ผมขอเกริ่นๆชีวิตผมพอคราวๆก่อนน่ะครับ ปัจจุบันผมมีครอบครัวแล้ว มีลูกชาย1คน สถานะทางครอบครัวตอนนี้พูดได้ว่าแยกกันอยู่ ผมกับภรรยาแยกกันอยู่มาจะครึ่งปีล่ะครับ ลูกชายก็ให้ภรรยาดูแล แต่ผมก็ไม่ได้ทิ้งเค้าให้เดียวดายน่ะครับ ผมยังไปเยี่ยมลูกกับภรรยาทุกเดือน เดือนล่ะครั้งสองครั้ง เรื่องราวครอบครัวผมที่เริ่มแยกกันเนื่องจาก ภรรยาผมไม่มีความรู้สึกทางเพศเลย เราไม่มีอะไรกันมาจะครบปีแล้วครับ เรื่องนี้ผมได้คุยกับภรรยาผมแล้ว ว่ามันสำคัญ ซึ่งตัวเธอเองก็รู้ และ เข้าใจเป็นอย่างดี ว่าผู้ชายแบบผมเป็นคน ค่อนข้างเซ็กส์จัด เรียกได้ว่า ถ้าอยู่กันสองคนแล้ว มีอะไรมาสะกิดให้จุดติด มีอันต้องจัดกันครื้นเครง แต่เมื่อสมัยก่อน ภรรยาผมไม่เคยขาดตกบกพร่องเรื่องนี้เลย เราสนุกกันเรื่องเซ็กส์กันตลอด ตั้งแต่เธอเริ่มตั้งท้องได้6เดือน เธอเริ่มห่างหายไปทีละนิด ทีละน้อย เธอเองก็เป็นผู้หญิงที่รักในศักดิ์ศรี คือผัวเดียวเมียเดียว และห้ามนอกใจกัน ผมเองก็ไม่เคยคิดจะนอกใจเธอเลย ตั้งแต่แต่งงานกับเธอ ผมไม่เคยนอกใจ นอกกายเลย จนเรื่องมันเริ่มจะหนักขึ้น เมื่อเธอบอกกับผมตรงๆเลยว่า เธอไม่อยากนอนกับผมแล้ว ผมถึงกับอึ้ง ถามเธอว่าเพราะอะไร ผมทำอะไรผิด ภรรยาบอกว่าไม่ได้ผิด หรือไม่ได้รัก เพียงแค่ไม่มีความรู้สึกเรื่องนั้นอีกแล้ว ตอนนี้อยู่กับลูก เลี้ยงลูกก็สบายใจ ผมเองได้ฟังแบบนี้แล้วก็ถามเธอตรงๆ ว่าจะปล่อยให้เค้าอัดอั้นอารมณ์ทางเพศเหรอ เธอเองก็ตอบว่า ถ้าอยากจะมี เค้าก็จะพยายาม แต่แล้วสุดท้าย ความพยายามเธอได้หมดลง ผมจึงบอกเธอตรงๆว่า ผมขอมีนอกบ้านได้ไหม เธอฟังแล้วก็อึ้งเงียบไปครู่นึง ภรรยาผมถามกลับมาว่า "แล้วจะเลิกกันไหม ถ้าเค้าจะขอเลิก พี่จะให้น้องเลิกกับพี่ไหม" ผมบอกตรงๆผมไม่อยากเลิกกับเธอ เธอก็โอเค ไม่เลิกกัน แต่ขอคิดก่อนว่าจะทำยังไง สุดท้าย เธอยื่นข้อเสนอให้ คือให้ผมมีนอกบ้านได้ แต่.. แต่น่ะครับ แต่เธอขอกลับไปอยู่ที่บ้านของเธอ พร้อมพาลูกไปดูแลได้ไหม คราวนี้ถึงคราวผมเครียดหนัก เพราะผมรักลูกผมมาก ลูกตัวเองใครไม่รักก็บ้าแล้วน่ะครับ ยิ่งไม่เจอกันมันรู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิตไป แต่ภรรยาผมก็บอกว่า "ถ้าพี่ไม่เลือกสักทางไม่ได้หรอก เพราะน้องก็มีอะไรกับพี่ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน น้องเลือกให้แล้ว ไม่อยากให้พี่ต้องทนทุกข์ น้องยอมรับว่าน้องบกพร่องเรื่องนี้จริงๆ พี่ไม่ต้องเลิกกันหรอก น้องก็ยังรักพี่เหมือนเดิม แต่ถ้าพี่จะมี