[Day1]
http://ppantip.com/topic/33556213
[Day2]
http://ppantip.com/topic/33570410
ตื่นมาวันที่ 3 กลับอากาศที่หนาวลงไปเรื่อย เช้านี้อุณหภูมิ จากมือถือโชว์อยู่ที่ 0 องศา กำหนดการณ์วันนี้
อาหารเช้า Myeonddong -> เกาะนามิ -> อาหารเที่ยง ย่าน Hongik - > Trick Eye Museum, Ice Museum -> อาหารเย็น ย่าน Myeonddong
พอเดินออกมาจากที่พักปุ๊บ ต้องถอยหลังไปหยิบร่มมาด้วยเนื่องจากหิมะเยอะมาก แต่พอถ่ายรูปออกมา ไอ้หิมะที่มันตก ทำไมกล้องมันจับไม่ได้หว่า
สภาพอากาศวันนี้ หนาวมาก หนาวสุด เราข้ามถนนจากที่พักมาย่านเมียงดง เหมือนเดิมเพื่อมาหาอาหารเช้า อาหารเช้าวันนี้ หน้าตาคล้ายโจ๊กไง ม่ะรู้ มีเครื่องเคียงด้วย
ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกันครับ
หลังจากเติมพลังงานกันเสร็จแล้วเรา ก็ออกเดินทางกันไปที่เกาะนามิ โดยรถไฟ จาก Myeongdong ->สลับสถานีที่ Dongdaemun -> สลับสถานีที่Wangsimni -> แล้วไปลงที่ Gapyeong สลับหลายสถานีมาก เดินทาง ตกเกือบ 2 ชม. ตรงจากสถานี Wangsimni มา Gapyeong จะมีรถสาย ITX ซึ่งจอดน้อยกว่าแนะนำให้มาสายนี้นะครับ
สลับสถานีจนเมื่อย แถมวันนี้ หนาวมากๆ แต่ยังไงก็ยังสู้
เดินทางมาถึงสถานี Gapyeong เราก็ต่อแท็กซี่ ราคา 3,000 Won ไปที่ท่าเรือ เพื่อข้ามเรือไปยังเกาะ นามิ ค่าข้ามเรือคนละ 8,000 Won ขึ้นเรือเสร็จตอนแรกกะจะอยู่ข้างนอกชม วิว แต่สักพักสู้ความหนาวไม่ไหว ถุงร้อนที่มีก็เอาม่ะอยู่เลยต้องหลบเข้าไปในเรือกัน
พอข้ามมาถึงเกาะ ก็มีพวกปะติมากรรมที่เค้าทำไว้จัดแสดง
สู้ตายลุยกันต่อ
เดินไปสักพัก ไม่ไหวครับ หนาวมาก ด้วยอากาศที่ลงต่ำ แล้วก็ลมแรง จึงต้องถอยหลังกลับมากันที่ท่า พิงไฟกันก่อน
ตอนนี้ เกิดปัญหาขึ้นแหล่ะ ไปต่อไม่ไหว ถุงร้อนใช้การไม่ได้ มือสั่นหงิกๆ เลยวิ่งเข้าไปร้านขายของ เจอตัวช่วยให้เราอุ่นได้
นมร้อนครับ 1,000 Won แต่อุ่นจริงดีกว่าถุงร้อนอีก
พอได้อุปกรณ์สู้หนาวแล้วก็ลุยเกาะกันต่อเลย
คนที่มาเที่ยวกันก็จะทิ้งข้อความ เหมือนปักธงว่า มาที่นี่แล้วน่ะ
มูลนิธิ Unicef ก็มีในเกาะนี้
ด้านหน้าจะเป็นแบบกระท่อม
เลยลงมานิดจะเป็นแผนที่ของเกาะนี้
ใกล้เค้าจะมีเลี้ยงนกกระจอกเทศ ไปใกล้ระวังมันจิกน่ะ ไม่รู้ใครเอาเด็กมาทิ้งไว้ ดีนะมีที่ปิด
เกาะนี้เป็นที่ถ่ายละครดัง ใครมาแล้วอย่าลืมไปจุดที่เค้าเอาไว้ถ่ายรูปนะ
