คุณแจ๋วกระเพราไก่ คุณชายไข่ดาว
ออกอากาศในปี 2546
บทประพันธ์ เพ็ญศิริ
บทโทรทัศน์ เคน ฉัตรรังสิกุล
กำกับการแสดง ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น.
นำแสดงโดย
สุวนันท์ คงยิ่ง
จุลจักร จักรพงษ์
สาริน บางยี่ขัน
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์(สกิดใจ)
เจมี่ บูเฮอร์
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
ดารณีนุช โพธิปิติ
ราตรี วิทวัส
น้อย โพธิ์งาม
อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์
เรื่องย่อ
อนวัช หรือชาย ลูกชายคนเดียวที่มีชีวิตเหลือรอดของ งามจิตและเทียนชัย กำลังจะกลับเมืองไทยหลังสำเร็จการศึกษา ทำให้งามจิตร้อนใจที่จะหาแม่ครัวมาแทนคนเก่าที่หนีหนี้หวยเถื่อนไป นางศรี แม่บ้านอาสาจะพา สร้อย ลูกสาวของตนมาทำหน้าที่แทน แต่ปรากฎว่าสร้อยตามสามีไปอยู่ที่อื่นแล้ว นางศรีจึงคิดจะพา ปอฝ้าย สวมรอยเป็นสร้อยไปทำหน้าที่แทน
ปอฝ้าย คือหลานกำพร้าของนางเฟื่อง พี่สาวของนางศรี ปอฝ้ายเกิดจากฟ้าลูกสาวของนางเฟื่อง ซึ่งในอดีตเมื่อครั้งฟ้ายังเป็นเด็กสาววัยใกล้เคียงกับปอฝ้ายในปัจจุบันนาง ศรีก็เคยพาฟ้าไปทำงานที่บ้านเทียนชัยมาแล้ว ในครั้งนั้นฟ้าอุ้มท้องกลับมาคลอดลูกที่บ้าน โดยไม่เคยปริปากบอกใครว่าใครคือพ่อของปอฝ้าย ฟ้าคลอดและเลี้ยงดูปอฝ้ายจนปอฝ้ายอายุได้ 7-8 ขวบ ฟ้าก็เสียชีวิตด้วยโรคภูมิแพ้ ซึ่งปอฝ้ายได้ซึมซับรับรู้อาการเจ็บป่วยของฟ้าเป็นอย่างดี เป็นแรงบันดาลใจให้ปอฝ้ายสนใจในเรื่องของการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย แต่เพราะการที่อยู่ในต่างจังหวัด ฝ้ายจึงศึกษาหาความรู้จากภูมิปัญญาชาวบ้านประเภทสมุนไพรหรือการบำบัดแบบ แพทย์แผนโบราณ จากความรู้ในเรื่องสรรพคุณยา บวกกับพรสวรรค์ในเรื่องการครัว ทำให้ฝ้ายประยุกต์ความรู้เป็นความแตกฉานในเรื่องโภชนาบำบัดโดยไม่รู้ตัว
ปอ ฝ้ายไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ไม่เคยพบหน้าพ่อ แต่ก็ได้รับการอุปการะส่งเสียค่าใช้จ่ายการศึกษาจากชายที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า เพิ่มยศ ปอฝ้ายมั่นใจว่า เพิ่มยศจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อของตน พ่อที่ไม่กล้าออกมายอมรับว่าตนคือลูก
ปอฝ้ายยอมตามนางศรีไปทำหน้าที่ แจ๋วในบ้านเทียนชัย ทั้งๆ ที่มีพื้นฐานการศึกษาระดับเคยผ่านเมืองนอกมาแล้ว ด้วยจุดหมายลึก ๆ ต้องการย้อนรอยอดีตของแม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครคือพ่อผู้ให้กำเนิด ถึงปอฝ้ายจะมีฝีมือในเรื่องอาหารไทย แต่ก็ไม่ประสีประสาเรื่องอาหารฝรั่ง ดังนั้นนางศรีจึงพาฝ้ายไปฝึกงานที่ภัตตาคารไลล่าของคุณกำธร
ฝ่ายอนวัช แอบเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดโดยไม่บอกทางบ้าน จุดประสงค์เพื่อหาความสำราญในเมืองไทยกับริต้าแฟนสาวที่คบหากันอยู่ที่เมือง นอก ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ได้หมั้นหมายอนวัชกับเอมอร ลูกสาวของทิพยากับทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นครอบครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเทียนชัยตั้งแต่วัยเด็ก อนวัชพาเอมอรไปกินข้าวที่ภัตตาคารไลล่า อนวัชได้กลิ่นผัดกะเพราที่ฝ้ายทำกินกับพนักงาน อนวัชตามมาถึงในครัวและแสดงฝีมือทอดไข่ดาว เป็นจุดเริ่มต้นของสองหนุ่มสาวที่ได้รู้จักกันด้วยความรู้สึกดี ๆ โดยฝ้ายไม่รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า นึกว่าเป็นพนักงานภัตตาคาร
