รีวิวคอนเสิร์ต Anime Idol Asia วันนี้ครับ
อะแฮ่ม เนื่องจากว่าผมก็ไม่ค่อยสันทัดกับการตั้งกระทู้รีวิวในพันดริฟท์สักเท่าไหร่
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด หรือทำให้ผู้ใดเดือดร้อน ก็กราบขอโทษมาล่วงหน้า ณ ที่นี่ไว้ก่อนด้วยครับ
เรื่องเริ่มต้นมาจากว่าสุดสัปดาห์นี้ ประเทศกรุงเทพเรากำลังจะมีงานอนิเมใหญ่ 2 งานจัดชนกันเลยนั่นก็คือ
Anime Festival Asia + Bangkok Comic Con และ Thailand Comic Con + Anime Idol Asia
(ชื่อมันฟังคล้ายๆกันอ่านแล้วอาจจะงงๆตอนแรก)
ซึ่งในแต่ละงานก็เป็นงานผูกกัน มีคอนเสิร์ต ของทาง AFA ก็จะมีศิลปินสาย อนิเมต่างๆมากมายมา ไม่ว่าจะเป็น Fripside, Kalafina, Flow, Mayn เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนนี่ ถ้าสำหรับคออนิเมแล้วก็คงจัดว่าเป็นงานรวมศิลปินระดับ Top tier เลยทีเดียว แต่ค่าตั๋วก็ระเบิดตามๆกันไปที่ราคาตั๋ววันละ 3700 บาท
ส่วนผมซึ่งเป็นคนทุนน้อยอยากจะไปแอ่วคอนเสิร์ตกับเขาบ้างก็เลยเลือกสูตรประหยัดมาสาย TCC แทนครับ ที่ราคา 500 บาทเท่านั้น
ซึ่งในคอนเสิร์ตของ TCC+AIA นั้น ศิลปินที่มาก็ได้แก่
Yuuki Aira - ที่มีผลงานสร้างชื่อตอนเดบิวท์ คือ Colorless Wind ในอนิเมเรื่อง Sola นอกจากนั้นก็ยังมีงานอื่นๆจากอนิเมอย่าง Gundam Age เป็นต้น
DISH// - เจ้าของเพลง I can hear เพลงปิดของ Naruto นอกจากนั้นวงนี้ยังเป็นวงน้องชายของ Momoiro ด้วย
Yumemiru - ที่พักหลังๆได้โคงานกับประเทศไทยบ่อยมาก ซึ่งผมรู้จักมาจาก Rider Gaim และเพลง Mawaru Sekai
และสุดท้ายคือ Itano Tomomi - อดีตสมาชิก AKB48 ผู้ออกมาโซโล่เดบิวต์เองในภายหลัง เจ้าของเพลงแด้นซ์ทำนองสนุกๆอย่าง Dear J
คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตแบบยืนเต็มๆ 3 ชั่วโมงกว่า โดยศิลปินแต่ละกรุ๊ปจะมีโควต้าเพลงของตัวเองคนละประมาณ 6 เพลง + ทอล์คนิดหน่อย
การลำดับศิลปินในงานนี้ เรียกว่าทำได้ดีมากครับ ความสนุกของคอนเสิร์ตค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับเลยทีเดียว
เริ่มมาจากการเปิดตัว ยูกิ ไอระ ที่เริ่มต้นด้วยการร้องเพลง Colorless Wind เลยครับ ชวนให้ผมนึกถึงสมัยยังเป็นเด็กนั่งติดการ์ตูนงอมแงมขึ้นมาซะงั้น จนต้องไปหาเพลงกลับมาเปิดฟังเลยทีเดียว ระลึกความหวัง 7 ปีก่อนได้ดีมากๆ ก่อนจะตามมาด้วยเพลงอื่นๆที่ผมไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่เพราะเลิกมาสายคอเพลงการ์ตูนนานแล้ว
