http://iaumreview.com/2015/05/03/applewatch/
*ไม่อยากอ่าน อยากดูคลิป รับชมแบบ Full HD กันได้เลยค่า*
ตอนที่ 1 นาฬิกา โทรศัพท์ การแจ้งเตือน
ตอนที่ 2 การควบคุม แอพพลิเคชั่น แบตเตอรี่
ตอนที่ 3 ควรหรือไม่ควรซื้อกันแน่
รู้ยัง สั่ง Apple Watch ให้พิมพ์ไทยได้ ทำยังไง ไปชมเลย
*
*
*
เราจะตัดสินใจซื้อนาฬิกาสักเรือน จากอะไรกันบ้างคะ?
บางคน ซื้อไว้ดูเวลา
บางคน ซื้อเพื่อคุณค่าทางสังคม
บางคน ซื้อไว้เป็นเครื่องประดับ
แต่บางคน ... เห็นว่ามันคือการลงทุน
โจทย์ของ Apple คราวนี้สำหรับอุ้ม รู้สึกว่ามันยากกว่า Product Line ที่ผ่านๆมามาก เพราะเงินหมื่นกว่าบาทสำหรับคนเล่นนาฬิกา สามารถซื้อเรือนเริ่มต้นที่ไว้เก็บสะสม ผ่านไปอีกหลายปี ราคาก็ไม่ตกไปกว่านี้ได้ ในทางกลับกัน หากเราซื้อ Apple Watch สักเรือน แปลว่าต้องยอมรับให้ได้กับราคาขายในอนาคต และคงหนีไม่พ้นคำว่า "ตกรุ่น" เมื่อมี Apple Watch 2 ออกมาแน่ๆ
ตัวอุ้มเอง ก็ใส่ Apple Watch Sport เรือนนี้ ติดข้อมาได้เกือบสัปดาห์พอดี เลยได้โอกาสมาตอบคำถามที่คาใจหลายๆคน ก่อนที่จะซื้อใช้เอง พร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยค่า (ใครยังไม่ได้ชมตอนแกะกล่อง ลองเล่น ไปชมได้เลยที่
http://iaumreview.com/2015/04/28/applewatch-preview จ้า)
: นาฬิกา? :
ถ้าตัดเรื่องอื่นๆออกไป Apple Watch ถือเป็นนาฬิกาที่ดูดี และขึ้นข้ออยู่พอสมควรค่ะ ถึงรุ่นนี้จะเป็นตัวถูกสุดก็ตาม ด้วยน้ำหนักของมันที่เบามาก และสายเป็นแบบยาง ทำให้ใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน
ในเรื่องของการดูเวลา จุดนี้ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เพราะ Apple Watch มีความแม่นยำในการเดินของนาฬิกามาก และยิ่งเชื่อมต่อกับ iPhone แล้ว ก็จะสามารถทำงานเป็นนาฬิกาที่ฉลาดมากขึ้น ติดอยู่นิดนึงคือ หน้าปัดที่มีอยู่ตอนนี้ มันเชยเอาซะมากๆค่ะ แม้จะ Customize เองแค่ไหน เชื่อเถอะค่ะ ว่าคุณจะไม่ชอบมัน 100% แน่นอน คงต้องใช้หน้าปัดที่มีมาให้ไปก่อน รอการอัพเดทต่อไปค่ะ
และที่สำคัญ แม้ว่าเราจะไม่ได้เชื่อมต่อ Apple Watch กับ iPhone แต่นาฬิกาจะยังคงเดินต่อไปอย่างถูกต้องแม่นยำ จุดนี้สบายใจได้เลย รอดไป
: โทรศัพท์ได้มั้ย คุยได้เลยรึเปล่า? :
Apple Watch ถือว่าเป็น Smart Watch ที่ดึงความเป็น iPhone ออกมาได้ดี โดยเฉพาะเรื่องของโทรศัพท์ค่ะ เพียงกดปุ่มข้างๆ เราก็จะเจอกับหน้า Favorites ที่ตั้งไว้ใน iPhone ซึ่งเราสามารถกดโทรออก หรือส่งข้อความได้จากตรงนี้เลย และด้วยความที่มันมีลำโพงและไมโครโฟน ทำให้เราคุยโทรศัพท์ผ่าน Apple Watch ได้อย่างสบายๆ
ความฉลาดของมันคือ เมื่อมีคนโทรเข้ามา ถ้าเรากดปุ่มรับสายใน Apple Watch ก็แปลว่าเราอยากคุยผ่าน Apple Watch ซึ่งเสียงจะออกจากนาฬิกาเลย ถือว่าคุยกันรู้เรื่องค่ะ คู่สายได้ยินชัดเจนดี แต่เสียงออกลำโพง มันก็น่าเขินเนาะ 555
