอาเล็กเอาน้องก็ยังจะเอา คนจะลำบากไม่ลำบากไม่สนใจค่ะ ใครจะไปเช่าบ้านแถวนั้นก็ต้องควรระวังนะคะ ไอ้บ้านที่ลงในเน็ตอ่ะค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังลงอยู่เลยลงทุกวัน เห็นขึ้นราคาแล้วด้วยนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือนค่ะ เดี๋ยวมาบ่นเอ้ย มาเล่าเรื่องบ้านหลังต่อไปต่อค่ะ แป๊ปทำงานแป๊ปค่ะ
อพาร์ทเม้นท์หรือบ้านให้เช่าทุกวันนี้ เอาเปรียบคนเช่าเกินไปไหมคะ
ซึ่งที่เราอยากเล่าให้ฟัง ถึงความน่ารังเกียจ ขอใช้คำนี้เลยนะคะ ถึงเจ้าของบ้าน คือบ้านหลังนี้ที่เราเช่าอยู่แถวทวีวัฒนาค่ะ เป็นโสนบ้านแฝดให้เช่า มีประมาณสิบกว่าหลัง ตอนแรกเราไปดูก็อืมดูน่าอยู่ดี (เราดูมาจากเน็ตสมัยเป็น OLX) คือก็ก่อนหน้านี้เราเช่าห้องอยู่มาก่อนของเยอะและลูกเริ่มเดินได้จึงอยากหาที่อยู่ใหม่ให้สะดวกกว่าเดิม ก็เลยโทรคุยโทรถามกับเจ้าของทางโทรศัพท์ เขาพูดจากดีมาก จะเข้ามาอยู่วันไหนก็ได้ หรือสะดวกจะเข้ามาดูวันไหนก็ได้ตามใจน้อง พี่สะดวกตลอด พูดดีจนเราอยากอยู่เลยทีเดียวก็เลยตกลงเช่า (ค่าเช่าเดือนละ 5,000 นะตอนนั้น ค่ามัดจำ 5,000 ล่วงหน้า 5,000 คือจ่ายก่อนเข้าอยู่ 10,000 )นัดทำสัญญา วันทำสัญญาเสร็จก็ได้กุญแจเลย และเริ่มย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ แต่สิ่งแรกที่ต้องแปลกใจคือค่าน้ำค่าไฟแพงมาก ทั้งที่บอกว่ารัฐบาลไม่ได้บวกเพิ่ม แอร์ก็ไม่มีนะคะ แต่ทำไมค่าไฟแพงมาก แพงกว่าเช่าอพาร์มเม้นท์อยู่อีก พออยู่ได้สักสองเดือนก็ลองเลียบๆเคียงๆ ถามคนข้างบ้านดู เขาก็บ่นเหมือนกัน เรากับแฟนก็เลยเอะใจ โทรถามเขาว่ามิสเตอร์ไฟนี่แยกหรือรวมค่ะ มิสเตอร์น้ำด้วย เขาบอกว่าแยกบ้านละอัน แต่รวมมิสเตอร์ไว้ที่อื่น และล็อคกุญแจไว้ด้วย ลูกบ้านจะไปดูก็ไม่ได้ ค่าบ้านก็ต้องโอนทางธนาคารตลอด เราก็เริ่มคิดว่ามันไม่แฟร์แล้ว แต่จะทำอะไรเขาได้ค่ะ ก็เขาไม่ให้ดู ขอบิลค่าน้ำค่าไฟก็ไม่ให้ (ทั้งที่บอกว่ารัฐบาล) เขาจะทำบิลรวมยอดมาให้เลยทีเดียวค่ะ เอาก็เอา เราก็เลยเริ่มหาบ้านเช่าใหม่ที่ดีกว่านี้ค่ะ พอดีไปเจอมาอีกทีหนึ่งแถวหน้าสายสอง ก็เลยตกลงไปกับเจ้าของใหม่ว่าจะย้ายเข้าสิ้นเดือนเลย พอดีมีคนจ่อคิวอยู่ถ้าเราไม่เอาก็จะมีคนแย่งเราก็เลยต้องรีบตกลงค่ะ แต่ก็กลัวมีปัญหากับที่เก่านะคะ ซึ่งสัญญาระบุไว้ว่า "ต้องอยู่ครบ 6 เดือนและต้องแจ้งล่วงหน้า 30 ก่อนย้ายออก" แต่เราแจ้งก็กลางเดือนแล้ว เราอยู่มา 7 เดือนค่ะ เราก็เลยไม่แน่ใจว่าเขาจะยึดมัดจำไหม เราก็เลยโทรไปถามเจ้าของบ้านคนเก่าก่อนค่ะ เผื่อเขาแจ้งว่าไม่ได้ เราจะได้อยู่ให้ครบ 30 ก่อนแล้วค่อยออก เราก็โทรไปถามเขาว่าพี่ค่ะ คือหนูจะออกก่อน 15 วันได้ไหม สิ้นเดือนนี้อะค่ะ แต่หนูมาแจ้งพี่ก็กลางเดือนแล้ว ไม่รู้จะเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ พี่เขาก็บอกว่า "ไม่เป็นไรน้อง ออกวันไหนก็ได้" เราก็เลยยิงคำถามตรงเลย "แล้วค่ามัดจำอะค่ะ" พี่เขาบอกว่าไม่มีปัญหาน้องไม่ต้องเป็นห่วง เราก็แบบว่าโล่งค่ะ แต่พอสิ้นเดือน เราจะออก นัดคืนบ้านกัน แกก็มากับสามีเลยค่ะ เขาแจ้งว่า เอาเป็นว่าเดือนสุดท้ายไม่ต้องจ่ายนะน้อง เราก็รู้อยู่แล้วแหละ ก็แหมจ่ายล่วงหน้าไปแล้วนิ 5,000 แล้วอีก 5,000 ล่ะ ชั้นจะได้คืนไหม ต้องบอกเลยนะคะ สองผัวเมียทำเป็นตีมึนค่ะ บอกว่าหักค่าน้ำค่าไฟ ค่าทำความสะอาดนะ หายกัน เราก็ยืนงงกันอยู่หัก ค่าทำความสะอาดกับค่าน้ำค่าไฟ 5,000 บ้านเหรอ เราก็ขอดูบิลค่าน้ำค่าไฟ แกบอกไม่มีไม่ได้เอามาอ้าว ทำงี้ได้ไง เราก็เลยถามไปตรงๆ เลยว่าไหนพี่ว่าค่ามัดจำไม่มีปัญหาไงคะ แล้วทำงี้ได้ไหม เขาบอกว่า "ที่บอกว่าไม่มีปัญหาคือ พี่ก็หักน้องไปเลยไม่ต้องคืนน้องไงคะ พี่ก็ไม่มีปัญหาไงคะ" อ้าวพูดแบบเชี่ยๆ เราเริ่มโมโห แฟนเริ่มโวยวาย ว่าพูดงี้ได้ไหม เขาก็บอกว่าหักค่าทำความสะอาดไง ค่าเดินสายอินเตอร์เน็ตด้วยไง เราก็อ้าว เราก็ถามเขาก่อนขออินเตอร์เน็ตแล้ว เขาบอกว่า เดินไว้ก็ดีเพิ่มคนเช่าอื่นจะใช้ ตอนนั้นยังบอกว่าดีๆ เลย ทีตอนเนี่ยกลับมาบอกว่าต้องคิดค่าเสียหาย
ดู๊ดูคนเราสิคะ เอาเล็กเอาน้องก็ยังจะเอา คนจะลำบากไม่ลำบากไม่สนใจค่ะ ใครจะไปเช่าบ้านแถวนั้นก็ต้องควรระวังนะคะ ไอ้บ้านที่ลงในเน็ตอ่ะค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังลงอยู่เลยลงทุกวัน เห็นขึ้นราคาแล้วด้วยนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือนค่ะ เดี๋ยวมาบ่นเอ้ย มาเล่าเรื่องบ้านหลังต่อไปต่อค่ะ แป๊ปทำงานแป๊ปค่ะ