อนวัช กลับออกมาที่โต๊ะอาหารและสั่งข้าวกะเพราไข่ดาว ในภัตตาคารที่ขายอาหารฝรั่งหรูหรา ปอฝ้ายออกมาดูหน้าคนสั่ง ถึงได้รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า ริต้ารู้ว่าอนวัชทิ้งให้ตนรอที่โต๊ะคนเดียว แต่ตัวเองหนีไปหาเรื่องสนุกในครัว รู้สึกโกรธและพาลไปถึงฝ้าย ฝ้ายทะเลาะกับริต้าและลามไปทะเลาะกับอนวัช อนวัชทะเลาะกับฝ้ายด้วยอารมณ์ต้องการยั่วให้โกรธสนุก ๆ
ฝ้ายกลับไป บ่นกระปอดกระแปดในครัว สมชายพนักงานในไลล่า ที่นึกชอบฝ้ายอยากเอาใจเอาหน้า แอบไปปล่อยลมยางของอนวัช อนวัชเข้าใจว่าฝ้ายเป็นคนทำ เกิดทะเลาะกันอีกรอบ แต่คราวนี้จริงจัง รุนแรงขึ้น จากความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันกลายเป็นศัตรูคู่กัดกันไปโดยไม่ตั้งใจ
ชะตาชีวิตทำให้ อนวัชขับรถเฉี่ยวฝ้ายจนตกน้ำโดยไม่ตั้งใจ ฝ้ายโกรธเหวี่ยงอนวัชตกน้ำเป็นการแก้แค้น แต่อนวัชเกิดช็อคในน้ำ ทำให้ฝ้ายต้องย้อนกลับลงน้ำอีกครั้ง เพื่อช่วยชีวิตของอนวัช อนวัชเกิดความรู้สึกนิยมในศัตรูคนนี้อยู่ลึก ๆ
เมื่อถึงกำหนดกลับ เมืองไทย อนวัชก็ส่งริต้ากลับเมืองนอก แล้วตัวเองก็เดินทางเข้าบ้านเทียนชัยหน้าตาเฉย ทำท่าเหมือนเพิ่งลงเครื่องบินมา ที่บ้านนี่เอง อนวัชก็เผชิญหน้ากับปอฝ้ายคู่ปรับเก่าที่เข้ารับหน้าที่ในบ้านเทียนชัยอีก ครั้งหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าแฉความลับของกันและกัน
ปอฝ้ายอยู่ในบ้านเทียนชัย ภายใต้ชื่อสร้อย ฝ้ายต้องต่อสู้เอาตัวรอดสุดชีวิต ทั้งในเรื่องการทำครัว การแอนตี้ไม่ยอมรับของคนเก่า ๆ ในบ้านเทียนชัย สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เทียนชัยพยายาม เคลมฝ้ายตามนิสัยเดิมที่ต้องรวบบริวารทุกคนในบ้านเป็นเมีย จากพฤติกรรมของเทียนชัย ฝ้ายเริ่มสงสัยว่าเทียนชัยอาจจะเป็นพ่อของตนก็ได้ แต่ฝ้ายก็ยังไม่มั่นใจ เพราะมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มีโอกาสเป็นพ่อของตนได้ทั้งนั้น
เอมอรคู่หมั้นของอนวัช ส่งลินจงสาวใช้คนสนิทเข้ามาอยู่ในบ้านเทียนชัย เพื่อทำหน้าที่สอดส่องพฤติกรรมของฝ้ายเพราะกลัวว่าจะมาแย่งอนวัช ลินจงคอยจับตาฝ้าย สังเกตเห็นฝ้ายพยายามสืบถามเรื่องราวในบ้านเทียนชัย บางครั้งก็แอบค้นหาเอกสารของเทียนชัย
ลินจงถืออำนาจว่าเอมอรให้ท้าย ทำตัวกร่าง ข่มคนในบ้านของเทียนชัย จนเป็นที่เกลียดชังของทุกคน เพราะฉะนั้นเมื่อฝ้ายสามารถต่อกรเล่นงานลินจงเจ็บ ๆ ได้ จึงชนะใจคนในบ้านเทียนชัยหันกลับมาเป็นพวกเดียวกัน ในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้านของอนวัช เอมอรออกร้านอาหารฝรั่ง แต่บ้านเทียนชัยออกร้านอาหารไทย ทั้งสองฝ้ายงัดลูกเล่น มาช่วงชิงเอาชนะกันอย่างสูสี สุดท้ายฝ้ายงัดไม้เด็ดโชว์ ฝีมือผัดกะเพราไก่ เอาชนะเอมอรด้วยกลิ่นอันจัดจ้าน ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้กับเอมอรและคุณทิพยาผู้เป็นแม่
อนวัชเห็นปอ ฝ้ายบอกทางไปห้องน้ำให้แขกฝรั่งที่มาในงาน อนวัชสงสัยว่าทำไมฝ้ายพูดภาษาอังกฤษได้ ฝ้ายโชว์ภาษาอังกฤษแบบเมียเช่า เป็นที่ขบขันเยาะเย้ยของศัตรู แต่ก็พ้นสงสัยไปได้
