คือไม่ค่อยเข้าใจอะครับว่าทำไมผุ้หญิงถึงหาว่าผู้ชายจีบๆอยู่ก็หายไป ก้จีบแล้วไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ ผุ้ชายเขาก้ไป แปลกตรงไหน ถ้าคุณเป็นคนที่รักตัวเอง ให้เกียรติตัวเองคุณก็ต้องถอยออกมา จะให้นั่งตามตื้อลดทอนคุณค่าตัวเองกับคนที่เข้าไม่สนใจคุณเหรอครับ หนึ่งเดือนเนี่ยต้องรู้ผลแล้วอะ
ผุ้หญิงบางคนหาว่าผู้ชายโลเล โดนทดสอบแค่นี้เอง เราอยู่ในโลกที่เป็นประชาธิปไตยนะครับ การทดสอบมันหมายความว่าคุณสูงกว่าคนอื่น คุณมีค่ามากกว่าคนอื่น คุณเลยเลยทดสอบคนอื่นได้ คนที่เขารู้ตัวเองดีว่าตัวเองมีคุณค่ามากพอ ไม่มีใครชอบ
ที่ศาสนาส่วนใหญ่ในโลกมีแต่ผู้ชายเป็นผู้ก่อตั้ง ก็น่าจะเป็นเพราะเหตุผลแบบนี้ ผู้ชายยินดีที่จะเสียงก่อนในความสัมพันธ์ ยินดีที่จะให้คนอื่นก่อนโดย
สังเกตุมั้ยครับ ผุ้ชายที่เข้าไปจีบคุณ เขาเข้าไปให้ความสำคัญกับผุ้ญิงก่อน ขณะที่ผุ้หญิงต้องได้รับก่อนจึงจะตอบแทน ตอนจีบกันผู้ชายเป็นแต่ฝ่ายพูด เอาใจให้ความสำคัญ แต่ผุ้หญิงตอนแรกมักจะทำตรงข้ามขณะที่ผู้หญิงไม่ถามด้วยซ้ำว่า วันนี้เป็นไงบ้าง ไม่ลงแรง สิ่งที่ผู้หญิงแย่คือ คิดว่าผู้ชายต้องมาเปรยก่อน แล้วเราสงวนท่าที อันนี้ผิด
เราคิดคำสอนหนึ่งได้
"จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน "
คุณอยากจะอยู่กับคนที่ คุยไปตั้งเดือนแล้วยังไม่เคยโทรมาหาเรา ดูว่าติดมั้ยเลย เกิดเป็นผู้หญิงในสังคมนี้มันสบายครับ อย่าให้ผู้ชายมีภาระมากกว่านี้ ทุกคนทำงาน เรียน ลองคิดดูว่าคุณเรียนมาทั้งวันแล้ว ยังต้องมาตามพูด จีบ คนอื่นอีก คนอื่นเขาก็เหนื่อย คุณอย่าคิดว่า ถ้าเธอรักชั้น เธอต้องยอมเหนื่อยได้ อันนี้คุณกำลังเอาความรักเป็นตัวประกัน คุณไม่ได้ต้องการคนรัก คุณต้องการคนที่ต่ำกว่า ถ้าเราอยู่ในสมัยก่อน ทำนาเสร็จก็พักยาว สี่ ห้าเดือน เวลามีมากมายครับ ทำได้
เราก็ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีผู้หญิงคนไหนฟังบ้าง คุณจะยอมรับความจริงได้แค่ไหน แต่เราว่าผุ้หญิงไม่ฟัง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก คนยุคนี้ ผุ้หญิงโตกับความสบาย การเปยจากพ่อแม่ แล้วก้ไม่เคยทำงานหนัก เลยไม่จำเป็นต้องแคร์ใคร คิดว่าคนที่จะมาเป็นแฟนต้องทำให้ไม่ต่ำกว่าตอนตนได้รับจากพ่อแม่ ลืมไปว่าคนอื่นก็คือคนอื่น ไม่ใช่พ่อแม่ ถ้าสังคมเรา ให้ลูกออกไปทำงานตั้งแต่วัยรุ่น เราจะไม่เห็นผั้หญิงลุกคุณหนู แต่สังคมเราไม่ทำหลอก แล้วสังคมเราผุ้หญิงจะทำให้แย่ในระยะยาว
