สงกรานต์ที่ผ่านมาชาร์ตแบตในตัวเต็มกันหรือยังคะ?
ถ้ายังหรือรู้สึกแบตเริ่มลดๆหมดไปกับการทำงาน ...เครื่องชาร์ตแบตจิ๋วๆเพียงปลายนิ้วสัมผัส
แค่คุณอ่านกระทู้นี้จนจบ แบตในตัวคุณจะเพิ่มอย่างไม่รู้ตัว
พร้อมแล้ว..ไปกันเลย กับทริป
CHARADA iN GREECE
//snapshot_sketches//
ออกเดินทางจากเยอรมัน Hannover นั่งเครื่องไม่ถึงชั่วโมงลงMunich แล้วต่อเครื่องอีก3ชม.ยิงยาวถึงเอเธนส์(Athens)
ออกจากประตูสนามบินเจอป้ายรถเมล์ ไม่รอช้าหาสายX96 เพื่อไปยังเมืองพิราอุส(Piraeus) ตั๋วคนละ5ยูโรที่ขายตั๋วอยู่ใกล้ๆ นั่งวาดเพลินๆเริ่มสังเกต ชายกรีกเครางามหนวดเฟิ้มแทบทุกคน
เนินขึ้นๆลงๆซ้ายขวาเป็นตึก ชาวกรีกอยู่กันแบบนี้ ตัดมาเป็นป้ายหมาหน้าดุติดขู่ทั่วไปตามตึก เอ้ะ!หมายความว่าขโมยขโจรชุก...อย่างนั้นหรือ? และพิราอุสเป็นเมืองท่า มีท่าใหญ่4ท่า Marina Zea, Passalimani, Mikrolimano, Port Of Piraeus เราจะไปแต่ละที่และบอกความแตกต่างของแต่ละท่าในวันต่อๆไป
Phidias Piraeus hotel เดินไม่ไกลเจอห้างคาร์ฟูร์ แวะตุนเสบียง พอตอนจ่ายตังค์มีหญิงใหญ่ผมทองในชุดแดง มาชวนคุย รู้ตัวอีกทีถูกนางแซงซะอย่างนั้น บอกนางให้ต่อคิวแต่ก็ไม่สำเร็จ ตอนนั้นเราก็ "ช่างแหม่ม" แต่พอสบโอกาสเราขอวาดนาง แบบชัดๆเหมือนสเก็ตผู้ต้องหายังไงอย่างงั้น แห่ะๆ
หอนาฬิกาบนเกาะกลางถนน สัญลักษณ์จิ๋วของย่านนี้ ใกล้กันเป็น Marina Zea ท่าเรือเล็กๆที่เห็นวิวตึกสไตล์เหลี่ยม-ระเบียง สวยไปอีกแบบและท่าเรือแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมความสุขของชาวพิราอุส บ้างก็พาหมามาเดินเล่น บ้างก็นั่งเม้ามอยกันอย่างสนุกสนาน
เช้าวันต่อมานั่งรถไฟเข้าเอเธนส์ ลิ้มรสอาหารกรีกครั้งแรกจากร้านTepina เมนูที่ไม่ควรพลาดคือMousaka รสชาติคล้ายลาซานญ่า อีกเมนูที่แนะนำคือไก่อบสไตล์กรีก...ตบท้ายด้วยMaotixa (ไม่แน่ใจสะกดถูกมั้ย) แก้วจิ๋วๆพอดื่มปุ้บร้อนทั้งคอ อุ่นไปทั้งกาย
เห็นวิหารบนเนินอโครโปลิสอยู่แค่เอื้อม แต่ต้องเปลี่ยนแผนไปพิพิธภัณฑ์ เพราะอากาศเกิดแย่ก่อนเวลาที่พยากรณ์อากาศบอกไว้
Acropolis Museum พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องในเรื่องโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม พื้นชั้นเรกเป็นกระจกมองทะลุเห็นใต้ดินที่มีโบราณสถานอันเก่าแก่ ชั้น2เป็นส่วนของร้านอาหาร ทุกวันศุกร์เปิดถึงเที่ยงคืน เพื่อชมความงามของเขาอโครโปลิสพร้อมลิ้มรสอาหารเมนูพิเศษ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ปิดเฉพาะวันจันทร์เท่านั้น
