คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
พี่เข้าใจครับ ตอนจะเรียนจบพี่ก็พยายามหางานบริษัทมาอยู่พักนึงเหมือนกัน ความเห็นส่วนตัวของพี่นะ ลองมองเป็นประเด็นๆไปดู
เรื่องความมั่นคง
ลึกๆน้องกลัวว่างานของน้องจะไม่มั่นคงเลยอยากจับงานบริษัทไปด้วยรึเปล่า ถ้าน้องคิดว่าน้องทำแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ ยังไงก็มีลู่ทางชัดเจนอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าน้องมองว่าเดี๋ยวปีหน้าเศรษฐกิจตกต่ำ งานไม่มีเข้ามา ลูกค้าหายอยากจะจับงานประจำไว้เป็นไม้สำรองก็เอาไว้คุยกันต่อ
เรื่องฐานะทางสังคม
น้องต้องเข้าใจก่อนว่างาน freelance ก็มีสังคมไม่ต่างจากงานประจำ ถ้าน้องทำ freelance แล้วไม่มีสังคมเลยก็คงไม่มีใครมารู้จักจ้างงานน้อง สังคมน้องก็จะรู้จักกับคนที่ทำงานในบริษัทต่างๆ แต่ถ้าทำงานประจำ สังคมน้องก็จะกลายเป็นกลุ่มลูกจ้างในบริษัทแห่งหนึ่ง
เรื่อง connection
connection ของ freelance นั้นรู้จักตั้งแต่คนรับงานไปจนถึงเจ้าของบริษัท แต่ connection ของงานประจำนั้นเรื่องตำแหน่งจะเป็นประเด็นที่สำคัญมาก และคนที่ตำแหน่งสูงกว่าน้องนั้นน้อยคนมากๆที่จะคุยกับน้องโดยไม่นึกถึงเรื่องหัวโขนตำแหน่ง มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและทุกสังคมมีการรแบ่งชนชั้นในกลุ่มครับ
สรุปแล้วในภาพรวม freelance เป็นงานที่ดูไม่มีความมั่นคงสูง แต่คนที่ทำงาน freelance ได้มั่นคงก็มี ปีนี้น้องอาจจะหางานได้เฉลี่ยเดือนละแสนกว่า ปีหน้าอาจจะได้ 3 แสนหรือเป็นล้านก็ได้ แต่ก็อาจจะเหลืองานเล็กๆน้อยๆไม่กี่หมื่นก็ได้เหมือนกัน อยู่ที่ตัวน้องเองด้วยครับว่าจะใช้ชีวิตยังไง เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ ถ้ายังได้ไม่พอก็จงขนขวายต่อไป
เรื่องความมั่นคง
ลึกๆน้องกลัวว่างานของน้องจะไม่มั่นคงเลยอยากจับงานบริษัทไปด้วยรึเปล่า ถ้าน้องคิดว่าน้องทำแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ ยังไงก็มีลู่ทางชัดเจนอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าน้องมองว่าเดี๋ยวปีหน้าเศรษฐกิจตกต่ำ งานไม่มีเข้ามา ลูกค้าหายอยากจะจับงานประจำไว้เป็นไม้สำรองก็เอาไว้คุยกันต่อ
เรื่องฐานะทางสังคม
น้องต้องเข้าใจก่อนว่างาน freelance ก็มีสังคมไม่ต่างจากงานประจำ ถ้าน้องทำ freelance แล้วไม่มีสังคมเลยก็คงไม่มีใครมารู้จักจ้างงานน้อง สังคมน้องก็จะรู้จักกับคนที่ทำงานในบริษัทต่างๆ แต่ถ้าทำงานประจำ สังคมน้องก็จะกลายเป็นกลุ่มลูกจ้างในบริษัทแห่งหนึ่ง