สังคมเราเป็นสังคมที่ยังมีเพลงรักประหลาดๆ ที่บอกเรื่องคนไม่เท่ากัน ผุ้หญิงสูงกว่า
ความรักควรจะเป็นเพลงนี้ครับ
ทำไมผญ.บ่นว่าผช.ที่มาจีบหายไป ทำอะไรก้ได้สิ่งนั้นตอบแทนแปลกตรงไหน
ผุ้หญิงบางคนหาว่าผู้ชายโลเล โดนทดสอบแค่นี้เอง เราอยู่ในโลกที่เป็นประชาธิปไตยนะครับ การทดสอบมันหมายความว่าคุณสูงกว่าคนอื่น คุณมีค่ามากกว่าคนอื่น คุณเลยเลยทดสอบคนอื่นได้ คนที่เขารู้ตัวเองดีว่าตัวเองมีคุณค่ามากพอ ไม่มีใครชอบ
ที่ศาสนาส่วนใหญ่ในโลกมีแต่ผู้ชายเป็นผู้ก่อตั้ง ก็น่าจะเป็นเพราะเหตุผลแบบนี้ ผู้ชายยินดีที่จะเสียงก่อนในความสัมพันธ์ ยินดีที่จะให้คนอื่นก่อนโดย
สังเกตุมั้ยครับ ผุ้ชายที่เข้าไปจีบคุณ เขาเข้าไปให้ความสำคัญกับผุ้ญิงก่อน ขณะที่ผุ้หญิงต้องได้รับก่อนจึงจะตอบแทน ตอนจีบกันผู้ชายเป็นแต่ฝ่ายพูด เอาใจให้ความสำคัญ แต่ผุ้หญิงตอนแรกมักจะทำตรงข้ามขณะที่ผู้หญิงไม่ถามด้วยซ้ำว่า วันนี้เป็นไงบ้าง ไม่ลงแรง สิ่งที่ผู้หญิงแย่คือ คิดว่าผู้ชายต้องมาเปรยก่อน แล้วเราสงวนท่าที อันนี้ผิด
เราคิดคำสอนหนึ่งได้
"จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน "
คุณอยากจะอยู่กับคนที่ คุยไปตั้งเดือนแล้วยังไม่เคยโทรมาหาเรา ดูว่าติดมั้ยเลย เกิดเป็นผู้หญิงในสังคมนี้มันสบายครับ อย่าให้ผู้ชายมีภาระมากกว่านี้ ทุกคนทำงาน เรียน ลองคิดดูว่าคุณเรียนมาทั้งวันแล้ว ยังต้องมาตามพูด จีบ คนอื่นอีก คนอื่นเขาก็เหนื่อย คุณอย่าคิดว่า ถ้าเธอรักชั้น เธอต้องยอมเหนื่อยได้ อันนี้คุณกำลังเอาความรักเป็นตัวประกัน คุณไม่ได้ต้องการคนรัก คุณต้องการคนที่ต่ำกว่า ถ้าเราอยู่ในสมัยก่อน ทำนาเสร็จก็พักยาว สี่ ห้าเดือน เวลามีมากมายครับ ทำได้
เราก็ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะมีผู้หญิงคนไหนฟังบ้าง คุณจะยอมรับความจริงได้แค่ไหน แต่เราว่าผุ้หญิงไม่ฟัง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก คนยุคนี้ ผุ้หญิงโตกับความสบาย การเปยจากพ่อแม่ แล้วก้ไม่เคยทำงานหนัก เลยไม่จำเป็นต้องแคร์ใคร คิดว่าคนที่จะมาเป็นแฟนต้องทำให้ไม่ต่ำกว่าตอนตนได้รับจากพ่อแม่ ลืมไปว่าคนอื่นก็คือคนอื่น ไม่ใช่พ่อแม่ ถ้าสังคมเรา ให้ลูกออกไปทำงานตั้งแต่วัยรุ่น เราจะไม่เห็นผั้หญิงลุกคุณหนู แต่สังคมเราไม่ทำหลอก แล้วสังคมเราผุ้หญิงจะทำให้แย่ในระยะยาว
ความรักควรจะเป็นเพลงนี้ครับ