ที่น่าทึ่งอีกอย่างของเกาะนี้ก็ คือ เค้ามีเลี้ยงสัตว์ อย่างอื่นนอกจากนกกระจอกเทศด้วย
เดินชมกันเสร็จก็ข้ามเรือกลับกัน ขากลับ TAXI ไปที่สถานี 3,200 Won ต่อไปเราจะไปดู Trick Eye Museum, Ice Museum ที่ย่าน Hongik กัน ขึ้นรถไฟจาก สถานี Gapyeong ->สลับสถานีที่Wangsimni ->แล้วก็ยาวมาลงที่ Hongik
ใช้เวลาเดินทางตกประมาณ 2 ชม. มาถึงก็บ่าย 2-3 แล้ว เราก็หาอะไรกินกันก่อน เดินออกจากทางออก หมายเลข 8 จากสถานีเป็นแหล่งย่านร้านอาหารเลยละ เราเข้าไปที่ร้านๆ หนึ่ง ม่ะรู้ชื่อเพราะ อ่านภาษาเกาหลีไม่ออก เป็นร้าน 2 ชั้น สะดุดตาตรงใช้ถังน้ำมัน เป็น โต๊ะ
***ภาพจาก google ครับ***
ตอนแรกเข้าร้านปุ๊บพนักงานขนเครื่องเคียงมาอย่างชุดใหญ่ แต่พออ่านดูมันเป็นแบบ 3 คน เราเลยสั่งชุดหมูเค้าเก็บเคียงไปหมดT-T เลยเหลืออยู่นิดเดียว แต่อาหารมื้อนี้อร่อยมากๆ
พอกินกันเสร็จ เราก็ออกจากร้านตรงไปกันยัง Trick Eye Museum, Ice Museum ระหว่างทางเราต้องเดินๆเบรคหาที่อุ่นเพราะหนาวมากๆ ไปต่อกันยาวๆ ไม่ไหว เหลือบไปเห็นเจ้าเครนเกมระหว่างทางอยากเล่นเหมือนกันแต่มือสั่นงกๆๆ ไม่ไหวได้แต่ยืนมองแทน
เดินกันลงมาเรื่อยก็ถึง Trick Eye Museum, Ice Museum สังเกตง่ายครับจะมีตัวหุ่นลอยอยู่กลางอากาศทางเข้า ค่าเข้าของที่นี่ขายเป็นแบบแพ็คเกจ เรา ซื้อแบบ คู่เข้า Trick Eye Museum, Ice Museum ราคา อยู่ที่ 15,000 Won
เราเข้ามาที่ Trick Eye Museum กันก่อนที่นี่มีมุมุให้ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยเลยทีดีครับ
ถ่ายรูปกันเสร็จก็มาเข้าที่ Ice Museum ที่นี่ไม่มีเสื้อกันหนาวให้นะครับ
หลังจากอยู่ใน สักพักก็ออกมาเดินเล่นร้านขายของข้างนอก เดินยาวมาถึง สถานีHapjeong แล้วเราก็นั่งรถกลับกันไป กินอาหารเย็นที่ เมียงดง(ไม่น่าจะใช่เย็นเพราะออกมาก็ 3 ทุ่มกว่าแหล่ะ) การเดินทางกลับเรา เดินทางจาก Hapjeong ->สลับสถานีที่ Samgakji ->แล้วไปลงที่ Myeonddong
หลังจากลงมาเสร็จมองผ่านช่องเล็ก เราจะเห็น Seoul Tower ที่เราจะไปกันวันพรุ่งนี้กัน
อาหารมื้อเย็นวันนี้เป็น Takkalbi ชื่อร้านเป็นภาษาเกาหลีอีกแหล่ะ เฮ้อ แต่หน้าร้านมีแบบให้เลือกหลายแบบ ราคา 2 คนรวมแล้วก็ 11,000 Won
ของมาครบแล้วก็ลงมือผัดกันเลย
ผัดเรียบร้อยกันซัดกันต่อ
กินกันเสร็จเรียบร้อยก็เดินย่อยสักแปปแล้วก็กลับเข้าที่พักกัน เพราะ กว่าจะเสร็จวันนี้ก็ปาไป เกือบเที่ยงคืนเลย
