อุทาหรณ์ของเรื่อง "นอกใจไม่นอกกาย" "Sex ไม่ใช่ความรัก"

ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าให้ฟัง เป็นประสบการณ์ของผมที่คิดอยู่นาน ว่าควรจะเขียนเล่าให้เป็นอุทาหรณ์กับคนที่เชื่อว่า เรื่อง Sex กับความรักนั้นแยกจากกันได้

ผมกับภรรยาแต่งงานกันมา ถ้านับถึงตอนนี้ก็ 8 ปี แล้ว ตอนนี้เราอายุ 30 กลางๆ ไม่มีลูกด้วยกัน ทำงานรับราชการทั้งคู่ แต่อยู่คนละหน่วยงานกัน

บอกกันตรงๆ ว่า ผมเป็นคนมีรสนิยมทางเพศแบบล้นเกินไปหน่อย คือชอบฟังเรื่องที่ภรรยามีอะไรกับคนอื่น ก่อนมาแต่งงานกับผม เธอเคยมีแฟนมาแล้ว 6-7 คน ซึ่งเคยมีอะไรกันมาแล้วหมด รวมถึงคนที่แค่คุยๆ แต่ก็ไปนอนกันอีก 2-3 คน นี่คือตั้งแต่มัธยมปลายถึงวัยทำงานนะครับ ถ้าเป็นคนอื่นคงรับไม่ค่อยได้ แต่ผมชอบ ผมเลยขอให้ภรรยาเล่าเรื่องการมี sex การเสียตัวครั้งแรก การยอมให้แฟนแต่ละคนมีอะไรด้วยครั้งแรก ประสบการณ์น่าตื่นเต้นต่างๆ ให้ฟังเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ บางคนผมก็รู้จัก ก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ชีวิตเป็นแบบนี้ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร

จนกระทั่งแต่งงานได้ 2 ปี เธอก็เล่าว่า มีรุ่นน้องที่ทำงาน เพิ่งบรรจุใหม่ เข้ามาก้อร่อก้อติก พูดจาสองแง่สามง่าม ตอนนั้นความรู้สึกตื่นเต้นของผมก็ระเบิดออกมา ผมเลยบอกว่า เธอจะไปเที่ยว ไปดูหนังกินข้าวกับเขาก็ได้ ภรรยาถามว่าแน่ใจนะ ผมก็บอกว่าแน่ใจ เพียงแต่ขอให้รายงานผมด้วย เพื่อความตื่นเต้น ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้ชูรสชีวิต sex ของผมกับภรรยาได้ดีมากๆ เหมือนยาปลุกอารมณ์ชั้นดี

จากกินข้าว ดูหนังผมก็ขยายขอบเขต ให้สัมผัสกันภายนอก ไม่นาน (ไม่ถึง 3 เดือน ที่อนุญาตให้ไปเที่ยวกัน) ก็เลยเถิดไปสุดทาง ใช่ครับ ผมอนุญาติให้ภรรยามีอะไรกับรุ่นน้องที่มาจีบคนนั้นได้ ภายใต้การรับรู้ของผม

ตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่า ผมเป็นพวกชอบสวิงกิ้ง อาจจะใช่นะ แต่ของผมไม่ได้อยากเห็น อยากดู ผมแค่อยากรู้ แล้วมันหัวใจเต้นแรง อารมณ์ทางเพศขึ้น (เคยแข็งอยู่ 5 ชั่วโมงไม่ลงเลย ตลอดเวลาที่พวกเขาออกไปกัน) แต่ไม่ได้อยากแลกคู่ เพียงแต่เมื่อเสร็จกลับมาแล้ว ขอให้ภรรยาผมเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างหมดจดหมดเปลือก เหมือนเล่าเรื่องกับอดีตแฟน ๆ เท่านั้น

ใช้ชีวิตกันไปแบบนี้จนถึงปีที่ 4 ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนน้องคนนั้นแต่งงานไป จึงต้องเลิก