จากพิพิธภัณฑ์เดินไปไม่ไกล จะเจอHadrian's Arch เป็นประตูแบ่งเขตเก่าใหม่ และTemple of Olympian Zeus ตั้งเด่นตระง่านเห็นแต่ไกล
เช้าวันต่อมา ณ ท่าเรือ Mikrolimano ยามค่ำคืนที่แห่งนี้แสนจะครื้นเครง ห้อมล้อมด้วยบาร์และร้านอาหาร แต่เวลานี้หกโมงเช้ากลับกลายเป็นที่ๆมีแค่เรือยอร์ช แสงไฟ กับน้ำทะเล
ซักพักท้องฟ้าเริ่มไล่เฉดจากดำน้ำเงิน กลายเป็นฟ้าอมส้ม วิวตรงหน้าเรามันสวยอย่าบอกใคร
พอหันหลังจะหยิบสมุด มองขึ้นไป...เฮ้ยวิวบนบกก็สวย!
สายๆมาขึ้นเขาAcropolis ข้างทางเจอโรงละครกลางแจ้ง 2ที่ และที่แห่งนี้ คือ Odeon (Theatre) of Heroes Atticus โรงละครโบราณที่จัดที่นั่งเป็นขั้นๆ
มองจากมุมสูงฉากหลังคือ เมืองเอเธนส์ไกลสุดลูกหูลูกตา และปัจจุบันโรงละครแห่งนี้ยังคงใช้จัดแสดงคอนเสิร์ตสดอยู่เรื่อยๆ
เดินจนถึงยอดเขา มองไปทางซ้ายมือจะเจอวิหาร The Erechtheion ว่ากันว่าหญิงนักบวชเหล่านี้ทำผิดเลยถูกทำโทษให้แบกวิหารไว้ นั่งวาดรูปเพลินๆ ได้ยินเสียงดังป้าด!! ลอยอยู่แถวหัวเรา มองขึ้นไปเจอป้าจีนคนหนึ่งยืนอยู่ นางไม่คิดว่าเราจะได้ยิน พอเราเงยหน้าขึ้นไปตาประสานกัน ป้าตกใจทำหน้าไม่ถูก เลยทำหน้า"ก็ไม่รู้สินะ" ซะอย่างนั้น ฮ่าๆ ทางขวาเป็นวิหารพาร์เธนอน Parthenon สร้างเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาเทพีเอเธนา เทพีแห่งปัญญา
อารมณ์อินกับสถาปัตยกรรมโบราณยังไม่จบ ตีตั๋วนั่งรถเมล์ประมาณ2ชม. ไปยังThe Temple of Poseidon ซึ่งตั้งอยู่บนแหลม Sounion
เช้าต่อมาหลังจาก Check out ทางโรงแรมจัดแท็กซี่ฟรีไปส่งที่ Port of Piraeus ท่าจอดเรือลำใหญ่ เช่นเรือ blue star delos ที่จอดเทียบท่าเตรียมพาพวกเราออกน่านน้ำไปยังเกาะซานโตรินี
โดมและไม้กางเขน เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเกาะซานโตรินี คืนแรกเราพักที่เมืองฟิรา (Fira) พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงหน้าห้องของโรงแรมAroma Suit พอดี แถมยังเห็นภูเขาไฟกลางทะเลที่ดับแล้วอีกด้วย
สายๆวันต่อมามุ่งหน้าไปหาดแดง แต่ก่อนถึงหาดบรรยากาศข้างทางมันธรรมชาติสุดๆ...เนินดอกไม้สีเหลืองสด มองลงไปเห็นทุ่งหญ้าลานกว้าง ม้าสีน้ำตาลสองตัวยืนกินหญ้า ทอดสายตาไกลกว่านั้นเห็นทะเลกว้างใหญ่ตัดสลับกับทิวเขา ทำเอาเคลิ้มไปเลยทีเดียว