[Review Korea] First time in korea 29 Nov- 5 Dec 2014 [Day3]
[Day2]http://ppantip.com/topic/33570410
ตื่นมาวันที่ 3 กลับอากาศที่หนาวลงไปเรื่อย เช้านี้อุณหภูมิ จากมือถือโชว์อยู่ที่ 0 องศา กำหนดการณ์วันนี้
อาหารเช้า Myeonddong -> เกาะนามิ -> อาหารเที่ยง ย่าน Hongik - > Trick Eye Museum, Ice Museum -> อาหารเย็น ย่าน Myeonddong
พอเดินออกมาจากที่พักปุ๊บ ต้องถอยหลังไปหยิบร่มมาด้วยเนื่องจากหิมะเยอะมาก แต่พอถ่ายรูปออกมา ไอ้หิมะที่มันตก ทำไมกล้องมันจับไม่ได้หว่า
สภาพอากาศวันนี้ หนาวมาก หนาวสุด เราข้ามถนนจากที่พักมาย่านเมียงดง เหมือนเดิมเพื่อมาหาอาหารเช้า อาหารเช้าวันนี้ หน้าตาคล้ายโจ๊กไง ม่ะรู้ มีเครื่องเคียงด้วย
ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกันครับ
หลังจากเติมพลังงานกันเสร็จแล้วเรา ก็ออกเดินทางกันไปที่เกาะนามิ โดยรถไฟ จาก Myeongdong ->สลับสถานีที่ Dongdaemun -> สลับสถานีที่Wangsimni -> แล้วไปลงที่ Gapyeong สลับหลายสถานีมาก เดินทาง ตกเกือบ 2 ชม. ตรงจากสถานี Wangsimni มา Gapyeong จะมีรถสาย ITX ซึ่งจอดน้อยกว่าแนะนำให้มาสายนี้นะครับ
สลับสถานีจนเมื่อย แถมวันนี้ หนาวมากๆ แต่ยังไงก็ยังสู้
เดินทางมาถึงสถานี Gapyeong เราก็ต่อแท็กซี่ ราคา 3,000 Won ไปที่ท่าเรือ เพื่อข้ามเรือไปยังเกาะ นามิ ค่าข้ามเรือคนละ 8,000 Won ขึ้นเรือเสร็จตอนแรกกะจะอยู่ข้างนอกชม วิว แต่สักพักสู้ความหนาวไม่ไหว ถุงร้อนที่มีก็เอาม่ะอยู่เลยต้องหลบเข้าไปในเรือกัน
พอข้ามมาถึงเกาะ ก็มีพวกปะติมากรรมที่เค้าทำไว้จัดแสดง
สู้ตายลุยกันต่อ
เดินไปสักพัก ไม่ไหวครับ หนาวมาก ด้วยอากาศที่ลงต่ำ แล้วก็ลมแรง จึงต้องถอยหลังกลับมากันที่ท่า พิงไฟกันก่อน
ตอนนี้ เกิดปัญหาขึ้นแหล่ะ ไปต่อไม่ไหว ถุงร้อนใช้การไม่ได้ มือสั่นหงิกๆ เลยวิ่งเข้าไปร้านขายของ เจอตัวช่วยให้เราอุ่นได้
นมร้อนครับ 1,000 Won แต่อุ่นจริงดีกว่าถุงร้อนอีก
พอได้อุปกรณ์สู้หนาวแล้วก็ลุยเกาะกันต่อเลย
คนที่มาเที่ยวกันก็จะทิ้งข้อความ เหมือนปักธงว่า มาที่นี่แล้วน่ะ
มูลนิธิ Unicef ก็มีในเกาะนี้
ด้านหน้าจะเป็นแบบกระท่อม
เลยลงมานิดจะเป็นแผนที่ของเกาะนี้
ใกล้เค้าจะมีเลี้ยงนกกระจอกเทศ ไปใกล้ระวังมันจิกน่ะ ไม่รู้ใครเอาเด็กมาทิ้งไว้ ดีนะมีที่ปิด
เกาะนี้เป็นที่ถ่ายละครดัง ใครมาแล้วอย่าลืมไปจุดที่เค้าเอาไว้ถ่ายรูปนะ