ตามด้วย DISH// ที่เต้นกันมันส์สุดๆสมกับที่ได้ชื่อว่า เป็นวงน้องชาย momoiro เต้นได้ไม่แพ้วงพี่สาวเลยครับ ที่สำคัญคือ เต้นกันหนักขนาดนั้นเสียงหอบ เสียงหายใจไม่มีแทรกหลุดเข้ามาในไมค์เลย อึดมากยอมรับในฝีมือเลย ติดอย่างเดียวคือ ผมไม่ใช่คอเพลงวงนี้มาก่อน ผมมาคอนเสิร์ตนี้เพราะอยากมาดูโทโมะจินฆ่าเวลาเล่นๆเฉยๆ เลยไม่ค่อยจะรู้ว่าเค้าร้องเพลงอะไรกัน กลายเป็นว่าผ่านไป 6 เพลง ผมรู้สึกเหมือนฟังเพลงเดียวกันเลย
ต่อไปคือ Yumemiru ครับ วงนี้ผมเห็นมาตั้งแต่ TCC ปีก่อนแล้ว ยอมรับว่าไม่ได้ติดตามวงนี้เท่าไหร่เหมือนกัน แต่โอตะ(แฟนคลับ)วงนี้แต่ละคนค่อนข้างคิโม่ย(ทำตัวค่อนข้างน่าขยะแขยงในความหมายที่น่ารัก)นิดหน่อย ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปใกล้โซนของวงนี้สักเท่าไหร่ เพราะหวาดผวาโอตะของวงนี้ครับ รอบนี้ได้เห็นวงนี้แสดงสดเต็มๆครั้งนึงในชีวิต รู้สึกว่าคุ้มค่าที่มาดู คาริน หัวหน้าวงเสียงเล็กๆน่ารัก ดูกระปรี้กระเปร่ามาก, อาการิ ที่คอยเล่นหูเล่นตากับแฟนๆตลอดบ่งบอกถึงความตั้งใจอย่างเต็มที่ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คิดว่าแฟนๆ 5 สาวนี้ก็คงจะฟินๆกันไป
ตามด้วยท้ายสุดคือ อิตาโนะ โทโมมิ งานนี้ผมบอกเลยว่า ผมมานี่เพราะอยากดูโทโมะจินคนเดียวเลย ด้วยดีกรีที่ว่าเคยเป็นแบ็คแดนเซอร์ให้กับวงแด้นซ์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง Exile มาก่อน และยังเป็นอดีต AKB48 ยุคแรกอีกด้วย ความคาดหวังผมก็เลยสูงตามๆกันไป เมื่อมาถึง โทโมะจิน ก็เปิดด้วยเพลงสร้างชื่อเพลงแรกกับ Dear J เลยครับ ก่อนจะต่อด้วย 1% เรื่องเสียงร้องนั้นผมว่าโทโมะจินไม่ได้อยู่ในระดับนักร้องเสียงคุณภาพอยู่แล้ว แต่พอเต้นเท่านั้นแหละครับ ทำเอาวงอื่นๆดูเต้นเป็นหางเครื่องในบัดดล (ถ้าไม่นับ DISH// นะครับ) แบบว่าเต้นได้เร้าใจมาก เล่นเอาคนไปชมคอนเสิร์ทหลายๆคนมองกันตาไม่กระพริบ เรียกว่าช่วยให้ผมหายคิดถึงโทโมะจินไปเลยหลังจากที่ไม่ได้เห็นในคอนเสิร์ตมาเป็นเวลาปีกว่าแล้วนับตั้งแต่วันที่ออกจาก AKB48 ฟินจริงๆครับ