Santorini Red Beach หาดสีแดง ผาสีแดง ลมก็แรง แสงสวย เห็นหมวยๆเต็มหาด ทัวร์จีนลงเรื่อยๆจริงๆ... มองลงไปเห็นหาดทอดยาวคล้ายตัวซีกลับด้าน ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะเห็นแต่คนนอนอาบแดด กับร่มร่วมร้อยกางเต็มไปหมด..ซักพักเจอเด็กฝรั่งถือฟองน้ำธรรมชาติก้อนเบอเริ่ม เขาเจอมันที่ริมหาด...จากหาดแดงใกล้ๆกันเป็น Akrotiri Thira โบราณสถานในร่ม แวะชมความงามกันได้
ช่วงบ่ายขับรถต่อไปเมืองเอีย (OiA) ใช้เวลาพักใหญ่ๆก็ถึง เห็นลาใจนึกอยากขี่ แต่พอเห็นมันยืนแข็งทื่อ หน้าตาน่าสงสาร ต้องแบกคนขึ้นลงบันไดหลายร้อยขั้น เลยเปลี่ยนใจไม่ขี่ อีกอย่างที่พบตามถนนคล้ายศาลพระภูมิสไตล์ซานโตรินี่ เสียดายลืมถามว่ามันคืออะไร? (ใครรู้ช่วยบอกที) ต่อด้วยสัญลักษณ์คล้ายดวงตา "มาติ Mati" พบทั่วไปตามตึก กำแพง เครื่องประดับ เชื่อว่าสามารถป้องกันอันตรายได้ มีต้นกำเนิดมาจากที่นี่แล้วแพร่หลายไปทั่วในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ตกเย็น ระหว่างที่นักท่องเที่ยวพากันชมความงามของพระอาทิตย์ตกบริเวณโดมฟ้า
เราหันหลังเห็นวิวที่สวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ขอวาดแบบสบายๆ ถ้ามัวแต่นั่งวาดมุมดังมีหวัง คนข้างหลังเตะเราตกโดมแน่นอน...คนเยอะมาก
มื้อค่ำเราไปร้านMelitini บรรยากาศอบอวลไปด้วยของเก่า เพลงเก่า รสชาติอาหารก็ไม่ผิดหวัง
ซานโตรินีดินแดนโดมฟ้าและตึกขาว แต่ใครบางคนอาจไม่รู้ นอกจากสีฟ้าขาวแล้ว เกาะนี้ยังแซมไปด้วยสีแซ่บๆจากประตูไม้...ไม่เชื่อคุณลองลัดเลาะตามซอกซอยดูนะ
เดินลัดเลาะต่ออีกนิดจะพบบ้านทรงกระบอกสีขาวนวล มุงด้วยหลังคาสีน้ำตาลเข้ม
บริเวณนี้มองลงไปจะเห็นบันไดลงไปถึงหาด เผินๆคล้ายกำแพงเมืองจีน
พักดูดอกไม้กันซักหน่อย
ต่อด้วยอาหารกรีกชื่อดัง
ตบท้ายลงไปดูพระอาทิตย์ตกแบบสงบสุดๆ ที่อ่าวอโบวดิ (Aboudi Bay) ตอนลงมาด้านล่างจะเจอร้านอาหาร แล้วถ้าเดินผ่านร้านอาหารมาเรื่อยๆ จะเริ่มไม่มีผู้คน เสมือนเป็นอ่าวส่วนตัว นั่งห้อยขาฟังเสียงคลื่นดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าช้าๆ..เฮ้ออพระอาทิตย์กับไข่แดงไชยา มันคล้ายกันจริงๆ
