สวัสดีชาวรัก ชาวร็อค ว๊ากกกกกก \m/
และก็สวัสดีชาวพันทิปทุกๆ คนนะคะ
นี่เป็นกระทู้แรกของเราเอง ยืมของเพื่อนมาคะ ที่ตั้งชื่อกระทู้แบบนี้ เพราะแฟนเราเป็น ชาวร็อค ว๊ากก!!555 อยากมาส่งต่อความฟิน ( หรือป่าว แฮะแฮะ ) ของเรากับแฟนเราคะ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะค่ะ ... อิอิ งั้นมาเริ่มกันเลยยยยยย
แรกเริ่มเดิมที !
เรื่องราวมันเกิดเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2554 - 2555 ณ ตอนนั้นเราอยู่ ม . 3 (ปัจจุบัน จขกท.กำลังขึ้น ม.6ค่ะ ) ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆ
สนุกสานไปกับพวกแก๊งเพื่อน มีแฟนบ้างโสดบ้าง แต่ก็เรียนไม่เคยตกเลย ได้ เกรดเฉลี่ย 3 กว่าตลอด( เรียนเป็นอันดับต้นๆ ของห้อง ของสายชั้นด้วยค่ะ) เพราะเรารู้จักแยกแยะ ... จนวันหนึ่งเรามีแฟน ก็คบไปเรื่อยๆ เลิกคนเก่าก็คบคนใหม่ เป็นไปแบบนี้ตลอด ... จนวันนี้รู้สึกว่า " ไม่อยากคบใครแล้ว ไม่อยากรู้สึกดีกับใครเเล้ว มันเจ็บจนเบื่อ อยากอยู่เฉยๆ ตั้งใจเรียน ! จะขึ้น ม.ปลายแล้ว " <<< ดราม่ามาเลยนะ 555555
ก็นั้นแหละค่ะ ชีวิตวัยรุ่น อยากรู้อยากลอง ว่าเป็นยังไง ... สุดท้ายก็ได้รู้สักที เฮ้อออ
จากเหตุการณ์นั้น เราก็อยู่กับพวกเพื่อนๆ สนุก เฮฮาเหมือนเดิม..แต่ไม่ได้อยากมีแฟนเมื่อแต่ก่อน มีคนเข้ามาคุย มาจีบนะคะ แต่ก็เฉยๆ ไปซะแล้ว
จนกระทั่ง !! วันหนึ่งเพื่อนในกลุ่มของเราซึ่งเป็นคนที่ เฟรนลี่ คนรู้จักเยอะ ก็ได้พาเค้าคนนี้เข้ามา ^___^ (ขอเรียกแฟนคนปัจจุบันว่า "พี่แว่น" นะค่ะ อิอิ )
พี่แว่น เป็นผู้ชายบ้าน ๆทั่วไปเลยค่ะ (แอบขี้เหล่ด้วยแหละ บรึ้ยยย ) แบบ..ใส่แว่น อ้วน คล้ำ ตัวเตี้ย ตาเล็ก ปากหนา จมูกบาน @#%#@@! แบบ .. พูดได้เลย ว่าไม่ตรงสเปกสาว ๆ อย่างแน่นอน !!!
จำได้ว่า พี่แว่นเค้าแอดเฟสเราจาก น่าวอลเพื่อนเรามา ... พอรับแอด ก็เข้ามาทักทาย ตามปกติค่ะ แต่สักพัก ก็เริ่มคุยกันทุกวัน ทุกวัน ...
Whats App เป็นเหตุ !
เราคุยกับพี่แว่นมาสักพักก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น (แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเค้าจีบเรา) ... ช่วงนั้นมันก็มีกระแส วอทแอป, ไลน์ เพิ่งเข้ามาใหม่ ๆ เราก็เลยลองโหลดมาเล่นดู ปรากฏว่า ไม่มีใครเล่นเลยสักคนนน ! = = ... แต่กลายเป็นว่า พี่แว่นคนนี้ดันเล่นซะอีก 5555 (โชคชะตาชัดชัด) เราก็เลยขอเบอร์พี่แว่นไว้ โดยที่แค่คิดว่าจะฝึกเล่นเฉยๆ ดันได้คุยกันต่อยาวเลยค่าาาาา ... คุยกันตามปกติ วันหนึ่งเรารู้สึก เจ็บคอมากๆ เลยแฮะ เลยถามไปลอยๆ ว่า
เรา : เจ็บคออ่ะ กินยาไรได้ม้างงง :3
พี่แว่น : เจ็บคอยังไง แห้งๆ หรือ ว่ามีเสมหะ
เรา : ก็แห้งๆ นะ
พี่แว่น : กินนี่เลย Amoxy 500mg. กินเช้าเย็น วันล่ะ 2 เม็ด
เรา : Amoxy 500 mg . คือไร ._.