ถึงแม้ศิลปินหลายๆคนอาจจะยังไม่ใช่ top tier แบบงาน AFA แต่ตั๋วมูลค่า 500 บาทนั้นสำหรับผมแล้วถือว่าไม่แพงเลย สัก 900-1000 ผมก็ยอมจ่ายให้ได้กับงานนี้ครับ เพราะสำหรับผมนั้น คิดว่าเป็นคอนเสิร์ตที่คุ้มค่ากับมูลค่าของบัตรมากครับ
ในเรื่องของตัวศิลปินแล้ว ศิลปินทุกคนที่ได้รับเชิญมางานนี้ ถึงแฟนๆที่มาชมคอนเสิร์ตจะไม่มากนัก เหมือนเป็นแค่ไล้ฟ์อีเว้นต์เล็กๆ แต่ก็แสดงกันอย่างเต็มที่ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกแบบว่าน้อยใจหรือผิดหวังแต่อย่างใด ทุกคนมีสปิริต และมีความเป็นมืออาชีพ สูงจริงๆครับ
ในส่วนพื้นที่ด้านในคนค่อนข้างว่างพอสมควรมีที่ให้ขยับขยายแอเรียได้สะดวก ไม่แออัดครับ ทำให้อรรถรส
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณทีมงาน TCC+AIA ที่จัดคอนเสิร์ตดีๆแบบนี้ในราคาถูกมาให้แฟนๆคอเพลงญี่ปุ่น/ไอดอลทั้งหลายได้ชมกันแบบไม่กลัวขาดทุนในยุคที่ศิลปินเกาหลีครองประเทศไทยอยู่ขณะนี้ ถ้าหากมี Bluray, DVD คอนเสิร์ตทำออกมาขายในภายหลังก็พร้อมที่จะสนับสนุนครับ
แม้เสียงของผมจะเป็นเสียงเล็กๆเพียงหนึ่งเสียงแต่ก็ขอเป็นเสียงเล็กๆที่จะคอยสนับสนุนและคอยเชียร์ทีมงานทุกท่านที่จัดงานดีๆแบบนี้อยู่ตลอดไปครับ
เอาล่ะตอนนี้มาถึงข้อวิจารณ์ในงานกันบ้าง อันนี้ผมก็มีคอมเม้นท์นิดหน่อยที่อยากฝากถึงทีมงานเหมือนกันเพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุง
1. ในคอนเสิร์ต บนสเตจ เครื่องเสียงมีเสียงค่อนข้างซ่าๆ มีการเล่นไฟบนสเตจแบบไม่ค่อยเกรงใจคนดูนิดหน่อยยิงไฟเข้าตาหลายครั้งจนมองเวทีไม่ค่อยเห็น
2. ในช่วงการแสดงไล้ฟ์ของโทโมะจินนั้น มีดราม่ากลางงานเกิดขึ้น ที่น่าจะเกี่ยวกับการแอบถ่า หรือบันทึกภาพในคอนเสิร์ท ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งโวยวาย รบกวนผู้อื่นหนวกหูมากครับ แต่สต้าฟกลับไม่จัดการอะไรให้มันเด็ดขาด สุดท้ายก็ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นโวยวายจนจบ ไม่มีบทลงโทษหรืออะไรทั้งสิ้น
อันนี้ทำให้เห็นเลยว่าการทำงานของสต้าฟไม่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ใดๆในการจัดการเลย...ซึ่งความจริงแล้วคนที่ก่อความวุ่นวายในคอนเสิร์ตตามหลักสากลทั่วไป มักจะต้องโดนหิ้วปีกออกไปโดยด่วนเพื่อไม่ให้ผู้ชมคนอื่นเสียอรรถรสนะครับ...