"ซานโตรินี ถ้าเปรียบเป็นหญิง เธอมันก็คือหญิงแซ่บ!! พอใส่เสื้อผ้าฟ้าขาว เธอก็ทำให้ผู้คนร้องโอ้วสวยจัง กดชัตเตอร์รัวใส่เธอกระจาย พอดูอีกมุมAboudi Bay เหมือนเธอโชว์ผิวสีแดงน้ำตาลเข้ม เธอทำให้พระอาทิตย์สยบละลายต่อหน้าเธอ เสน่ห์เธอมันเหลือร้ายจริงๆ ลาก่อนนะยะ ไว้พบกันใหม่"
Mykonos มิโคนอสเกาะชื่อดัง อยู่ห่างจากเกาะซานโตรินีประมาณ3ชม. เดินไปตามหาดเจอนางในชุดชมพูอมเหลืองปากส้ม
"นกพิริแกน"ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยท่าโพสสุดเจิด
Little Venice กับกังหัน 5ตัว
เช้าๆเดินเที่ยว หลังกังหัน5ตัว เจอท่าเรือเล็กๆไร้เสียงผู้คนมีแค่เสียงคลื่นซัดฝั่งเบาๆ
อิ่มอร่อยก่อนไปสนามบิน ในร้านเล็กๆมีดีไซด์อย่างPepper เสริฟอาหารกรีกง่ายๆ ประมาณGyros ,Souvlaki
กลับเอเธนส์ วางแผนเดินเที่ยวในวันต่อไป
360 room and apartments อยู่ใจกลางย่านพลาก้า (Plaka) ที่นี่คล้ายพิพิธภัณฑ์ของเก่า เขานำเอาของเก่าเก๋ๆมาตกแต่งทั้งในหัองพักและบันไดขึ้นลง ด้านบนเป็นส่วนของภัตราคารและบาร์ จุดขายนอกเหนือจากความอร่อยเหาะของอาหารแล้ว แน่นอนก็คือวิวสวยๆของเขาAcropolis นั่นเอง
จากย่านพลาก้า เดิน10นาทีก็ถึงจตุรัสซินทักม่า(Syntagma) 11โมงมีนัดกับขบวนพาเหรดทหารบัลเล่ต์ ที่เรียกแบบนั้นเพราะชุดที่ทหารใส่ เป็นชุดกระโปรงขาวจับจีบสั้นเหนือเข่า กับรองเท้าหัวฟู่ๆ พวกเขาเป็นทหารที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษ ตอนถ่ายรูปใครโพสท่าถูกตัวพวกเขาล่ะก็ ปืนยาวที่ถืออยู่จะกระแทกลงพื้น ดังตึ๊กทันที!
ออกเดินทางครั้งนี้ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนแถบยุโรปอีกรูปแบบ ที่แสนจะเรียบง่ายผู้คนอัธยาศัยดีคล้ายคนไทย และเกือบทุกอย่างรอบตัวพวกเขาแฝงไปด้วยความเชื่อ เชื่อเทพเจ้า เชื่อสัญลักษณ์ เชื่ออื่นๆอีกมากมาย และถ้าเราไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงตัดสินบางอย่างแค่ด้วยความคิด แล้วผิดมหันต์ เช่นว่ากรีกเป็นเมืองสกปรกแหงๆ เนื่องด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ บลาๆ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว สะอาดกว่าหลายเมืองที่เศรษฐกิจดีเสียอีก
นี่แหละเพื่อนใหม่ที่ช่วยชาร์ตแบตในตัวเราให้เต็มเปี่ยม "กรีก" ชื่อสั้นๆจำง่ายๆ
ไว้เจอกันในทริปต่อๆไปค่ะ .ชาราดา
อ่านทริปเที่ยวที่ผ่านมาได้ที่
http://ppantip.com/topic/33262544