เรื่อง connection
connection ของ freelance นั้นรู้จักตั้งแต่คนรับงานไปจนถึงเจ้าของบริษัท แต่ connection ของงานประจำนั้นเรื่องตำแหน่งจะเป็นประเด็นที่สำคัญมาก และคนที่ตำแหน่งสูงกว่าน้องนั้นน้อยคนมากๆที่จะคุยกับน้องโดยไม่นึกถึงเรื่องหัวโขนตำแหน่ง มนุษย์เป็นสัตว์สังคมและทุกสังคมมีการรแบ่งชนชั้นในกลุ่มครับ
สรุปแล้วในภาพรวม freelance เป็นงานที่ดูไม่มีความมั่นคงสูง แต่คนที่ทำงาน freelance ได้มั่นคงก็มี ปีนี้น้องอาจจะหางานได้เฉลี่ยเดือนละแสนกว่า ปีหน้าอาจจะได้ 3 แสนหรือเป็นล้านก็ได้ แต่ก็อาจจะเหลืองานเล็กๆน้อยๆไม่กี่หมื่นก็ได้เหมือนกัน อยู่ที่ตัวน้องเองด้วยครับว่าจะใช้ชีวิตยังไง เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ ถ้ายังได้ไม่พอก็จงขนขวายต่อไป
แสดงความคิดเห็น
ควรเลือกอ่ะไร ระหว่างเป็น freelance กับพนักงานบริษัท
ผมกำลังจะจบการศึกษาปริญญาตรีครับ
อยากชั่งน้ำหนักเพื่อเลือกระหว่างการทำ freelance หรือเป็นพนักงานบริษัท
ตอนนี้ผมเรียน ปี 4 และในเวลาเดียวกันก็ทำงาน freelance รับเขียน iOS App ให้บริษัทต่างๆได้เดือนละ 100,000+
ไม่นานมานี้ผมได้ไปสมัครงานบริษัทนึง มีบริษัทแม่ที่ประเทศ Australia เค้าสนใจที่จะรับผมโดย start เงินเดือนที่ 55,000 บาท
ผมเคยได้ไปฝึกงานที่ประเทศอังกฤษมาครับ แต่ผมคิดว่าความรู้สึกน่าจะแตกต่างจากบริษัทในประเทศไทยมาก
รุ่นพี่รุ่นน้องผมแนะนำให้ผมทำงานประจำก่อน เพื่อจะได้ประสบการณ์การทำงานเป็นทีม และเพื่อจะได้ connection ด้วย ในส่วนนี้ผมเห็นด้วยกับรุ่นพี่รุ่นน้องผมครับ
เพื่อนผมแนะนำว่าทำ freelance ก็ได้เจอผู้บริหารของบริษัทหลายๆแห่ง ซึ่งได้ connection เหมือนกัน ในส่วนนี้ผมเห็นด้วยเช่นกัน
ผมมีคำถามว่าถ้าทำบริษัทในระยะยาวอาจจะมีหน้ามีตาในสังคมมากกว่าการเป็น freelance ที่ทำงานคนเดียวหรือเปล่า
แต่อีกใจนึงคือคิดว่าเรื่องรายได้ ถ้าเป็น freelance จะได้เยอะกว่าแน่นอน
ผมอยากถามครับว่า ถ้าผมเลือกเป็นพนักงานบริษัท ปกติแล้วเค้าใช้งานหนักไหมครับ?
เช่น นอกจากเราจะต้องทำงานแล้ว เค้าจะต้องให้เราสอนคนอื่นอีกหรือไม่ เงินเดือนที่เค้าให้เท่านี้ เค้าจะใช้งานหนักมากแต่ไหนครับ?
มีสิทที่ผมจะต้องแบกงานไปทำที่บ้าน และจะไม่สามารถรับงาน freelance ได้อีกเลยหรือไม่ครับ?
ผมควรทำอย่างไรดีครับ
ผมอยากได้รับมุมมองของพี่ๆหลายๆคนที่เคยทำงานมาแล้วในระยะนึงครับ
ขอบคุณมากๆครับ