พี่แว่น : มันคือชื่อยา แก้อักเสบ ไง
เรา : งะ .. แล้วรู้ได้ไงเนี้ยยย เก่งจุง
พี่แว่น :
ก็บ้านเปิดร้านขายยาไง ... พ่อพี่เป็นเภสัชครับ
เรา : หืม !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
... คือ เงิบ -จุดแพ๊บ มันใช่หรอวะ จิงอ่ะ ไม่จริงหรอก ขี้โม้ !!! เราก็เลยไปค้นดูรูปเก่า ๆในเฟสของพี่แว่น ปรากฏว่า ใช่ค่าาาา มันคือเรื่องจริง !!
(คิดในใจตอนนั้น .. บ้านต้องรวยเเน่เลย อิอิ // หวังหุบสัมบัติ 5555 หลอกเล่นน้า ) ด้วยภายนอก และ ลักษณะทางกาย ของพี่แว่นแล้วไม่น่าจะใช่ลูกหมอยา แต่อย่างใด ... และดูไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จริมจริม -____- และนั้นก็คือ ความจริงอันน่าตกใจ เรื่องที่ 1 !!
ต่อมา ... ที่โรงเรียนของเราก็ได้จัดงานประกวดโฟลคซองขึ้น (ลืมบอกไปคะ ว่าเรากับพี่แว่นอยู่ โรงเรียนเดียวกัน ห่างกัน 2 ปี ) โดยความที่เราชอบเสียงดนตรีอยู่แล้ว ( ชอบนักดนตรีอยู่แล้ว แอร๊ยยย ) และ จากที่เพื่อนๆชอบอวยว่าเสียงเราไพเราะ ก็เลยลงประกวด แม่มเลยค่ะ !! (แหม่..ความมั่นในเกินล้าน - - ) ... คืนนั้น ก็เลยตัดสินใจ อัดคลิปเสียงร้องเพลงให้พี่แว่นฟัง พี่แกก็วิจารณ์มาว่า ..
เรา : (ส่งคลิปเสียง)
พี่แว่น : อืมม... เพลงนี้เสียงสูงนะ ร้องเพี้ยนด้วย ไม่ตรงคีย์เลย ร้องก็ดูเหนื่อยๆ ด้วย
หงะ !! ไง เป็นเงี้ยอ่าาาา ... ไหนเพื่อนๆ ที่รัก บอกว่าไพเราะ เพราะพริ้งไงเล่า !!!! เสียเซลฟ์เลย... เราก็เริ่มเอะใจแล้ว ว่า " ทำไมรู้เรื่องดนตรีขนาดนี้... รู้ด้วยว่าร้องผิดคีย์ " เราก็เลยก็ถามกลับไปเลย ว่า
เรา : รู้ได้ไง !! นี่เราก็ร้องเพราะแล้วนะ ตั้งใจสุด ๆ ใส่อารมณ์สุด ๆ พี่เป็นนักร้องไง๊ !!!!
พี่แว่น : พี่ไม่ได้เป็นนักร้อง แต่เพื่อนพี่เป็น
เรา : หะ
พี่แว่น :
พี่เล่นเบสส์ครับ
เรา : หะ !!!!
ขุ่นพระ!!!!!!! ไม่จริงอ่ะ ไม่เชื่อ ... เราก็เลยกลับไปค้นรูปในเฟสพี่แกต่อ ปรากฏว่า ใช่ค่ะะะะ มันคือเรื่องเจรงงงง
และนี่ก็คือ ความจริงอันน่าตกใจ เรื่องที่ 2 ค่ะ !! สรุป..คือพี่แว่น เป็นทั้งลูกเภสัชและเป็นนักดนตรีค่ะ !!!!
ความฟินจงบังเกิด !
จากนั้น เราก็แลกเปลี่ยนความคิดต่างๆ นา ๆ จนเข้าขากันได้ดีเลยทีเดียว ... เลยเริ่มรู้สึกว่า พิมพ์มันไม่ทันใจแฮะ โทรมาเลยดีกว่า !!
นั่นและฮะ ท่านผู้ชม ... เราก็คุยกันทุกวัน ทุกวันเช่นเคย แต่แปลกที่พี่แว่นแกเป็นคนที่ตั้งใจจะโทรหาเราเอง โดยที่เราอยากคุยเมื่อไหร่ก็ได้คุย แต่กลับกลายว่าเราไม่เคยเสียตังโทรหาเลย ! เราก็เริ่มเอะใจ(อีกแล้ว) ว่า " พี่แว่นเค้าคิดอะไรกับเราหรือป่าววะ ไม่หรอกม้างงงง แต่เอ้ะ .. แล้วเค้าจะมาคุยกับกูทำไมทุกวี่วัน = = " ...เริ่มสงสัยแล้ว นิสนึง .. ก็เลยตัดสินใจ ถามแม่มเล้ย !!
เรา : นิ่พี่แว่น ... ถามไรหน่อยดิ
พี่แว่น :ถามทุกวันไม่เบื่อไง
เรา : ไม่ใช่ดิ้ ไม่ใช่เรื่องยา เรื่องดนตรี
พี่แว่น : อ้าว.. แล้วเรื่องไรล่ะครับ
เรา : ( เอาไงดีวะ หึ้ยยย เอาวะ ถามเลยแล้วกัน !!! ) ... " พี่คิดอะไรกับเค้าป่ะเนี้ย โทรหาทุกวันเลย ??? "
พี่แว่น : .... อืออ (ลากเสียงยาวๆ อีดๆ )
เรา : หะ อะไรนะ
พี่แว่น : อืออ นั้นแหละ
เรา : (คิดในใจ...จะเขินไรเนี้ย - - 5555 ) แล้วมันยังไงเล่าาาา (ตอนนั้นก็เริ่มรู้ตัวแล้วนิดนิดนะ แต่ก็อยากรู้ อิอิ )
พี่แว่น : อือ ! พี่ชอบเรา !!!!
