คุณ อายุ 39 มีบุตร
ลองดูแนวทางตามนี้นะครับ
1.ประกันชีวิตเป็นการจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิด แก่ชีวิต สุขภาพ อุบัติเหตุ
   ไม่ใช่การออมเงิน หรือขังเงินไว้ในอัตราผลตอบแทนที่ต่ำในระยะยาว
    เข้าใจตรงกันก่อนนะครับ
2. คุณควรทำประกันชีวิต ในกรณีเสียชีวิตนะครับ
   ไม่ใช่การออมทรัพย์ เบี้ยจะถุกกว่าประมาณ ล้านละ 7000บาท
   ซึ่งควรทำให้ครอบคลุมกรณีคุณเสียชีวิต ไม่ได้แช่งนะครับ
   เพื่อคนข้างหลังจะได้ไม่ลำบาก
   ทุนประกันชีวิตเท่าไร ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีภาระ ทางครอบครัว
   คนข้างหลังที่ ต้องรับผิดชอบ เท่าไร
   เน้นนะครับ ประกันคุ้มครองชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
   แบบเบี้ยจ่ายทิ้ง ไม่ได้คืน สัญญาตั้งแต่ 10ปี เป็นต้นไป
  เอามาลดหย่อนภาษีได้
   
3.กรณีที่อยากทำประกันออมทรัพย์ยาวๆ 10-20ปี
   แนะนำให้เอาเงิน มาลงกองทุนดัชนี DCA ยาวๆ จะดีกว่านะครับ
   เช่นประกันแบบออมทรัพย์ ทุนล้านนึง จ่ายเบี้ยปีละ 25000บาท
   ก็ให้ใช้วิธี เอาเงินไปทำประกันชีวิต ตามข้อ 2.  ข้างต้น ประมาณ 7000บาท
  แล้วเอาเงินที่เหลือ ประมาณ 18000บาท
  มาลงกองทุน ดัชนี RMF  เดือนละ 1500บาท
  ซึ่ง 7000 บาท ก็ลดหย่อนภาษีได้
   RMF  ก็ลดหย่อนภาษีได้  แถมผลตอบแทนดีกว่าด้วยครับ

4.หลังจากทำประกันตามข้อ 2.  คือตัวประกันหลักแล้ว
   สามารถทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้
   น่าจะประมาณ ปีละ ไม่เกิน 15000บาท
   เอาแบบที่เหมาคุ้มครองครับ
   เช่นครอบคลุม 500000บาทเป็นต้น
   ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีไม่ได้นะครับ   

5. สุดท้ายอย่าลืมกรณี ประกันอุบัติเหตุ
   ถ้า อาชีพที่คุณทำ มีโอกาศประสบอุบัติเหตุ
   ล้านละประมาณ สามพันกว่าบาท

ุ6. สรุป  ประกันชีวิต ทุน ล้านนึง เบี้ยประมาณ 7000 บาท
           ประกันสุขภาพ แบบเหมาๆ ห้าแสน เบี้ยประมาณ 15000บาท
           ประกันอุบัติเหตุ  ล้านละ  เบี้ยะประมาณ  3000 กว่าบาท
           รวมเบ็ดเสร็จ  เงินเพื่อใช้ทำประกัน ประมาณ 25000-30000บาท ต่อปี

7. เงินเบี้ยะประกันต่อปี ไม่ควรเกิน 10% ของรายรับต่อปีนะครับ
    ทางที่ดี ประมาณ  5-6 %  ก็พอครับ  สำหรับการจัดการความเสี่ยง
    เพื่อนำเงินที่เหลือไปลงทุน ระยะยาว เพื่อการศึกษาบุตร
    และแผนการเกษียณของคุณ

    ขอให้โชคดีในการวางแผนประกัน แผนการเงิน แผนชีวิตนะครับ