http://ppantip.com/topic/33302463
บุกกรีก! เที่ยวมันๆ 8วัน เต็มๆ
ถ้ายังหรือรู้สึกแบตเริ่มลดๆหมดไปกับการทำงาน ...เครื่องชาร์ตแบตจิ๋วๆเพียงปลายนิ้วสัมผัส
แค่คุณอ่านกระทู้นี้จนจบ แบตในตัวคุณจะเพิ่มอย่างไม่รู้ตัว
พร้อมแล้ว..ไปกันเลย กับทริป
CHARADA iN GREECE
//snapshot_sketches//
ออกเดินทางจากเยอรมัน Hannover นั่งเครื่องไม่ถึงชั่วโมงลงMunich แล้วต่อเครื่องอีก3ชม.ยิงยาวถึงเอเธนส์(Athens)
ออกจากประตูสนามบินเจอป้ายรถเมล์ ไม่รอช้าหาสายX96 เพื่อไปยังเมืองพิราอุส(Piraeus) ตั๋วคนละ5ยูโรที่ขายตั๋วอยู่ใกล้ๆ นั่งวาดเพลินๆเริ่มสังเกต ชายกรีกเครางามหนวดเฟิ้มแทบทุกคน
เนินขึ้นๆลงๆซ้ายขวาเป็นตึก ชาวกรีกอยู่กันแบบนี้ ตัดมาเป็นป้ายหมาหน้าดุติดขู่ทั่วไปตามตึก เอ้ะ!หมายความว่าขโมยขโจรชุก...อย่างนั้นหรือ? และพิราอุสเป็นเมืองท่า มีท่าใหญ่4ท่า Marina Zea, Passalimani, Mikrolimano, Port Of Piraeus เราจะไปแต่ละที่และบอกความแตกต่างของแต่ละท่าในวันต่อๆไป
Phidias Piraeus hotel เดินไม่ไกลเจอห้างคาร์ฟูร์ แวะตุนเสบียง พอตอนจ่ายตังค์มีหญิงใหญ่ผมทองในชุดแดง มาชวนคุย รู้ตัวอีกทีถูกนางแซงซะอย่างนั้น บอกนางให้ต่อคิวแต่ก็ไม่สำเร็จ ตอนนั้นเราก็ "ช่างแหม่ม" แต่พอสบโอกาสเราขอวาดนาง แบบชัดๆเหมือนสเก็ตผู้ต้องหายังไงอย่างงั้น แห่ะๆ
หอนาฬิกาบนเกาะกลางถนน สัญลักษณ์จิ๋วของย่านนี้ ใกล้กันเป็น Marina Zea ท่าเรือเล็กๆที่เห็นวิวตึกสไตล์เหลี่ยม-ระเบียง สวยไปอีกแบบและท่าเรือแห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมความสุขของชาวพิราอุส บ้างก็พาหมามาเดินเล่น บ้างก็นั่งเม้ามอยกันอย่างสนุกสนาน
เช้าวันต่อมานั่งรถไฟเข้าเอเธนส์ ลิ้มรสอาหารกรีกครั้งแรกจากร้านTepina เมนูที่ไม่ควรพลาดคือMousaka รสชาติคล้ายลาซานญ่า อีกเมนูที่แนะนำคือไก่อบสไตล์กรีก...ตบท้ายด้วยMaotixa (ไม่แน่ใจสะกดถูกมั้ย) แก้วจิ๋วๆพอดื่มปุ้บร้อนทั้งคอ อุ่นไปทั้งกาย
เห็นวิหารบนเนินอโครโปลิสอยู่แค่เอื้อม แต่ต้องเปลี่ยนแผนไปพิพิธภัณฑ์ เพราะอากาศเกิดแย่ก่อนเวลาที่พยากรณ์อากาศบอกไว้
Acropolis Museum พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องในเรื่องโครงสร้างทางสถาปัตยกรรม พื้นชั้นเรกเป็นกระจกมองทะลุเห็นใต้ดินที่มีโบราณสถานอันเก่าแก่ ชั้น2เป็นส่วนของร้านอาหาร ทุกวันศุกร์เปิดถึงเที่ยงคืน เพื่อชมความงามของเขาอโครโปลิสพร้อมลิ้มรสอาหารเมนูพิเศษ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ปิดเฉพาะวันจันทร์เท่านั้น
