สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้บีมมาพร้อมกับ ฮาวทู แต่งหน้ารับปริญญา ซึ่งบีมเคยทำไว้แล้วเมื่อประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว เลยกลับมาทำใหม่ค่ะ
โดยครั้งนี้บีมจะแต่งง่ายๆไม่เยอะ แบบที่ทุกคนสามารถแต่งตามได้จริงๆ ขั้นตอนไม่เยอะมากมาย และอุปกรณ์ก็ไม่เยอะมาก
นอกจากจะเป็นลุครับปริญญาแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการแต่งหน้าทำงานได้สบายๆ

งั้นเรามาดูลุค Finish กันดีกว่า



ดูไม่เยอะ ตาเบาๆ แต่จัดจ้านที่สีปากค่ะ

งั้นเรามาเริ่มด้วย คสอ. และอุปกรณ์ต่างๆในขั้นแรก คือ การเตรียมผิว



1.NIVEA Sun Protect & White Super Serum SPF50

2.Yves Saint Laurent Fusion Ink Foundation

3.Make Up Store Cover All Mix



นี่คือสภาพหน้าศพ เอ้ยสด 55555



เริ่มด้วยขั้นตอนการทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดนี้ถือว่าสำคัญมาก ถ้าเลือกอันดีๆจะทำให้เมคอัพเราไหลเยิ้ม หรือเกิดการอุดตัน หรือกันแดดไม่ได้ประสิทธิ์ภาพ

ดังนั้นเราควรเลือกครีมกันแดดที่เป็นเนื้อเบาๆทาแล้วซึมเข้าสู่ผิวและที่สำคัญต้องไม่แพ้ด้วยนะคะ ไม่ใช่ซื้อใช้ใหม่วันงานเลย

ถ้าเกิดสิวเห่อแพ้มาจะเสียเซลฟ์มากๆ แนะนำว่าซื้อมาลองเทสก่อนสัก 1 สัปดาห์

อ่อแล้วกันแดดที่ดีไม่ควรทิ้งคราบขาวหรือที่ทาแล้วหน้าวอก และไม่ทิ้งคราบน้ำมันไว้ ไม่งั้นรองพื้นนี่เยิ้มเละเป็นคราบ 100%



มาถึงรองพื้น รองพื้นที่บีมใช้ในวันนี้คือ Ysl Fusion Ink

สาเหตุที่เลือก Ysl Fusion Ink คือ รองพื้นตัวนี้เกลี่ยง่ายมาก เกลี่ยแล้วเป็นผิว ไม่ให้ความหนา เพราะถ้าเราลงรองพื้นเนื้อหนาๆแล้วเจอ

สภาพอากาศทั้งร้อน ทั้งแดด หรือถ้าโชคร้ายหนักๆก็เจอพายุฝนด้วย รับรองเลยว่าหน้าเป็นคราบเหมือนกับชามลายครามกันเลยทีเดียว

ดังนั้นควรเลิกที่จะลงรองพื้นหนาๆ ป้องกันไว้จะดีกว่านะคะ



ปกปิดเฉพาะจุดด้วย คอนซีลเลอร์

ครั้งนี้บีมใช้ Cover All Mix ของ Make up store ด้วยที่เนื้อค่อนข้างเกลี่ยง่าย ไม่ค่อยทิ้งคราบ(แต่อาจจะมีตกร่องบริเวณใต้ตาบ้างเล็กน้อย)

ค่อนข้างทนทาน บีมแนะนำว่าให้ลงสีชมพู(ส้ม)บริเวณที่เป็นจุดดำหรือหมองคล้ำใต้ตา แล้วค่อยๆเกลี่ย

การเกลี่ยบีมใช้ฟองน้ำค่อยๆเบลนด์ให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกับผิว แล้วค่อยใช้นิ้วมือย้ำอีกทีเพราะความร้อนที่นิ้วมือเราจะช่วยให้ คอนซีลเลอร์เซ็ทตัวได้ดีและกลืนไปกับผิวด้วยค่ะ



หลังจากลงคอนซีลเลอร์แล้วบีมจะลงคอนซีลเลอร์สีเนื้อทับคอนซีลเลอร์ที่เพิ่งลงไปเมื่อกี้

เพื่อเบลนด์ให้สีเนียนกับสีผิวเราขั้นตอนการลงและการเกลี่ยเหมือนเดิมและบีมใช้คอนซีลเลอร์สีอ่อนสุดคือสีเหลืองมาเป็นไฮไลต์บริเวณทีโซนด้วยค่ะ