3. กลุ่มคนเชียร์ที่เอาแท่งไฟมาแล้วยืนๆกระโดดๆอยู่ด้านหน้าเวทีทุกท่านครับ อยากฝากหน่อยว่า ผมเป็นคนตัวเตี้ยคนนึง พอพวกคุณกระโดดแล้วผมมองอะไรไม่เห็นทั้งนั้นแหละ คุณจะยกมือมาแกว่งแท่งไฟเพื่อจะพัฒนาวิชาชีพของพวกคุณให้เป็นวาทยากรในอนาคตผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ แต่รบกวนช่วยคิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังด้วยครับ เกรงใจกันบ้าง ผมเข้าใจว่าพวกคุณอยากเชียร์ยูเมะมิรุของคุณนะ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีวิธีการแสดงออกที่ดีกว่าวิธีนี้ ซึ่งจะไม่รบกวนคนมาดูคอนเสิร์ตคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนข้างหน้าผมนี่สูงราวๆ 180 ชูแท่งไฟสีฟ้าทำมือเป็นวาทยากร ออกท่าเหมือนเรียนเวทย์มนตร์มาจากฮอกวอตต์แล้วกระโดดเหยงๆบ้าง แกว่งไม้กายสิทธิ์บ้าง ผมนี่มองไปเห็นแต่แขนเค้าอ่ะครับ
อยากให้ช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาตรงนี้หน่อยครับ เพราะผมในฐานะผู้ชมเข้าไปทักก็จะกลายเป็นเรื่องซะเปล่าๆ....
4. ล่ามแปลภาษาจัดหาคนมาได้ดีครับ ทักษะการพูดคุย คล่องมาก เข้าใจง่าย แต่น่าจะทำการบ้านมาเยอะกว่านี้หน่อย คือ อย่างน้อยที่สุดก็ตรวจสอบชื่อเพลงบ้าง ข้อมูลของนักร้องบ้างก็ดีครับ เห็นบางทีแปลไม่ออกเพราะมัวแต่ไปคิดคำแปลชื่อเพลงอยู่หลายหน แล้วมันไปกระทบกับประโยคถัดๆไปที่เค้าพูด ทำให้แปลไม่ทัน/แปลผิดๆถูกๆ ไปซะอย่างนั้น จนศิลปินถึงกับต้องบอกล่ามว่า "พยายามเข้า"
เรื่องที่จะรีวิวก็มีแค่นี้แหละครับ ขอบคุณที่รับฟังผมพล่ามมาซะยืดยาวนะครับ
[CR] รีวิวคอนเสิร์ต Anime Idol Asia 30/04/2015
อะแฮ่ม เนื่องจากว่าผมก็ไม่ค่อยสันทัดกับการตั้งกระทู้รีวิวในพันดริฟท์สักเท่าไหร่
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด หรือทำให้ผู้ใดเดือดร้อน ก็กราบขอโทษมาล่วงหน้า ณ ที่นี่ไว้ก่อนด้วยครับ
เรื่องเริ่มต้นมาจากว่าสุดสัปดาห์นี้ ประเทศกรุงเทพเรากำลังจะมีงานอนิเมใหญ่ 2 งานจัดชนกันเลยนั่นก็คือ
Anime Festival Asia + Bangkok Comic Con และ Thailand Comic Con + Anime Idol Asia
(ชื่อมันฟังคล้ายๆกันอ่านแล้วอาจจะงงๆตอนแรก)
ซึ่งในแต่ละงานก็เป็นงานผูกกัน มีคอนเสิร์ต ของทาง AFA ก็จะมีศิลปินสาย อนิเมต่างๆมากมายมา ไม่ว่าจะเป็น Fripside, Kalafina, Flow, Mayn เป็นต้น ซึ่งแต่ละคนนี่ ถ้าสำหรับคออนิเมแล้วก็คงจัดว่าเป็นงานรวมศิลปินระดับ Top tier เลยทีเดียว แต่ค่าตั๋วก็ระเบิดตามๆกันไปที่ราคาตั๋ววันละ 3700 บาท