เรา : ( แอร๊ยย ... จิกหมอนแพ็บ
แต่ก็ฟอร์มไว้อยู่นะ 555555 )
พี่แว่น : แล้วเราอ่ะ คิดไง
เรา : ..... อืมมมมมม
แล้วเรื่องมาม่าก็ตามมา...
....ต่อจากบทสนทนาที่แล้ว....
เรา : ..... อืมมมมมม
พี่แว่น : หะ .. เห้ยย ไม่ตกใจไป พี่ไม่ได้จะมาบังคับให้แกมาอะไรแบบนั้น 555
แต่ดูจากท่าทางพี่แว่นก็เสียเซลฟ์เหมือนกันนะ ... ดูคล้ายๆว่าเจียมตัว ๆ ไม่กล้า ไรเงี้ยะ เราก็เลย เปลี่ยนเรื่องเลย คุย ๆ กลบเกลื่อนอาการเขินของเราไป
แล้วเราก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม เข้าเดือนที่ 3- 4 แล้ว ... จากที่เราสังเกตุตัวเองมา เราก็แปลกใจอยู่นะ ว่าทำไมคนนี้คุยนานจัง คุยแล้วไม่เบื่อ คุยเเล้วสนุก อยากคุยด้วยทุกวันเลย แปลกแฮะ ... ปกติเป็นคนเบื่อง่ายมาก แต่กับผู้ชายคนนี้แปลกจัง ไม่เบื่อไม่หน่าย ไม่เคยทำให้เราเสียความรู้สึกเลย รักษาระยะห่างด้วย สุภาพ ให้เกียรติเรา หวังดีกับเรา มีอะไรก็แบ่งปันตลอด ... แปลก แปลกมาก ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ! กับผู้ชายคนอื่น ไม่เคยทำแบบนี้กับเราเลย
หึยยยย นี่มันอะไรกันวะเนี้ยย อ๊ากกกกกกกกกก !! แต่ในใจก็เข็ดจากเรื่องถวามรักเก่าๆ ที่ผ่านมา ... เหมือนกับว่ามันวนลูปซ้ำ
เริ่มคุย > จีบ > คบ > รู้สึกดี > ทะเลาะ > เลิก > เสียใจ
เดิม ๆ ... คุยกับตัวเองว่า ไม่อยากเจ็บแล้ววะ เบื่อ ... ที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว เฮ้ออ ...จากนั้น เราก็กลับมาคุยเหมือนเดิม จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 5 - 6 ! เห้ย มันนานมากเเล้วนะ ทำไมยังรู้สึกเหมือนเดิม พี่แว่นสม่ำเสมอมาก ไม่เคยทิ้งเราเลย ! เพื่อน ๆในกลุ่มก็เริ่ม ถาม ว่า ตกลงคนนี้ยังไง ๆ นานไปแล้วนะ ไหนบอกจะไม่มีใครไง ... เราก็ยืนยันคำเดิมว่า พี่แว่นก็คือพี่ ยังไงก็คือพี่ ! เพื่อนๆ ก็เลยบอกว่า ..
เพื่อน : ไหน ๆก้รู้จักกันมานานขนาดนี้ ก็ลองเปิดใจดูหน่อยเด้ ! พี่แกก็ดีมาตลอดนะเว้ย ตรูว่าคนนี้ก็โอเคนะเมิง ถึงจะไม่หล่ออะไร แต่พี่แกก็ดีน้า เล่นดนตรีด้วย สเปกเมิงเลยหนิ
เรา : เนาะ .. หรือจะลองดูอีกที ? (กลับใจง่ายจัง- - 55555 )
ลองดูกับเธออีกครั้งเป็นไง.. ก็เป็นกัน !
จากนั้น เราก็สนิทกันขึ้น เริ่มรู้สึกว่าพี่แกจีบเรา ตื้อไปตื้อมา เป็นเดือนเลยล่ะ (บอกเลยว่าช่วงนั้น เราใจเเข็งมาก ) ...แล้ววันหนึ่งแกีงเพื่อนสาวเราก็ดันไม่ว่างเลยซักคน ก็เลยชวนพี่แว่นไปกินข้าวที่ห้าง ฯ ...
