ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่นี่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 1) การเตรียมตัวก่อนเดินทางและมีรีวิวที่พัก
http://ppantip.com/topic/33596622
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 2) Day 1 Central – Wan Chai – Golden Bauhinia – Avenue of Star – SOL
http://ppantip.com/topic/33597702
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 3) Day 2 Ngong Ping – Disneyland + รีวิวเมนูพิเศษ
http://ppantip.com/topic/33611781
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 4) Day 3 วัดนางชี,สวนสวย – วัดหวังต้าเซียน – Repulse Bay- The Peak
http://ppantip.com/topic/33662137
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 5 ตอนจบ) Day 4-5 มาเก๊า 1 วัน + วันกลับ
http://ppantip.com/topic/34093652
กลับมาต่อกันที่ Day 2 แพลนไว้แบบนี้ค่ะ
ตื่นแต่เช้า 8 โมง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ปาตี้มาม่าที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืน กันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางจ้า เป้าหมายของเราคือ กระเช้านองปิง ซึ่งได้ซื้อตั๋วล่วงหน้ามาแล้ว เอาพาสปอตติดตัวไปด้วยล่ะ วันนี้เป็นวันศุกร์ กระเช้าเปิด 10 โมง (ถ้าวันเสาร์ – อาทิตย์ จะเปิด 9 โมง) ออกเดินทางตอน 9 โมงกว่า นั่ง MTR จากจิมซาจุ่ย สายสีแดง แล้วต้องไปเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่สถานี Lai King
ขอนอกเรื่องนิด เรื่องความกดดันที่เกิดขึ้นในขณะอยู่ฮ่องกง คือ เสียงติ๊ด..,. ติ๊ด.... ติ๊ด .ติ๊ด.ติ๊ด ติ๊ดติ๊ดดดด ขณะสัญญาณไฟเขียวให้ข้ามถนน กับสัญญาณก่อนที่ประตูรถไฟฟ้าจะปิด คือถ้าใช้ชีวิตใช้กทม. คงจะชินกันแล้ว แต่สำหรับสาวบ้านนอกอย่างเรา เคยนั่งแค่รถไฟฟ้า BTS สองครั้ง สมัยตอนกทม. ได้บังเกิดรถไฟฟ้าครั้งแรก แค่นั้นจิงๆ รถไฟใต้ดินที่กทม.อิชั้นยังไม่เคยได้ย่างกลายเข้าไป เสียงสัญญาณดังถี่ๆมันกดดันยิ่งนัก
และแล้วมันก็เกิดขึ้น ในขณะที่เราและเพื่อนอีกคนนึงก้าวเข้าไปในรถไฟฟ้า แต่เพื่อนอีก 3 คนก้าวไม่ทัน ประตูปิดก่อน ภาพของพี่โน้ตอุดมลอยเข้ามาในหัวทันที (ขำในใจ) แต่ โอเค ไม่เป็นไร ไลน์ไปบอกสามนางว่าให้ไปลงสถานี Lai King นะ ชั้นจะรออยู่ที่นั้น
รอซักแปปพวกนางก็มาสมทบ ป่ะ เดินทางต่อ ไปที่สถานี Tung Chung ออกมาก็เดินไปตรงทางขึ้นกระเช้า เรามี Voucher มาแล้วก็เข้าไปในช่องที่เขียนว่า Agent Ticket Voucher อะไรซักอย่างประมาณนี้
*** ย้ำตรงนี้ ซื้อตั๋วไปก่อนจะประหยัดเวลาได้มากโข เพราะแถวซื้อตั๋วยาวมาก***
Voucher ที่ซื้อมามีรายละเอียด ดังนี้