แต่งานเลี้ยงยัง ไม่ทันจบ อนวัชก็เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นมา ฝ้ายพยายามเข้าช่วยเหลือด้วยยาสมุนไพร แต่ถูกปฏิเสธ หนำซ้ำเอมอรยังกล่าวหาว่ากลิ่นผัดกะเพราไก่ของเธอเป็นต้นเหตุทำให้อนวัชเกิด อาการป่วย
งาม จิตและทิพยาร่วมกันจัดหาหมอและพยาบาลมาดูแลอนวัชอย่างขนานใหญ่ การมาของพยาบาลทั้งหลาย สร้างความโกลาหลให้กับอนวัชและบ้านเทียนชัยอย่างมาก คนที่พอใจมากที่สุดคือลินจง เพราะได้พยาบาลมาเป็นพวกคอยต่อกรกับเหล่าคนในบ้านของเทียนชัย อนวัชเบื่อการดูแลของลินจงและเหล่าพยาบาล แอบหนีออกไปข้างนอกกับคนของตัวเองอยู่เสมอ ๆ
เทียนชัยทำก้อร่อก้อติก คิดเคลมฝ้าย ปอฝ้ายเองก็พยายามหลอกถามเทียนชัย เพื่อหาความจริง ปอฝ้ายเห็นอาการพิรุธของเทียนชัยเมื่อเอ่ยถึงชื่อปอฝ้าย ดังนั้นฝ้ายจึงพยายามค้นหาต้นขั้วธนาณัติเพื่อเป็นหลักฐานว่าเทียนชัยคือคน ที่ส่งเสียเงินทองอุปการะตนตลอดมา
ปอฝ้ายเสียท่าถูกลินจงจับได้ว่า แอบค้นโต๊ะทำงานของเทียนชัย แต่ฝ้ายรอดจากการจนมุม เพราะอนวัชมาช่วยรับสมอ้างว่าเป็นคนใช้ให้ฝ้ายเข้าไปหาของเอง เพราะอนวัชมั่นใจว่าปอฝ้ายหรือที่รู้จักกันในนามสร้อย ต้องไม่ได้มุ่งหวังทรัพย์สินแน่นอน ต้องมีจุดประสงค์อื่นมากกว่านี้
อนวัช ชวนให้ฝ้ายช่วยออกไปถือของ เพื่อใช้โอกาสซักถามจุดประสงค์การมาอยู่ในบ้านนี้ แต่อนวัชเกิดอาการป่วยขึ้นระหว่างทาง คราวนี้ฝ้ายรีบช่วยด้วยวิธีการของตน ซึ่งได้ผลดีมาก ทำให้อนวัชดีใจเกิดความหวังในชีวิตว่าจะมีโอกาสหายจากโรคประจำตัวนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองฝ้ายเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันอีกครั้งหนึ่ง
ฝ้ายมี โอกาสโชว์ฝีมือผัดกะเพราไก่ให้อนวัชกินอีกครั้งเช่นเดียวกับที่อนวัชโชว์ ฝีมือการทอดไข่ดาว ทั้งสองคนมีช่วงเวลาที่มีความสุขต่อกันช่วงสั้น ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะพัฒนาเป็นความ รู้สึกลึกล้ำที่อยู่ในใจทั้งสองฝ่าย ความสนิทสนมของฝ้ายและอนวัชหาได้รอดพ้นสายตาของเหล่ามารร้ายอันมีเอมอร ทิพยา และลินจง ขบวนการทำลายฝ้ายจึงเริ่มต้นจากการขโมยแหวนของคุณงามจิต แล้วโยนความผิดให้ฝ้าย แม้ฝ้ายจะรอดพ้นการลงโทษเพราะไม่มีหลักฐาน แต่ก็สร้างความคลางแคลงใจให้กับคุณงามจิตอย่างมาก ลินจงเริ่มแผนสอง โดยวางยาสลบคนทั้งบ้าน โดยใส่ในอาหารที่ฝ้ายเป็นคนทำ แล้วให้เชิดเข้ามายกเค้าทรัพย์สินในบ้าน ฝ้ายรอดพ้นจากการถูกวางยาโดยบังเอิญเข้าขัดขวางต่อสู้กับเชิด ฝ้ายเกือบเสียที โชคดีที่อนวัชกลับมาพอดี เชิดจึงต้องรีบหนีไป
ทุก คนเข้าใจว่าฝ้ายเป็นสายให้โจร ฝ้ายถูกกดดันจนต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และขอลาออกจากบ้านเทียนชัยไป ฝ้ายหารถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไม่ได้ ต้องไปขออาศัยพักอยู่กับคุณกำธรก่อน พนักงานภัตตาคารไลล่าดีใจที่ได้เจอฝ้าย ขอร้องให้ทำผัดกระเพราไก่เลี้ยงพนักงาน กลิ่นกระเพราไก่หอมฟุ้งไปถึงในภัตตาคารเหมือนคราวที่อนวัชได้กลิ่นเมื่อมา ที่นี่เป็นครั้งแรก แต่คราวนี้กลิ่นกระเพราไก่นำพาหม่อมนรภัทรนักชิมอาหารชื่อดังให้เข้ามาชมถึง ในครัว หม่อมนรภัทรมีโอกาสพูดคุยกับฝ้ายอย่างถูกคอ หม่อมฯ สนใจแนวคิดการปรุงอาหารแนวโภชนาบำบัดอย่างมาก