หากเรารับสายแล้ว อยากจะกลับไปคุยต่อบน iPhone แค่หยิบ iPhone มา แล้วแตะที่ไอคอน Phone สายสนทนา ก็จะกลับมาอยู่บนมือถือแล้วค่ะ ฉลาดมากๆทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากรับสายใน Apple Watch เพียงหมุน Digital Crown แล้วกด Answer on iPhone การแจ้งเตือนที่นาฬิกา ก็จะหยุดลง รอเราไปรับสายจากมือถือ ได้เลยค่า
: การแจ้งเตือน น่ารำคาญขนาดไหน? :
จุดนี้ ต้องยกนิ้วให้ Apple สองนิ้วเลยค่ะ เพราะมันทำได้ดีมาก ตอนที่อุ้มใช้ Smartwatch ตัวอื่นๆ สิ่งที่น่ารำคาญมากๆ คือการแจ้งเตือนแบบซ้ำซ้อน กดดูในมือถือก็แล้ว บนนาฬิกา ก็ยังแจ้งเตือนอยู่นั่น
สำหรับ Apple Watch แล้ว หากเราใช้มือถืออยู่ จะไม่มีการแจ้งเตือนเกิดขึ้นที่นาฬิกาเลยค่ะ ซึ่งตัดปัญหาการแจ้งเตือนซ้ำซ้อนไปได้เยอะ รวมถึงการตั้งค่า เปิด/ปิด การแจ้งเตือนจากแอพต่างๆ ที่ทำได้ดีค่ะ
แต่ก็ยังพบปัญหาบางอย่าง กับแอพที่เราต้องใช้งาน แต่ยังไม่ Support กับ Apple Watch เช่น Facebook / Inbox / Pages Manager ซึ่งเป็นสิ่งที่อุ้มใช้งานประจำ แต่ไม่แจ้งเตือน คงต้องรอต่อไปก่อนค่า
: ควบคุมยากมั้ย ชินรึยัง? :
ตอนนี้เริ่มชินแล้วค่ะ การควบคุมมีอยู่ไม่กี่อย่างคือ
1.Digital Crown เม็ดมะยม
- หมุนขึ้นลง เลื่อนดูนู่นนี่นั่น หรือย่อขยาย
- กดลง เข้าหน้ารวมแอพ
- กดอีกที กลับเข้าหน้านาฬิกา
- กดสองที เข้าแอพล่าสุดที่เปิดไว้
- กดค้าง เจอเจ้สิริ
2.ปุ่มข้างๆ
- กดลง เข้าหน้า Favorite
- กดค้าง ทำหน้าที่เหมือนปุ่ม Power
3.กดจอลงไป
- ดู Option อื่นๆเพิ่มเติม
4.แตะหน้าจอ
- ปลุก Apple Watch ให้ตื่น
5.ในหน้านาฬิกา
- เลื่อนนิ้วขึ้น เข้าหน้า Glances ดูแอพที่ตั้งไว้แบบไวๆ (ปิดเสียง Apple Watch ได้จาก Tab ซ้ายสุด)
- เลื่อนนิ้วลง ดู Notifications ที่ค้างไว้
- กดจอลงไป เลือกหน้าปัดใหม่ได้
6.ในหน้ารวมแอพ
- หมุนเม็ดมะยม ย่อขยายแอพต่างๆ เผื่อมองไม่เห็น
- กดแอพค้างไว้ เป็นการเลื่อนตำแหน่งแอพค่ะ แต่ทำในมือถือง่ายกว่าเยอะ
7. กด Digital Crown พร้อมปุ่มข้างๆ
- Screen Capture
8. เอาทั้งฝ่ามือปิดจอไว้
- ปิดหน้าจอทันที
เพียงเท่านี้ ก็ใช้ Apple Watch ได้สบายๆแล้วค่ะ (เยอะเหมือนกันนะเนี่ย 555)
: Siri ภาษาไทย ใช้ได้รึยัง? :
ไม่ได้จ้า ถ้าจะใช้ Siri กับ Apple Watch ต้องไปเลือกเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะคะ ไม่งั้นนางจะไม่คุยด้วย พอเลือกแล้ว กดเม็ดมะยมค้างไว้ นางก็จะถามว่าจะให้นางทำอะไร เราก็บอกนางไป ก็จะง่ายขึ้นเยอะตอนขับรถค่ะ
: มีแอพรองรับเยอะรึมั้ย? :
พูดถึงแอพแล้วมันน่าน้อยใจ มีแอพที่รองรับถึงวันนี้ ก็น่าจะ สี่พันกว่าแอพ ซึ่งถ้าเอาความจริงมาพูด ก็จะเหลือแอพที่เราได้ใช้งานจริงๆ ไม่ถึง 30 แอพค่ะ และถ้าพูดจริงๆอีก แอพจาก 3rd party ต่างๆ เช่น LINE / IG / Twitter มันยังเอ๋ออยู่มากค่ะ คือใช้ได้ แต่หน่วง ผิดกับแอพที่ติดเครื่องมา ที่จะมีความลื่นไหลกว่าเยอะทีเดียวค่ะ อย่าง LINE นี่ แจ้งเตือนทำได้ดีแล้วค่ะ แต่ถ้าจะเปิดข้อความขึ้นมาตอบ เปิด iPhone ยังน่าจะไวกว่า 555
