เมื่อก่อนสังเกตได้ว่าทีม PR ของช่อง 9 ไม่ค่อยทำหน้าที่โปรโมทอะไรมากมายเท่าไหร่
หลายรายการส่วนใหญ่ผู้จัดล้วนดิ้นรนโปรโมทกันเอง
ยกตัวอย่าง GMM Grammy สมัยทำละครหลังข่าวป้อนให้ช่อง ซึ่งแต่ละเรื่องก็ดังๆ ทั้งนั้น หมวดโอภาส, สายลับเดอะซีรี่ส์, อุบัติรักข้ามขอบฟ้า, ช็อกโกแลต 5 ฤดู แต่ว่าทุกกิจกรรมทางแกรมมี่ล้วนจัดขึ้นมาเอง โดยที่สถานีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย
แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่เข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล ก็เริ่มเห็นทางสถานีทุ่มโปรโมทรายการด้วยตัวเองมากขึ้น
มีการผลิตสปอตโฆษณาหมวดหมู่รายการต่างๆ อย่างสารคดี วาไรตี้ เกมโชว์ ละคร ข่าวบันเทิง
แฟนเพจของช่องก็มีการโปรโมทรายการมากขึ้นโดยเฉพาะรายการละคร ยูทูปช่องก็ปล่อย Teaser Love Sick Season 2 ตัวใหม่เป็นที่แรก แถมอัพคลิปย้อนหลังเองด้วยแบบ Official เว็บไซต์ก็มีโซนแนะนำรายการใหม่กันแล้ว
มีกิจกรรมกระตุ้นแฟนละครออกมาโดยตลอด อย่างการแชทสดออนไลน์ งานแฟนมีตติ้ง การเชิญนักแสดงออกรายการต่างๆ ของสถานี
แต่ จขกท. เชื่อว่าทีม PR สามารถทำได้มากกว่านี้อีก
อย่างคลื่นวิทยุของ อสมท. ที่มี 60 กว่าสถานีทั่วไทย น่าจะใช้ยิงสปอตโฆษณารายการผ่านทางวิทยุได้
เว็บไซต์ดูรายการย้อนหลัง (HiPTV) ที่ปัจจุบันยังคงอัพในเซิร์ฟเวอร์ของช่อง น่าจะทำแบบเดียวกับช่องวัน ที่อัพรายการบนยูทูปแล้วเอามาแปะในหน้าเว็บ
โดยใน 12 ชั่วโมงแรกมีการตั้งค่าคลิปให้สามารถรับชมได้ทางเว็บไซต์ของสถานีก่อนเพื่อเรียกยอดวิวหน้าเว็บ แล้วค่อยปล่อย Public ทีหลัง ช่วยประหยัดเซิร์ฟเวอร์ของช่องได้มากโข
กิจกรรมโปรโมทในออนไลน์ ขอให้เท่าเทียมและเสมอภาคด้วย หลังจาก Love Sick Season 2 ก็จะต่อด้วยเกรียนเฮ้าส์ ซีซั่น 2 ขอร้องว่าอย่าให้เป็นแบบปีที่แล้วก็แล้วกัน ที่ทุ่มโปรโมท Love Sick แม้กระทั่งจบไปแล้ว จนไม่สนใจเกรียนเฮ้าส์ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนั้น
กิจกรรมโปรโมทออฟไลน์ อยากให้มีการจัดกิจกรรม Fan Meeting ละคร ให้นักแสดงและแฟนคลับได้ใกล้ชิดกัน กิจกรรมเดินสายโปรโมทรายการตามย่านการค้าหรือตลาดต่างๆ โดยเอาผู้ประกาศข่าว พิธีกร และนักแสดงมาร่วมกิจกรรมให้ใกล้ชิดกับผู้ชม เป็นต้น
ทีมการตลาด (PR) เป็นส่วนสำคัญที่จะเข้าถึงผู้ชมของสถานี ให้ผู้ชมรู้จักและอยากติดตามรายการนั้นๆ ช่อง 9 ถือว่าพยายามพัฒนาตัวเองได้มากขึ้นก็จริง แต่ผมเชื่อว่าสามารถทำได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้อีก