จากพิพิธภัณฑ์เดินไปไม่ไกล จะเจอHadrian's Arch เป็นประตูแบ่งเขตเก่าใหม่ และTemple of Olympian Zeus ตั้งเด่นตระง่านเห็นแต่ไกล
เช้าวันต่อมา ณ ท่าเรือ Mikrolimano ยามค่ำคืนที่แห่งนี้แสนจะครื้นเครง ห้อมล้อมด้วยบาร์และร้านอาหาร แต่เวลานี้หกโมงเช้ากลับกลายเป็นที่ๆมีแค่เรือยอร์ช แสงไฟ กับน้ำทะเล
ซักพักท้องฟ้าเริ่มไล่เฉดจากดำน้ำเงิน กลายเป็นฟ้าอมส้ม วิวตรงหน้าเรามันสวยอย่าบอกใคร
พอหันหลังจะหยิบสมุด มองขึ้นไป...เฮ้ยวิวบนบกก็สวย!
สายๆมาขึ้นเขาAcropolis ข้างทางเจอโรงละครกลางแจ้ง 2ที่ และที่แห่งนี้ คือ Odeon (Theatre) of Heroes Atticus โรงละครโบราณที่จัดที่นั่งเป็นขั้นๆ
มองจากมุมสูงฉากหลังคือ เมืองเอเธนส์ไกลสุดลูกหูลูกตา และปัจจุบันโรงละครแห่งนี้ยังคงใช้จัดแสดงคอนเสิร์ตสดอยู่เรื่อยๆ
เดินจนถึงยอดเขา มองไปทางซ้ายมือจะเจอวิหาร The Erechtheion ว่ากันว่าหญิงนักบวชเหล่านี้ทำผิดเลยถูกทำโทษให้แบกวิหารไว้ นั่งวาดรูปเพลินๆ ได้ยินเสียงดังป้าด!! ลอยอยู่แถวหัวเรา มองขึ้นไปเจอป้าจีนคนหนึ่งยืนอยู่ นางไม่คิดว่าเราจะได้ยิน พอเราเงยหน้าขึ้นไปตาประสานกัน ป้าตกใจทำหน้าไม่ถูก เลยทำหน้า"ก็ไม่รู้สินะ" ซะอย่างนั้น ฮ่าๆ ทางขวาเป็นวิหารพาร์เธนอน Parthenon สร้างเพื่อเป็นศาสนสถานบูชาเทพีเอเธนา เทพีแห่งปัญญา
อารมณ์อินกับสถาปัตยกรรมโบราณยังไม่จบ ตีตั๋วนั่งรถเมล์ประมาณ2ชม. ไปยังThe Temple of Poseidon ซึ่งตั้งอยู่บนแหลม Sounion
เช้าต่อมาหลังจาก Check out ทางโรงแรมจัดแท็กซี่ฟรีไปส่งที่ Port of Piraeus ท่าจอดเรือลำใหญ่ เช่นเรือ blue star delos ที่จอดเทียบท่าเตรียมพาพวกเราออกน่านน้ำไปยังเกาะซานโตรินี
โดมและไม้กางเขน เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเกาะซานโตรินี คืนแรกเราพักที่เมืองฟิรา (Fira) พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงหน้าห้องของโรงแรมAroma Suit พอดี แถมยังเห็นภูเขาไฟกลางทะเลที่ดับแล้วอีกด้วย
สายๆวันต่อมามุ่งหน้าไปหาดแดง แต่ก่อนถึงหาดบรรยากาศข้างทางมันธรรมชาติสุดๆ...เนินดอกไม้สีเหลืองสด มองลงไปเห็นทุ่งหญ้าลานกว้าง ม้าสีน้ำตาลสองตัวยืนกินหญ้า ทอดสายตาไกลกว่านั้นเห็นทะเลกว้างใหญ่ตัดสลับกับทิวเขา ทำเอาเคลิ้มไปเลยทีเดียว
