ถูกยามที่ห้างฯ ดังลวนลามด้วยสายตาค่ะ

สวัสดีค่ะ เราติดตามพันทิปมานาน ไม่คิดว่าเราจะได้มาตั้งกระทู้เอง เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นเรื่องที่อยากแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่เดินทางคนเดียวหรือแม้กระทั่งมาเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะผู้หญิง ยิ่งในเวลากลางคืนด้วย ยิ่งไม่ปลอดภัยเลยค่ะ และถ้าเป็นไปได้ อยากให้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ว่าควรทำอย่างไร (เจตนาในการตั้งกระทู้ในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการโจมตีหรือกล่าวหาว่าร้ายห้างฯ นี้ เพียงอยากให้ระวังไว้ว่า ในย่านที่มีคนมาเยอะ ก็ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยเสมอไป)
        
        เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับเราและเพื่อนเราอีก 4 คน (รวมเป็น 5 คน) ทุกคนเป็นผู้หญิง อายุ 16 ปี (กำลังจะขึ้นม.5) ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 วันนั้นเราเลิกเรียนพิเศษกันเวลา 19.15 น. เราตัดสินใจกันว่าจะไปกินข้าวที่สยามกัน แล้วไปซื้อกางเกงกันที่ห้างฯ แห่งหนึ่งค่ะ (วันนั้นเป็นวันที่กางเกงลดราคาวันสุดท้าย) เรากินข้าวกันเพลินมากจนลืมดูเวลา ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 20.45 น. (โดยประมาณ) เราเลยรีบจ่ายเงินแล้วไปซื้อกางเกงกัน เราอยู่ที่นี่กันนานมาก ทั้งเลือกทั้งลองตามประสาผู้หญิงค่ะ สุดท้ายเราซื้อกางเกงเสร็จกันประมาณ 21.55 น. ซึ่งห้างฯ ปิดเวลา 22.00 น. เราก็รีบกันมาก เพราะไม่เคยอยู่ถึงห้างฯ ปิด บวกกับเราไม่ค่อยกลับดึกกันขนาดนี้ จึงลงลิฟท์ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งมันใกล้ทางออกข้างหลังห้างฯ เราตัดสินใจกันว่าจะเรียกแท็กซี่กลับที่พักกัน เราเห็นยามเดินมา ทุกคนก็เริ่มมองกันเหมือนมีความคิดที่ว่าจะขอความช่วยเหลือดีมั้ย สงสัยเรามองยามนานกันเกินไป ยามหันมาแล้วถามว่า 'ไรจ๊ะ' คือตอนนั้นตกใจกันมาก ท่าทางการพูดมันทำให้ไม่กล้าถามยังไงไม่รู้ ออกไปทางแซวซะมากกว่า แต่เราก็เสนอเพื่อนไปว่าเดินตามไปซักพักมั้ย เผื่อเค้าไปทางหน้าห้างฯ เลยเดินตามไปนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ค่ะ เค้าหันมามองด้วยสายตาแบบว่าตามมาทำไม เพื่อนเราเลยถามว่า 'แท็กซี่จะผ่านทางไหนมากกว่ากันคะ?' (คือถนนเป็นถนนเลนสวนกันค่ะ แต่เป็นถนนเส้นเล็กๆ หลังห้างฯ) ยามเลยบอกว่า 'คิดว่าน่าจะฝั่งนู้นนะ มา เดี๋ยวพาข้าม' เราเลยข้ามไปอีกฝั่งกัน ยืนบนฟุตบาทค่ะ ทีแรกยามก็ยืนอยู่ห่างๆ นะคะ แล้วยามก็เดินเข้ามาถามว่า 'จะเรียกแท็กซี่หรอ? เดี๋ยวเรียกเข้ามาให้นะ' แล้วยามก็วอบอกยามที่อยู่หน้าห้างฯ (น่าจะใช่นะคะ) ว่า ช่วยเรียกแท็กซี่มาหลังห้างฯ หน่อย ตอนนั้นเราดีใจมาก ไม่คิดว่ายามจะใจดีขนาดนี้ แต่มีเพื่อนเราคนหนึ่งเหมือนจะทำหน้าเสียไปแล้ว (มารู้ทีหลังว่าเพื่อนไม่ชอบที่เค้าแซวทีแรกค่ะ) แต่ตอนนั้นเราดีใจจนหลงว่าเค้าเป็นคนดีไปแล้ว แล้วเค้าก็เดินไปเดินมาแถวๆ นั้นค่ะ มียามอีกคนยืนโบกรถอยู่ตรงกลางถนนแต่มีกรวยตั้งไว้ลักษณะสามเหลี่ยมกั้นไม่ให้รถวิ่งผิดทาง