การที่มีผู้ถามว่า พระไตรปิฎถูกปลอมปนเมื่อใด? และมีหลักฐานอะไรมายืนยัน? นั้นเป็นคำถามที่ไม่ถูกต้อง ต้องถามว่า รู้ได้อย่างไรว่าพระไตรปิฎกมีการปลอมปน? จึงจะถูก เพราะแม้มีหลักฐานมายืนยัน คนที่ไม่เชื่อเขาก็ไม่ยอมรับอยู่ดี และถ้าจะถามกลับว่า มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าพระไตรปิฎกไม่มีการปลอมปน แม้จะมีหลักฐานมายืนยัน คนที่ไม่เชื่อถือก็ไม่ยอมรับอีกเหมือนกัน
ในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้ทรงวางหลักในการค้นหาคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์เอาไว้แล้วโดยไม่ต้องเชื่อจากตำราใดๆหรือจากใครๆ แต่เราไม่นำมาศึกษาและปฏิบัติกันอย่างจริงจัง เราจึงไม่พบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า แล้วเราก็มายึดเอาพระไตรปิฎกว่าเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าแทน โดยไม่รู้ว่าข้อความในพระไตรปิฎกนั้นเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า? ถ้าบังเอิญพระไตรปิฎกถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงมาก่อน เราก็จะได้รับคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปทันทีโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนี่คือข้อเสียจากการยึดถือในตำรา ที่พระพุทธเจ้าก็ต้องรู้ดีอยู่แล้ว จึงได้สอนไว้ว่า อย่าเชื่อจากตำรา
มันมีเหตุผลมากมายที่บ่งบอกว่าพระไตรปิฎกมีการปลอมปน แต่ใครจะยอมรับเพราะเขายึดถือในพระไตรปิฎกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
แม้ในพระไตรปิฎกก็มีคำสอนว่า อย่าเชื่อเพียงเพราะเหตุว่ามีตำราอ้างอิง แต่ให้เชื่อจากการที่เราได้พิสูจน์จนเห็นแจ้งแล้วเท่านั้น ดังนั้นเรื่องใดที่เราไม่เห็นแจ้งก็อย่าเชื่อ อย่างเช่น เรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้าเป็นต้น
พุทธศาสนาเป็นศาสนาประเภท อเทวนิยม คือไม่เชื่อถือเรื่องเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่นับถือกฎธรรมชาติว่ามีอำนาจสูงสุดที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ แต่ทำไมจึงมีเรื่องเทวดา นางฟ้า พระอินทร์ พระพรหม เป็นต้น ที่เป็นเทพของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เข้ามาอยู่ในพระไตรปิฎก?
พระธรรมอันเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า จะต้องเป็นสันทิฏฐิโก คือต้องเห็นแจ้งเอง แต่ทำไมในพระไตรปิฎกจึงพูดถึงเรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า เรื่องการเวียนว่ายตาย-เกิดทางร่ากาย เรื่องนิพพานต่อเมื่อตายไปแล้ว เป็นต้น ซึ่งล้วนไม่เป็นสันทิฏฐิโกเลย
หลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่สุดสำหรับมนุษย์ทุกคน โดยหลักการปฏิบัติจะต้องใช้ปัญญา (สัมมาทิฏฐิ) เป็นตัวนำศีลและสมาธิ แต่ทำไมกลายเป็นว่าพระไตรปิฎกบางส่วนบอกว่าหลักอริยสัจ ๔ เป็นหลักปฏิบัติเพื่อไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกายไปเสีย และยังใช้ศรัทธา (ความเชื่อ) เป็นตัวนำอีกด้วย แล้วอย่างนี้จะบอกว่าไม่มีการปลอมปนได้อย่างไร?
พุทธศาสนา เป็นศาสนาของผู้รู้หรือผู้มีปัญญา ที่มีเหตุมีผล พิสูจน์ได้ แต่ทำไมพระไตรปิฎกจึงมีแต่เรื่องความเชื่อที่ชาวต่างชาติเขามองว่างมงาย ซึ่งเป็นการดูถูกกันอย่างเต็มที่ แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นศาสนาของผู้ที่มีปัญญาที่ใครจะคัดค้านด้วยเหตุผลไม่ได้ ได้อย่างไร?
พระไตรปิฏก็มีการบอกเรื่องการเกิดขึ้นของวิญญาณที่เป็นส่วนประกอบของจิต ว่าต้องอาศัยอายตนะภายนอกกับอายตนภายในมากระทบกัน จึงจะเกิดวิญญาณขึ้นมาที่อายตนะภายในนั้นทันที ดังนั้นเมื่อไม่มีอายตนะภายใน (อายตนะภายในก็ต้องอาศัยร่างกายที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อเกิดขึ้น) แล้ววิญญาณจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? แต่ในพระไตรปิฏบางส่วนกลับบอกเรื่องจิตหรือวิญญาณที่เป็นตัวเรามาเวียนว่ายตาย-เกิดทางร่างกายอย่างมากมาย
ยังมีเหตุผลมากมายที่บ่งบอกว่าพระไตรปิฎกมีการปลอมปน แต่ใครจะยอมรับล่ะ เพราะเขาถูกความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตาย-เกิดเพื่อมารับผลกรรมเก่า ที่เป็นคำสอนของศาสนาพรหามณ์มาครอบงำเอาไว้แล้วอย่างมิดชิด ดังนั้นเขาจึงเอาแต่ความเชื่อมาหักล้างเรื่องที่ได้บรรยายมานี้ โดยไม่ได้ใช้เหตุผลและความจริงมาหักล้างเลย แล้วอย่างนี้สมควรจะเรียกว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริงได้อย่างไร?