แบบ crystal รุ่นใหม่ล่าสุด จะเป็นแบบ Attractions Package Voucher ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ 3 แบบคือ
1. เลือกนั่ง crystal (ไป-กลับ)
2. เลือกนั่ง standard (ไป-กลับ) + เข้าชม Stage 360 + คูปอง snack
3. เลือกนั่ง standard (ไป-กลับ) + เข้าชม Motion 360 + เข้าชม Walking with Buddha
เดินไปตามทางจะไปถึงหน้าช่องขายตั๋ว มีเจ้าหน้าที่อยู่ตรงนั้น เขาจะให้เราเข้าไปแลกเป็นตั๋วจริง ไปถึงหน้าเค้าท์เตอร์ ยื่นตั๋ว พร้อมพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ก็ถามอะไรซักอย่าง จริงๆฟังไม่ทันหรอก แต่เดาได้ว่า จะเลือกแบบไหน เราก็ตอบไปเลยค่ะ Crystal Cabin เค้าก็จะเอาตั๋วให้เรา พร้อมสติ๊กเกอร์รัดข้อมือ แผนที่ และแผ่นพับซึ่งข้างในจะมีส่วนลดของร้านค้าต่างๆ ใน Ngong Ping Village อย่าพึ่งทิ้งตั๋วนะคะ ต้องใช้สแกนตอนกลับด้วย ยังๆไม่จบค่ะ มันไม่ง่ายขนาดนั้น เสร็จแล้วเดินไปต่อแถวเพื่อขึ้นกระเช้าอีกที ตรงนี้แหละ คนเยอะมาก แต่กระเช้าแบบคริสตัลคนจะน้อยกว่า รอประมาณ 20 นาทีก็ถึงคิว
ให้บอกเจ้าหน้าที่ไปว่ามากี่คน เขาจะได้จัดให้เรานั่งด้วยกัน ตอนขึ้นกระเช้าจะมีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูป แล้วเขาจะมาขายให้เราทีหลัง จะเอาหรือไม่เอาก็ได้ (เข้าใจว่าอย่างนั้นนะ) แต่พวกเราไม่เอาอยู่แล้ว ก็เลยบอกเค้าว่า โนว เขาก็ไม่ถ่ายค่ะ
เจ้าหน้าที่จะจัดให้นั่งกระเช้าละ 8 คน เรามากัน 5 เลยได้นั่งกับคนอื่นอีก เลยไม่กล้าโลดโผนกันมาก ถ่ายรูปกันพอกุ๊กกิ๊ก
วันนี้หมอกลงนิดหน่อย แต่ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบขุ่นๆ
โชคไม่ค่อยดี กระเช้าที่นั่งกระจกค่อนข้างสกปรก รูปเลยดูเลอะเทอะไปหน่อย เอาไว้แก้ตัวตอนกลับ
กระเช้าพื้นใส มองเห็นเบื้องล่างชัดเจน อาจจะไม่เหมาะกับคนที่กลัวความสูง
เห็นพระใหญ่แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว
ถึงแล้วแวะถ่ายรูปกันสนุกสนาน
เดินไปตามทาง แต่เอ๊ะ นั่นมันร้าน Honeymoon Dessert นี่นา จัด Mango pomelo and sago sweet soup 1 ที่ หวานเย็นสดชื่น
เดินไปตามทางผ่านร้านค้ามากมาย
ใกล้ถึงพระใหญ่แล้ว
ถึงแล้วพระใหญ่นองปิง เห็นบันไดแล้วคงไม่ขึ้น เพราะเด๋วจะไม่ทันเวลา ไหว้ตรงนี้ก็ได้ค่ะ
ไหว้เสร็จแวะกินก๋วยเตี๋ยว ร้านที่มีป้ายภาษาไทย คนขายพูดไทยได้ค่ะ
กินเสร็จเดินกลับทางเก่า ผ่านร้านแมวกวัก ซึ่งข้างในขายของน่ารักมากมาย แต่ที่สะดุดตา และสะดุดกระเป๋าตังเพื่อนของดิฉันก็คือ กำไลหิน นางชอบมาก นางจึงฝังตัวอยู่ในร้านนั้น ระหว่างที่นางกำลังลังเล ว่าจะเอาสีไหนดีน๊า ซื้อดี ไม่ซื้อดี อิชั้นและคนอื่นๆ จึงแวะเข้าห้องน้ำ ทำธุระ นั่งเล่น ถ่ายรูป เซลฟี่ กันนานมากกก จึงยุให้นางซื้อมาเถอะ จะได้ไม่เสียดายทีหลัง ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว
