จบกันไปแล้วกับซีรี่ย์เกาหลี Blood หมอพัคที่ตอนจบลงเอยแบบงงๆ
ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์หนังกันสนุกๆแบบชวนคิดเล่นๆกัน
1.ขอชมเชยผู้กำกับเรื่องนี้สร้างออกมาได้เก่งมากเพราะต้องรวบรวมความรู้เกี่ยวกับวิชาแพทย์และการรักษาโรคเฉพาะทาง โดยส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ้าคนดูได้คิดตามไปพร้อมกับหนังจะเห็นว่าให้ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆเยอะมากลองเปรียบเทียบกับหนังไทยเล่นๆที่นานๆทีหรือไม่ค่อยจะมีเลยที่จะสร้างละครแหวกแนวชวนคิดออกมาอย่างนี้
2.ผู้พล็อตโครงเรื่องนี้เก่งมาก คิดว่าน่าจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ก็หมอมาช่วยคิดบทและโครงเรื่องด้วย ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นซีรี่ย์เรื่อง I can hear your voice ที่มีความรู้ทางด้านทนายความกฎหมายเยอะมาก
3.ตัวเรื่องพลิกล็อคน่าติดตามมาก เห็นได้จากหมอมินกายอนที่แรกเห็นใครใครก็คิดว่าใส่ซื่อแต่จริงๆแล้วคนละโลกถ้าตัวหนังไม่เฉลยออกมาให้เห็นตอนนี้ก็ยังคงคิดว่าหมอมินเป็นคนดี นับถือนักแสดงถือว่าตีบทแตกเป็นคนดีก็เรียกน้ำตาความสงสารได้อย่างที่สุดพอเป็นคนเลวก็อดด่าไม่ได้อย่างที่สุด
4.พระเอกหรือหมอพัคหน้านิ่งได้สุดยอดมาก แต่ก็แอบฟินเวลาอยู่กับนางเอกเถียงกันกุ๊กกิ๊กน่ารักดี
5.ทีเด็ดตรงนี้คือลองคิดดูว่าถ้าหนังเรื่องนี้เป็นความจริงจะเกิดอะไรขึ้น นับว่าจะกลายเป็นวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทำให้คนเราเป็นอมตะกันไปเลยกันทีเดียว ต้องบอกได้ว่านับถือคนคิดเรื่องนี้สุดๆ นับเป็นการผนวกความเชื่อในเรื่องของแวมไพร์และความรู้เกี่ยวกับทางด้านวิทยาศาสตร์ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่าน่าเชื่อถือมากขึ้น และในมุมมองกลับกันถ้าผู้ที่คิดหนังเรื่องนี้ผลิตตัวยาแล้วรู้การรักษาเกี่ยวกับโรคต่างๆดังที่ในหนังได้แสดงออกมาคงจะเป็นที่ฮือฮาทางการแพทย์
สุดท้ายนี้คิดว่าถ้าวงการหนังและละครไทยได้ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้มีสาระและน่าติดตามมากขึ้นแบบซีรี่ย์เกาหลีคงจะเป็นอะไรที่น่าติดตามมากๆพลิกละครไทยที่มีแต่น้ำเน่า
ปล.พระเอกกับนางเอกแข่งกันขาวเนอะ
ซีรี่ย์เกาหลี Blood วิเคราะห์เจาะลึกคุณหมอแวมไพร์
ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์หนังกันสนุกๆแบบชวนคิดเล่นๆกัน
1.ขอชมเชยผู้กำกับเรื่องนี้สร้างออกมาได้เก่งมากเพราะต้องรวบรวมความรู้เกี่ยวกับวิชาแพทย์และการรักษาโรคเฉพาะทาง โดยส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ถ้าคนดูได้คิดตามไปพร้อมกับหนังจะเห็นว่าให้ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆเยอะมากลองเปรียบเทียบกับหนังไทยเล่นๆที่นานๆทีหรือไม่ค่อยจะมีเลยที่จะสร้างละครแหวกแนวชวนคิดออกมาอย่างนี้
2.ผู้พล็อตโครงเรื่องนี้เก่งมาก คิดว่าน่าจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ก็หมอมาช่วยคิดบทและโครงเรื่องด้วย ยกตัวอย่างง่ายๆเช่นซีรี่ย์เรื่อง I can hear your voice ที่มีความรู้ทางด้านทนายความกฎหมายเยอะมาก
3.ตัวเรื่องพลิกล็อคน่าติดตามมาก เห็นได้จากหมอมินกายอนที่แรกเห็นใครใครก็คิดว่าใส่ซื่อแต่จริงๆแล้วคนละโลกถ้าตัวหนังไม่เฉลยออกมาให้เห็นตอนนี้ก็ยังคงคิดว่าหมอมินเป็นคนดี นับถือนักแสดงถือว่าตีบทแตกเป็นคนดีก็เรียกน้ำตาความสงสารได้อย่างที่สุดพอเป็นคนเลวก็อดด่าไม่ได้อย่างที่สุด
4.พระเอกหรือหมอพัคหน้านิ่งได้สุดยอดมาก แต่ก็แอบฟินเวลาอยู่กับนางเอกเถียงกันกุ๊กกิ๊กน่ารักดี
5.ทีเด็ดตรงนี้คือลองคิดดูว่าถ้าหนังเรื่องนี้เป็นความจริงจะเกิดอะไรขึ้น นับว่าจะกลายเป็นวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทำให้คนเราเป็นอมตะกันไปเลยกันทีเดียว ต้องบอกได้ว่านับถือคนคิดเรื่องนี้สุดๆ นับเป็นการผนวกความเชื่อในเรื่องของแวมไพร์และความรู้เกี่ยวกับทางด้านวิทยาศาสตร์ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่าน่าเชื่อถือมากขึ้น และในมุมมองกลับกันถ้าผู้ที่คิดหนังเรื่องนี้ผลิตตัวยาแล้วรู้การรักษาเกี่ยวกับโรคต่างๆดังที่ในหนังได้แสดงออกมาคงจะเป็นที่ฮือฮาทางการแพทย์
สุดท้ายนี้คิดว่าถ้าวงการหนังและละครไทยได้ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องให้มีสาระและน่าติดตามมากขึ้นแบบซีรี่ย์เกาหลีคงจะเป็นอะไรที่น่าติดตามมากๆพลิกละครไทยที่มีแต่น้ำเน่า
ปล.พระเอกกับนางเอกแข่งกันขาวเนอะ