ด้วยความที่เราเขินด้วยล่ะมั้ง สั่งราดหน้ามากินเองเลย คนเดียว 2 ชามโตๆ ! พี่ ขุ่นพระ .. รู้สึกตกใจ ทำแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายได้ยังไง เสียภาพพจน์หมด 5555 และเย็นวันนั้น นั่นเอง พี่แกก็ขอเราเป็นแฟน เราก็ตอบตกลงไปเลย !! ฮิ้ววว .. แต่! สัก 2 อาทิตย์ ก็กลับมาเป็นพี่น้องเหมือนเดิม เฮ้ออ ..ตอนนั้นรู้สึกว่ามันแตกต่างกันมากเลยนะ ระหว่างการเป็นพี่น้องกับแฟน การวางตัวหรือคำพูด มันรู้สึกแปลกแตกต่างกันไปเลย ... เราก็เลยปลอบใจตัวเองไปว่า " มันคงยังไม่ชินกับการเป็นแฟนกันละมั้ง " เอาใหม่ ! ไม่เป็นไร ... กลับไปคืนดีกันซะ (แหง่วววว,,,)!!!
ช่วงระหว่างที่เป็นแฟนกันนั้น พี่แว่นก็ดูแลดีตลอด .. ตกเย็นเราก็ไปรอหน้าห้องเรียนพี่แว่นทู๊กวันนน (ทำนองว่าหวง เพื่อนผู้หญิงเยอะซะด้วย หึหึ ก็เลยทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของซะเลย5555 ) พี่แว่นก็พาเราไปหาอะไรกินทู๊กเย็น แล้วก็พาไปส่งขึ้นรถกลับบ้าน (ลืมบอกว่า จขกท.เป็นเด็กนอกอำเภอต้องนั่งรถประจำทางมาเรียนโรงเรียนในตัวเมืองคะ ) เลี้ยงดูเราดีมาก ดีเกิ๊น ซื้อของกินอร่อย ๆ มาให้ตัลหลอดด จนเราอ้วนขึ้น ! จาก 52 กก. น้ำหนักขึ้นเป็น 55 -56 กก. เลย !! (รู้ตัวจากกระโปรงที่ปริออกและคำทักทายของเพื่อนๆ หึหึ มันร้ายกาจมาก ) ช่วงที่เราคบกันเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ...เรากำลังขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนแห่งใหม่ ส่วนพี่แว่นก็ขึ้น ม.6 ที่ โรงเรียนเดิม .. พอเปิดเทอมใหม่ โรงเรียนใหม่ แต่พี่แว่นก็ยังเป็นคนเดิม .. มารับเช้าไปส่งอีกโรงเรียน และ ตกเย็นก็มารับเราไปส่งที่รถ เหมือนเดิม เป็นประจำ ตลอดที่เวลา 2 ปีที่คบกันจนถึงทุกวันนี้ ... พี่แว่นเป็นคนที่น่ารักมากค่ะ เป็นผู้ชายที่ดี เล่นดนตรีเก่ง และ รักสัตว์ค่ะ คือ สรุปง่าย ๆ
ตอนนี้ เราพูดได้เลยว่า เรารู้สึกดี และ รักพี่แว่นมากกกกกกกก
ขึ้นมหาลัยจะหลายใจหรือป่าวววว
หลังจากที่พี่แว่นจบ ม.6 ก็ได้เดินสายสอบเข้า มหาลัย แต่ปรากฏว่าผิดหวังค่ะ ก็เลยดรอปเรียนไป 1ปี ระหว่างหนึ่งปีที่ไม่ได้เรียนนั้น พี่แว่น ฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งทฤษฏีและปฏิบัติ ... และได้ทำงานตามผับ และ ร้านอาหารด้วย (เดี๋ยวจะแยกเป็นอีกกระทู้หนึ่งนะค่ะ เกี่ยวกับการแข่งขันดนตรีและมิตรภาพของเพื่อนนักดนตรี รอชมนะคะ อิอิ ) พี่แว่นทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเอง เราก็ทำนะ ใช่ว่าปิดเทอมแล้วจะอยู่เฉยเฉยยย ...
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการสอบตรงของ มหาลัยแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับทะเล (แหม่ ,, ไม่รู้เลยเนาะ 555 ) พี่แว่นได้ไปสอบกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เป็น มือกลอง ผลปรากฏว่าติดค่ะ !! เราก็ดีใจนะ ดีใจทั้งน้ำตาเลย ...
เมื่อรู้แล้วว่าพี่แว่นต้องไปอยู่ไกลกัน ก็ทำให้ใจหวั่นนะ .. ทั้งระยะทาง สังคมใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ อะไรใหม่ ๆ ที่แกจะหลงระเริง จนลืมเราหรือป่าว พี่แว่นจะมีผู้หญิงอื่นมั้ย .. ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะไม่มีเลยก็ตาม เป็นเด็กดีมาตลอดก็ตาม พี่แว่นจะลืมเรามั้ย พี่แว่นจะเหมือนเดิมหรือ่ปาว ... คิดไปต่างๆ นาๆเลยคะ กลัวมาก...