: แบตหมดไวแค่ไหน? :
ยกเว้นวันแรก ที่คนมาขอดูเยอะมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีวันไหนต้องชาร์ตระหว่างวันอีกเลยค่ะ ตื่นเช้าดึงออกจากแท่นชาร์ต ยิงยาวได้หมดวัน สบายๆ ยิ่งถ้าเข้าสู่สภาวะปกติที่เลิกเห่อแล้ว แบตก็น่าจะอยู่ได้ยาวขึ้นอีก
ส่วนเรื่องต้องชาร์ตทุกวัน คือความจริงค่ะ แต่สำหรับอุ้ม ที่ไม่ได้ใส่นาฬิกาตอนนอน ก็วางบนแทนชาร์ตปกติ(ดีที่ไม่ต้องเสียบ) ไม่ได้ลำบากอะไร จะลำบากนิดหน่อยตอนไปเที่ยว ต้องพกที่ชาร์ตเพิ่มอีกอัน ซึ่งสายยาวมากกก
และคนที่กังวลว่า iPhone เปิด Bluetooth ตลอดเวลา จะกินแบตกว่าเดิมขนาดไหน ยืนยันว่า ไม่กินแบตเท่าไหร่นะคะ ใช้พลังงานน้อยมากๆ
: กันน้ำมั้ย แช่น้ำได้เปล่า? :
คำตอบคือ กันน้ำค่ะ แต่ไม่ได้รองรับการใส่ในน้ำ หรือเอาไปแช่น้ำ แต่ถ้าเราใส่ล้างมือ ตากฝน พวกนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ ใช้งานได้ปกติ ซึ่งจากคลิปที่เค้าเอาไปแช่น้ำ ถึงจะไม่พัง แต่ก็ไม่แนะนำนะคะ
: ต่อ Bluetooth Handset ควบคุมจากนาฬิกาได้มั้ย? :
อีกเรื่องที่หลายคนถามเข้ามา คือการใช้งานร่วมกับ Bluetooth Handset & Device ต่างๆ อุ้มเองก็ได้ใช้กับหูฟัง Bluetooth และต่อกับรถอุ้มค่ะ ผลปรากฎว่า แม้เราต่อ BT อยู่กับนาฬิกา เราก็ต่อ BT กับหูฟังได้ และสามารถ Control ผ่าน Apple Watch ได้เลยทันที ซึ่งเหมาะกับตอนไปขี่จักรยาน หรือออกกำลังกาย ใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนการเชื่อมต่อกับ Bluetooth ในรถยนต์ก็สามารถต่อได้ รวมทั้งควบคุม รับสาย โทรออกจาก Apple Watch ได้เช่นกันค่ะ
: ใช้งานจริงๆ เอาไว้ทำอะไรบ้าง? :
เจ็ดวันที่ใช้ชีวิตกับ Apple Watch สิ่งที่อุ้มทำกับมันมากที่สุดคือ
1.ดูเวลา แน่นอนละ มันเป็นนาฬิกา
2.แอบดู LINE & Email Notifications อันนี้มีประโยชน์มาก ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อยๆค่ะ ส่องจากใน Apple Watch อันไหนสำคัญค่อยตอบ
3.รอดูจำนวน Calories ที่ถูก Burn ในแต่ละวัน ผ่านแอพ Activity ที่จะแสดงจำนวน Step ที่เราเดินในแต่ละวัน และสั่งให้เรายืน เวลานั่งนานๆค่ะ สนุกดี
4.ดูสภาพอากาศ ว่าทำไมร้อนจัง มาเที่ยว ตจว. ฝนจะตกมั้ย
5.วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตอนกินแอลกอฮอล์
6.รับโทรศัพท์ และโทรออก
7.เช็ดหน้าจอ
8.ให้คนอื่นดู
9.ดูหน้ารวมแอพ เลื่อนไป เลื่อนมา
10.ใช้เป็นชัตเตอร์ กดถ่ายรูป
11.หาแอพที่รองรับ
12.ลบแอพออก เพราะมันค้าง
บอกแล้วค่ะ ว่าต่อไป ถ้าเลิกเห่อ แบตจะอยู่นานกว่านี้แน่นอน 555
: สำหรับอุ้ม คุ้มมั้ย? :