ที่น่าทึ่งอีกอย่างของเกาะนี้ก็ คือ เค้ามีเลี้ยงสัตว์ อย่างอื่นนอกจากนกกระจอกเทศด้วย
เดินชมกันเสร็จก็ข้ามเรือกลับกัน ขากลับ TAXI ไปที่สถานี 3,200 Won ต่อไปเราจะไปดู Trick Eye Museum, Ice Museum ที่ย่าน Hongik กัน ขึ้นรถไฟจาก สถานี Gapyeong ->สลับสถานีที่Wangsimni ->แล้วก็ยาวมาลงที่ Hongik
ใช้เวลาเดินทางตกประมาณ 2 ชม. มาถึงก็บ่าย 2-3 แล้ว เราก็หาอะไรกินกันก่อน เดินออกจากทางออก หมายเลข 8 จากสถานีเป็นแหล่งย่านร้านอาหารเลยละ เราเข้าไปที่ร้านๆ หนึ่ง ม่ะรู้ชื่อเพราะ อ่านภาษาเกาหลีไม่ออก เป็นร้าน 2 ชั้น สะดุดตาตรงใช้ถังน้ำมัน เป็น โต๊ะ
***ภาพจาก google ครับ***
ตอนแรกเข้าร้านปุ๊บพนักงานขนเครื่องเคียงมาอย่างชุดใหญ่ แต่พออ่านดูมันเป็นแบบ 3 คน เราเลยสั่งชุดหมูเค้าเก็บเคียงไปหมดT-T เลยเหลืออยู่นิดเดียว แต่อาหารมื้อนี้อร่อยมากๆ
พอกินกันเสร็จ เราก็ออกจากร้านตรงไปกันยัง Trick Eye Museum, Ice Museum ระหว่างทางเราต้องเดินๆเบรคหาที่อุ่นเพราะหนาวมากๆ ไปต่อกันยาวๆ ไม่ไหว เหลือบไปเห็นเจ้าเครนเกมระหว่างทางอยากเล่นเหมือนกันแต่มือสั่นงกๆๆ ไม่ไหวได้แต่ยืนมองแทน
เดินกันลงมาเรื่อยก็ถึง Trick Eye Museum, Ice Museum สังเกตง่ายครับจะมีตัวหุ่นลอยอยู่กลางอากาศทางเข้า ค่าเข้าของที่นี่ขายเป็นแบบแพ็คเกจ เรา ซื้อแบบ คู่เข้า Trick Eye Museum, Ice Museum ราคา อยู่ที่ 15,000 Won
เราเข้ามาที่ Trick Eye Museum กันก่อนที่นี่มีมุมุให้ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยเลยทีดีครับ
ถ่ายรูปกันเสร็จก็มาเข้าที่ Ice Museum ที่นี่ไม่มีเสื้อกันหนาวให้นะครับ
หลังจากอยู่ใน สักพักก็ออกมาเดินเล่นร้านขายของข้างนอก เดินยาวมาถึง สถานีHapjeong แล้วเราก็นั่งรถกลับกันไป กินอาหารเย็นที่ เมียงดง(ไม่น่าจะใช่เย็นเพราะออกมาก็ 3 ทุ่มกว่าแหล่ะ) การเดินทางกลับเรา เดินทางจาก Hapjeong ->สลับสถานีที่ Samgakji ->แล้วไปลงที่ Myeonddong
หลังจากลงมาเสร็จมองผ่านช่องเล็ก เราจะเห็น Seoul Tower ที่เราจะไปกันวันพรุ่งนี้กัน
อาหารมื้อเย็นวันนี้เป็น Takkalbi ชื่อร้านเป็นภาษาเกาหลีอีกแหล่ะ เฮ้อ แต่หน้าร้านมีแบบให้เลือกหลายแบบ ราคา 2 คนรวมแล้วก็ 11,000 Won
ของมาครบแล้วก็ลงมือผัดกันเลย
ผัดเรียบร้อยกันซัดกันต่อ
กินกันเสร็จเรียบร้อยก็เดินย่อยสักแปปแล้วก็กลับเข้าที่พักกัน เพราะ กว่าจะเสร็จวันนี้ก็ปาไป เกือบเที่ยงคืนเลย