แต่ก็มีหลายคำพูดนะ ที่ทำให้เรามั่นใจว่า ... คนๆนี้แหละที่จะไม่ถึงเรา คนๆนี้แหละที่รักเราจริง ๆ มันอาจไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันให้ แต่ที่มีแน่ๆ คือความรู้สึกที่เราได้รับ มันดีมาก ๆเลย ... ถึงจะมีทะเลาะกันบ้างก็ตาม ... แต่ยังไง เราก็ยังให้อภัยกัน พร้อมที่จะเข้าใจกันเสมอคะ
ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านจนจบน้าาา ขอบคุณนะคะ
From. Pmelody
ความรัก ของชาวร็อค \m/ \m/
นี่เป็นกระทู้แรกของเราเอง ยืมของเพื่อนมาคะ ที่ตั้งชื่อกระทู้แบบนี้ เพราะแฟนเราเป็น ชาวร็อค ว๊ากก!!555 อยากมาส่งต่อความฟิน ( หรือป่าว แฮะแฮะ ) ของเรากับแฟนเราคะ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะค่ะ ... อิอิ งั้นมาเริ่มกันเลยยยยยย
แรกเริ่มเดิมที !
เรื่องราวมันเกิดเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2554 - 2555 ณ ตอนนั้นเราอยู่ ม . 3 (ปัจจุบัน จขกท.กำลังขึ้น ม.6ค่ะ ) ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆ
สนุกสานไปกับพวกแก๊งเพื่อน มีแฟนบ้างโสดบ้าง แต่ก็เรียนไม่เคยตกเลย ได้ เกรดเฉลี่ย 3 กว่าตลอด( เรียนเป็นอันดับต้นๆ ของห้อง ของสายชั้นด้วยค่ะ) เพราะเรารู้จักแยกแยะ ... จนวันหนึ่งเรามีแฟน ก็คบไปเรื่อยๆ เลิกคนเก่าก็คบคนใหม่ เป็นไปแบบนี้ตลอด ... จนวันนี้รู้สึกว่า " ไม่อยากคบใครแล้ว ไม่อยากรู้สึกดีกับใครเเล้ว มันเจ็บจนเบื่อ อยากอยู่เฉยๆ ตั้งใจเรียน ! จะขึ้น ม.ปลายแล้ว " <<< ดราม่ามาเลยนะ 555555
ก็นั้นแหละค่ะ ชีวิตวัยรุ่น อยากรู้อยากลอง ว่าเป็นยังไง ... สุดท้ายก็ได้รู้สักที เฮ้อออ
จากเหตุการณ์นั้น เราก็อยู่กับพวกเพื่อนๆ สนุก เฮฮาเหมือนเดิม..แต่ไม่ได้อยากมีแฟนเมื่อแต่ก่อน มีคนเข้ามาคุย มาจีบนะคะ แต่ก็เฉยๆ ไปซะแล้ว
จนกระทั่ง !! วันหนึ่งเพื่อนในกลุ่มของเราซึ่งเป็นคนที่ เฟรนลี่ คนรู้จักเยอะ ก็ได้พาเค้าคนนี้เข้ามา ^___^ (ขอเรียกแฟนคนปัจจุบันว่า "พี่แว่น" นะค่ะ อิอิ ) พี่แว่น เป็นผู้ชายบ้าน ๆทั่วไปเลยค่ะ (แอบขี้เหล่ด้วยแหละ บรึ้ยยย ) แบบ..ใส่แว่น อ้วน คล้ำ ตัวเตี้ย ตาเล็ก ปากหนา จมูกบาน @#%#@@! แบบ .. พูดได้เลย ว่าไม่ตรงสเปกสาว ๆ อย่างแน่นอน !!!
จำได้ว่า พี่แว่นเค้าแอดเฟสเราจาก น่าวอลเพื่อนเรามา ... พอรับแอด ก็เข้ามาทักทาย ตามปกติค่ะ แต่สักพัก ก็เริ่มคุยกันทุกวัน ทุกวัน ...
Whats App เป็นเหตุ !
เราคุยกับพี่แว่นมาสักพักก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น (แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเค้าจีบเรา) ... ช่วงนั้นมันก็มีกระแส วอทแอป, ไลน์ เพิ่งเข้ามาใหม่ ๆ เราก็เลยลองโหลดมาเล่นดู ปรากฏว่า ไม่มีใครเล่นเลยสักคนนน ! = = ... แต่กลายเป็นว่า พี่แว่นคนนี้ดันเล่นซะอีก 5555 (โชคชะตาชัดชัด) เราก็เลยขอเบอร์พี่แว่นไว้ โดยที่แค่คิดว่าจะฝึกเล่นเฉยๆ ดันได้คุยกันต่อยาวเลยค่าาาาา ... คุยกันตามปกติ วันหนึ่งเรารู้สึก เจ็บคอมากๆ เลยแฮะ เลยถามไปลอยๆ ว่า
เรา : เจ็บคออ่ะ กินยาไรได้ม้างงง :3
พี่แว่น : เจ็บคอยังไง แห้งๆ หรือ ว่ามีเสมหะ
เรา : ก็แห้งๆ นะ
พี่แว่น : กินนี่เลย Amoxy 500mg. กินเช้าเย็น วันล่ะ 2 เม็ด
เรา : Amoxy 500 mg . คือไร ._.