คล้ายๆ เกาะตรงทางแยก (ขออภัยจริงๆค่ะ ไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไร) ยามคนที่เรียกแท็กซี่ให้เค้าก็ไปยืนตรงนั้น แล้วเรียกให้พวกเราไปอยู่ตรงนั้นค่ะ เราอยู่ที่เกาะกลางนั้น มันไม่มีอะไรป้องกันเลยค่ะ มีแต่กรวย คือรถเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เรายืนอยู่นานมาก ประมาณ 5 นาทีแล้ว ก็ไม่มีแท็กซี่มาซักคัน จนเพื่อนคนที่หน้าเสียชวนให้ไปหน้าห้างฯ ยามที่เรียกแท็กซี่ให้ก็บอกว่า 'มันไกลแล้วมืดด้วย อยู่ตรงนี้ก็ได้' เราก็เชียร์ยามนะ เพราะทางเดินไปมันมืดจริงๆ มีแค่ไฟจากรถที่วิ่งตามถนน เรายืนอยู่ริมที่ใกล้กับยามมากที่สุด ยามเข้ามาถามว่า 'พักอยู่ที่ไหน?' เราก็ตอบไปนะคะ เพราะเรารู้สึกไว้ใจเค้า เพื่อนคนที่อยู่ข้างๆ เรา (ที่ไม่ใช่คนหน้าเสีย) ก็เริ่มสะกิดเรา แต่เราก็ไม่ได้อะไร ตอนนั้นรู้สึกแฮปปี้มาก เพราะมีคนเรียกแท็กซี่ให้แล้ว เพื่อนคนหน้าเสียก็พยายามบอกว่าให้ไปหน้าห้างฯ เพราะรถน่าจะวิ่งเยอะกว่าถนนเส้นเล็กๆ นี้ เราก็เถียงเพื่อนไปนะ ว่ายามเค้าเรียกแท็กซี่ให้แล้ว เกรงใจเค้า แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกประมาณ 10 นาที คือไม่มีแท็กซี่ว่างเลยจริงๆ เราก็เริ่มทนไม่ได้ แต่ยามก็ยังชวนเราคุย แต่ก็มาสะดุดอยู่ที่คำถามว่า 'หนูเรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว?' แต่สายตาที่เค้ามอง เค้าไม่ได้มองตาเราเลยทั้งๆ ที่คุยกับเราแท้ๆ เค้ามองตั้งแต่ลำคอยันปลายเท้า (วันนั้นเราใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น) มองแบบ ไม่ได้มองธรรมดา มองเหมือนลวนลามด้วยสายตาเลยค่ะ (เพื่อนเล่าให้ฟังทีหลังว่า ตอนเราหันหลังให้เค้า เค้าก็มองตัวเราตลอดเลย) เราก็เริ่มคิดว่า ไม่ใช่และ มันไม่ใช่และ เราก็ตอบแบบเสียงรำคาญไปว่า 'กำลังจะขึ้นม.5ค่ะ' แล้วเค้าก็ถามคำถามมารัวๆ เลยค่ะ แบบ เรียนที่ไหน? พักกับใคร? ไรประมาณนี้ (เริ่มเข้าเรื่องส่วนตัวของเรามากเกินไป) แต่เราไม่ได้ตอบ เราก็กลัว แล้วเพื่อนคนที่หน้าเสียก็ลากเลยค่ะ ลากทั้งกลุ่มไปหน้าห้างฯ ให้ได้ แต่ก่อนจะลาก ยามคนนั้นถามเราว่า 'มีเบอร์มั้ย?' ตอนนั้นเรากลัวสุดขีดเลยค่ะ คือเค้าไม่ควรพูดจากับลูกค้าอย่างนี้ เค้าอายุรุ่นพ่อเราเลยก็ว่าได้ค่ะ ข่าวอาชญากรรมต่างๆ ที่เคยดูมานี่แว๊บขึ้นมากลางหัวเลยค่ะ ไม่มีสติแล้วตอนนั้น แต่ยามอีกคนที่โบกรถอยู่ (คือยามคนที่ถามไม่ได้ช่วยโบกรถอะไรเลยค่ะ) ยามเค้าบอกว่าให้ไปอีกทาง (ทางที่ไม่ใช่หน้าห้างฯ ) จะเจอถนนใหญ่ แล้วใกล้กับที่พักด้วย ค่ะ เราไม่รีรออะไร ไม่คิดว่าเค้าจะหลอกด้วยเพราะมีป้ายบอกทางบอกชื่อถนน เลยรีบวิ่งกันไป ยามคนนั้นยังมองเราอยู่เลย เราไม่ชอบและรู้สึกกลัว เลยเล่าให้เพื่อนฟังว่ายามถามอะไรเรามั่ง เพื่อนก็ว่าเราว่า เชื่อคนง่ายและไม่ฟังคำที่เพื่อนพูด เรามาคิด ก็จริงๆ ค่ะ เราตัดสินนิสัยคนจากการกระทำเพียงไม่กี่การกระทำไม่ได้ค่ะ ไม่ควรจะมั่นใจความคิดของตัวเองมากไปจนไม่ฟังคนอื่นเลย และอีกอย่าง ควรแต่งกายให้มิดชิดด้วย ตลอดทางที่กลับที่พักเราร้องไห้ตลอดเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
        
