สังคมไฮเทคของญี่ปุ่น เมืองอันแสนโมเดิร์นอย่างเซนได เราคิดว่าคงไม่มีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์อะไรหลงเหลืออีกแล้ว
แต่ไม่เลย ความเชื่อโชคลางต่างๆแฝงอยู่ทั่วไปจนเป็นกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในสังคม
กระทู้นี้ขอยกแค่บางเรื่องมาเล่าให้เพื่อนชาวพันทิปฟังค่ะ
ใครมาเซนได จ.มิยะกิ ทางตอนเหนือของเกาะญี่ปุ่น แล้วอาจสังเกตว่าตามร้านค้าต่างๆ มักจะมีรูปปั้นของชายหน้าตาเด๋อๆ อยู่บนแท่น เช่นในรูปนี้
เขาคือ Sendai Shiro ที่ชาวเซนไดนับถือว่าเป็นเทพแห่งโชคลาภองค์หนึ่ง และตั้งวางหน้าร้านแบบเดียวกับนางกวักของไทย หรือแมวกวักของญี่ปุ่น
เซนได ชิโร่ (Sendai Shiro) เป็นผู้ที่มีตัวตนอยู่จริง มีชีวิตอยู่ในสมัยราวๆ ร.5 ของไทย เป็นคนที่สติสตังไม่ค่อยดี แต่เดินไปเข้าร้านไหน แล้วร้านนั้นต้อนรับเขาดี ไม่นานร้านนั้นจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ภาพจาก
http://plaza.rakuten.co.jp/sendaishirou/
หลังจากที่เขาเสียชีวิตลง ผู้คิดเกิดฉุกคิดขึ้นมาว่าชายผู้นี้คงเป็นเทพแปลงร่างมาจุติบนโลก จึงตั้งให้ "เซนไดชิโร่"เป็นเทพที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดเล็กๆในย่านถนนช้อปปิ้งใจกลางเมืองเซนได
ภาพจาก
http://fuku.sendai-city.biz/shiti/sirou1.jpg
เป็นวัดเก่ากว่า 100 ปีตั้งอยู่ในซอกตึกแถว ชื่อวัด Mitaki Fudoin ส่วนเครื่องลางต่างๆของ"เซนไดชิโร่"มีจำหน่ายอยู่ตามที่ต่างๆในเมืองเซนได เป็นพวกแผ่นมงคลบ้าง ผ้ายันต์บ้าง
ส่วนที่วัดโจกิซัง (定 義 山)ระหว่างทางไปบริเวณบ่อน้ำพุร้อน Sakunami ราวๆ 30 นาทีจากเมืองเซนได เป็นที่ๆผู้คนพากันมาสวดอ้อนวอนขอบุตรกัน
ในโบสถ์มีมุมหนึ่งมีถาดใส่ตุ๊กตาเล็กๆไว้หลายตัว คู่สามีภรรยามาบนบานขอลูกโดยหันหลังเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาจากถาดโดยไม่มอง กล่าวคือเลือกไม่ได้ว่าจะเอาตัวไหน หยิบได้ตัวไหนก็จะนำตัวนั้นกลับบ้านไป เมื่อได้ลูกสมดังหวังแล้วก็จะเอามาคืนพร้อมกับถวายวัดเพิ่มอีกตัว
อีกถาดหนึ่งเป็นหมอนเล็กๆ ไว้ในหญิงที่มีครรภ์นำกลับบ้านไปบูชาเพื่อให้คลอดได้ง่าย เมื่อคลอดได้สมหวังแล้ว ให้นำกลับมาคืนโดยเพิ่มจำนวนหมอนอีกเท่าตัวให้กับวัด
จขกท.มาที่วัดนี้ทีไร เห็นคนที่มามักเป็นคู่สามีภรรยา หรือบางคุ่ก็พาลูกเล็กมาด้วย เคยลองถามคนที่มานมัสการที่วัดนี้เล่นๆดู 2-3 คน ปรากฏว่าทุกคนที่ถามตอบว่าตัวเองเคยมาขอลูกไว้แล้วได้ลูกสมใจ จึงกลับมาไหว้และทำบุญให้วัด
ในตัวเมืองเซนได ใกล้ๆศาลเจ้าโทโชกูของเมือง ในย่านMiyamachi มีวัดพุทธเล็กๆชื่อวัด Enjuin ข้างหน้ามี ซุ้มโทรี ซึ่งเป็นเหมือนทางเข้าของศาลชินโต