ปีที่ 5 เริ่มต้นเมื่อภรรยาของผมได้ไปอบรมหลักสูตรของทางราชการร่วมกับหน่วยงานอื่น แน่นอนว่า ภรรยาผมค่อนข้างหน้าตาดี ดูอ่อนกว่าอายุ จึงมีคนมาจีบมาก คราวนี้เป็นคนมียศ แน่นอนครับ ความตื่นเต้นครั้งใหม่ อันนี้ไม่เล่าซ้ำละ เอาว่าเหมือนกับเรื่องของรุ่นน้องที่ว่า ไม่ต่างกัน แค่เปลี่ยนคน

ผมมีข้อตกลงหลวมๆ แค่ว่า ต้องป้องกันทั้งเรื่องโรคและการป้องกัน ห้ามยุ่งกับคนมีครอบครัวแล้ว และห้ามรักเขา ขอให้แยกว่านี่คือการแสวงหาความสุขเรื่อง sex เท่านั้น ซึ่งทุกฝ่ายแฮปปี้

จากนั้น ภรรยาของผมก็ไปมีอะไรกับแฟนเก่าบ้าง หรือคนมียศคนนั้นบ้าง สลับกันไป ภายใต้การรับรู้และแฮปปี้ของผม ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องชอบใครชอบมัน แค่ sex ไม่ใช่ความรัก เป็นการนอกกาย ไม่ใช่นอกใจ เพื่ออรรถรส ไม่เห็นมีผิดอะไร

จนกระทั่งปีที่ 7 เรื่องเกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์ ช่วงนั้นผมต้องไปทำงานต่างจังหวัด ผมเลยสั่งดอกไม้ส่งไปให้ภรรยาที่ทำงาน ส่งไปเช้า แต่เธอก็ไม่ได้ไลน์มาว่าได้หรือไม่ได้ยังไง (พนักงานจัดส่งบอกว่าได้รับแล้ว พร้อมหลักฐาน) จนผมอดไม่ไหว ตอนพักเที่ยง ผมเลยไลน์ไปถาม ว่า ชอบดอกไม้ที่ส่งให้ไหม เธอก็บอกว่า ชอบมาก จัดแจกันไว้ที่โต๊ะทำงานเลย

ผมเลยบอกว่า ถ่ายรูปมาให้ดูหน่อย ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลยครับ แต่ภรรยากลับเงียบหายไปนาน เป็นนาทีๆ จึงตอบกลับมาว่า "ของตัวช่อไหน"ผมเลยได้รู้ตอนนั้นว่า ไม่ใช่เฉพาะผม ที่ส่งดอกไม้ไปให้เธอในวันนั้น

ผมเก็บความสงสัย ว้าวุ่นใจไว้ราวๆ 4 วัน จึงกลับมากรุงเทพฯ เพื่อคุยกับเธอ

เธอยอมรับกับผมตรงๆว่า ได้คบหากับคนอื่น ในลักษณะแบบ "คนคุยกัน" มาได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งเธอไม่บอกผม

การไม่บอกผมนี่ แตกต่างจากเงื่อนไขที่ตั้งไว้ก่อน เพราะอันนั้น ไปนอนก็ได้ ขอให้บอก บอกทุกวันด้วย แต่นี่ไม่ใช่ ไม่บอกผม เป็นใครที่ผมไม่รู้มาก่อน เธอจึงเล่าว่า รู้จักกันตอนติดต่องาน แล้วเคยคุยกันมาเรื่อยๆ ยอมรับตรงๆ ว่าแอบชอบ และรู้สึกดี ไปนอนด้วยกันแล้ว โดยผมไม่รับรู้

ผมรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังพังทลาย และมันก็พังลงจริงๆ เพราะจากนั้น 4 เดือน เราก็จบลงด้วยการหย่ากัน เป็นเรื่องตลก เพราะมันกำลังเข้าปีที่ 7 อยู่พอดี