เชิดพาคนมายกเค้าบ้าน เทียนชัยอีกครั้ง คราวนี้สำเร็จ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ฝ่ายผู้หญิง อันมี เอมอร งามจิต ทิพยาต่างลงความเห็นว่าฝ้ายเป็นคนทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ฝ่ายผู้ชายอันมี อนวัช เทียนชัย ทวีศักดิ์ต่างไม่เห็นด้วย อ้างว่าตอนเกิดเหตุ ฝ้ายไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว ในที่สุดก็ลงมติว่าให้ไปพิสูจน์ที่บ้านของฝ้าย
อนวัชกับเอมอรเดินทาง ไปที่บ้านต่างจังหวัดของฝ้าย เกิดปะทะคารมกัน บังเอิญเกิดฝนตกหนัก ทางกลับกรุงเทพถูกตัดขาด อนวัชและเอมอรต้องค้างที่บ้านของฝ้าย อนวัชมีโอกาสปรับความเข้าใจกับฝ้ายอีกครั้ง ได้ไปกับหน่วยบรรเทาทุกข์ออกช่วยเหลือชาวบ้าน และได้รับการรักษาโรคประจำตัวอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เป็นช่วงชีวิตที่อนวัชมีความสุขอย่างแท้จริง ยกเว้นสิ่งเดียวที่รบกวนหัวใจก็คือความคลางแคลงว่าฝ้ายอาจจะเป็นพี่น้องร่วม สายเลือดเดียวกัน ซึ่งก็คือสิ่งเดียวกับที่รบกวนหัวใจของฝ้ายเช่นกัน
เอมอร โกรธที่อนวัชไปใช้ชีวิตคลุกคลีกับฝ้าย จึงประชดด้วยการหว่านเสน่ห์กับปลัดวันรบ เพื่อนสนิทของฝ้าย และแล้ววันหนึ่งหลังจากที่ปลัดวันรบพาเอมอรไปดูผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่คือ กระแช่ อุ ไวน์ สาโท เอมอรและปลัดชิมผลิตภัณฑ์จนเมาและเลยเถิดจนถึงขั้นได้เสียกัน เมื่อทางเปิด อนวัชและเอมอรก็กลับกรุงเทพ ขณะเดียวกันฝ้ายก็ได้รับการติดต่อจากคุณกำธรให้เข้ากรุงเทพด่วน เพราะคุณกำธรเข้าหุ้นกับหม่อมนรภัทร เปิดร้านอาหารร้านใหม่ เป็นแนวอาหารสุขภาพโภชนาบำบัดที่ฝ้ายถนัด หม่อมนรภัทรต้องการให้ฝ้ายมาเป็นผู้จัดการร้าน ฝ้ายตกลงและขอใช้ชื่อร้านว่า “กระเพรา”
แต่กิจการของร้านกระเพราเงียบเหงาผิดคาด คนไทยไม่ค่อยนิยม อนวัชหาทางช่วยโปรโมทและเจาะตลาดชาวต่างประเทศ ปรากฏว่าได้ผล มีลูกค้าต่างประเทศมาอุดหนุนคับคั่ง จนคนไทยก็พลอยเห่อตามไปด้วย กิจการอาหารโภชนาบำบัดของร้านกระเพราจึงโด่งดัง พร้อมกับชื่อเสียงของฝ้าย ฝ้ายได้รับเชิญไปออกรายการทีวี มากมายหลายรายการ ถึงชีวิตการงานจะประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตรักกลับอึมครึม เพราะความไม่แน่ใจว่าทั้งสองจะกลายเป็นพี่น้องกันหรือไม่ ในที่สุดทั้งหมดก็หาทางยุติปัญหาด้วยการตรวจ ดี เอ็น เอ
ระหว่าง รอผลการตรวจ ฝ้ายได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมมนาในงาน “อาหารเพื่อสุขภาพนานาชาติ” เป็นงานใหญ่ที่มีชาวต่างชาติ นักโภชนาการ เข้าร่วมสัมมนามากมาย มีการถ่ายทอดออกทีวีไปทั่วประเทศ เอมอรเข้าร่วมงานหวังฉีกหน้าฝ้าย แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ้ายโชว์ความสามารถ ความรู้ในเรื่องของอาหารสมุนไพร ด้วยภาษาอังกฤษ สร้างความตกตลึงให้กับศัครู สร้างความชื่นชมให้กับผู้ที่หวังดี คุณงามจิตเริ่มเปลี่ยนท่าที ยอมรับปอฝ้ายอดีตแจ๋วในบ้านมาเป็นศรีสะใภ้
เดี๋ยวเรื่องย่อจะมาต่อนะครับ
(ย้อนรอยละครช่อง7)คุณแจ๋วกระเพราไก่ คุณชายไข่ดาว ละครเรื่องแรกที่กบ สุวนันท์มาร่วมงานกับค่ายกันตนา
คุณแจ๋วกระเพราไก่ คุณชายไข่ดาว
ออกอากาศในปี 2546
บทประพันธ์ เพ็ญศิริ
บทโทรทัศน์ เคน ฉัตรรังสิกุล
กำกับการแสดง ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น.
