...ย้อนกลับไปราวสองอาทิตย์ที่แล้ว...
หลังเลิกเรียนไปเดินห้างกับเพื่อน ตกลงกันว่าอยากกินปิ้งย่าง ด้วยความที่ปิ้งย่างมีไม่กี่ร้านและร้านที่อยากกินปิด จึงต้องมากินร้าน
"เมืองหลวงเกาหลีย่าง"
"เชิญตักอาหารที่ไลน์ทางขวาได้เลยค่ะ" พนักงานสาวกล่าวพลางยิ้มอ่อน เราจะเดินไปคีบซูชิใส่จาน กำลังจะคีบซูชิหน้าไข่หวาน แต่แล้วก็ป๊ะเข้ากับ
เส้นขนสีดำลึกลับที่หงิกงอ ที่ทอดตัวยาวราวกับกำลังพักร้อนบนหาดที่ฮาวาย
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นขนคนอื่น(?) ทำตัวไม่ถูก จึงพนง.ที่ปั้นซูชิอยู่ด้านในมา บอก พี่คะๆ ขนค่ะ
"อ๋อ ครับ" พนง.คนนั้นหยิบซูชิหน้ามอยไปด้วยมือเปล่า
ย้ำว่าด้วยมือเปล่า ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ เดินเข้าไปด้านหลังร้านหัวเราะคิกคักกับเพื่อน ได้ยินเกี่ยงกันว่า ของมุงแหละๆ อิๆๆๆๆ เคี๊ยกๆๆคักๆๆ
วันนั้นก็กลับมาด้วยความงงงวย ได้แต่คิดว่าจะไม่มากินอีร้านนี้อีก
...จนกระทั่งวันนี้...
โหยหิวมาจากโรงเรียน เพื่อนอยากกินชาบูมาก แต่ร้านไหนๆก็คนเยอะ เอาวะ เดินมาถึงหน้าร้านซกช. และก้าวเข้าไปด้วยใจเด็ดเดี่ยว
นั่งกินด้วยความหวาดระแวง สักพักก็มีลูกแมลงสาบไต่มาบนโต๊ะฝั่งเพื่อนเรา ช็อคค้างดิ ดิคะ เพื่อนเอาทิชชู่ห่อแล้วทิ้งไป มันบอก "อย่าคิดมากเลย ไม่ใช่แมลงสาบหรอก" ในใจนี่คิดว่า ไม่ใช่ก็แย่แล้วไอษาฏ ไม่กี่วินาทีถัดมาก็มีมาอีกตัว อีกตัว และอีกตัว คือเห็นว่าออกมาจากช่องว่างใต้เตา เปิดไปคงเจอเป็นรังแน่ๆอะค่ะ เลยกินไม่ลงแล้ว แต่เพื่อนยังไม่อิ่มไงเลยขอทางร้านย้ายโต๊ะ แต่เรานี่หวาดระแวงไปตลอดมื้อนั้น สยอง
วันนี้ก็เดินออกมากจากร้านแบบงงๆอีกเช่นกันว่าทำไมต้องมากินร้านในเครือนี้อีก ฮรึก คราวนี้ยังดีผจก.ออกมาขอโทษ แต่ไม่รู้สิ รู้สึกว่ามันยังไม่พออะ มันรังแมลงสาบเลยนะเฟ้ย
ปล.1อีกอย่างที่อยากคอมเพลนคือความสะอาดของอาหาร ผักอะล้างบ้างนะคะ เห็ดเข็มทองนี่ไอเศษตรงก้นๆยังติดมาอยู่เลย หลายอย่างอะค่ะ
ปล.2 กิตติศัพท์เรื่องความซกของร้านนี้ทราบดีค่ะ แต่สถานการณ์มันบังคับให้ต้องไปกิน ฮื่อ
เจ็บแล้วทำไมไม่จำ : Sukishi / Seoul Grill
หลังเลิกเรียนไปเดินห้างกับเพื่อน ตกลงกันว่าอยากกินปิ้งย่าง ด้วยความที่ปิ้งย่างมีไม่กี่ร้านและร้านที่อยากกินปิด จึงต้องมากินร้าน
"เมืองหลวงเกาหลีย่าง"
"เชิญตักอาหารที่ไลน์ทางขวาได้เลยค่ะ" พนักงานสาวกล่าวพลางยิ้มอ่อน เราจะเดินไปคีบซูชิใส่จาน กำลังจะคีบซูชิหน้าไข่หวาน แต่แล้วก็ป๊ะเข้ากับ
เส้นขนสีดำลึกลับที่หงิกงอ ที่ทอดตัวยาวราวกับกำลังพักร้อนบนหาดที่ฮาวาย
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นขนคนอื่น(?) ทำตัวไม่ถูก จึงพนง.ที่ปั้นซูชิอยู่ด้านในมา บอก พี่คะๆ ขนค่ะ
"อ๋อ ครับ" พนง.คนนั้นหยิบซูชิหน้ามอยไปด้วยมือเปล่า ย้ำว่าด้วยมือเปล่า ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ เดินเข้าไปด้านหลังร้านหัวเราะคิกคักกับเพื่อน ได้ยินเกี่ยงกันว่า ของมุงแหละๆ อิๆๆๆๆ เคี๊ยกๆๆคักๆๆ
วันนั้นก็กลับมาด้วยความงงงวย ได้แต่คิดว่าจะไม่มากินอีร้านนี้อีก
...จนกระทั่งวันนี้...
โหยหิวมาจากโรงเรียน เพื่อนอยากกินชาบูมาก แต่ร้านไหนๆก็คนเยอะ เอาวะ เดินมาถึงหน้าร้านซกช. และก้าวเข้าไปด้วยใจเด็ดเดี่ยว
นั่งกินด้วยความหวาดระแวง สักพักก็มีลูกแมลงสาบไต่มาบนโต๊ะฝั่งเพื่อนเรา ช็อคค้างดิ ดิคะ เพื่อนเอาทิชชู่ห่อแล้วทิ้งไป มันบอก "อย่าคิดมากเลย ไม่ใช่แมลงสาบหรอก" ในใจนี่คิดว่า ไม่ใช่ก็แย่แล้วไอษาฏ ไม่กี่วินาทีถัดมาก็มีมาอีกตัว อีกตัว และอีกตัว คือเห็นว่าออกมาจากช่องว่างใต้เตา เปิดไปคงเจอเป็นรังแน่ๆอะค่ะ เลยกินไม่ลงแล้ว แต่เพื่อนยังไม่อิ่มไงเลยขอทางร้านย้ายโต๊ะ แต่เรานี่หวาดระแวงไปตลอดมื้อนั้น สยอง
วันนี้ก็เดินออกมากจากร้านแบบงงๆอีกเช่นกันว่าทำไมต้องมากินร้านในเครือนี้อีก ฮรึก คราวนี้ยังดีผจก.ออกมาขอโทษ แต่ไม่รู้สิ รู้สึกว่ามันยังไม่พออะ มันรังแมลงสาบเลยนะเฟ้ย
ปล.1อีกอย่างที่อยากคอมเพลนคือความสะอาดของอาหาร ผักอะล้างบ้างนะคะ เห็ดเข็มทองนี่ไอเศษตรงก้นๆยังติดมาอยู่เลย หลายอย่างอะค่ะ
ปล.2 กิตติศัพท์เรื่องความซกของร้านนี้ทราบดีค่ะ แต่สถานการณ์มันบังคับให้ต้องไปกิน ฮื่อ