พอลอดซุ้มเข้าไปทันทีก็จะได้เห็น "เทพเจ้าแห่งตุ่มฝีหนอง" ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ! ชื่อของท่านคือ Ibo no Kamisama (いぼの神様)
ข้างๆเขียนคำอธิบายไว้ว่า ว่ากันว่าใครมีทุกข์เรื่องตุ่มฝี เมื่อนำหินจากหน้าองค์เทพนี้ไปบูชา แล้วใช้หินลูบไล้ทุกวันตรงที่มีอาการ ตุ่มผีนั้นยุบลงอย่างน่ามหัศจรรย์ เมื่อหายดีแล้วเป็นธรรมเนียมว่าให้นำหินน้ันกลับมาคืนที่เดิม พร้อมนำหินสะอาดๆจากแม่น้ำมาเพิ่มให้ด้วยเท่าตัว
ถัดไปไม่ไกล มีวิหารที่ประดิษฐานเทพที่ช่วยเรื่องพลังเท้า ว่ากันว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เมื่อสมัยหลายร้อยปีก่อนเป็นผู้เดินเร็วอย่างมหัศจรรย์ (เรื่องเหลือเชื่อกล่าวคือท่านเดินไปซื้อเต้าหู้จากเมืองที่อยู่ห่างไป 90 กม.และกลับมาในวันเดียวกัน) ทำให้แม้ในปัจจุบันผู้คนก็มาอธิษฐานที่วัดนี้เพื่อขอให้ตัวเองวิ่งเร็วได้ชัยชนะในการแข่งขัน เป็นต้นว่าการแข่งขันวิ่งมาราธอนประจำปีของเมืองเซนได การอธิษฐานที่นี่ก็แปลกดี คือเอารองเท้าของตนมาเสียบไว้ที่ฝาโบสถ์
นี่คือทางเข้าวัดค่ะ ใครมีโอกาสมาศาลเจ้าโทโชกูของเมืองเซนได ก่อนจะถึงทางเข้าหน้าศาล มองทางซ้ายจะเห็นวัดเล็กๆข้างสะพานข้ามแม่น้ำสายเล็กๆ
ดินแดนแถบโทโฮะกุยังมีเรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์ และโชคลางต่างๆอีกเยอะ จะหาโอกาสเขียนต่อวันหลังนะคะ
ความเชื่อทางไสยศาสตร์ของชาวเซนได
แต่ไม่เลย ความเชื่อโชคลางต่างๆแฝงอยู่ทั่วไปจนเป็นกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในสังคม
กระทู้นี้ขอยกแค่บางเรื่องมาเล่าให้เพื่อนชาวพันทิปฟังค่ะ
ใครมาเซนได จ.มิยะกิ ทางตอนเหนือของเกาะญี่ปุ่น แล้วอาจสังเกตว่าตามร้านค้าต่างๆ มักจะมีรูปปั้นของชายหน้าตาเด๋อๆ อยู่บนแท่น เช่นในรูปนี้
เขาคือ Sendai Shiro ที่ชาวเซนไดนับถือว่าเป็นเทพแห่งโชคลาภองค์หนึ่ง และตั้งวางหน้าร้านแบบเดียวกับนางกวักของไทย หรือแมวกวักของญี่ปุ่น
เซนได ชิโร่ (Sendai Shiro) เป็นผู้ที่มีตัวตนอยู่จริง มีชีวิตอยู่ในสมัยราวๆ ร.5 ของไทย เป็นคนที่สติสตังไม่ค่อยดี แต่เดินไปเข้าร้านไหน แล้วร้านนั้นต้อนรับเขาดี ไม่นานร้านนั้นจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ภาพจาก http://plaza.rakuten.co.jp/sendaishirou/
หลังจากที่เขาเสียชีวิตลง ผู้คิดเกิดฉุกคิดขึ้นมาว่าชายผู้นี้คงเป็นเทพแปลงร่างมาจุติบนโลก จึงตั้งให้ "เซนไดชิโร่"เป็นเทพที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดเล็กๆในย่านถนนช้อปปิ้งใจกลางเมืองเซนได
ภาพจาก http://fuku.sendai-city.biz/shiti/sirou1.jpg
