25 เม.ย. 58
ช่วงเวลาเกือบ2ทุ่ม ระหว่างรถสัญญาณไฟแดงเพื่อรอกลับรถเข้าเดอะมอลล์ท่าพระ ผมสังเกตเห็นควันหน้ารถ คิดในใจว่าทำไมรถคันหน้าควันดำจังว่ะ ชักเอ่ะใจเปิดกระจกชะเง้อดู ชิหายแล้ว กลิ่นไหม้นี่หว่า ผมนี่รีบลงไปเปิดฝากระโปรง อุทานดังๆ OMG ไฟกำลังลุกไหม้สายไฟด้านขวา!!
ผมสตั้นท์ไป 3วิ น้ำๆๆๆ ตะโกน บอกให้เพื่อนที่นั่งมาด้วยหยิบน้ำในรถมาดับ เชื่อเลยครับว่าน้ำเปล่าขวดใหญ่ที่แถมมาจากปั้มน้ำมัน ดับไฟไม่ได้ ผมวิ่งไปหาอีกขวดนึง เปิดฝา ราดให้ตรงจุด หุหุยิ่งราดยิ่งไฟยิ่งลุกครับท่าน!
ผมตะโกนบอกเพื่อนให้โทรหา 191 ส่วนผมวิ่งหาอุปกรณ์ดับไฟ โอ่วม่าย.. ในรถมีแต่อุปกรณ์ติดไฟทั้งนั้น อารามตกใจมือสั่นไปหมด เอาไงดีว้า...? เห็นเพื่อนวิ่งข้ามถนนไปไหนไม่รู้ ผมไม่รู้ทำไง รีบไปเคาะรถคันโน้นบ้าง คันนี้บ้าง พี่ๆมีน้ำเปล่ามั้ยรถผมไฟไหม้...! ผมไม่ได้อะไรกลับมา บางคันนี่รีบขับหนีเลย มีพี่ Taxiใจดีท่านนึง วิ่งลงเอาน้ำดื่มมายื่นให้ ผมบอกพี่ช่วยราดหน่อย เผื่อพี่ดวงดีราดแล้วไฟจะดับ แต่น้ำน้อยแพ้ไฟจริงๆครับ
ต้องขอบคุณพี่ Taxi มา ณ ที่นี้ด้วย
ไฟยังค่อยๆไหม้ลาม โอ้ว.. ใจจะขาดสิครับ เหมือนไฟกำลังไหม้หัวใจเรายังไงยังงั้น ตัดสินใจงัดอุปกรณ์คู่ใจ โทรศัพท์มือถือ มาถ่ายรูปไฟ คิดว่าถ้าดับไม่ได้ ก็ถ่ายไว้เคลมประกันล่ะกันครับ เริ่มคิดว่าในรถมีอะไรสำคัญบ้าง จะต้องรีบหยิบออก เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า รถอาจระเบิดไหม้ทั้งคันได้...
เพื่อนที่หายไป.... วิ่งกลับมาพร้อมถังดับเพลิง ซึ่งไปขอยืมมาจาก นันทวันอพาร์ทเม้นท์ ใกล้ตรงจุดเกิดเหตุ เพิ่อนกระชากสายรัดออก หยิบปลายสายจ่อต้นเพลิง ฉีด3ปื้ดยาวๆ ไฟดับสงบนิ่ง.. ทุกสิ่งยุติแล้ว ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณเพื่อนHeroตัวจริง... สักพักนึง ทีมกู้ภัยมาถึงอย่างรวดเร็ว ช่วยรีบตัดขั้วแบตออก เกรงว่าจะช็อต พร้อมช่วยโบกรถเคลียร์การจราจร และตรวจสอบความเสียหาย ช่วยตามรถลาก และรอจน จนท.ประกันมาเคลียร์ให้ ขอบคุณพี่ๆน้องๆ ทีมกู้ภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองวันนี้ รู้เลยว่ามี 2 สิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรมี แต่ผมไม่มี
1. สติ
2. เครื่องดับเพลิงในรถยนต์
ข้อ2 หาซื้อได้ (ซื้อติดรถกันไว้นะครับ)
ส่วน ข้อ1 หาซื้อไม่มี ต้องตั้งมันให้นิ่งไว้กับตัว
ขอบคุณผู้ช่วยชีวิตทุกคน
แชร์เหตุการณ์ระทึก ไฟไหม้ห้องเครื่องรถยนต์
ช่วงเวลาเกือบ2ทุ่ม ระหว่างรถสัญญาณไฟแดงเพื่อรอกลับรถเข้าเดอะมอลล์ท่าพระ ผมสังเกตเห็นควันหน้ารถ คิดในใจว่าทำไมรถคันหน้าควันดำจังว่ะ ชักเอ่ะใจเปิดกระจกชะเง้อดู ชิหายแล้ว กลิ่นไหม้นี่หว่า ผมนี่รีบลงไปเปิดฝากระโปรง อุทานดังๆ OMG ไฟกำลังลุกไหม้สายไฟด้านขวา!!