พี่แว่น : มันคือชื่อยา แก้อักเสบ ไง
เรา : งะ .. แล้วรู้ได้ไงเนี้ยยย เก่งจุง
พี่แว่น : ก็บ้านเปิดร้านขายยาไง ... พ่อพี่เป็นเภสัชครับ
เรา : หืม !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
... คือ เงิบ -จุดแพ๊บ มันใช่หรอวะ จิงอ่ะ ไม่จริงหรอก ขี้โม้ !!! เราก็เลยไปค้นดูรูปเก่า ๆในเฟสของพี่แว่น ปรากฏว่า ใช่ค่าาาา มันคือเรื่องจริง !!
(คิดในใจตอนนั้น .. บ้านต้องรวยเเน่เลย อิอิ // หวังหุบสัมบัติ 5555 หลอกเล่นน้า ) ด้วยภายนอก และ ลักษณะทางกาย ของพี่แว่นแล้วไม่น่าจะใช่ลูกหมอยา แต่อย่างใด ... และดูไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จริมจริม -____- และนั้นก็คือ ความจริงอันน่าตกใจ เรื่องที่ 1 !!
ต่อมา ... ที่โรงเรียนของเราก็ได้จัดงานประกวดโฟลคซองขึ้น (ลืมบอกไปคะ ว่าเรากับพี่แว่นอยู่ โรงเรียนเดียวกัน ห่างกัน 2 ปี ) โดยความที่เราชอบเสียงดนตรีอยู่แล้ว ( ชอบนักดนตรีอยู่แล้ว แอร๊ยยย ) และ จากที่เพื่อนๆชอบอวยว่าเสียงเราไพเราะ ก็เลยลงประกวด แม่มเลยค่ะ !! (แหม่..ความมั่นในเกินล้าน - - ) ... คืนนั้น ก็เลยตัดสินใจ อัดคลิปเสียงร้องเพลงให้พี่แว่นฟัง พี่แกก็วิจารณ์มาว่า ..
เรา : (ส่งคลิปเสียง)
พี่แว่น : อืมม... เพลงนี้เสียงสูงนะ ร้องเพี้ยนด้วย ไม่ตรงคีย์เลย ร้องก็ดูเหนื่อยๆ ด้วย
หงะ !! ไง เป็นเงี้ยอ่าาาา ... ไหนเพื่อนๆ ที่รัก บอกว่าไพเราะ เพราะพริ้งไงเล่า !!!! เสียเซลฟ์เลย... เราก็เริ่มเอะใจแล้ว ว่า " ทำไมรู้เรื่องดนตรีขนาดนี้... รู้ด้วยว่าร้องผิดคีย์ " เราก็เลยก็ถามกลับไปเลย ว่า
เรา : รู้ได้ไง !! นี่เราก็ร้องเพราะแล้วนะ ตั้งใจสุด ๆ ใส่อารมณ์สุด ๆ พี่เป็นนักร้องไง๊ !!!!
พี่แว่น : พี่ไม่ได้เป็นนักร้อง แต่เพื่อนพี่เป็น
เรา : หะ
พี่แว่น : พี่เล่นเบสส์ครับ
เรา : หะ !!!!
ขุ่นพระ!!!!!!! ไม่จริงอ่ะ ไม่เชื่อ ... เราก็เลยกลับไปค้นรูปในเฟสพี่แกต่อ ปรากฏว่า ใช่ค่ะะะะ มันคือเรื่องเจรงงงง
และนี่ก็คือ ความจริงอันน่าตกใจ เรื่องที่ 2 ค่ะ !! สรุป..คือพี่แว่น เป็นทั้งลูกเภสัชและเป็นนักดนตรีค่ะ !!!!
ความฟินจงบังเกิด !
จากนั้น เราก็แลกเปลี่ยนความคิดต่างๆ นา ๆ จนเข้าขากันได้ดีเลยทีเดียว ... เลยเริ่มรู้สึกว่า พิมพ์มันไม่ทันใจแฮะ โทรมาเลยดีกว่า !!
นั่นและฮะ ท่านผู้ชม ... เราก็คุยกันทุกวัน ทุกวันเช่นเคย แต่แปลกที่พี่แว่นแกเป็นคนที่ตั้งใจจะโทรหาเราเอง โดยที่เราอยากคุยเมื่อไหร่ก็ได้คุย แต่กลับกลายว่าเราไม่เคยเสียตังโทรหาเลย ! เราก็เริ่มเอะใจ(อีกแล้ว) ว่า " พี่แว่นเค้าคิดอะไรกับเราหรือป่าววะ ไม่หรอกม้างงงง แต่เอ้ะ .. แล้วเค้าจะมาคุยกับกูทำไมทุกวี่วัน = = " ...เริ่มสงสัยแล้ว นิสนึง .. ก็เลยตัดสินใจ ถามแม่มเล้ย !!
เรา : นิ่พี่แว่น ... ถามไรหน่อยดิ
พี่แว่น :ถามทุกวันไม่เบื่อไง
เรา : ไม่ใช่ดิ้ ไม่ใช่เรื่องยา เรื่องดนตรี
พี่แว่น : อ้าว.. แล้วเรื่องไรล่ะครับ
เรา : ( เอาไงดีวะ หึ้ยยย เอาวะ ถามเลยแล้วกัน !!! ) ... " พี่คิดอะไรกับเค้าป่ะเนี้ย โทรหาทุกวันเลย ??? "
พี่แว่น : .... อืออ (ลากเสียงยาวๆ อีดๆ )
เรา : หะ อะไรนะ
พี่แว่น : อืออ นั้นแหละ
เรา : (คิดในใจ...จะเขินไรเนี้ย - - 5555 ) แล้วมันยังไงเล่าาาา (ตอนนั้นก็เริ่มรู้ตัวแล้วนิดนิดนะ แต่ก็อยากรู้ อิอิ )
พี่แว่น : อือ ! พี่ชอบเรา !!!!