นำแสดงโดย
สุวนันท์ คงยิ่ง
จุลจักร จักรพงษ์
สาริน บางยี่ขัน
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์(สกิดใจ)
เจมี่ บูเฮอร์
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์
ดารณีนุช โพธิปิติ
ราตรี วิทวัส
น้อย โพธิ์งาม
อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์
เรื่องย่อ
อนวัช หรือชาย ลูกชายคนเดียวที่มีชีวิตเหลือรอดของ งามจิตและเทียนชัย กำลังจะกลับเมืองไทยหลังสำเร็จการศึกษา ทำให้งามจิตร้อนใจที่จะหาแม่ครัวมาแทนคนเก่าที่หนีหนี้หวยเถื่อนไป นางศรี แม่บ้านอาสาจะพา สร้อย ลูกสาวของตนมาทำหน้าที่แทน แต่ปรากฎว่าสร้อยตามสามีไปอยู่ที่อื่นแล้ว นางศรีจึงคิดจะพา ปอฝ้าย สวมรอยเป็นสร้อยไปทำหน้าที่แทน
ปอฝ้าย คือหลานกำพร้าของนางเฟื่อง พี่สาวของนางศรี ปอฝ้ายเกิดจากฟ้าลูกสาวของนางเฟื่อง ซึ่งในอดีตเมื่อครั้งฟ้ายังเป็นเด็กสาววัยใกล้เคียงกับปอฝ้ายในปัจจุบันนาง ศรีก็เคยพาฟ้าไปทำงานที่บ้านเทียนชัยมาแล้ว ในครั้งนั้นฟ้าอุ้มท้องกลับมาคลอดลูกที่บ้าน โดยไม่เคยปริปากบอกใครว่าใครคือพ่อของปอฝ้าย ฟ้าคลอดและเลี้ยงดูปอฝ้ายจนปอฝ้ายอายุได้ 7-8 ขวบ ฟ้าก็เสียชีวิตด้วยโรคภูมิแพ้ ซึ่งปอฝ้ายได้ซึมซับรับรู้อาการเจ็บป่วยของฟ้าเป็นอย่างดี เป็นแรงบันดาลใจให้ปอฝ้ายสนใจในเรื่องของการบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย แต่เพราะการที่อยู่ในต่างจังหวัด ฝ้ายจึงศึกษาหาความรู้จากภูมิปัญญาชาวบ้านประเภทสมุนไพรหรือการบำบัดแบบ แพทย์แผนโบราณ จากความรู้ในเรื่องสรรพคุณยา บวกกับพรสวรรค์ในเรื่องการครัว ทำให้ฝ้ายประยุกต์ความรู้เป็นความแตกฉานในเรื่องโภชนาบำบัดโดยไม่รู้ตัว
ปอ ฝ้ายไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ไม่เคยพบหน้าพ่อ แต่ก็ได้รับการอุปการะส่งเสียค่าใช้จ่ายการศึกษาจากชายที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า เพิ่มยศ ปอฝ้ายมั่นใจว่า เพิ่มยศจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อของตน พ่อที่ไม่กล้าออกมายอมรับว่าตนคือลูก
ปอฝ้ายยอมตามนางศรีไปทำหน้าที่ แจ๋วในบ้านเทียนชัย ทั้งๆ ที่มีพื้นฐานการศึกษาระดับเคยผ่านเมืองนอกมาแล้ว ด้วยจุดหมายลึก ๆ ต้องการย้อนรอยอดีตของแม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครคือพ่อผู้ให้กำเนิด ถึงปอฝ้ายจะมีฝีมือในเรื่องอาหารไทย แต่ก็ไม่ประสีประสาเรื่องอาหารฝรั่ง ดังนั้นนางศรีจึงพาฝ้ายไปฝึกงานที่ภัตตาคารไลล่าของคุณกำธร
ฝ่ายอนวัช แอบเดินทางกลับเมืองไทยก่อนกำหนดโดยไม่บอกทางบ้าน จุดประสงค์เพื่อหาความสำราญในเมืองไทยกับริต้าแฟนสาวที่คบหากันอยู่ที่เมือง นอก ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ได้หมั้นหมายอนวัชกับเอมอร ลูกสาวของทิพยากับทวีศักดิ์ ซึ่งเป็นครอบครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเทียนชัยตั้งแต่วัยเด็ก อนวัชพาเอมอรไปกินข้าวที่ภัตตาคารไลล่า อนวัชได้กลิ่นผัดกะเพราที่ฝ้ายทำกินกับพนักงาน อนวัชตามมาถึงในครัวและแสดงฝีมือทอดไข่ดาว เป็นจุดเริ่มต้นของสองหนุ่มสาวที่ได้รู้จักกันด้วยความรู้สึกดี ๆ โดยฝ้ายไม่รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า นึกว่าเป็นพนักงานภัตตาคาร