สาเหตุที่บอกว่าทำไมพระไตรปิฎกมีการปลอมปน
ในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้ทรงวางหลักในการค้นหาคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์เอาไว้แล้วโดยไม่ต้องเชื่อจากตำราใดๆหรือจากใครๆ แต่เราไม่นำมาศึกษาและปฏิบัติกันอย่างจริงจัง เราจึงไม่พบคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า แล้วเราก็มายึดเอาพระไตรปิฎกว่าเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าแทน โดยไม่รู้ว่าข้อความในพระไตรปิฎกนั้นเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าหรือเปล่า? ถ้าบังเอิญพระไตรปิฎกถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงมาก่อน เราก็จะได้รับคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปทันทีโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนี่คือข้อเสียจากการยึดถือในตำรา ที่พระพุทธเจ้าก็ต้องรู้ดีอยู่แล้ว จึงได้สอนไว้ว่า อย่าเชื่อจากตำรา
มันมีเหตุผลมากมายที่บ่งบอกว่าพระไตรปิฎกมีการปลอมปน แต่ใครจะยอมรับเพราะเขายึดถือในพระไตรปิฎกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
แม้ในพระไตรปิฎกก็มีคำสอนว่า อย่าเชื่อเพียงเพราะเหตุว่ามีตำราอ้างอิง แต่ให้เชื่อจากการที่เราได้พิสูจน์จนเห็นแจ้งแล้วเท่านั้น ดังนั้นเรื่องใดที่เราไม่เห็นแจ้งก็อย่าเชื่อ อย่างเช่น เรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้าเป็นต้น
พุทธศาสนาเป็นศาสนาประเภท อเทวนิยม คือไม่เชื่อถือเรื่องเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น แต่นับถือกฎธรรมชาติว่ามีอำนาจสูงสุดที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ แต่ทำไมจึงมีเรื่องเทวดา นางฟ้า พระอินทร์ พระพรหม เป็นต้น ที่เป็นเทพของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู เข้ามาอยู่ในพระไตรปิฎก?
พระธรรมอันเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า จะต้องเป็นสันทิฏฐิโก คือต้องเห็นแจ้งเอง แต่ทำไมในพระไตรปิฎกจึงพูดถึงเรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า เรื่องการเวียนว่ายตาย-เกิดทางร่ากาย เรื่องนิพพานต่อเมื่อตายไปแล้ว เป็นต้น ซึ่งล้วนไม่เป็นสันทิฏฐิโกเลย
หลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่สุดสำหรับมนุษย์ทุกคน โดยหลักการปฏิบัติจะต้องใช้ปัญญา (สัมมาทิฏฐิ) เป็นตัวนำศีลและสมาธิ แต่ทำไมกลายเป็นว่าพระไตรปิฎกบางส่วนบอกว่าหลักอริยสัจ ๔ เป็นหลักปฏิบัติเพื่อไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกายไปเสีย และยังใช้ศรัทธา (ความเชื่อ) เป็นตัวนำอีกด้วย แล้วอย่างนี้จะบอกว่าไม่มีการปลอมปนได้อย่างไร?
พุทธศาสนา เป็นศาสนาของผู้รู้หรือผู้มีปัญญา ที่มีเหตุมีผล พิสูจน์ได้ แต่ทำไมพระไตรปิฎกจึงมีแต่เรื่องความเชื่อที่ชาวต่างชาติเขามองว่างมงาย ซึ่งเป็นการดูถูกกันอย่างเต็มที่ แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเป็นศาสนาของผู้ที่มีปัญญาที่ใครจะคัดค้านด้วยเหตุผลไม่ได้ ได้อย่างไร?
พระไตรปิฏก็มีการบอกเรื่องการเกิดขึ้นของวิญญาณที่เป็นส่วนประกอบของจิต ว่าต้องอาศัยอายตนะภายนอกกับอายตนภายในมากระทบกัน จึงจะเกิดวิญญาณขึ้นมาที่อายตนะภายในนั้นทันที ดังนั้นเมื่อไม่มีอายตนะภายใน (อายตนะภายในก็ต้องอาศัยร่างกายที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อเกิดขึ้น) แล้ววิญญาณจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? แต่ในพระไตรปิฏบางส่วนกลับบอกเรื่องจิตหรือวิญญาณที่เป็นตัวเรามาเวียนว่ายตาย-เกิดทางร่างกายอย่างมากมาย
ยังมีเหตุผลมากมายที่บ่งบอกว่าพระไตรปิฎกมีการปลอมปน แต่ใครจะยอมรับล่ะ เพราะเขาถูกความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตาย-เกิดเพื่อมารับผลกรรมเก่า ที่เป็นคำสอนของศาสนาพรหามณ์มาครอบงำเอาไว้แล้วอย่างมิดชิด ดังนั้นเขาจึงเอาแต่ความเชื่อมาหักล้างเรื่องที่ได้บรรยายมานี้ โดยไม่ได้ใช้เหตุผลและความจริงมาหักล้างเลย แล้วอย่างนี้สมควรจะเรียกว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริงได้อย่างไร?