ส่วนผมซึ่งเป็นคนทุนน้อยอยากจะไปแอ่วคอนเสิร์ตกับเขาบ้างก็เลยเลือกสูตรประหยัดมาสาย TCC แทนครับ ที่ราคา 500 บาทเท่านั้น
ซึ่งในคอนเสิร์ตของ TCC+AIA นั้น ศิลปินที่มาก็ได้แก่
Yuuki Aira - ที่มีผลงานสร้างชื่อตอนเดบิวท์ คือ Colorless Wind ในอนิเมเรื่อง Sola นอกจากนั้นก็ยังมีงานอื่นๆจากอนิเมอย่าง Gundam Age เป็นต้น
DISH// - เจ้าของเพลง I can hear เพลงปิดของ Naruto นอกจากนั้นวงนี้ยังเป็นวงน้องชายของ Momoiro ด้วย
Yumemiru - ที่พักหลังๆได้โคงานกับประเทศไทยบ่อยมาก ซึ่งผมรู้จักมาจาก Rider Gaim และเพลง Mawaru Sekai
และสุดท้ายคือ Itano Tomomi - อดีตสมาชิก AKB48 ผู้ออกมาโซโล่เดบิวต์เองในภายหลัง เจ้าของเพลงแด้นซ์ทำนองสนุกๆอย่าง Dear J
คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตแบบยืนเต็มๆ 3 ชั่วโมงกว่า โดยศิลปินแต่ละกรุ๊ปจะมีโควต้าเพลงของตัวเองคนละประมาณ 6 เพลง + ทอล์คนิดหน่อย
การลำดับศิลปินในงานนี้ เรียกว่าทำได้ดีมากครับ ความสนุกของคอนเสิร์ตค่อยๆเพิ่มขึ้นตามลำดับเลยทีเดียว
เริ่มมาจากการเปิดตัว ยูกิ ไอระ ที่เริ่มต้นด้วยการร้องเพลง Colorless Wind เลยครับ ชวนให้ผมนึกถึงสมัยยังเป็นเด็กนั่งติดการ์ตูนงอมแงมขึ้นมาซะงั้น จนต้องไปหาเพลงกลับมาเปิดฟังเลยทีเดียว ระลึกความหวัง 7 ปีก่อนได้ดีมากๆ ก่อนจะตามมาด้วยเพลงอื่นๆที่ผมไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่เพราะเลิกมาสายคอเพลงการ์ตูนนานแล้ว
ตามด้วย DISH// ที่เต้นกันมันส์สุดๆสมกับที่ได้ชื่อว่า เป็นวงน้องชาย momoiro เต้นได้ไม่แพ้วงพี่สาวเลยครับ ที่สำคัญคือ เต้นกันหนักขนาดนั้นเสียงหอบ เสียงหายใจไม่มีแทรกหลุดเข้ามาในไมค์เลย อึดมากยอมรับในฝีมือเลย ติดอย่างเดียวคือ ผมไม่ใช่คอเพลงวงนี้มาก่อน ผมมาคอนเสิร์ตนี้เพราะอยากมาดูโทโมะจินฆ่าเวลาเล่นๆเฉยๆ เลยไม่ค่อยจะรู้ว่าเค้าร้องเพลงอะไรกัน กลายเป็นว่าผ่านไป 6 เพลง ผมรู้สึกเหมือนฟังเพลงเดียวกันเลย
ต่อไปคือ Yumemiru ครับ วงนี้ผมเห็นมาตั้งแต่ TCC ปีก่อนแล้ว ยอมรับว่าไม่ได้ติดตามวงนี้เท่าไหร่เหมือนกัน แต่โอตะ(แฟนคลับ)วงนี้แต่ละคนค่อนข้างคิโม่ย(ทำตัวค่อนข้างน่าขยะแขยงในความหมายที่น่ารัก)นิดหน่อย ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปใกล้โซนของวงนี้สักเท่าไหร่ เพราะหวาดผวาโอตะของวงนี้ครับ รอบนี้ได้เห็นวงนี้แสดงสดเต็มๆครั้งนึงในชีวิต รู้สึกว่าคุ้มค่าที่มาดู คาริน หัวหน้าวงเสียงเล็กๆน่ารัก ดูกระปรี้กระเปร่ามาก, อาการิ ที่คอยเล่นหูเล่นตากับแฟนๆตลอดบ่งบอกถึงความตั้งใจอย่างเต็มที่ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ คิดว่าแฟนๆ 5 สาวนี้ก็คงจะฟินๆกันไป