"ซื้อก็ดี ไม่มีก็ได้" คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามนี้ค่ะ สิ่งที่อุ้มชอบใน Apple Watch คือ
- สวยกว่าที่คิด อาจจะเพราะไม่ได้คาดหวังอะไร วัสดุที่ใช้ ดีสมกับเป็น Apple ค่ะ
- จอ Retina Display ชัดแจ่มแจ๋ว
- การเชื่อมต่อกับ iPhone ที่เสถียรมาก ตั้งแต่ใช้มา ยังไม่มีอาการหลุดกลางอากาศให้เห็นค่ะ (ตอนใช้ Cogito หลุดบ่อยมาก)
- ฉลาด ไม่แจ้งเตือนซ้ำซ้อนให้น่าหงุดหงิด
- พอถอดออกจากข้อมือ ต้องใส่ Passcode ถึงจะใช้งานได้ ป้องกันคนอื่นเอาไปใช้ดูข้อมูลในมือถือเราค่ะ
- Activate on Wrist Raise ทำงานได้ดี นอกจากตัวเรา(และคนที่ยืนอยู่หลังเรา) จะไม่เห็นสิ่งที่อยู่ใน Apple Watch ค่ะ
- รุ่น Sport น้ำหนักเบา ใส่สบาย
- ชาร์ตเต็มในสอง ชม.
- Haptic Feedback ทำได้ดี สั่นเล็กๆที่ข้อมือ แต่รู้เรื่องเกือบทุกครั้ง
แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่รอการพัฒนาต่อ เช่น
- แอพหลายแอพ มีอาการค้างหรือหน่วง
- แอพยังน้อยนัก
- หน้าปัดนาฬิกามีให้เลือกน้อยเกินไป(มากๆ)
- Siri ไม่รองรับภาษาไทย
- สายชาร์ตที่ใช้ร่วมกับ Apple Device อื่นๆไม่ได้
- ถ้านอน หรือเอนตัวอยู่ ระบบ Activate on Wrist Raise อาจจะเอ๋อไปบ้าง
ทั้งนี้ ยังมีบางอย่าง ที่อุ้มยังไม่ได้ลองนะคะ เช่นการส่งข้อความหา Apple Watch ด้วยกัน และ Apple Pay แต่โดยรวมแล้ว Apple Watch ก็เป็นหนึ่งใน Product Line ใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งรุ่นแรก อาจจะเป็นรุ่นที่ยังไม่สมบูรณ์นัก ทำให้นึกถึง iPhone Classic ตอนที่ออกมาใหม่ๆ นะคะ
หน้าจอ 38mm (ซึ่งพอดีกับข้อมืออุ้ม) อาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับหลายๆคน ถ้าอ่านเมลยาวๆ ก็จะยาวเฟื้อยลงมาด้านล่างเลยค่ะ ใครที่ข้อมือใหญ่กว่าอุ้ม 42mm ก็จะได้จอใหญ่ขึ้นมาอีกค่า
เอาเป็นว่า สำหรับอุ้ม ตอนนี้ราคาในไทย ยังแรง และแพงเกินไปสำหรับการใช้งาน Apple Watch ค่ะ และคิดว่า ราคารุ่น Apple Watch Sport มีความเหมาะสมกับการใช้งานสุดแล้ว รุ่นอื่นๆ อาจจะแพงไปหน่อยค่ะ ตอนนี้ ใครที่ซื้อมาใช้แล้ว ก็ขอให้สนุกกับการใช้งาน ได้ประโยชน์แน่นอนค่ะ แต่ถ้าอยากให้พร้อมกว่านี้ ก็อาจจะลองซื้อตัวเล็กสุด หรือข้ามตัวนี้ไปก่อน ย่อมได้เช่นกันค่ะ
บทความนี้ เป็นแค่หนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจเท่านั้นนะคะ อยากให้ลองเองก่อนซื้อค่ะ เพราะนาฬิกา มันเลือกอยากกว่ามือถือ จริงๆนะ ^^
[CR] [Full Review] รีวิว Apple Watch แบบไทยไทย : เกือบหนึ่งสัปดาห์ กับนาฬิกาจากแอปเปิ้ล
*ไม่อยากอ่าน อยากดูคลิป รับชมแบบ Full HD กันได้เลยค่า*
ตอนที่ 1 นาฬิกา โทรศัพท์ การแจ้งเตือน
ตอนที่ 2 การควบคุม แอพพลิเคชั่น แบตเตอรี่
ตอนที่ 3 ควรหรือไม่ควรซื้อกันแน่
รู้ยัง สั่ง Apple Watch ให้พิมพ์ไทยได้ ทำยังไง ไปชมเลย
*
*
*
เราจะตัดสินใจซื้อนาฬิกาสักเรือน จากอะไรกันบ้างคะ?