การหย่ากันของผมกับภรรยาไม่ใช่ปัญหาเรื่องมีคนอื่นอย่างเดียว มันมีเรื่องการเงินและปัญหาครอบครัวอื่นๆด้วย ซึ่งก็อาจจะร้ายแรงอยู่ แต่ถ้าเป็นครอบครัวที่ยังผูกพันกันด้วยความรัก มันก็พอผ่านข้ามไปได้ด้วยความอดทนและอภัยกัน

แต่เมื่อมีคนอื่น มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

และที่มีคนอื่น เพราะผมเองที่เปิดช่อง ให้ "นอกกาย ไม่นอกใจ" "Sex ไม่ใช่ความรัก" นี่แหละครับ

นี่คืออุทาหรณ์ประสบการณ์ชีวิตที่ผมอยากจะมาเล่าให้ฟัง เผื่อใครจะได้ไม่พลาดถลำลงไปอย่างผม สำหรับรสนิยมทางเพศคล้ายๆผม คุณก็ต้องยอมรับความจริงว่า ไม่มีทางหรอก ที่คุณจะยอมให้คนของคุณไปกับคนอื่นได้โดยไม่มีความผูกพันทางใจเลย

และในที่สุด คำสอนโบราณ เรื่องการไม่ผิดลูกผิดเมีย ไม่ทำกาเมมุมิจฉาจาร นั้น เขาคงลองผิดลองถูกกันมาแต่ครั้งพุทธกาลแล้วกระมัง

จำไว้นะครับ นอกกาย ไม่นอกใจ ไม่มีจริง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เราชอบอ่านความรู้สึก ของคนมีรสนิยมแปลกๆนะคะ ...
อ่านแล้วก็พยายามทำความเข้าใจ ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่นะ ? อะไรคือสาเหตุ ?

เรื่องรสนิยมแบบคุณ ...
เราก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ... เดาได้เพียงว่า
ความสุขมันเกิดจากการที่ได้ครอบครองเหนือผู้อื่นหรือเปล่า  แบบที่ว่า ไม่ว่าเธอจะไปมีอะไร สุดท้ายก็มาจบลงที่คุณ  อมยิ้ม19

แต่เรื่องที่เธอนอกใจ กับคนนั้น
เรามองว่าไม่ใช่สาเหตุเกิดจากการอนุญาต (ให้มีอะไรกับชายอื่น)ของคุณโดยตรงหรอกค่ะ
เพราะคุณอนุญาตภายใต้เงื่อนไข

แต่ครั้งนี้ เธอตั้งใจปกปิด ไม่เล่าแม้กระทั่งตอนที่เริ่มรู้จัก เริ่มคุย เริ่มคบ เริ่มเดท ...
แสดงว่า  เฉพาะผู้ชายคนนี้เท่านั้น ที่เธอเริ่มรู้สึก ตั้งแต่แรกเจอ และการนอกใจคุณ เธอเริ่มตั้งแต่ยังไม่มีอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำค่ะ

เรื่องทางเพศเป็นของบาดใจ ...
ที่ท่านบัญญัติศีลข้อสามไว้ ก็เพื่อความสุข ของทั้งตนเอง และ ของส่วนรวม

มีคนถามต่อ ...ว่าถ้าต่างฝ่ายต่างเต็มใจให้ไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นล่ะ ผิดศีลไหม ?
ตอบว่า ... ความเต็มใจ (การอนุญาต)  ไม่ทำให้เกิดการละเมิด จึงไม่เป็นการผิดศีล

แต่ ....

เป็นการ ผิดธรรม.
บทบัญญัติ แห่งธรรมเรื่อง มนุษย์เราควรสันโดษในคู่ของคน ควรลด ละ เลิก เรื่องกามตัณหา นี่แหละ
คือบทป้องกัน และ กำจัดทุกข์ ที่กำลังเกิดขึ้น กับคุณในครั้งนี้ค่ะ

นี่จะเป็นประสบการณ์ สอนใจคุณได้ดีทีเดียว...
เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่