เอาจริงๆ ทีม PR ของช่อง 9 ทำหน้าที่โปรโมตดีขึ้นมากเลยนะเมื่อเทียบกับในอดีต แต่เชื่อว่ายังสามารถทำได้มากกว่านี้อีก
ยกตัวอย่าง GMM Grammy สมัยทำละครหลังข่าวป้อนให้ช่อง ซึ่งแต่ละเรื่องก็ดังๆ ทั้งนั้น หมวดโอภาส, สายลับเดอะซีรี่ส์, อุบัติรักข้ามขอบฟ้า, ช็อกโกแลต 5 ฤดู แต่ว่าทุกกิจกรรมทางแกรมมี่ล้วนจัดขึ้นมาเอง โดยที่สถานีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย
แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่เข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล ก็เริ่มเห็นทางสถานีทุ่มโปรโมทรายการด้วยตัวเองมากขึ้น
มีการผลิตสปอตโฆษณาหมวดหมู่รายการต่างๆ อย่างสารคดี วาไรตี้ เกมโชว์ ละคร ข่าวบันเทิง
แฟนเพจของช่องก็มีการโปรโมทรายการมากขึ้นโดยเฉพาะรายการละคร ยูทูปช่องก็ปล่อย Teaser Love Sick Season 2 ตัวใหม่เป็นที่แรก แถมอัพคลิปย้อนหลังเองด้วยแบบ Official เว็บไซต์ก็มีโซนแนะนำรายการใหม่กันแล้ว
มีกิจกรรมกระตุ้นแฟนละครออกมาโดยตลอด อย่างการแชทสดออนไลน์ งานแฟนมีตติ้ง การเชิญนักแสดงออกรายการต่างๆ ของสถานี
แต่ จขกท. เชื่อว่าทีม PR สามารถทำได้มากกว่านี้อีก
อย่างคลื่นวิทยุของ อสมท. ที่มี 60 กว่าสถานีทั่วไทย น่าจะใช้ยิงสปอตโฆษณารายการผ่านทางวิทยุได้
เว็บไซต์ดูรายการย้อนหลัง (HiPTV) ที่ปัจจุบันยังคงอัพในเซิร์ฟเวอร์ของช่อง น่าจะทำแบบเดียวกับช่องวัน ที่อัพรายการบนยูทูปแล้วเอามาแปะในหน้าเว็บ
โดยใน 12 ชั่วโมงแรกมีการตั้งค่าคลิปให้สามารถรับชมได้ทางเว็บไซต์ของสถานีก่อนเพื่อเรียกยอดวิวหน้าเว็บ แล้วค่อยปล่อย Public ทีหลัง ช่วยประหยัดเซิร์ฟเวอร์ของช่องได้มากโข
กิจกรรมโปรโมทในออนไลน์ ขอให้เท่าเทียมและเสมอภาคด้วย หลังจาก Love Sick Season 2 ก็จะต่อด้วยเกรียนเฮ้าส์ ซีซั่น 2 ขอร้องว่าอย่าให้เป็นแบบปีที่แล้วก็แล้วกัน ที่ทุ่มโปรโมท Love Sick แม้กระทั่งจบไปแล้ว จนไม่สนใจเกรียนเฮ้าส์ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนั้น
กิจกรรมโปรโมทออฟไลน์ อยากให้มีการจัดกิจกรรม Fan Meeting ละคร ให้นักแสดงและแฟนคลับได้ใกล้ชิดกัน กิจกรรมเดินสายโปรโมทรายการตามย่านการค้าหรือตลาดต่างๆ โดยเอาผู้ประกาศข่าว พิธีกร และนักแสดงมาร่วมกิจกรรมให้ใกล้ชิดกับผู้ชม เป็นต้น
ทีมการตลาด (PR) เป็นส่วนสำคัญที่จะเข้าถึงผู้ชมของสถานี ให้ผู้ชมรู้จักและอยากติดตามรายการนั้นๆ ช่อง 9 ถือว่าพยายามพัฒนาตัวเองได้มากขึ้นก็จริง แต่ผมเชื่อว่าสามารถทำได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้อีก