น้องขอให้มีเป็นตัวเป็นตน อย่ามีแบบรายครั้ง เพราะกลัวพี่จะติดโรค แม้จะป้องกันก็ตาม อีกอย่างน้องจะได้ไม่รู้สึกขยะแขยงพี่ด้วย" สุดท้ายก็เลือกตามที่เธอเสนอให้หลังจากที่ผมอยู่คนเดียวมาได้สักเดือน ผมก็เริ่มเที่ยวตามประสาผู้ชาย และที่สำคัญ ผมตรวจเลือดทุกเดือน ผมก็ซื้อกินตามประสาผู้ชายเที่ยว จนวันนึงมาเจอกับผู้หญิงที่ผมเรียกได้ว่า ตกหลุมรักเลยก็ได้ ถามว่าหลงในความสวยเหรอ ก็ไม่ครับ หน้าตารูปร่าง เธอไม่ใช่สวยหรือดูดีมากมายอะไร เพียงแต่กริยาท่าทาง การวางตัว การพูดคุยของเธอมันตรงใจมากครับ ผมเลยเลือกที่จะใช้บริการเธอบ่อยๆ จนบ่อยเข้าผมก็ไม่เรียกใช้คนอื่นอีกเลย เราสองคนเจอกันบ่อยมาก จนสุดท้ายผมได้คุยกับเธอ เธอก็ไว้ใจผมมากขึ้น กลายเป็นว่า ตอนนี้ผมไม่ต้องเสียเงินกับเธอเลย จริงๆก่อนหน้านี้เธอเองก็ไม่เคยขอร้อง เรียกร้องเงินจากผมเลย ชีวิตเธอแสนจะลำบาก ผมตามสืบประวัติเธอ รู้ฐานะที่บ้าน เธอทำงานบริการ คนที่บ้านเธอไม่มีใครรู้ว่าเธอทำงานแบบนี้ หลายครั้งผมช่วยค่าใช้จ่ายเธอ แต่สุดท้ายเธอเอามาคืนผมทุกครั้ง จนปัจจุบันนี้ เราสองคนคบหากันอยู่ก็ว่า..... แต่ปัญหามีอยู่ว่า ก่อนที่จะตกลงคบกัน ผมไม่รู้ว่าเธอมีแฟน เพราะเธอเองก็ไม่บอกผม จนเรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากคบกันได้อาทิตย์เดียว แฟนเธอกลับมาหา บล็อคเบอร์ ลบไลน์ผมทิ้ง ผมจึงถามเธอตรงๆว่าทำไมต้องปิดบังกัน เธอร้องไห้เพราะเครียดหนักมาก เธอเองก็ไม่คิดว่าแฟนจะกลับมา เพราะหายจากเธอไปเป็นเดือนแล้ว แต่อยู่ๆก็กลับมาหากลางดึก จนรู้ว่าคุยกับผมอยู่ เธอขอเวลาทำใจสักพัก บอกให้ผมกับเธอถอยกันคนล่ะก้าว เธอบอกผมตรงๆว่า เธอก็ยังตัดใจไม่ขาดจากเค้าเหมือนกัน ซึ่งผมก็ให้สัญญากับเธอว่าผมให้เวลาน่ะ แต่...เวลาผมมีจำกัด เธอเองก็อยากได้ความแน่นอนจากผมว่า ผมเองก็ไม่ได้โกหกเรื่องภรรยาของผม ว่าภรรยาผมให้มีเพิ่มได้ ซึ่งผมเองหนักใจมากตรงนี้ ใจนึง ถ้าบอกภรรยาผม ผมกลัวภรรยาจะคิดมาก ว่าผมไม่รักเธอแล้วรึยังไง ซึ่งแม้เธอจะเปิดทางให้ผมมีเพิ่มได้ก็จริง และอีกเรื่องคือ ผมก็ไม่รู้ว่า เธอจะจริงจังกับผมได้ขนาดไหน(แฟนใหม่) เพราะผมเองเกรงว่าเธอจะเอาผมเป็นเหมือนที่ยึดเหนี่ยวเพื่อลืมอีกคน ส่วนในสายตาคนทั่วไป แฟนใหม่ผม ไม่มีใครรู้ว่าเธอทำอาชีพอะไร แต่ผมก็คิดแล้วว่าถ้าหากจะคบกันจริง แฟนใหม่ผมก็ต้องเลิกทำงานอาชีพนี้ซ่ะ ผมอยากถามความเห็นว่า ผมทำถูกต้องรึยัง ผมอัดอั้นมานานเหลือเกิน ขอบคุณครับ
เมื่อผมตกหลุมรัก...สาวบริการ