อนวัช กลับออกมาที่โต๊ะอาหารและสั่งข้าวกะเพราไข่ดาว ในภัตตาคารที่ขายอาหารฝรั่งหรูหรา ปอฝ้ายออกมาดูหน้าคนสั่ง ถึงได้รู้ว่าอนวัชเป็นลูกค้า ริต้ารู้ว่าอนวัชทิ้งให้ตนรอที่โต๊ะคนเดียว แต่ตัวเองหนีไปหาเรื่องสนุกในครัว รู้สึกโกรธและพาลไปถึงฝ้าย ฝ้ายทะเลาะกับริต้าและลามไปทะเลาะกับอนวัช อนวัชทะเลาะกับฝ้ายด้วยอารมณ์ต้องการยั่วให้โกรธสนุก ๆ
ฝ้ายกลับไป บ่นกระปอดกระแปดในครัว สมชายพนักงานในไลล่า ที่นึกชอบฝ้ายอยากเอาใจเอาหน้า แอบไปปล่อยลมยางของอนวัช อนวัชเข้าใจว่าฝ้ายเป็นคนทำ เกิดทะเลาะกันอีกรอบ แต่คราวนี้จริงจัง รุนแรงขึ้น จากความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กันกลายเป็นศัตรูคู่กัดกันไปโดยไม่ตั้งใจ
ชะตาชีวิตทำให้ อนวัชขับรถเฉี่ยวฝ้ายจนตกน้ำโดยไม่ตั้งใจ ฝ้ายโกรธเหวี่ยงอนวัชตกน้ำเป็นการแก้แค้น แต่อนวัชเกิดช็อคในน้ำ ทำให้ฝ้ายต้องย้อนกลับลงน้ำอีกครั้ง เพื่อช่วยชีวิตของอนวัช อนวัชเกิดความรู้สึกนิยมในศัตรูคนนี้อยู่ลึก ๆ
เมื่อถึงกำหนดกลับ เมืองไทย อนวัชก็ส่งริต้ากลับเมืองนอก แล้วตัวเองก็เดินทางเข้าบ้านเทียนชัยหน้าตาเฉย ทำท่าเหมือนเพิ่งลงเครื่องบินมา ที่บ้านนี่เอง อนวัชก็เผชิญหน้ากับปอฝ้ายคู่ปรับเก่าที่เข้ารับหน้าที่ในบ้านเทียนชัยอีก ครั้งหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าแฉความลับของกันและกัน
ปอฝ้ายอยู่ในบ้านเทียนชัย ภายใต้ชื่อสร้อย ฝ้ายต้องต่อสู้เอาตัวรอดสุดชีวิต ทั้งในเรื่องการทำครัว การแอนตี้ไม่ยอมรับของคนเก่า ๆ ในบ้านเทียนชัย สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เทียนชัยพยายาม เคลมฝ้ายตามนิสัยเดิมที่ต้องรวบบริวารทุกคนในบ้านเป็นเมีย จากพฤติกรรมของเทียนชัย ฝ้ายเริ่มสงสัยว่าเทียนชัยอาจจะเป็นพ่อของตนก็ได้ แต่ฝ้ายก็ยังไม่มั่นใจ เพราะมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มีโอกาสเป็นพ่อของตนได้ทั้งนั้น
เอมอรคู่หมั้นของอนวัช ส่งลินจงสาวใช้คนสนิทเข้ามาอยู่ในบ้านเทียนชัย เพื่อทำหน้าที่สอดส่องพฤติกรรมของฝ้ายเพราะกลัวว่าจะมาแย่งอนวัช ลินจงคอยจับตาฝ้าย สังเกตเห็นฝ้ายพยายามสืบถามเรื่องราวในบ้านเทียนชัย บางครั้งก็แอบค้นหาเอกสารของเทียนชัย
ลินจงถืออำนาจว่าเอมอรให้ท้าย ทำตัวกร่าง ข่มคนในบ้านของเทียนชัย จนเป็นที่เกลียดชังของทุกคน เพราะฉะนั้นเมื่อฝ้ายสามารถต่อกรเล่นงานลินจงเจ็บ ๆ ได้ จึงชนะใจคนในบ้านเทียนชัยหันกลับมาเป็นพวกเดียวกัน ในงานเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้านของอนวัช เอมอรออกร้านอาหารฝรั่ง แต่บ้านเทียนชัยออกร้านอาหารไทย ทั้งสองฝ้ายงัดลูกเล่น มาช่วงชิงเอาชนะกันอย่างสูสี สุดท้ายฝ้ายงัดไม้เด็ดโชว์ ฝีมือผัดกะเพราไก่ เอาชนะเอมอรด้วยกลิ่นอันจัดจ้าน ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้กับเอมอรและคุณทิพยาผู้เป็นแม่
อนวัชเห็นปอ ฝ้ายบอกทางไปห้องน้ำให้แขกฝรั่งที่มาในงาน อนวัชสงสัยว่าทำไมฝ้ายพูดภาษาอังกฤษได้ ฝ้ายโชว์ภาษาอังกฤษแบบเมียเช่า เป็นที่ขบขันเยาะเย้ยของศัตรู แต่ก็พ้นสงสัยไปได้
