และสิ่งที่คุณบอยโกสิยพงษ์เคยพยายามจะสื่อถึงและถูกรุมด่าจนคุณบอยต้องพักโซเชียล
ผมกำลังมองในประเด็นโซเชียลเน็ทเวิร์คป่วยๆ ที่เหมือนกับต้องการสร้างประเด็นที่ไม่มีข้อเท็จจริงและตั้งใจขยายความ
ให้มันวุ่นวายไปกันใหญ่... แค่อยากรู้ว่าต้องการอะไร???
ในอดีตมันคือ forward mail ชั่วๆนี่เอง
ผมเห็นว่าต้องแยกสองประเด็น
1.คดีทำร้ายร่างกาย
2.การที่สังคมโซเชียลป่วยๆขยายประเด็นสร้างความเกลียดชัง เพื่อ????
ประการแรกผมไม่ได้มองว่าเรื่องการทำร้ายร่างกายแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ไม่ได้แปลกใจ
ถ้าหากได้รับรู้ผลวิจัยอย่างเป็นทางการที่เคยผ่านสื่อกระแสหลักกันมาบ้าง เรื่องความรุนแรงในครอบครัวที่ไม่มีใครคิดจะแชร์หรือสนใจอะไรเลย
ซึ่งถ้าใช้คีย์เวิร์ดหางานวิจัยเหล่านี้ คงหาได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจสักเท่าไหร่ต่อให้ออกมากี่ฉบับหรือออกข่าวไปสักกี่รอบ
แต่พอมันเป็นคลิปกลับเหมือนเป็นการดูฟุตบอลถ่ายทอดสดที่รู้สึกว่าได้อารมณ์มากกว่าต้องลุ้นต้องเฮกันด่าทอกันสนุกสนาน เมื่อเทียบกับการดูเทปฟุตบอลซึ่งเปรียบได้กับผมวิจัยผ่านสื่อกระแสหลักซึ่งแม้จะมีผลเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ....
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่ประเด็นที่มาตั้งกระทู้นี้และผมรู้สึกที่ต้องใช้คำว่าเลวเลยกลับไม่ใช่เรื่องนายเอทำร้ายผู้หญิง
แต่มันคือสิ่งที่สื่อโซเชียลกำลังใช้ปั่นกระแส คือคำว่า "ลูกตำรวจ" ซึ่งคำนี้แหละที่น่าจะเป็นคำที่ทำให้เรื่องนี้มันดังมากมายในชั่วข้ามคืน
จากประเด็นที่ผมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ไอคำนี้มันมาจากคำพูดของคนที่ถ่ายคลิปวิดีโอ(แต่ไม่ได้คิดจะห้ามปรามใดๆ)แค่นั้นเอง
คำว่า "ลูกตำรวจ" มันไม่ได้มาจากปากนายเอ นายเอไม่เคยกล่าวอ้างคำนี้ใดๆทั้งสิ้น แม้แต่เฟสบุ๊คและสเตัสเฟสบุ๊คที่มีการกล่าวอ้างถ้อยคำนี้
โดยอ้างว่าเป็นเฟสบุ๊คของนายเอ ก็เป็นเหมือนเฟสดัก kwaai ล้วนๆ ไม่ใช่เฟสของนายเอใดๆทั้งสิ้น อ่าวไปกันใหญ่แล้วโซเชียล
ผลที่ตามมาคืออะไร คนไม่ได้โฟกัสที่เรื่องการทำร้ายร่างกาย แต่กลายเป็นว่ามีการพาดพิงพ่อที่เป็นตำรวจไปสะงั้น
เพราะเชื่อแล้วว่านายเอมีการกล่าวอ้างเช่นนั้นจริงๆ และสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมานี้คนสร้างทำได้ผลดีด้วย ตอนนี้วุ่นวายมากๆและแก้ไขเรื่องเท็จข้อนี้ไม่ได้แล้ว
ถึงขั้นที่ว่ามีการละลาบละล้วง ไปเอารูปพ่อนายเอที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย มาโพสด่ากันด้วยอาชีพอะไรต่อมิอะไรเสียหายวุ่นวายไปหมดเป็นวงกว้าง ....