บางคน ซื้อไว้ดูเวลา
บางคน ซื้อเพื่อคุณค่าทางสังคม
บางคน ซื้อไว้เป็นเครื่องประดับ
แต่บางคน ... เห็นว่ามันคือการลงทุน
โจทย์ของ Apple คราวนี้สำหรับอุ้ม รู้สึกว่ามันยากกว่า Product Line ที่ผ่านๆมามาก เพราะเงินหมื่นกว่าบาทสำหรับคนเล่นนาฬิกา สามารถซื้อเรือนเริ่มต้นที่ไว้เก็บสะสม ผ่านไปอีกหลายปี ราคาก็ไม่ตกไปกว่านี้ได้ ในทางกลับกัน หากเราซื้อ Apple Watch สักเรือน แปลว่าต้องยอมรับให้ได้กับราคาขายในอนาคต และคงหนีไม่พ้นคำว่า "ตกรุ่น" เมื่อมี Apple Watch 2 ออกมาแน่ๆ
ตัวอุ้มเอง ก็ใส่ Apple Watch Sport เรือนนี้ ติดข้อมาได้เกือบสัปดาห์พอดี เลยได้โอกาสมาตอบคำถามที่คาใจหลายๆคน ก่อนที่จะซื้อใช้เอง พร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยค่า (ใครยังไม่ได้ชมตอนแกะกล่อง ลองเล่น ไปชมได้เลยที่ http://iaumreview.com/2015/04/28/applewatch-preview จ้า)
: นาฬิกา? :
ถ้าตัดเรื่องอื่นๆออกไป Apple Watch ถือเป็นนาฬิกาที่ดูดี และขึ้นข้ออยู่พอสมควรค่ะ ถึงรุ่นนี้จะเป็นตัวถูกสุดก็ตาม ด้วยน้ำหนักของมันที่เบามาก และสายเป็นแบบยาง ทำให้ใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน
ในเรื่องของการดูเวลา จุดนี้ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เพราะ Apple Watch มีความแม่นยำในการเดินของนาฬิกามาก และยิ่งเชื่อมต่อกับ iPhone แล้ว ก็จะสามารถทำงานเป็นนาฬิกาที่ฉลาดมากขึ้น ติดอยู่นิดนึงคือ หน้าปัดที่มีอยู่ตอนนี้ มันเชยเอาซะมากๆค่ะ แม้จะ Customize เองแค่ไหน เชื่อเถอะค่ะ ว่าคุณจะไม่ชอบมัน 100% แน่นอน คงต้องใช้หน้าปัดที่มีมาให้ไปก่อน รอการอัพเดทต่อไปค่ะ
และที่สำคัญ แม้ว่าเราจะไม่ได้เชื่อมต่อ Apple Watch กับ iPhone แต่นาฬิกาจะยังคงเดินต่อไปอย่างถูกต้องแม่นยำ จุดนี้สบายใจได้เลย รอดไป
: โทรศัพท์ได้มั้ย คุยได้เลยรึเปล่า? :
Apple Watch ถือว่าเป็น Smart Watch ที่ดึงความเป็น iPhone ออกมาได้ดี โดยเฉพาะเรื่องของโทรศัพท์ค่ะ เพียงกดปุ่มข้างๆ เราก็จะเจอกับหน้า Favorites ที่ตั้งไว้ใน iPhone ซึ่งเราสามารถกดโทรออก หรือส่งข้อความได้จากตรงนี้เลย และด้วยความที่มันมีลำโพงและไมโครโฟน ทำให้เราคุยโทรศัพท์ผ่าน Apple Watch ได้อย่างสบายๆ
ความฉลาดของมันคือ เมื่อมีคนโทรเข้ามา ถ้าเรากดปุ่มรับสายใน Apple Watch ก็แปลว่าเราอยากคุยผ่าน Apple Watch ซึ่งเสียงจะออกจากนาฬิกาเลย ถือว่าคุยกันรู้เรื่องค่ะ คู่สายได้ยินชัดเจนดี แต่เสียงออกลำโพง มันก็น่าเขินเนาะ 555