ตามด้วยท้ายสุดคือ อิตาโนะ โทโมมิ งานนี้ผมบอกเลยว่า ผมมานี่เพราะอยากดูโทโมะจินคนเดียวเลย ด้วยดีกรีที่ว่าเคยเป็นแบ็คแดนเซอร์ให้กับวงแด้นซ์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง Exile มาก่อน และยังเป็นอดีต AKB48 ยุคแรกอีกด้วย ความคาดหวังผมก็เลยสูงตามๆกันไป เมื่อมาถึง โทโมะจิน ก็เปิดด้วยเพลงสร้างชื่อเพลงแรกกับ Dear J เลยครับ ก่อนจะต่อด้วย 1% เรื่องเสียงร้องนั้นผมว่าโทโมะจินไม่ได้อยู่ในระดับนักร้องเสียงคุณภาพอยู่แล้ว แต่พอเต้นเท่านั้นแหละครับ ทำเอาวงอื่นๆดูเต้นเป็นหางเครื่องในบัดดล (ถ้าไม่นับ DISH// นะครับ) แบบว่าเต้นได้เร้าใจมาก เล่นเอาคนไปชมคอนเสิร์ทหลายๆคนมองกันตาไม่กระพริบ เรียกว่าช่วยให้ผมหายคิดถึงโทโมะจินไปเลยหลังจากที่ไม่ได้เห็นในคอนเสิร์ตมาเป็นเวลาปีกว่าแล้วนับตั้งแต่วันที่ออกจาก AKB48 ฟินจริงๆครับ
ถึงแม้ศิลปินหลายๆคนอาจจะยังไม่ใช่ top tier แบบงาน AFA แต่ตั๋วมูลค่า 500 บาทนั้นสำหรับผมแล้วถือว่าไม่แพงเลย สัก 900-1000 ผมก็ยอมจ่ายให้ได้กับงานนี้ครับ เพราะสำหรับผมนั้น คิดว่าเป็นคอนเสิร์ตที่คุ้มค่ากับมูลค่าของบัตรมากครับ
ในเรื่องของตัวศิลปินแล้ว ศิลปินทุกคนที่ได้รับเชิญมางานนี้ ถึงแฟนๆที่มาชมคอนเสิร์ตจะไม่มากนัก เหมือนเป็นแค่ไล้ฟ์อีเว้นต์เล็กๆ แต่ก็แสดงกันอย่างเต็มที่ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกแบบว่าน้อยใจหรือผิดหวังแต่อย่างใด ทุกคนมีสปิริต และมีความเป็นมืออาชีพ สูงจริงๆครับ
ในส่วนพื้นที่ด้านในคนค่อนข้างว่างพอสมควรมีที่ให้ขยับขยายแอเรียได้สะดวก ไม่แออัดครับ ทำให้อรรถรส
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณทีมงาน TCC+AIA ที่จัดคอนเสิร์ตดีๆแบบนี้ในราคาถูกมาให้แฟนๆคอเพลงญี่ปุ่น/ไอดอลทั้งหลายได้ชมกันแบบไม่กลัวขาดทุนในยุคที่ศิลปินเกาหลีครองประเทศไทยอยู่ขณะนี้ ถ้าหากมี Bluray, DVD คอนเสิร์ตทำออกมาขายในภายหลังก็พร้อมที่จะสนับสนุนครับ
แม้เสียงของผมจะเป็นเสียงเล็กๆเพียงหนึ่งเสียงแต่ก็ขอเป็นเสียงเล็กๆที่จะคอยสนับสนุนและคอยเชียร์ทีมงานทุกท่านที่จัดงานดีๆแบบนี้อยู่ตลอดไปครับ
เอาล่ะตอนนี้มาถึงข้อวิจารณ์ในงานกันบ้าง อันนี้ผมก็มีคอมเม้นท์นิดหน่อยที่อยากฝากถึงทีมงานเหมือนกันเพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุง
1. ในคอนเสิร์ต บนสเตจ เครื่องเสียงมีเสียงค่อนข้างซ่าๆ มีการเล่นไฟบนสเตจแบบไม่ค่อยเกรงใจคนดูนิดหน่อยยิงไฟเข้าตาหลายครั้งจนมองเวทีไม่ค่อยเห็น
2. ในช่วงการแสดงไล้ฟ์ของโทโมะจินนั้น มีดราม่ากลางงานเกิดขึ้น ที่น่าจะเกี่ยวกับการแอบถ่า หรือบันทึกภาพในคอนเสิร์ท ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งโวยวาย รบกวนผู้อื่นหนวกหูมากครับ แต่สต้าฟกลับไม่จัดการอะไรให้มันเด็ดขาด สุดท้ายก็ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นโวยวายจนจบ ไม่มีบทลงโทษหรืออะไรทั้งสิ้น
อันนี้ทำให้เห็นเลยว่าการทำงานของสต้าฟไม่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ใดๆในการจัดการเลย...ซึ่งความจริงแล้วคนที่ก่อความวุ่นวายในคอนเสิร์ตตามหลักสากลทั่วไป มักจะต้องโดนหิ้วปีกออกไปโดยด่วนเพื่อไม่ให้ผู้ชมคนอื่นเสียอรรถรสนะครับ...
3. กลุ่มคนเชียร์ที่เอาแท่งไฟมาแล้วยืนๆกระโดดๆอยู่ด้านหน้าเวทีทุกท่านครับ อยากฝากหน่อยว่า ผมเป็นคนตัวเตี้ยคนนึง พอพวกคุณกระโดดแล้วผมมองอะไรไม่เห็นทั้งนั้นแหละ คุณจะยกมือมาแกว่งแท่งไฟเพื่อจะพัฒนาวิชาชีพของพวกคุณให้เป็นวาทยากรในอนาคตผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ แต่รบกวนช่วยคิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังด้วยครับ เกรงใจกันบ้าง ผมเข้าใจว่าพวกคุณอยากเชียร์ยูเมะมิรุของคุณนะ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีวิธีการแสดงออกที่ดีกว่าวิธีนี้ ซึ่งจะไม่รบกวนคนมาดูคอนเสิร์ตคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนข้างหน้าผมนี่สูงราวๆ 180 ชูแท่งไฟสีฟ้าทำมือเป็นวาทยากร ออกท่าเหมือนเรียนเวทย์มนตร์มาจากฮอกวอตต์แล้วกระโดดเหยงๆบ้าง แกว่งไม้กายสิทธิ์บ้าง ผมนี่มองไปเห็นแต่แขนเค้าอ่ะครับ
อยากให้ช่วยคิดวิธีแก้ปัญหาตรงนี้หน่อยครับ เพราะผมในฐานะผู้ชมเข้าไปทักก็จะกลายเป็นเรื่องซะเปล่าๆ....
4. ล่ามแปลภาษาจัดหาคนมาได้ดีครับ ทักษะการพูดคุย คล่องมาก เข้าใจง่าย แต่น่าจะทำการบ้านมาเยอะกว่านี้หน่อย คือ อย่างน้อยที่สุดก็ตรวจสอบชื่อเพลงบ้าง ข้อมูลของนักร้องบ้างก็ดีครับ เห็นบางทีแปลไม่ออกเพราะมัวแต่ไปคิดคำแปลชื่อเพลงอยู่หลายหน แล้วมันไปกระทบกับประโยคถัดๆไปที่เค้าพูด ทำให้แปลไม่ทัน/แปลผิดๆถูกๆ ไปซะอย่างนั้น จนศิลปินถึงกับต้องบอกล่ามว่า "พยายามเข้า"
เรื่องที่จะรีวิวก็มีแค่นี้แหละครับ ขอบคุณที่รับฟังผมพล่ามมาซะยืดยาวนะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น