ขั้นตอนเกี่ยวกับสีตาและคิ้ว



1.REVOLUTION (MUR)
2.TER MASTERPIECE 3D EYEBROW TATTOO WATERPROOF
3. NYX eye shadow base
4.cybershadow make up store สี meteor
5.eyedust make up store สี pinky
6.eyedust make up store สี sand
7.mistine liner so black
8.meilinda eyeliner pencil
9.กาวติดขนตา D.U.P
10.ZA mascara



1.ลง NYX eyeshadow base ทั้งเปลือกตา

2.ทา cybershadow ของ make up store สี meteor(สีประมาณทองอมเหลืองมีชิมเมอร์) ทั่วเปลือกตา

3.ลงสีน้ำตาลอมชมพูคัดเบ้า

4.ลงสีน้ำตาลเข้มบริเวณหางตาเป็นตัววีตะแครง



5.ลง eyedust สี pinky ที่กลางเปลือกตา หรือใช้พิกเมนท์ทากลางเปลือกตา

6.เขียน eyeliner ดินสอที่โคนขนตาด้านในเพื่อเติมเต็มให้ช่องระหว่างขนตา

7.กรีด eyeliner เส้นเล็กๆ และไม่ควรลากหางแคทอายยาวชี้ขึ้นจนไปประจบกับคิ้วเด็ดขาด เพราะเวลาเหงื่อออกเราซับออก ส่วนหางนี่แหละจะหลุดก่อนแถมยังจะดูไม่ค่อยสวยงาม ดังนั้นบีมแนะนำว่าไม่ต้องวิงค์หางดีสุดฮะ ใช้eyedustสีsandทาที่หัวตาและใช้ eyeshadowสีดำเบลนด์ที่หางตา

8.เขียนคิ้วโดยครั้งนี้บีมใช้ TER แบบ แทททูน้ำ เพราะค่อนข้างติดทนทั้งวันแถมยังได้ลุคเหมือนปัดมาสคาร่าคิ้วในตัวด้วย



ปัดมาสคาร่า และติดขนตา

(ในบางมหาวิทยาลัยห้ามติดขนตา ดังนั้นเราก็ทำตามกฎเถอะค่ะ อย่าไปฝืนเลย ถ้าตรวจเจอแล้วโดนดึงนี่สุดๆเลยนะ eyelinerแหว่งไม่งามด้วย)



ขนตาครั้งนี้บีมใช้เบอร์เบาๆดูธรรมชาติไม่เยอะและไม่ยาว ติดแล้วดูเหมือนขนตาเราจริงๆดูฟูสวยงาม

มาที่ขั้นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ



1.แป้งศรีจันทร์ ทรานลูเซนต์
2.jordana pressed powder
3.L'oreal blush
4.mistine joops color rich
5.HER lip&cheek สี01
6.THeBlam marry lou



แก้มบีมใช้ HER ลงแทนการใช้ครีมบลัชค่ะ เพราะตัวนี้ติดทนกว่า



เกลี่ยโดยใช้นิ้วมือค่อยๆเบลนด์สีให้กลืนและเนียนกับผิว เพื่อความติดทนของสีแก้มนะฮะ



การคอนทัวร์ บีมใช้ Jordana Pressed powder สีWarm caramel #12 เพราะจริงๆแล้วตัวนี้เป็นแป้งเอาไว้ทาปกตินี่แหละค่ะ

แต่ด้วยที่เนื้อเค้าละเอียดมากๆและสีน้ำตาลสวย(สวยกว่าบรอนเซอร์ทั่วไป) บีมเลยเอามาคอนทัวร์เลย 555555 แต่ใช้ดีจริงๆนะคะ

ทั้งด้วยเรื่องสีที่เป็นสีน้ำตาลนวลๆ(ดูจากภาพได้เลย)และยังติดทนอีกด้วย



ใช้บลัชเนื้อฝุ่นสีชมพูปัดทับอีกครั้งและปัดแป้ง โดยแป้งบีมขอเลือกเป็นแป้งทรานลูเซนต์ของศรีจันทร์ฮะ เพราะเนื้อแป้งละเอียด ควบคุมความมันดี

ปัดแป้งตัวนี้แล้วไม่ต้องกลัวหน้าหนาเป็นคราบเลยค่ะ จริงๆบีมไม่แนะนำใช้แป้งผสมรองพื้นทาทับและไม่ควรลงแป้งหนาๆด้วย