หากเรารับสายแล้ว อยากจะกลับไปคุยต่อบน iPhone แค่หยิบ iPhone มา แล้วแตะที่ไอคอน Phone สายสนทนา ก็จะกลับมาอยู่บนมือถือแล้วค่ะ ฉลาดมากๆทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากรับสายใน Apple Watch เพียงหมุน Digital Crown แล้วกด Answer on iPhone การแจ้งเตือนที่นาฬิกา ก็จะหยุดลง รอเราไปรับสายจากมือถือ ได้เลยค่า
: การแจ้งเตือน น่ารำคาญขนาดไหน? :
จุดนี้ ต้องยกนิ้วให้ Apple สองนิ้วเลยค่ะ เพราะมันทำได้ดีมาก ตอนที่อุ้มใช้ Smartwatch ตัวอื่นๆ สิ่งที่น่ารำคาญมากๆ คือการแจ้งเตือนแบบซ้ำซ้อน กดดูในมือถือก็แล้ว บนนาฬิกา ก็ยังแจ้งเตือนอยู่นั่น
สำหรับ Apple Watch แล้ว หากเราใช้มือถืออยู่ จะไม่มีการแจ้งเตือนเกิดขึ้นที่นาฬิกาเลยค่ะ ซึ่งตัดปัญหาการแจ้งเตือนซ้ำซ้อนไปได้เยอะ รวมถึงการตั้งค่า เปิด/ปิด การแจ้งเตือนจากแอพต่างๆ ที่ทำได้ดีค่ะ
แต่ก็ยังพบปัญหาบางอย่าง กับแอพที่เราต้องใช้งาน แต่ยังไม่ Support กับ Apple Watch เช่น Facebook / Inbox / Pages Manager ซึ่งเป็นสิ่งที่อุ้มใช้งานประจำ แต่ไม่แจ้งเตือน คงต้องรอต่อไปก่อนค่า
: ควบคุมยากมั้ย ชินรึยัง? :
ตอนนี้เริ่มชินแล้วค่ะ การควบคุมมีอยู่ไม่กี่อย่างคือ
1.Digital Crown เม็ดมะยม
- หมุนขึ้นลง เลื่อนดูนู่นนี่นั่น หรือย่อขยาย
- กดลง เข้าหน้ารวมแอพ
- กดอีกที กลับเข้าหน้านาฬิกา
- กดสองที เข้าแอพล่าสุดที่เปิดไว้
- กดค้าง เจอเจ้สิริ
2.ปุ่มข้างๆ
- กดลง เข้าหน้า Favorite
- กดค้าง ทำหน้าที่เหมือนปุ่ม Power
3.กดจอลงไป
- ดู Option อื่นๆเพิ่มเติม
4.แตะหน้าจอ
- ปลุก Apple Watch ให้ตื่น
5.ในหน้านาฬิกา
- เลื่อนนิ้วขึ้น เข้าหน้า Glances ดูแอพที่ตั้งไว้แบบไวๆ (ปิดเสียง Apple Watch ได้จาก Tab ซ้ายสุด)
- เลื่อนนิ้วลง ดู Notifications ที่ค้างไว้
- กดจอลงไป เลือกหน้าปัดใหม่ได้
6.ในหน้ารวมแอพ
- หมุนเม็ดมะยม ย่อขยายแอพต่างๆ เผื่อมองไม่เห็น
- กดแอพค้างไว้ เป็นการเลื่อนตำแหน่งแอพค่ะ แต่ทำในมือถือง่ายกว่าเยอะ
7. กด Digital Crown พร้อมปุ่มข้างๆ
- Screen Capture
8. เอาทั้งฝ่ามือปิดจอไว้
- ปิดหน้าจอทันที
เพียงเท่านี้ ก็ใช้ Apple Watch ได้สบายๆแล้วค่ะ (เยอะเหมือนกันนะเนี่ย 555)
: Siri ภาษาไทย ใช้ได้รึยัง? :
ไม่ได้จ้า ถ้าจะใช้ Siri กับ Apple Watch ต้องไปเลือกเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะคะ ไม่งั้นนางจะไม่คุยด้วย พอเลือกแล้ว กดเม็ดมะยมค้างไว้ นางก็จะถามว่าจะให้นางทำอะไร เราก็บอกนางไป ก็จะง่ายขึ้นเยอะตอนขับรถค่ะ
: มีแอพรองรับเยอะรึมั้ย? :
พูดถึงแอพแล้วมันน่าน้อยใจ มีแอพที่รองรับถึงวันนี้ ก็น่าจะ สี่พันกว่าแอพ ซึ่งถ้าเอาความจริงมาพูด ก็จะเหลือแอพที่เราได้ใช้งานจริงๆ ไม่ถึง 30 แอพค่ะ และถ้าพูดจริงๆอีก แอพจาก 3rd party ต่างๆ เช่น LINE / IG / Twitter มันยังเอ๋ออยู่มากค่ะ คือใช้ได้ แต่หน่วง ผิดกับแอพที่ติดเครื่องมา ที่จะมีความลื่นไหลกว่าเยอะทีเดียวค่ะ อย่าง LINE นี่ แจ้งเตือนทำได้ดีแล้วค่ะ แต่ถ้าจะเปิดข้อความขึ้นมาตอบ เปิด iPhone ยังน่าจะไวกว่า 555