เป็นวัดเก่ากว่า 100 ปีตั้งอยู่ในซอกตึกแถว ชื่อวัด Mitaki Fudoin ส่วนเครื่องลางต่างๆของ"เซนไดชิโร่"มีจำหน่ายอยู่ตามที่ต่างๆในเมืองเซนได เป็นพวกแผ่นมงคลบ้าง ผ้ายันต์บ้าง
ส่วนที่วัดโจกิซัง (定 義 山)ระหว่างทางไปบริเวณบ่อน้ำพุร้อน Sakunami ราวๆ 30 นาทีจากเมืองเซนได เป็นที่ๆผู้คนพากันมาสวดอ้อนวอนขอบุตรกัน
ในโบสถ์มีมุมหนึ่งมีถาดใส่ตุ๊กตาเล็กๆไว้หลายตัว คู่สามีภรรยามาบนบานขอลูกโดยหันหลังเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตาจากถาดโดยไม่มอง กล่าวคือเลือกไม่ได้ว่าจะเอาตัวไหน หยิบได้ตัวไหนก็จะนำตัวนั้นกลับบ้านไป เมื่อได้ลูกสมดังหวังแล้วก็จะเอามาคืนพร้อมกับถวายวัดเพิ่มอีกตัว
อีกถาดหนึ่งเป็นหมอนเล็กๆ ไว้ในหญิงที่มีครรภ์นำกลับบ้านไปบูชาเพื่อให้คลอดได้ง่าย เมื่อคลอดได้สมหวังแล้ว ให้นำกลับมาคืนโดยเพิ่มจำนวนหมอนอีกเท่าตัวให้กับวัด
จขกท.มาที่วัดนี้ทีไร เห็นคนที่มามักเป็นคู่สามีภรรยา หรือบางคุ่ก็พาลูกเล็กมาด้วย เคยลองถามคนที่มานมัสการที่วัดนี้เล่นๆดู 2-3 คน ปรากฏว่าทุกคนที่ถามตอบว่าตัวเองเคยมาขอลูกไว้แล้วได้ลูกสมใจ จึงกลับมาไหว้และทำบุญให้วัด
ในตัวเมืองเซนได ใกล้ๆศาลเจ้าโทโชกูของเมือง ในย่านMiyamachi มีวัดพุทธเล็กๆชื่อวัด Enjuin ข้างหน้ามี ซุ้มโทรี ซึ่งเป็นเหมือนทางเข้าของศาลชินโต
พอลอดซุ้มเข้าไปทันทีก็จะได้เห็น "เทพเจ้าแห่งตุ่มฝีหนอง" ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ! ชื่อของท่านคือ Ibo no Kamisama (いぼの神様)
ข้างๆเขียนคำอธิบายไว้ว่า ว่ากันว่าใครมีทุกข์เรื่องตุ่มฝี เมื่อนำหินจากหน้าองค์เทพนี้ไปบูชา แล้วใช้หินลูบไล้ทุกวันตรงที่มีอาการ ตุ่มผีนั้นยุบลงอย่างน่ามหัศจรรย์ เมื่อหายดีแล้วเป็นธรรมเนียมว่าให้นำหินน้ันกลับมาคืนที่เดิม พร้อมนำหินสะอาดๆจากแม่น้ำมาเพิ่มให้ด้วยเท่าตัว
ถัดไปไม่ไกล มีวิหารที่ประดิษฐานเทพที่ช่วยเรื่องพลังเท้า ว่ากันว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เมื่อสมัยหลายร้อยปีก่อนเป็นผู้เดินเร็วอย่างมหัศจรรย์ (เรื่องเหลือเชื่อกล่าวคือท่านเดินไปซื้อเต้าหู้จากเมืองที่อยู่ห่างไป 90 กม.และกลับมาในวันเดียวกัน) ทำให้แม้ในปัจจุบันผู้คนก็มาอธิษฐานที่วัดนี้เพื่อขอให้ตัวเองวิ่งเร็วได้ชัยชนะในการแข่งขัน เป็นต้นว่าการแข่งขันวิ่งมาราธอนประจำปีของเมืองเซนได การอธิษฐานที่นี่ก็แปลกดี คือเอารองเท้าของตนมาเสียบไว้ที่ฝาโบสถ์
นี่คือทางเข้าวัดค่ะ ใครมีโอกาสมาศาลเจ้าโทโชกูของเมืองเซนได ก่อนจะถึงทางเข้าหน้าศาล มองทางซ้ายจะเห็นวัดเล็กๆข้างสะพานข้ามแม่น้ำสายเล็กๆ
ดินแดนแถบโทโฮะกุยังมีเรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์ และโชคลางต่างๆอีกเยอะ จะหาโอกาสเขียนต่อวันหลังนะคะ