เรา : ( แอร๊ยย ... จิกหมอนแพ็บ แต่ก็ฟอร์มไว้อยู่นะ 555555 )
พี่แว่น : แล้วเราอ่ะ คิดไง
เรา : ..... อืมมมมมม
แล้วเรื่องมาม่าก็ตามมา...
....ต่อจากบทสนทนาที่แล้ว....
เรา : ..... อืมมมมมม
พี่แว่น : หะ .. เห้ยย ไม่ตกใจไป พี่ไม่ได้จะมาบังคับให้แกมาอะไรแบบนั้น 555
แต่ดูจากท่าทางพี่แว่นก็เสียเซลฟ์เหมือนกันนะ ... ดูคล้ายๆว่าเจียมตัว ๆ ไม่กล้า ไรเงี้ยะ เราก็เลย เปลี่ยนเรื่องเลย คุย ๆ กลบเกลื่อนอาการเขินของเราไป
แล้วเราก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม เข้าเดือนที่ 3- 4 แล้ว ... จากที่เราสังเกตุตัวเองมา เราก็แปลกใจอยู่นะ ว่าทำไมคนนี้คุยนานจัง คุยแล้วไม่เบื่อ คุยเเล้วสนุก อยากคุยด้วยทุกวันเลย แปลกแฮะ ... ปกติเป็นคนเบื่อง่ายมาก แต่กับผู้ชายคนนี้แปลกจัง ไม่เบื่อไม่หน่าย ไม่เคยทำให้เราเสียความรู้สึกเลย รักษาระยะห่างด้วย สุภาพ ให้เกียรติเรา หวังดีกับเรา มีอะไรก็แบ่งปันตลอด ... แปลก แปลกมาก ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ! กับผู้ชายคนอื่น ไม่เคยทำแบบนี้กับเราเลย
หึยยยย นี่มันอะไรกันวะเนี้ยย อ๊ากกกกกกกกกก !! แต่ในใจก็เข็ดจากเรื่องถวามรักเก่าๆ ที่ผ่านมา ... เหมือนกับว่ามันวนลูปซ้ำ
เดิม ๆ ... คุยกับตัวเองว่า ไม่อยากเจ็บแล้ววะ เบื่อ ... ที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว เฮ้ออ ...จากนั้น เราก็กลับมาคุยเหมือนเดิม จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 5 - 6 ! เห้ย มันนานมากเเล้วนะ ทำไมยังรู้สึกเหมือนเดิม พี่แว่นสม่ำเสมอมาก ไม่เคยทิ้งเราเลย ! เพื่อน ๆในกลุ่มก็เริ่ม ถาม ว่า ตกลงคนนี้ยังไง ๆ นานไปแล้วนะ ไหนบอกจะไม่มีใครไง ... เราก็ยืนยันคำเดิมว่า พี่แว่นก็คือพี่ ยังไงก็คือพี่ ! เพื่อนๆ ก็เลยบอกว่า ..
เพื่อน : ไหน ๆก้รู้จักกันมานานขนาดนี้ ก็ลองเปิดใจดูหน่อยเด้ ! พี่แกก็ดีมาตลอดนะเว้ย ตรูว่าคนนี้ก็โอเคนะเมิง ถึงจะไม่หล่ออะไร แต่พี่แกก็ดีน้า เล่นดนตรีด้วย สเปกเมิงเลยหนิ
เรา : เนาะ .. หรือจะลองดูอีกที ? (กลับใจง่ายจัง- - 55555 )
ลองดูกับเธออีกครั้งเป็นไง.. ก็เป็นกัน !
จากนั้น เราก็สนิทกันขึ้น เริ่มรู้สึกว่าพี่แกจีบเรา ตื้อไปตื้อมา เป็นเดือนเลยล่ะ (บอกเลยว่าช่วงนั้น เราใจเเข็งมาก ) ...แล้ววันหนึ่งแกีงเพื่อนสาวเราก็ดันไม่ว่างเลยซักคน ก็เลยชวนพี่แว่นไปกินข้าวที่ห้าง ฯ ...
ด้วยความที่เราเขินด้วยล่ะมั้ง สั่งราดหน้ามากินเองเลย คนเดียว 2 ชามโตๆ ! พี่ ขุ่นพระ .. รู้สึกตกใจ ทำแบบนี้ต่อหน้าผู้ชายได้ยังไง เสียภาพพจน์หมด 5555 และเย็นวันนั้น นั่นเอง พี่แกก็ขอเราเป็นแฟน เราก็ตอบตกลงไปเลย !! ฮิ้ววว .. แต่! สัก 2 อาทิตย์ ก็กลับมาเป็นพี่น้องเหมือนเดิม เฮ้ออ ..ตอนนั้นรู้สึกว่ามันแตกต่างกันมากเลยนะ ระหว่างการเป็นพี่น้องกับแฟน การวางตัวหรือคำพูด มันรู้สึกแปลกแตกต่างกันไปเลย ... เราก็เลยปลอบใจตัวเองไปว่า " มันคงยังไม่ชินกับการเป็นแฟนกันละมั้ง " เอาใหม่ ! ไม่เป็นไร ... กลับไปคืนดีกันซะ (แหง่วววว,,,)!!!