: แบตหมดไวแค่ไหน? :
ยกเว้นวันแรก ที่คนมาขอดูเยอะมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีวันไหนต้องชาร์ตระหว่างวันอีกเลยค่ะ ตื่นเช้าดึงออกจากแท่นชาร์ต ยิงยาวได้หมดวัน สบายๆ ยิ่งถ้าเข้าสู่สภาวะปกติที่เลิกเห่อแล้ว แบตก็น่าจะอยู่ได้ยาวขึ้นอีก
ส่วนเรื่องต้องชาร์ตทุกวัน คือความจริงค่ะ แต่สำหรับอุ้ม ที่ไม่ได้ใส่นาฬิกาตอนนอน ก็วางบนแทนชาร์ตปกติ(ดีที่ไม่ต้องเสียบ) ไม่ได้ลำบากอะไร จะลำบากนิดหน่อยตอนไปเที่ยว ต้องพกที่ชาร์ตเพิ่มอีกอัน ซึ่งสายยาวมากกก
และคนที่กังวลว่า iPhone เปิด Bluetooth ตลอดเวลา จะกินแบตกว่าเดิมขนาดไหน ยืนยันว่า ไม่กินแบตเท่าไหร่นะคะ ใช้พลังงานน้อยมากๆ
: กันน้ำมั้ย แช่น้ำได้เปล่า? :
คำตอบคือ กันน้ำค่ะ แต่ไม่ได้รองรับการใส่ในน้ำ หรือเอาไปแช่น้ำ แต่ถ้าเราใส่ล้างมือ ตากฝน พวกนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ ใช้งานได้ปกติ ซึ่งจากคลิปที่เค้าเอาไปแช่น้ำ ถึงจะไม่พัง แต่ก็ไม่แนะนำนะคะ
: ต่อ Bluetooth Handset ควบคุมจากนาฬิกาได้มั้ย? :
อีกเรื่องที่หลายคนถามเข้ามา คือการใช้งานร่วมกับ Bluetooth Handset & Device ต่างๆ อุ้มเองก็ได้ใช้กับหูฟัง Bluetooth และต่อกับรถอุ้มค่ะ ผลปรากฎว่า แม้เราต่อ BT อยู่กับนาฬิกา เราก็ต่อ BT กับหูฟังได้ และสามารถ Control ผ่าน Apple Watch ได้เลยทันที ซึ่งเหมาะกับตอนไปขี่จักรยาน หรือออกกำลังกาย ใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนการเชื่อมต่อกับ Bluetooth ในรถยนต์ก็สามารถต่อได้ รวมทั้งควบคุม รับสาย โทรออกจาก Apple Watch ได้เช่นกันค่ะ
: ใช้งานจริงๆ เอาไว้ทำอะไรบ้าง? :
เจ็ดวันที่ใช้ชีวิตกับ Apple Watch สิ่งที่อุ้มทำกับมันมากที่สุดคือ
1.ดูเวลา แน่นอนละ มันเป็นนาฬิกา
2.แอบดู LINE & Email Notifications อันนี้มีประโยชน์มาก ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อยๆค่ะ ส่องจากใน Apple Watch อันไหนสำคัญค่อยตอบ
3.รอดูจำนวน Calories ที่ถูก Burn ในแต่ละวัน ผ่านแอพ Activity ที่จะแสดงจำนวน Step ที่เราเดินในแต่ละวัน และสั่งให้เรายืน เวลานั่งนานๆค่ะ สนุกดี
4.ดูสภาพอากาศ ว่าทำไมร้อนจัง มาเที่ยว ตจว. ฝนจะตกมั้ย
5.วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตอนกินแอลกอฮอล์
6.รับโทรศัพท์ และโทรออก
7.เช็ดหน้าจอ
8.ให้คนอื่นดู
9.ดูหน้ารวมแอพ เลื่อนไป เลื่อนมา