       บางคนอาจจะดูว่าเราก็ไม่ได้โดนล่วงเกิน หรือโดนทำร้ายอะไร ทำไมต้องมาคิดมาก สำหรับเรา เราคิดว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากเรื่องหนึ่งสำหรับเด็กอายุ 16 ปีเลยค่ะ ที่เราตัดสินใจมาตั้งกระทู้นี้เพราะว่า เราเพิ่งฝันถึงยามคนนี้ค่ะ เลยอยากจะเอามาเป็นเคสตัวอย่างไว้เป็นอุทาหรณ์ เรายังโชคดีที่มีเพื่อนอยู่ เราไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเราไปคนเดียววันนั้นจะเป็นยังไงบ้าง
        
        อยากฝากอีกเรื่องหนึ่งนะคะ คือเรื่องแท็กซี่ ตอนที่เรายืนรอก็มีแท็กซี่ผ่านนะคะ ส่วนใหญ่ไม่ว่าง เจอแท็กซี่ว่าง 1 คันที่ขับผ่านหน้าเราอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่เราก็โบก เห็นได้เลยว่าโบกชัดเจนมาก คือขับไปเหมือนตัวเองไม่ใช่แท็กซี่เลย และมีอีก 2 คันที่เจอ คือเปิดไฟว่าง พอเราทำท่าโบกเท่านั้นแหละ ปิดไฟว่างใส่แล้วขับต่อไปเหมือนไม่มีคนโบก นิสัยไม่ดีจริงๆ เลยค่ะ อยากให้ช่วยเรื่องนี้มากๆ คนที่เดือดร้อนอยากใช้บริการแท็กซี่จริงๆ ก็มี คิดซะว่าเป็นลูกเป็นหลานคุณที่ไม่สามารถกลับบ้านด้วยตัวเองได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นคุณจะจอดรับมั้ย? (หรือบางคันอาจจะมีธุระจริงๆ ก็ขออภัยด้วยค่ะ) จริงๆ อยากฝากว่า เมื่อคุณเลือกที่จะทำอาชีพนี้แล้ว ควรเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้ เรื่องยาม เรากับเพื่อนก็ไม่ได้อะไรกันแล้ว คิดซะว่าเป็นบทเรียนใหม่ หรือถ้าหากเค้าควรได้รับบทลงโทษจริงๆ เราควรทำอย่างไรบ้างคะ? คือเรากับเพื่อนไม่มีหลักฐานอะไรเลยจริงๆ ค่ะ แต่จำหน้าได้และมีรูปภาพยืนยันว่าเราอยู่ห้างฯ นี้เวลานี้จริงค่ะ แล้วเป็นเด็กด้วย เรื่องก็เกิดเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน และห้างฯ นี้ก็เป็นห้างฯ ที่ใหญ่ กลัวจะไม่สนใจเด็กอย่างเราที่กล่าวหาทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย
        
        อยากใช้พื้นที่นี้ขอโทษเพื่อนๆ ในวันนั้น และขอบคุณมากจริงๆ นะ

        ขอบคุณที่อ่านนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคน เราเพิ่งเขียนครั้งแรก ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่