ช่วงระหว่างที่เป็นแฟนกันนั้น พี่แว่นก็ดูแลดีตลอด .. ตกเย็นเราก็ไปรอหน้าห้องเรียนพี่แว่นทู๊กวันนน (ทำนองว่าหวง เพื่อนผู้หญิงเยอะซะด้วย หึหึ ก็เลยทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของซะเลย5555 ) พี่แว่นก็พาเราไปหาอะไรกินทู๊กเย็น แล้วก็พาไปส่งขึ้นรถกลับบ้าน (ลืมบอกว่า จขกท.เป็นเด็กนอกอำเภอต้องนั่งรถประจำทางมาเรียนโรงเรียนในตัวเมืองคะ ) เลี้ยงดูเราดีมาก ดีเกิ๊น ซื้อของกินอร่อย ๆ มาให้ตัลหลอดด จนเราอ้วนขึ้น ! จาก 52 กก. น้ำหนักขึ้นเป็น 55 -56 กก. เลย !! (รู้ตัวจากกระโปรงที่ปริออกและคำทักทายของเพื่อนๆ หึหึ มันร้ายกาจมาก ) ช่วงที่เราคบกันเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ...เรากำลังขึ้น ม.4 ที่โรงเรียนแห่งใหม่ ส่วนพี่แว่นก็ขึ้น ม.6 ที่ โรงเรียนเดิม .. พอเปิดเทอมใหม่ โรงเรียนใหม่ แต่พี่แว่นก็ยังเป็นคนเดิม .. มารับเช้าไปส่งอีกโรงเรียน และ ตกเย็นก็มารับเราไปส่งที่รถ เหมือนเดิม เป็นประจำ ตลอดที่เวลา 2 ปีที่คบกันจนถึงทุกวันนี้ ... พี่แว่นเป็นคนที่น่ารักมากค่ะ เป็นผู้ชายที่ดี เล่นดนตรีเก่ง และ รักสัตว์ค่ะ คือ สรุปง่าย ๆ
ตอนนี้ เราพูดได้เลยว่า เรารู้สึกดี และ รักพี่แว่นมากกกกกกกก
ขึ้นมหาลัยจะหลายใจหรือป่าวววว
หลังจากที่พี่แว่นจบ ม.6 ก็ได้เดินสายสอบเข้า มหาลัย แต่ปรากฏว่าผิดหวังค่ะ ก็เลยดรอปเรียนไป 1ปี ระหว่างหนึ่งปีที่ไม่ได้เรียนนั้น พี่แว่น ฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งทฤษฏีและปฏิบัติ ... และได้ทำงานตามผับ และ ร้านอาหารด้วย (เดี๋ยวจะแยกเป็นอีกกระทู้หนึ่งนะค่ะ เกี่ยวกับการแข่งขันดนตรีและมิตรภาพของเพื่อนนักดนตรี รอชมนะคะ อิอิ ) พี่แว่นทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเอง เราก็ทำนะ ใช่ว่าปิดเทอมแล้วจะอยู่เฉยเฉยยย ...
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการสอบตรงของ มหาลัยแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับทะเล (แหม่ ,, ไม่รู้เลยเนาะ 555 ) พี่แว่นได้ไปสอบกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เป็น มือกลอง ผลปรากฏว่าติดค่ะ !! เราก็ดีใจนะ ดีใจทั้งน้ำตาเลย ...
เมื่อรู้แล้วว่าพี่แว่นต้องไปอยู่ไกลกัน ก็ทำให้ใจหวั่นนะ .. ทั้งระยะทาง สังคมใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ อะไรใหม่ ๆ ที่แกจะหลงระเริง จนลืมเราหรือป่าว พี่แว่นจะมีผู้หญิงอื่นมั้ย .. ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะไม่มีเลยก็ตาม เป็นเด็กดีมาตลอดก็ตาม พี่แว่นจะลืมเรามั้ย พี่แว่นจะเหมือนเดิมหรือ่ปาว ... คิดไปต่างๆ นาๆเลยคะ กลัวมาก...
แต่ก็มีหลายคำพูดนะ ที่ทำให้เรามั่นใจว่า ... คนๆนี้แหละที่จะไม่ถึงเรา คนๆนี้แหละที่รักเราจริง ๆ มันอาจไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันให้ แต่ที่มีแน่ๆ คือความรู้สึกที่เราได้รับ มันดีมาก ๆเลย ... ถึงจะมีทะเลาะกันบ้างก็ตาม ... แต่ยังไง เราก็ยังให้อภัยกัน พร้อมที่จะเข้าใจกันเสมอคะ