แต่งานเลี้ยงยัง ไม่ทันจบ อนวัชก็เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นมา ฝ้ายพยายามเข้าช่วยเหลือด้วยยาสมุนไพร แต่ถูกปฏิเสธ หนำซ้ำเอมอรยังกล่าวหาว่ากลิ่นผัดกะเพราไก่ของเธอเป็นต้นเหตุทำให้อนวัชเกิด อาการป่วย
งาม จิตและทิพยาร่วมกันจัดหาหมอและพยาบาลมาดูแลอนวัชอย่างขนานใหญ่ การมาของพยาบาลทั้งหลาย สร้างความโกลาหลให้กับอนวัชและบ้านเทียนชัยอย่างมาก คนที่พอใจมากที่สุดคือลินจง เพราะได้พยาบาลมาเป็นพวกคอยต่อกรกับเหล่าคนในบ้านของเทียนชัย อนวัชเบื่อการดูแลของลินจงและเหล่าพยาบาล แอบหนีออกไปข้างนอกกับคนของตัวเองอยู่เสมอ ๆ
เทียนชัยทำก้อร่อก้อติก คิดเคลมฝ้าย ปอฝ้ายเองก็พยายามหลอกถามเทียนชัย เพื่อหาความจริง ปอฝ้ายเห็นอาการพิรุธของเทียนชัยเมื่อเอ่ยถึงชื่อปอฝ้าย ดังนั้นฝ้ายจึงพยายามค้นหาต้นขั้วธนาณัติเพื่อเป็นหลักฐานว่าเทียนชัยคือคน ที่ส่งเสียเงินทองอุปการะตนตลอดมา
ปอฝ้ายเสียท่าถูกลินจงจับได้ว่า แอบค้นโต๊ะทำงานของเทียนชัย แต่ฝ้ายรอดจากการจนมุม เพราะอนวัชมาช่วยรับสมอ้างว่าเป็นคนใช้ให้ฝ้ายเข้าไปหาของเอง เพราะอนวัชมั่นใจว่าปอฝ้ายหรือที่รู้จักกันในนามสร้อย ต้องไม่ได้มุ่งหวังทรัพย์สินแน่นอน ต้องมีจุดประสงค์อื่นมากกว่านี้
อนวัช ชวนให้ฝ้ายช่วยออกไปถือของ เพื่อใช้โอกาสซักถามจุดประสงค์การมาอยู่ในบ้านนี้ แต่อนวัชเกิดอาการป่วยขึ้นระหว่างทาง คราวนี้ฝ้ายรีบช่วยด้วยวิธีการของตน ซึ่งได้ผลดีมาก ทำให้อนวัชดีใจเกิดความหวังในชีวิตว่าจะมีโอกาสหายจากโรคประจำตัวนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งสองฝ้ายเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันอีกครั้งหนึ่ง
ฝ้ายมี โอกาสโชว์ฝีมือผัดกะเพราไก่ให้อนวัชกินอีกครั้งเช่นเดียวกับที่อนวัชโชว์ ฝีมือการทอดไข่ดาว ทั้งสองคนมีช่วงเวลาที่มีความสุขต่อกันช่วงสั้น ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะพัฒนาเป็นความ รู้สึกลึกล้ำที่อยู่ในใจทั้งสองฝ่าย ความสนิทสนมของฝ้ายและอนวัชหาได้รอดพ้นสายตาของเหล่ามารร้ายอันมีเอมอร ทิพยา และลินจง ขบวนการทำลายฝ้ายจึงเริ่มต้นจากการขโมยแหวนของคุณงามจิต แล้วโยนความผิดให้ฝ้าย แม้ฝ้ายจะรอดพ้นการลงโทษเพราะไม่มีหลักฐาน แต่ก็สร้างความคลางแคลงใจให้กับคุณงามจิตอย่างมาก ลินจงเริ่มแผนสอง โดยวางยาสลบคนทั้งบ้าน โดยใส่ในอาหารที่ฝ้ายเป็นคนทำ แล้วให้เชิดเข้ามายกเค้าทรัพย์สินในบ้าน ฝ้ายรอดพ้นจากการถูกวางยาโดยบังเอิญเข้าขัดขวางต่อสู้กับเชิด ฝ้ายเกือบเสียที โชคดีที่อนวัชกลับมาพอดี เชิดจึงต้องรีบหนีไป
ทุก คนเข้าใจว่าฝ้ายเป็นสายให้โจร ฝ้ายถูกกดดันจนต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และขอลาออกจากบ้านเทียนชัยไป ฝ้ายหารถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไม่ได้ ต้องไปขออาศัยพักอยู่กับคุณกำธรก่อน พนักงานภัตตาคารไลล่าดีใจที่ได้เจอฝ้าย ขอร้องให้ทำผัดกระเพราไก่เลี้ยงพนักงาน กลิ่นกระเพราไก่หอมฟุ้งไปถึงในภัตตาคารเหมือนคราวที่อนวัชได้กลิ่นเมื่อมา ที่นี่เป็นครั้งแรก แต่คราวนี้กลิ่นกระเพราไก่นำพาหม่อมนรภัทรนักชิมอาหารชื่อดังให้เข้ามาชมถึง ในครัว หม่อมนรภัทรมีโอกาสพูดคุยกับฝ้ายอย่างถูกคอ หม่อมฯ สนใจแนวคิดการปรุงอาหารแนวโภชนาบำบัดอย่างมาก