หลุดออกจากร้านแมวกวัก ก็เดินมาขึ้นกระเช้า ตอนกลับนี่สนุกสนานมากค่ะ ตอนนั้นประมาณบ่ายโมง ไม่ค่อยมีคนลง ก็เลยได้นั่งกัน 5 คน กระเช้าเป็นของเรา ปีนป่าย กระโดดโลดเต้น เซลฟี่กันสนุกสนาน
ข้ามน้ำข้ามทะเล พอถึงทางลงกระเช้า ตอนนั้นบ่ายโมงกว่าแล้ว ก็เดินไปขึ้น MTR เพื่อจะไปต่อกันที่ Disneyland
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 3) Day 2 Ngong Ping – Disneyland + รีวิวเมนูพิเศษ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กลับมาต่อกันที่ Day 2 แพลนไว้แบบนี้ค่ะ
ตื่นแต่เช้า 8 โมง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ปาตี้มาม่าที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืน กันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางจ้า เป้าหมายของเราคือ กระเช้านองปิง ซึ่งได้ซื้อตั๋วล่วงหน้ามาแล้ว เอาพาสปอตติดตัวไปด้วยล่ะ วันนี้เป็นวันศุกร์ กระเช้าเปิด 10 โมง (ถ้าวันเสาร์ – อาทิตย์ จะเปิด 9 โมง) ออกเดินทางตอน 9 โมงกว่า นั่ง MTR จากจิมซาจุ่ย สายสีแดง แล้วต้องไปเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่สถานี Lai King
ขอนอกเรื่องนิด เรื่องความกดดันที่เกิดขึ้นในขณะอยู่ฮ่องกง คือ เสียงติ๊ด..,. ติ๊ด.... ติ๊ด .ติ๊ด.ติ๊ด ติ๊ดติ๊ดดดด ขณะสัญญาณไฟเขียวให้ข้ามถนน กับสัญญาณก่อนที่ประตูรถไฟฟ้าจะปิด คือถ้าใช้ชีวิตใช้กทม. คงจะชินกันแล้ว แต่สำหรับสาวบ้านนอกอย่างเรา เคยนั่งแค่รถไฟฟ้า BTS สองครั้ง สมัยตอนกทม. ได้บังเกิดรถไฟฟ้าครั้งแรก แค่นั้นจิงๆ รถไฟใต้ดินที่กทม.อิชั้นยังไม่เคยได้ย่างกลายเข้าไป เสียงสัญญาณดังถี่ๆมันกดดันยิ่งนัก
และแล้วมันก็เกิดขึ้น ในขณะที่เราและเพื่อนอีกคนนึงก้าวเข้าไปในรถไฟฟ้า แต่เพื่อนอีก 3 คนก้าวไม่ทัน ประตูปิดก่อน ภาพของพี่โน้ตอุดมลอยเข้ามาในหัวทันที (ขำในใจ) แต่ โอเค ไม่เป็นไร ไลน์ไปบอกสามนางว่าให้ไปลงสถานี Lai King นะ ชั้นจะรออยู่ที่นั้น
รอซักแปปพวกนางก็มาสมทบ ป่ะ เดินทางต่อ ไปที่สถานี Tung Chung ออกมาก็เดินไปตรงทางขึ้นกระเช้า เรามี Voucher มาแล้วก็เข้าไปในช่องที่เขียนว่า Agent Ticket Voucher อะไรซักอย่างประมาณนี้
*** ย้ำตรงนี้ ซื้อตั๋วไปก่อนจะประหยัดเวลาได้มากโข เพราะแถวซื้อตั๋วยาวมาก***
Voucher ที่ซื้อมามีรายละเอียด ดังนี้
แบบ crystal รุ่นใหม่ล่าสุด จะเป็นแบบ Attractions Package Voucher ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ 3 แบบคือ
1. เลือกนั่ง crystal (ไป-กลับ)
2. เลือกนั่ง standard (ไป-กลับ) + เข้าชม Stage 360 + คูปอง snack
3. เลือกนั่ง standard (ไป-กลับ) + เข้าชม Motion 360 + เข้าชม Walking with Buddha