ผมสตั้นท์ไป 3วิ น้ำๆๆๆ ตะโกน บอกให้เพื่อนที่นั่งมาด้วยหยิบน้ำในรถมาดับ เชื่อเลยครับว่าน้ำเปล่าขวดใหญ่ที่แถมมาจากปั้มน้ำมัน ดับไฟไม่ได้ ผมวิ่งไปหาอีกขวดนึง เปิดฝา ราดให้ตรงจุด หุหุยิ่งราดยิ่งไฟยิ่งลุกครับท่าน!
ผมตะโกนบอกเพื่อนให้โทรหา 191 ส่วนผมวิ่งหาอุปกรณ์ดับไฟ โอ่วม่าย.. ในรถมีแต่อุปกรณ์ติดไฟทั้งนั้น อารามตกใจมือสั่นไปหมด เอาไงดีว้า...? เห็นเพื่อนวิ่งข้ามถนนไปไหนไม่รู้ ผมไม่รู้ทำไง รีบไปเคาะรถคันโน้นบ้าง คันนี้บ้าง พี่ๆมีน้ำเปล่ามั้ยรถผมไฟไหม้...! ผมไม่ได้อะไรกลับมา บางคันนี่รีบขับหนีเลย มีพี่ Taxiใจดีท่านนึง วิ่งลงเอาน้ำดื่มมายื่นให้ ผมบอกพี่ช่วยราดหน่อย เผื่อพี่ดวงดีราดแล้วไฟจะดับ แต่น้ำน้อยแพ้ไฟจริงๆครับ
ต้องขอบคุณพี่ Taxi มา ณ ที่นี้ด้วย
ไฟยังค่อยๆไหม้ลาม โอ้ว.. ใจจะขาดสิครับ เหมือนไฟกำลังไหม้หัวใจเรายังไงยังงั้น ตัดสินใจงัดอุปกรณ์คู่ใจ โทรศัพท์มือถือ มาถ่ายรูปไฟ คิดว่าถ้าดับไม่ได้ ก็ถ่ายไว้เคลมประกันล่ะกันครับ เริ่มคิดว่าในรถมีอะไรสำคัญบ้าง จะต้องรีบหยิบออก เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า รถอาจระเบิดไหม้ทั้งคันได้...
เพื่อนที่หายไป.... วิ่งกลับมาพร้อมถังดับเพลิง ซึ่งไปขอยืมมาจาก นันทวันอพาร์ทเม้นท์ ใกล้ตรงจุดเกิดเหตุ เพิ่อนกระชากสายรัดออก หยิบปลายสายจ่อต้นเพลิง ฉีด3ปื้ดยาวๆ ไฟดับสงบนิ่ง.. ทุกสิ่งยุติแล้ว ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณเพื่อนHeroตัวจริง... สักพักนึง ทีมกู้ภัยมาถึงอย่างรวดเร็ว ช่วยรีบตัดขั้วแบตออก เกรงว่าจะช็อต พร้อมช่วยโบกรถเคลียร์การจราจร และตรวจสอบความเสียหาย ช่วยตามรถลาก และรอจน จนท.ประกันมาเคลียร์ให้ ขอบคุณพี่ๆน้องๆ ทีมกู้ภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองวันนี้ รู้เลยว่ามี 2 สิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ควรมี แต่ผมไม่มี
1. สติ
2. เครื่องดับเพลิงในรถยนต์
ข้อ2 หาซื้อได้ (ซื้อติดรถกันไว้นะครับ)
ส่วน ข้อ1 หาซื้อไม่มี ต้องตั้งมันให้นิ่งไว้กับตัว
ขอบคุณผู้ช่วยชีวิตทุกคน