ตรรกะแบบนี้ ต่อไปต้องเอาอาชีพพ่อของบุคคลนั้นมาโจมตีด้วยหรือ???????????????????? ลูกครู ลูกทหาร ลูกกรรมกรก่อสร้าง ลูกแม่ค้าขายผัก
จะลูกใครมันก็เลวด้วยกันหมดแหละครับ นี่ต้องกลับไปถามมั้ยว่านายเกมส์ที่ฆ๋าข่มขืนน้องแก้มพ่อแม่ทำอาชีพอะไร??? จะได้เอากลับมาด่า
สรุปประเด็นคือนายเอไม่เคยอ้างความเป็นลูกเต้าเหล่าใครหรือพ่อทำอาชีพใดๆทั้งนั้น แต่ทำไมสื่อโซเชียลเน็ทเวิร์คกลับมีการสร้างประเด็นเหล่านี้
และทำไมประเด็นโกหกเหล่านี้ต้นทางมันจะมาจากโซเชียลเน็ทเวิร์คที่ขาดความรับผิดชอบ เช่นเพจ Youlike HappyPhone Mbk เพจข่าวอินเตอร์เน็ทเช่น kapook sanook Mthai และทำให้เรื่องโกหกมันกระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำไม??? เพราะเพจข่าวสองเพจใช้แคปชั่นข่าวว่า ชายที่อ้างว่าเป็นลูกตำรวจบลาๆๆ ไปกันใหญ่
ผมเห็นหลายครั้งหลายครามากที่สื่อโซเชียลพวกนี้ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆแม้แต่นิดเดียว คิดจะลงอะไรก็ลงโดยอ้างแค่ว่าเขาส่งมาให้ จะตัดคลิป ใส่ภาพ ใส่แคปชั่นอะไรตามใจโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเลย คอมเม้นต์ลูกเพจก็ลงรูปอะไรต่อมิอะไรที่ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอะไรทั้งนั้น มีการทำให้คนเสียหายจากการเอารูปมาแชร์ต่อๆกันเป็นจำนวนมาก สุดท้ายอ้างแค่ว่าเขาส่งมาให้และก็นั่นแหละการดำเนินคดีดำเนินการไปก็แค่นั้น เพราะมันกระจายเต็มไปหมดแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว
มันทำให้นึกถึงที่คุณและสิ่งที่คุณบอยโกสิยพงษ์ เคยพยายามจะสื่อถึงเรื่องโซเชียลเน็ทเวิร์ค ที่มันทำให้มองได้ว่ากลายเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้มีการกล่าวหามีการสร้างถ้อยคำรุนแรงโจมตีอย่างรุนแรงอยู่ในระดับที่ควบคุมไม่ได้ ปราศจากข้อเท็จจริง และยิ่งใช้กับคนไทยบางกลุ่มที่เห็นๆด้วยแล้วมันยิ่งทำให้วุ่นวายมากมายเหลือเกิน
สุดท้ายผมมองว่าสื่อโซเชียลพวกนี้เลวกว่านายเอเสียอีก เพราะที่เห็นการสร้างเรื่องเท็จเหล่านี้ที่ผ่านมามันมีหลายเรื่องราวมาก อยากถามความเห็นว่า ทำไมมันเป็นแบบนี้ สื่อกระแสหลักที่ว่ามีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเขายังพลาดได้และเขาก็ยังแก้ได้ แต่สื่อโซเชียลสร้างความวิบัติในวงกว้างโดยไม่มีใครจำกัดสิ่งเหล่านี้ได้เลย จนผมมองว่าสื่อโซเชียลพวกนี้กลายเป็นสังคมป่วยๆไปแล้ว แล้วท่านๆหล่ะคิดเห็นวาอย่างไร...