Santorini Red Beach หาดสีแดง ผาสีแดง ลมก็แรง แสงสวย เห็นหมวยๆเต็มหาด ทัวร์จีนลงเรื่อยๆจริงๆ... มองลงไปเห็นหาดทอดยาวคล้ายตัวซีกลับด้าน ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะเห็นแต่คนนอนอาบแดด กับร่มร่วมร้อยกางเต็มไปหมด..ซักพักเจอเด็กฝรั่งถือฟองน้ำธรรมชาติก้อนเบอเริ่ม เขาเจอมันที่ริมหาด...จากหาดแดงใกล้ๆกันเป็น Akrotiri Thira โบราณสถานในร่ม แวะชมความงามกันได้
ช่วงบ่ายขับรถต่อไปเมืองเอีย (OiA) ใช้เวลาพักใหญ่ๆก็ถึง เห็นลาใจนึกอยากขี่ แต่พอเห็นมันยืนแข็งทื่อ หน้าตาน่าสงสาร ต้องแบกคนขึ้นลงบันไดหลายร้อยขั้น เลยเปลี่ยนใจไม่ขี่ อีกอย่างที่พบตามถนนคล้ายศาลพระภูมิสไตล์ซานโตรินี่ เสียดายลืมถามว่ามันคืออะไร? (ใครรู้ช่วยบอกที) ต่อด้วยสัญลักษณ์คล้ายดวงตา "มาติ Mati" พบทั่วไปตามตึก กำแพง เครื่องประดับ เชื่อว่าสามารถป้องกันอันตรายได้ มีต้นกำเนิดมาจากที่นี่แล้วแพร่หลายไปทั่วในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ตกเย็น ระหว่างที่นักท่องเที่ยวพากันชมความงามของพระอาทิตย์ตกบริเวณโดมฟ้า
เราหันหลังเห็นวิวที่สวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ขอวาดแบบสบายๆ ถ้ามัวแต่นั่งวาดมุมดังมีหวัง คนข้างหลังเตะเราตกโดมแน่นอน...คนเยอะมาก
มื้อค่ำเราไปร้านMelitini บรรยากาศอบอวลไปด้วยของเก่า เพลงเก่า รสชาติอาหารก็ไม่ผิดหวัง
ซานโตรินีดินแดนโดมฟ้าและตึกขาว แต่ใครบางคนอาจไม่รู้ นอกจากสีฟ้าขาวแล้ว เกาะนี้ยังแซมไปด้วยสีแซ่บๆจากประตูไม้...ไม่เชื่อคุณลองลัดเลาะตามซอกซอยดูนะ
เดินลัดเลาะต่ออีกนิดจะพบบ้านทรงกระบอกสีขาวนวล มุงด้วยหลังคาสีน้ำตาลเข้ม
บริเวณนี้มองลงไปจะเห็นบันไดลงไปถึงหาด เผินๆคล้ายกำแพงเมืองจีน
พักดูดอกไม้กันซักหน่อย
ต่อด้วยอาหารกรีกชื่อดัง
ตบท้ายลงไปดูพระอาทิตย์ตกแบบสงบสุดๆ ที่อ่าวอโบวดิ (Aboudi Bay) ตอนลงมาด้านล่างจะเจอร้านอาหาร แล้วถ้าเดินผ่านร้านอาหารมาเรื่อยๆ จะเริ่มไม่มีผู้คน เสมือนเป็นอ่าวส่วนตัว นั่งห้อยขาฟังเสียงคลื่นดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าช้าๆ..เฮ้ออพระอาทิตย์กับไข่แดงไชยา มันคล้ายกันจริงๆ