10.ใช้เป็นชัตเตอร์ กดถ่ายรูป
11.หาแอพที่รองรับ
12.ลบแอพออก เพราะมันค้าง
บอกแล้วค่ะ ว่าต่อไป ถ้าเลิกเห่อ แบตจะอยู่นานกว่านี้แน่นอน 555
: สำหรับอุ้ม คุ้มมั้ย? :
"ซื้อก็ดี ไม่มีก็ได้" คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามนี้ค่ะ สิ่งที่อุ้มชอบใน Apple Watch คือ
- สวยกว่าที่คิด อาจจะเพราะไม่ได้คาดหวังอะไร วัสดุที่ใช้ ดีสมกับเป็น Apple ค่ะ
- จอ Retina Display ชัดแจ่มแจ๋ว
- การเชื่อมต่อกับ iPhone ที่เสถียรมาก ตั้งแต่ใช้มา ยังไม่มีอาการหลุดกลางอากาศให้เห็นค่ะ (ตอนใช้ Cogito หลุดบ่อยมาก)
- ฉลาด ไม่แจ้งเตือนซ้ำซ้อนให้น่าหงุดหงิด
- พอถอดออกจากข้อมือ ต้องใส่ Passcode ถึงจะใช้งานได้ ป้องกันคนอื่นเอาไปใช้ดูข้อมูลในมือถือเราค่ะ
- Activate on Wrist Raise ทำงานได้ดี นอกจากตัวเรา(และคนที่ยืนอยู่หลังเรา) จะไม่เห็นสิ่งที่อยู่ใน Apple Watch ค่ะ
- รุ่น Sport น้ำหนักเบา ใส่สบาย
- ชาร์ตเต็มในสอง ชม.
- Haptic Feedback ทำได้ดี สั่นเล็กๆที่ข้อมือ แต่รู้เรื่องเกือบทุกครั้ง
แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่รอการพัฒนาต่อ เช่น
- แอพหลายแอพ มีอาการค้างหรือหน่วง
- แอพยังน้อยนัก
- หน้าปัดนาฬิกามีให้เลือกน้อยเกินไป(มากๆ)
- Siri ไม่รองรับภาษาไทย
- สายชาร์ตที่ใช้ร่วมกับ Apple Device อื่นๆไม่ได้
- ถ้านอน หรือเอนตัวอยู่ ระบบ Activate on Wrist Raise อาจจะเอ๋อไปบ้าง
ทั้งนี้ ยังมีบางอย่าง ที่อุ้มยังไม่ได้ลองนะคะ เช่นการส่งข้อความหา Apple Watch ด้วยกัน และ Apple Pay แต่โดยรวมแล้ว Apple Watch ก็เป็นหนึ่งใน Product Line ใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งรุ่นแรก อาจจะเป็นรุ่นที่ยังไม่สมบูรณ์นัก ทำให้นึกถึง iPhone Classic ตอนที่ออกมาใหม่ๆ นะคะ
หน้าจอ 38mm (ซึ่งพอดีกับข้อมืออุ้ม) อาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับหลายๆคน ถ้าอ่านเมลยาวๆ ก็จะยาวเฟื้อยลงมาด้านล่างเลยค่ะ ใครที่ข้อมือใหญ่กว่าอุ้ม 42mm ก็จะได้จอใหญ่ขึ้นมาอีกค่า
เอาเป็นว่า สำหรับอุ้ม ตอนนี้ราคาในไทย ยังแรง และแพงเกินไปสำหรับการใช้งาน Apple Watch ค่ะ และคิดว่า ราคารุ่น Apple Watch Sport มีความเหมาะสมกับการใช้งานสุดแล้ว รุ่นอื่นๆ อาจจะแพงไปหน่อยค่ะ ตอนนี้ ใครที่ซื้อมาใช้แล้ว ก็ขอให้สนุกกับการใช้งาน ได้ประโยชน์แน่นอนค่ะ แต่ถ้าอยากให้พร้อมกว่านี้ ก็อาจจะลองซื้อตัวเล็กสุด หรือข้ามตัวนี้ไปก่อน ย่อมได้เช่นกันค่ะ
บทความนี้ เป็นแค่หนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจเท่านั้นนะคะ อยากให้ลองเองก่อนซื้อค่ะ เพราะนาฬิกา มันเลือกอยากกว่ามือถือ จริงๆนะ ^^