เรื่องนายเอ...ทำร้ายผู้หญิง ตอนนี้ผมไม่ได้มองเรื่องทำร้ายร่างกาย แต่ผมมองเรื่องโซเชียลป่วยๆ และสิ่งที่คุณบอยโกสิยพงษ์
ผมกำลังมองในประเด็นโซเชียลเน็ทเวิร์คป่วยๆ ที่เหมือนกับต้องการสร้างประเด็นที่ไม่มีข้อเท็จจริงและตั้งใจขยายความ
ให้มันวุ่นวายไปกันใหญ่... แค่อยากรู้ว่าต้องการอะไร???
ในอดีตมันคือ forward mail ชั่วๆนี่เอง
ผมเห็นว่าต้องแยกสองประเด็น
1.คดีทำร้ายร่างกาย
2.การที่สังคมโซเชียลป่วยๆขยายประเด็นสร้างความเกลียดชัง เพื่อ????
ประการแรกผมไม่ได้มองว่าเรื่องการทำร้ายร่างกายแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ไม่ได้แปลกใจ
ถ้าหากได้รับรู้ผลวิจัยอย่างเป็นทางการที่เคยผ่านสื่อกระแสหลักกันมาบ้าง เรื่องความรุนแรงในครอบครัวที่ไม่มีใครคิดจะแชร์หรือสนใจอะไรเลย
ซึ่งถ้าใช้คีย์เวิร์ดหางานวิจัยเหล่านี้ คงหาได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจสักเท่าไหร่ต่อให้ออกมากี่ฉบับหรือออกข่าวไปสักกี่รอบ
แต่พอมันเป็นคลิปกลับเหมือนเป็นการดูฟุตบอลถ่ายทอดสดที่รู้สึกว่าได้อารมณ์มากกว่าต้องลุ้นต้องเฮกันด่าทอกันสนุกสนาน เมื่อเทียบกับการดูเทปฟุตบอลซึ่งเปรียบได้กับผมวิจัยผ่านสื่อกระแสหลักซึ่งแม้จะมีผลเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ....
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่ประเด็นที่มาตั้งกระทู้นี้และผมรู้สึกที่ต้องใช้คำว่าเลวเลยกลับไม่ใช่เรื่องนายเอทำร้ายผู้หญิง
แต่มันคือสิ่งที่สื่อโซเชียลกำลังใช้ปั่นกระแส คือคำว่า "ลูกตำรวจ" ซึ่งคำนี้แหละที่น่าจะเป็นคำที่ทำให้เรื่องนี้มันดังมากมายในชั่วข้ามคืน
จากประเด็นที่ผมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ไอคำนี้มันมาจากคำพูดของคนที่ถ่ายคลิปวิดีโอ(แต่ไม่ได้คิดจะห้ามปรามใดๆ)แค่นั้นเอง
คำว่า "ลูกตำรวจ" มันไม่ได้มาจากปากนายเอ นายเอไม่เคยกล่าวอ้างคำนี้ใดๆทั้งสิ้น แม้แต่เฟสบุ๊คและสเตัสเฟสบุ๊คที่มีการกล่าวอ้างถ้อยคำนี้
โดยอ้างว่าเป็นเฟสบุ๊คของนายเอ ก็เป็นเหมือนเฟสดัก kwaai ล้วนๆ ไม่ใช่เฟสของนายเอใดๆทั้งสิ้น อ่าวไปกันใหญ่แล้วโซเชียล
ผลที่ตามมาคืออะไร คนไม่ได้โฟกัสที่เรื่องการทำร้ายร่างกาย แต่กลายเป็นว่ามีการพาดพิงพ่อที่เป็นตำรวจไปสะงั้น
เพราะเชื่อแล้วว่านายเอมีการกล่าวอ้างเช่นนั้นจริงๆ และสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมานี้คนสร้างทำได้ผลดีด้วย ตอนนี้วุ่นวายมากๆและแก้ไขเรื่องเท็จข้อนี้ไม่ได้แล้ว
ถึงขั้นที่ว่ามีการละลาบละล้วง ไปเอารูปพ่อนายเอที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย มาโพสด่ากันด้วยอาชีพอะไรต่อมิอะไรเสียหายวุ่นวายไปหมดเป็นวงกว้าง ....