"ซานโตรินี ถ้าเปรียบเป็นหญิง เธอมันก็คือหญิงแซ่บ!! พอใส่เสื้อผ้าฟ้าขาว เธอก็ทำให้ผู้คนร้องโอ้วสวยจัง กดชัตเตอร์รัวใส่เธอกระจาย พอดูอีกมุมAboudi Bay เหมือนเธอโชว์ผิวสีแดงน้ำตาลเข้ม เธอทำให้พระอาทิตย์สยบละลายต่อหน้าเธอ เสน่ห์เธอมันเหลือร้ายจริงๆ ลาก่อนนะยะ ไว้พบกันใหม่"
Mykonos มิโคนอสเกาะชื่อดัง อยู่ห่างจากเกาะซานโตรินีประมาณ3ชม. เดินไปตามหาดเจอนางในชุดชมพูอมเหลืองปากส้ม
"นกพิริแกน"ยืนต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยท่าโพสสุดเจิด
Little Venice กับกังหัน 5ตัว
เช้าๆเดินเที่ยว หลังกังหัน5ตัว เจอท่าเรือเล็กๆไร้เสียงผู้คนมีแค่เสียงคลื่นซัดฝั่งเบาๆ
อิ่มอร่อยก่อนไปสนามบิน ในร้านเล็กๆมีดีไซด์อย่างPepper เสริฟอาหารกรีกง่ายๆ ประมาณGyros ,Souvlaki
กลับเอเธนส์ วางแผนเดินเที่ยวในวันต่อไป
360 room and apartments อยู่ใจกลางย่านพลาก้า (Plaka) ที่นี่คล้ายพิพิธภัณฑ์ของเก่า เขานำเอาของเก่าเก๋ๆมาตกแต่งทั้งในหัองพักและบันไดขึ้นลง ด้านบนเป็นส่วนของภัตราคารและบาร์ จุดขายนอกเหนือจากความอร่อยเหาะของอาหารแล้ว แน่นอนก็คือวิวสวยๆของเขาAcropolis นั่นเอง
จากย่านพลาก้า เดิน10นาทีก็ถึงจตุรัสซินทักม่า(Syntagma) 11โมงมีนัดกับขบวนพาเหรดทหารบัลเล่ต์ ที่เรียกแบบนั้นเพราะชุดที่ทหารใส่ เป็นชุดกระโปรงขาวจับจีบสั้นเหนือเข่า กับรองเท้าหัวฟู่ๆ พวกเขาเป็นทหารที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษ ตอนถ่ายรูปใครโพสท่าถูกตัวพวกเขาล่ะก็ ปืนยาวที่ถืออยู่จะกระแทกลงพื้น ดังตึ๊กทันที!
ออกเดินทางครั้งนี้ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนแถบยุโรปอีกรูปแบบ ที่แสนจะเรียบง่ายผู้คนอัธยาศัยดีคล้ายคนไทย และเกือบทุกอย่างรอบตัวพวกเขาแฝงไปด้วยความเชื่อ เชื่อเทพเจ้า เชื่อสัญลักษณ์ เชื่ออื่นๆอีกมากมาย และถ้าเราไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คงตัดสินบางอย่างแค่ด้วยความคิด แล้วผิดมหันต์ เช่นว่ากรีกเป็นเมืองสกปรกแหงๆ เนื่องด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ บลาๆ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว สะอาดกว่าหลายเมืองที่เศรษฐกิจดีเสียอีก
นี่แหละเพื่อนใหม่ที่ช่วยชาร์ตแบตในตัวเราให้เต็มเปี่ยม "กรีก" ชื่อสั้นๆจำง่ายๆ
ไว้เจอกันในทริปต่อๆไปค่ะ .ชาราดา
อ่านทริปเที่ยวที่ผ่านมาได้ที่
http://ppantip.com/topic/33262544
http://ppantip.com/topic/33302463