เดินไปตามทางจะไปถึงหน้าช่องขายตั๋ว มีเจ้าหน้าที่อยู่ตรงนั้น เขาจะให้เราเข้าไปแลกเป็นตั๋วจริง ไปถึงหน้าเค้าท์เตอร์ ยื่นตั๋ว พร้อมพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ก็ถามอะไรซักอย่าง จริงๆฟังไม่ทันหรอก แต่เดาได้ว่า จะเลือกแบบไหน เราก็ตอบไปเลยค่ะ Crystal Cabin เค้าก็จะเอาตั๋วให้เรา พร้อมสติ๊กเกอร์รัดข้อมือ แผนที่ และแผ่นพับซึ่งข้างในจะมีส่วนลดของร้านค้าต่างๆ ใน Ngong Ping Village อย่าพึ่งทิ้งตั๋วนะคะ ต้องใช้สแกนตอนกลับด้วย ยังๆไม่จบค่ะ มันไม่ง่ายขนาดนั้น เสร็จแล้วเดินไปต่อแถวเพื่อขึ้นกระเช้าอีกที ตรงนี้แหละ คนเยอะมาก แต่กระเช้าแบบคริสตัลคนจะน้อยกว่า รอประมาณ 20 นาทีก็ถึงคิว
ให้บอกเจ้าหน้าที่ไปว่ามากี่คน เขาจะได้จัดให้เรานั่งด้วยกัน ตอนขึ้นกระเช้าจะมีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูป แล้วเขาจะมาขายให้เราทีหลัง จะเอาหรือไม่เอาก็ได้ (เข้าใจว่าอย่างนั้นนะ) แต่พวกเราไม่เอาอยู่แล้ว ก็เลยบอกเค้าว่า โนว เขาก็ไม่ถ่ายค่ะ
เจ้าหน้าที่จะจัดให้นั่งกระเช้าละ 8 คน เรามากัน 5 เลยได้นั่งกับคนอื่นอีก เลยไม่กล้าโลดโผนกันมาก ถ่ายรูปกันพอกุ๊กกิ๊ก
วันนี้หมอกลงนิดหน่อย แต่ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบขุ่นๆ
โชคไม่ค่อยดี กระเช้าที่นั่งกระจกค่อนข้างสกปรก รูปเลยดูเลอะเทอะไปหน่อย เอาไว้แก้ตัวตอนกลับ
กระเช้าพื้นใส มองเห็นเบื้องล่างชัดเจน อาจจะไม่เหมาะกับคนที่กลัวความสูง
เห็นพระใหญ่แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว
ถึงแล้วแวะถ่ายรูปกันสนุกสนาน
เดินไปตามทาง แต่เอ๊ะ นั่นมันร้าน Honeymoon Dessert นี่นา จัด Mango pomelo and sago sweet soup 1 ที่ หวานเย็นสดชื่น
เดินไปตามทางผ่านร้านค้ามากมาย
ใกล้ถึงพระใหญ่แล้ว
ถึงแล้วพระใหญ่นองปิง เห็นบันไดแล้วคงไม่ขึ้น เพราะเด๋วจะไม่ทันเวลา ไหว้ตรงนี้ก็ได้ค่ะ
ไหว้เสร็จแวะกินก๋วยเตี๋ยว ร้านที่มีป้ายภาษาไทย คนขายพูดไทยได้ค่ะ
กินเสร็จเดินกลับทางเก่า ผ่านร้านแมวกวัก ซึ่งข้างในขายของน่ารักมากมาย แต่ที่สะดุดตา และสะดุดกระเป๋าตังเพื่อนของดิฉันก็คือ กำไลหิน นางชอบมาก นางจึงฝังตัวอยู่ในร้านนั้น ระหว่างที่นางกำลังลังเล ว่าจะเอาสีไหนดีน๊า ซื้อดี ไม่ซื้อดี อิชั้นและคนอื่นๆ จึงแวะเข้าห้องน้ำ ทำธุระ นั่งเล่น ถ่ายรูป เซลฟี่ กันนานมากกก จึงยุให้นางซื้อมาเถอะ จะได้ไม่เสียดายทีหลัง ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว
หลุดออกจากร้านแมวกวัก ก็เดินมาขึ้นกระเช้า ตอนกลับนี่สนุกสนานมากค่ะ ตอนนั้นประมาณบ่ายโมง ไม่ค่อยมีคนลง ก็เลยได้นั่งกัน 5 คน กระเช้าเป็นของเรา ปีนป่าย กระโดดโลดเต้น เซลฟี่กันสนุกสนาน
ข้ามน้ำข้ามทะเล พอถึงทางลงกระเช้า ตอนนั้นบ่ายโมงกว่าแล้ว ก็เดินไปขึ้น MTR เพื่อจะไปต่อกันที่ Disneyland