คือก่อนเป็นแฟนกันผู้ชายเป็นฝ่ายพยายามเข้าหา ทำดีสารพัด ก็คือการสร้างกรรมแบบหนึ่ง ในทุกศาสนาจะมีแนวคำสอนแบบนี้นะ แบบคริสต์ก็ "จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เช่นเดียวกับที่ท่านต้องการจะให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่าน"  หรือพุทธ ก็" กรรมสนองกรรม "หรืออิสลามก็ "พระเจ้าจะตอบแทนความพากเพียรพยายามเช่นที่เจ้าทำไป"
                   ส่วนผู้หญิงไทย เฉยเมย นิ่งเงียบ ทำให้ผู้ชายเจ็บปวดในช่วงแรกๆของการดูใจ ผู้หญิงเรียกว่า คือการทดสอบดูใจ แต่หารู้ไม่ว่ามันก็คือการสร้างกรรมไม่ดีชนิดหนึ่ง เมื่อถึงวันหนึ่งกรรมที่เคยทำให้เขา เจ็บ คือเฉยเมย คือ เล่นตัว มันก็ย้อนกลับมาสนองทุกสิ่งที่ผู้หญิงได้ทำไป ขณะผู้ชายก็ได้รับ รางวัลที่พากเพียรไป แต่ทำไมผุ้หญิงเลือกที่จะไม่มองแบบนั้น กลับมองว่าคนที่คบอยู่ไม่ดีทั้งที่หลักคำสอนทางศาสนามันชัดมาก
                   ถ้าผู้หญิงไทยลองจีบได้ง่ายๆ ลองทุ่มเทใจไปโดยไม่คิดเรื่องนี้ดู ปล่อยให้หัวใจนำทางแบบฝรั่ง ที่เขาจะได้เจอคนทีรักเขาจริงๆ มันจะดีกว่ามั้ย ส่วนการที่ผู้หญิงมากว่า "ได้มาง่ายก็ไปง่าย" อืม เราว่าทำเป็นความคิดพื้นฐานของการเกิดกรรมไม่ดีอย่างขั้นต้นที่บอก

                   อีกอัน เป็นข้อสงสัยนะ คือ ทำไมเวลาที่แฟนขอมีอะไรด้วย ผู้หญิงด้วยกันเองมักจะชอบพูดว่า อยากไว้ใจแฟนว่าจะเป็นคนสุดท้ายรึเปล่า คำถามคือ ถ้าคุณไม่รู้จักคนที่คบด้วยแล้วคุณตกลงเป็นแฟนกันทำไม  หรือว่าคบไว้ให้เอาใจ แบบว่า ฆ่าเวลาวันหนึ่งอาจจะเจอคนที่ใช่กว่า ขอโทษฮะที่ถามแบบนี้ แต่อยากรู้ความจริงๆๆ คือ เวลาอ่านความเห็นที่ผู้หญิงด้วยกันสอนกันเอง มันมีรหัสอะไรบางอย่างที่ผู้ชายอย่างเราอ่านออกมา
                    ถ้าผู้ชายจะเสนอคำแนะนำว่า อย่า เล่นตัว อย่าอยู่เฉยๆถ้ารู้สึกชอบผู้ชายที่เข้ามาจีบ อย่าทดสอบดูใจมาก รู้จักเข้าหาผู้ชาย รู้จักพูดคุย ทำตัวดีๆ รู้จักถามไถ่ เลี้ยงข้าว ผู้หญิงจะรู้สึกว่าผู้ชายที่เข้ามาจีบเป็นคนไง