ตรรกะแบบนี้ ต่อไปต้องเอาอาชีพพ่อของบุคคลนั้นมาโจมตีด้วยหรือ???????????????????? ลูกครู ลูกทหาร ลูกกรรมกรก่อสร้าง ลูกแม่ค้าขายผัก
จะลูกใครมันก็เลวด้วยกันหมดแหละครับ นี่ต้องกลับไปถามมั้ยว่านายเกมส์ที่ฆ๋าข่มขืนน้องแก้มพ่อแม่ทำอาชีพอะไร??? จะได้เอากลับมาด่า
สรุปประเด็นคือนายเอไม่เคยอ้างความเป็นลูกเต้าเหล่าใครหรือพ่อทำอาชีพใดๆทั้งนั้น แต่ทำไมสื่อโซเชียลเน็ทเวิร์คกลับมีการสร้างประเด็นเหล่านี้
และทำไมประเด็นโกหกเหล่านี้ต้นทางมันจะมาจากโซเชียลเน็ทเวิร์คที่ขาดความรับผิดชอบ เช่นเพจ Youlike HappyPhone Mbk เพจข่าวอินเตอร์เน็ทเช่น kapook sanook Mthai และทำให้เรื่องโกหกมันกระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำไม??? เพราะเพจข่าวสองเพจใช้แคปชั่นข่าวว่า ชายที่อ้างว่าเป็นลูกตำรวจบลาๆๆ ไปกันใหญ่
ผมเห็นหลายครั้งหลายครามากที่สื่อโซเชียลพวกนี้ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆแม้แต่นิดเดียว คิดจะลงอะไรก็ลงโดยอ้างแค่ว่าเขาส่งมาให้ จะตัดคลิป ใส่ภาพ ใส่แคปชั่นอะไรตามใจโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเลย คอมเม้นต์ลูกเพจก็ลงรูปอะไรต่อมิอะไรที่ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอะไรทั้งนั้น มีการทำให้คนเสียหายจากการเอารูปมาแชร์ต่อๆกันเป็นจำนวนมาก สุดท้ายอ้างแค่ว่าเขาส่งมาให้และก็นั่นแหละการดำเนินคดีดำเนินการไปก็แค่นั้น เพราะมันกระจายเต็มไปหมดแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว
มันทำให้นึกถึงที่คุณและสิ่งที่คุณบอยโกสิยพงษ์ เคยพยายามจะสื่อถึงเรื่องโซเชียลเน็ทเวิร์ค ที่มันทำให้มองได้ว่ากลายเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้มีการกล่าวหามีการสร้างถ้อยคำรุนแรงโจมตีอย่างรุนแรงอยู่ในระดับที่ควบคุมไม่ได้ ปราศจากข้อเท็จจริง และยิ่งใช้กับคนไทยบางกลุ่มที่เห็นๆด้วยแล้วมันยิ่งทำให้วุ่นวายมากมายเหลือเกิน
สุดท้ายผมมองว่าสื่อโซเชียลพวกนี้เลวกว่านายเอเสียอีก เพราะที่เห็นการสร้างเรื่องเท็จเหล่านี้ที่ผ่านมามันมีหลายเรื่องราวมาก อยากถามความเห็นว่า ทำไมมันเป็นแบบนี้ สื่อกระแสหลักที่ว่ามีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเขายังพลาดได้และเขาก็ยังแก้ได้ แต่สื่อโซเชียลสร้างความวิบัติในวงกว้างโดยไม่มีใครจำกัดสิ่งเหล่านี้ได้เลย จนผมมองว่าสื่อโซเชียลพวกนี้กลายเป็นสังคมป่วยๆไปแล้ว แล้วท่านๆหล่ะคิดเห็นวาอย่างไร...