เชิดพาคนมายกเค้าบ้าน เทียนชัยอีกครั้ง คราวนี้สำเร็จ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ฝ่ายผู้หญิง อันมี เอมอร งามจิต ทิพยาต่างลงความเห็นว่าฝ้ายเป็นคนทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ฝ่ายผู้ชายอันมี อนวัช เทียนชัย ทวีศักดิ์ต่างไม่เห็นด้วย อ้างว่าตอนเกิดเหตุ ฝ้ายไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว ในที่สุดก็ลงมติว่าให้ไปพิสูจน์ที่บ้านของฝ้าย
อนวัชกับเอมอรเดินทาง ไปที่บ้านต่างจังหวัดของฝ้าย เกิดปะทะคารมกัน บังเอิญเกิดฝนตกหนัก ทางกลับกรุงเทพถูกตัดขาด อนวัชและเอมอรต้องค้างที่บ้านของฝ้าย อนวัชมีโอกาสปรับความเข้าใจกับฝ้ายอีกครั้ง ได้ไปกับหน่วยบรรเทาทุกข์ออกช่วยเหลือชาวบ้าน และได้รับการรักษาโรคประจำตัวอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เป็นช่วงชีวิตที่อนวัชมีความสุขอย่างแท้จริง ยกเว้นสิ่งเดียวที่รบกวนหัวใจก็คือความคลางแคลงว่าฝ้ายอาจจะเป็นพี่น้องร่วม สายเลือดเดียวกัน ซึ่งก็คือสิ่งเดียวกับที่รบกวนหัวใจของฝ้ายเช่นกัน
เอมอร โกรธที่อนวัชไปใช้ชีวิตคลุกคลีกับฝ้าย จึงประชดด้วยการหว่านเสน่ห์กับปลัดวันรบ เพื่อนสนิทของฝ้าย และแล้ววันหนึ่งหลังจากที่ปลัดวันรบพาเอมอรไปดูผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่วนใหญ่คือ กระแช่ อุ ไวน์ สาโท เอมอรและปลัดชิมผลิตภัณฑ์จนเมาและเลยเถิดจนถึงขั้นได้เสียกัน เมื่อทางเปิด อนวัชและเอมอรก็กลับกรุงเทพ ขณะเดียวกันฝ้ายก็ได้รับการติดต่อจากคุณกำธรให้เข้ากรุงเทพด่วน เพราะคุณกำธรเข้าหุ้นกับหม่อมนรภัทร เปิดร้านอาหารร้านใหม่ เป็นแนวอาหารสุขภาพโภชนาบำบัดที่ฝ้ายถนัด หม่อมนรภัทรต้องการให้ฝ้ายมาเป็นผู้จัดการร้าน ฝ้ายตกลงและขอใช้ชื่อร้านว่า “กระเพรา”
แต่กิจการของร้านกระเพราเงียบเหงาผิดคาด คนไทยไม่ค่อยนิยม อนวัชหาทางช่วยโปรโมทและเจาะตลาดชาวต่างประเทศ ปรากฏว่าได้ผล มีลูกค้าต่างประเทศมาอุดหนุนคับคั่ง จนคนไทยก็พลอยเห่อตามไปด้วย กิจการอาหารโภชนาบำบัดของร้านกระเพราจึงโด่งดัง พร้อมกับชื่อเสียงของฝ้าย ฝ้ายได้รับเชิญไปออกรายการทีวี มากมายหลายรายการ ถึงชีวิตการงานจะประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตรักกลับอึมครึม เพราะความไม่แน่ใจว่าทั้งสองจะกลายเป็นพี่น้องกันหรือไม่ ในที่สุดทั้งหมดก็หาทางยุติปัญหาด้วยการตรวจ ดี เอ็น เอ
ระหว่าง รอผลการตรวจ ฝ้ายได้รับเชิญให้เข้าร่วมสัมมนาในงาน “อาหารเพื่อสุขภาพนานาชาติ” เป็นงานใหญ่ที่มีชาวต่างชาติ นักโภชนาการ เข้าร่วมสัมมนามากมาย มีการถ่ายทอดออกทีวีไปทั่วประเทศ เอมอรเข้าร่วมงานหวังฉีกหน้าฝ้าย แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ้ายโชว์ความสามารถ ความรู้ในเรื่องของอาหารสมุนไพร ด้วยภาษาอังกฤษ สร้างความตกตลึงให้กับศัครู สร้างความชื่นชมให้กับผู้ที่หวังดี คุณงามจิตเริ่มเปลี่ยนท่าที ยอมรับปอฝ้ายอดีตแจ๋วในบ้านมาเป็นศรีสะใภ้