ไม่งั้นมันจะ crack แตกน่ากลียดมากๆเลยฮะ และสุดท้ายปัดไฮไลต์ที่สันจมูก (บีมปัดแค่นี้ค่ะ เพราะหน้าบีมมันไม่อยากปัดให้หน้ามันเงาไปกว่านี้ 55555)



ทาปาก เก็บรายละเอียดด้วยคอนซีลเลอร์รอบๆขอบปากและเบลนด์ ตามด้วยไฮไลต์ที่หยักบนปาก(เรียกไม่ถูก) เรียบร้อยแล้วค่ะ ฟินิชลุค



ทริคเล็กๆน้อยๆเพิ่มเติม

ระหว่างวันบีมเชื่อว่าทุกคนต้องหน้าเยิ้มมัน เหงื่อออก แป้งหลุด บลาๆ และอยากให้หน้าเฟรชเหมือนเดิมไม่ยากเลยฮะ ทารองพื้นทับไปเลย !!!!

ค่ะใช่แล้วอ่านไม่ผิดหรอก ใช้รองพื้นทาทับได้เลย แต่!!!!! รองพื้นที่จะทาทับนั้น ต้องเป็น Ysl Fusion Ink เท่านั้น

ถ้าตัวอื่นอาจจะเละหนักมาก เพราะรองพื้นของ Ysl Fusion Ink สามารถเป็นทัชอัพระหว่างวันได้เลยฮะ โดยไม่ต้องซับก็ทัชอัพทับไปได้เลย

แต่ความรู้สึกบีมเลย บีมว่าใช้น้ำแร่ฉีดแล้วใช้ทิชชู่ซับก่อนดีกว่า เอาพวกฝุ่นละอองออก กลัวอุดตันแล้วค่อยใช้รองพื้น Ysl Fusion Ink ทาทับ

บีมคิดว่าสาวๆอาจจะไม่เชื่อบีม งั้นบีมลงทับเมคอัพให้ดูเลยดีกว่า

จะได้เห็นกันจะจะว่ามันเลิศมาก!!



เค้าจะทาจริงๆแล้วนะ....... ทับเมคอัพจริง



เกลี่ยๆ โดยบีมเกลี่ย วนๆปาดๆปกติเลยค่ะ ไม่ได้ใช้ทริคการเกลี่ยพิเศษใดๆเลย



นี่ไงเสร็จแล้ว เย้!!! ไม่เป็นคราบ ไม่เละ เนียนไปกับผิวเหมือนเดิม เลิศเลอมาก



เลิฟมากๆเลย เหมือนรองพื้นตัวนี้เกิดมาเพื่องานแบบนี้โดยเฉพาะเลย บีมว่ารองพื้นตัวนี้เหมาะสมกับการลงทุนเลยนะคะ

ถึงแม้ว่าราคาอาจจะสูงไป แต่บีมมั่นใจว่ามันคุ้มค่ากับราคาจริงๆ แนะนำว่าไปลองเองที่เคาเตอร์ดูกันนะคะ



อ่อ!!! ก่อนจากกัน บีมอยากจะบอกสาวๆว่า

อย่าได้พูดว่าขอทาลิปสีนู้ดๆอ่อนๆเลยฮะ เพราะอะไรน่ะหรอ ดูรูปนี้สิคะ พอใส่แว่นถ่ายรูปปุ๊บเหลืออะไรให้เราเห็นเมคอัพบนใบหน้าบ้าง...ใช่ค่ะ

มีแค่สีปากเท่านั้น ถ้ายิ่งเราทาสีอ่อนๆ นู้ดๆนี่คือจบเลย ทำให้ซีดเซียวด้วย อาจจะดรอปในหมู่เพื่อนๆ บีมแนะนำว่าทีสีเข้มๆไปเลยดีกว่าค่ะ

เพราะเดี๋ยวสีมันก็มีหลุดบ้างอะไรบ้าง และคิดดูนะ ต่อให้เราเน้นตาเข้มแค่ไหน พอถ่ายรูปออกมาถ้าไม่ซูมอิน ก็ไม่เห็นนะคะ

สิ่งที่เห็นก็จะมีปากและคิ้วเท่านั้นเอง ดังนั้นเบาที่ตาหนักที่ปากดีกว่าค่ะสาวๆ

ขอบคุณที่รับชมนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/solarbeambeam