Allah เย็นชา และ โหดร้าย
แต่ทว่า ประชาชนอิหร่าน ยอมตามเพื่อ Allah
“Iranian Pastor” กล่าวไว้

ใครที่ออกจาก ศาสนาอิสลาม กฏหมายอิสลาม คือ คนนั้นต้องตาย (Islamic Law)

Padina เป็นหญิงสาวชาวอิหร่าน         นี่คือเรื่องจริงเธอ
ตั้งแต่เด็กเธอได้ท่องจำKaran และ ละหมาดทุกวัน
ทุกครั้งก่อนไปโรงเรียน ก็ต้องท่องจำKaran อีกรอบ
เธอกล่าวว่า *ฉันเกลียดคริสเตียน*  ฉันมีความสุขมากๆ เมื่อได้ยินว่าคริสเตียนถูกข่มเหง
เราถูกสอนมาว่า ถ้าเราฆ่าคริสเตียน จะเป็นบัตรผ่านอีกช่องทางหนึ่งที่จะเข้าสู่สวรรค์

ฉันเป็นคนที่เคร่งครัดและเข้มงวดมากในการรักษากฎพิธีของอิสลาม
ระหว่างพิธีถ้าฉันทำไม่ต่อเนื่อง หรือหยุดกลางคัน ฉันต้องกลับไปล้างมือและเริ่งต้นใหม่อีกครั้ง
เป็นแบบนี้ประมาณ10ๆ ครั้งได้ ในการละหมาด แต่ละรอบ
มันทำให้ฉัน กลายเป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง และมีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย

ฉันรู้สึก Allah ช่างห่างไกลเหลือเกิน และ แม่ฉันก็ป่วยหนัก กำลังจะตาย
และแล้ว วันนึง ฉันเดินไปบอกแม่ว่า ฉันจะฆ่าตัวตาย
แม่ฉันก็ตอบว่า ถ้าลูกจะฆ่าตัวตาย ก็พาแม่ไปด้วยแล้วกัน
ฉันบอกแม่ว่า ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อแม่ งั้นเราจะตายไปพร้อมกัน



วันถัดมาแม่ฉันเปิด ทีวี ช่องคริสเตียน และ ในทีวี อาจารย์ท่านกล่าวว่า วันนี้พระเยซูคริสต์มีถ้อยคำเจาะจงมายังคุณพิเศษ     ถ้าใคร รู้สึกหมดหวัง สิ้นหวัง หดหู่ใจ เศร้าใจ และกำลังคิดจะฆ่าตัวตาย พระเยซูคริสต์ต้องการจะบอกกับคุณว่าให้หยุดการกระทำนั้นเสีย
พระองค์ต้องการจะสื่อสารกับคุณ บอกคุณว่า คุณยังมีหวัง และ มีอนาคตที่ดีได้ ถ้าคุณกำลังจะฆ่าตัวตายในตอนนี้ ให้หยุดเสีย และ โทรมาหาผม

แม่ของฉันก็โทรไปคุยกับท่าน คุยกันนานพอสมควร  แต่ฉันก็ยืนยันว่าฉันจะฆ่าตัวตาย ไม่มีอะไรมาหยุดฉันได้  
ฉันเห็นแม่ร้องไห้ และได้กลับใจใหม่ และ ได้อธิษฐานต้อนรับพระเยซูเข้ามาในชีวิต เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
ฉันโกรธมาก บอกแม่ว่า วินาทีสุดท้ายแล้ว ทำไมแม่ทำแบบนี้ เราก็เริ่มทะเลาะกัน
แม่ทำแบบนี้ แม่กำลังจะตกนรกนะ

แม่ฉันก็พยายามให้ฉันคุยกับท่านอาจารย์ให้ได้ ฉันก็ไม่ยอม แม่ฉันบอกพระเยซูช่วยได้
ฉันบอกแม่ว่า พระเยซูจะช่วยอะไรได้ พระองค์ไม่มีอะไรพิเศษ
ฉันไม่อยากทำผิด และลบหลู่ ต่อ Mohammed  ถ้าแม่พูดแบบนี้ หมายความว่า แม่เป็นคนนอกศาสนาแล้ว แม่ฉันร้องไห้อย่างหนัก
ฉันเลยตัดสินใจคุยโทรศัพท์ ............................................



คำพูดท่านอาจารย์ ตอนที่ผมคุยกับเธอ เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และ ต่อต้านอย่างหนัก
“ฉันจะฆ่าตัวตายวันนี้  พระเยซูจะมาทำอะไรได้ “ นั่นคือ สิ่งที่เธอกล่าว
ผมคุยกับเธอ ประมาณ ชั่วโมงได้ ก็ยังไม่สามารถ เปลี่ยนความคิดของเธอ เธอพูดตลอดเวลา ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะฆ่าตัวตาย
ผมบอกกับเธอว่า คุณบอกผมเองไม่ใช่หรือว่า  Allah ไม่เห็นทำอะไร ตอนคุณขอความช่วยเหลือ  

ขอโอกาสสุดท้ายให้พระเยซูทรงช่วยเหลือคุณเถิด  คุณยังมีเวลาฆ่าตัวตาย อีกตั้ง 1 อาทิตย์หลังจากนี้
เมื่อฉันฟัง คำพูดของท่านอาจารย์ ที่ได้ท้าทาย ฉันคิดว่า นี่คือสิ่งสูงสุดที่จะได้รับใช้ Allah ก่อนฉันจะฆ่าตัวตาย
ถ้าพระเยซูไม่มีจริง ฉันจะออกสื่อรายการทีวี และบอกคนทั้งหลายว่า มีอาจารย์ของคริสเตียนได้มาท้าทายฉันให้ทำแบบนี้ และเวลานี้ ฉันจะตายตัวตายเพื่อ Allah และคนทั้งหลายจะได้รู้ว่าพระเยซูไม่มีจริง......นั่นคือสิ่งที่ฉันตั้งใจไว้



เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นมา ฉันเห็นแม่กำลังเดิน และเดินเหมือนคนปกติทั่วไป ฉันบอกแม่ว่า เรารีบไปหาหมอกันเถอะ  
ที่โรงพยาบาล  หมอได้ตรวจเลือด และ MRI จากผลการตรวจ
หมอบอกว่า * นี่คือการอัศจรรย์ * ไม่มี Ms .( โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ) ในร่างกายแม่อีกต่อไป

ฉันเถียงหมอ บอกเป็นไม่ได้ ต้องมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ  หมอบอก เชคดีแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ * นี่คือการอัศจรรย์*  
  อิหม่าม อาจละหมาด ช่วยแม่เธอก็ได้นะ  
ฉันก็คิด คิด คิด นึกถึงคำพูดของอาจารย์ ที่บอกพระเยซูทรงช่วยได้  ฉันก็ได้คำตอบแล้ว ว่าไม่ใช่ อิหม่าม แต่เป็นพระเยซูคริสต์ ต่างหาก



เมื่อฉันได้กล่าวถึงพระองค์ จิตใจของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันบอกพระองค์ว่า พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนน์อยู่
พระองค์ชำระฉันให้สะอาด และเติมเต็มในชีวิตของฉัน ฉันมอบถวยชีวิตแด่พระองค์
วันนี้ ฉันกับแม่ ได้ออกจากอิสลาม พวกเราได้เข้าโบสถ์ใต้ดิน  ที่อิหร่าน


ได้โปรด อธิษฐานเผื่อคริสเตียนทั่วโลก ที่ถูกข่มเหงร่วมกัน  เอเมน