ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนน่ะค่ะว่า นี่คือการรีวิวครั้งแรกในชีวิต แถมไม่มี Acct อีกต่างหาก ไปจิ๊กของเพื่อนมา ความสามารถในการพิมพ์ก็เข้าขั้นพังพินาศ หากผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัย
ที่มารีวิวครั้งนี้ แบบว่าอยากบอกสาวๆที่กำลังติดสินใจจะไปลำพังว่าจะไปไม่ไปดี กล้าๆ กลัวๆ สะตรงนี้ว่าไปเหอะ ทำไมต้องไปน่ะเรอะ ลองตามไปดูน่ะ
มาเริ่มกันเลย ปกติเป็นคนเที่ยวบ่อย ก็ไปตามที่ชาวบ้านชาวช่องเค้าไปกัน ข้อมูลก็มาหาในพันทิปนี้แหล่ะ แต่สำหรับเนปาลโดยส่วยตัวไม่มีความรู้สำหรับประเทศนี้เลย มันดูห่างไกล ไกลตัวเหลือเกิน จนมีน้องมาชวนเทรคก็เลยเข้ามารีวิวหาข้อมูล ดูแล้วชอบเลย ปักหมุดยังใงก็ต้องไปล่ะประเทศนี้ รีวิวไปมโนไปชั้นจะไปหายอดยาหยีหิมาลัย ผ่านไปไม่กี่วันน้องตัวดีเกิดทรยศหักหลัง แผนพัง เหลือตัวคนเดียว ยังไงล่ะ ก็ไปมาหลายที่ก็คนเดียวมันจะอะไรหนักหนาก็ไปมันคนเดียวเหมือนเดิมนี่แหล่ะ แต่ลึกๆก็แอบเสียวเหมือนกัน มโนภาพมีแต่ข่าวร้ายจากอินเดียแม้จะคนล่ะประเทศแต่มันก็ใกล้กันอ่ะน่ะ จะโหดแบบนั้นมั้ย ก็ยังคงกล้าๆกลัวๆ วันหยุดก็พร้อมล่ะ ล็อคไว้ 7 วัน ตั๋วโปรจาก TG ราคาก็แสนจะงาม 13,250 THB แอร์เอเชีย ตั้ง 20,000 กว่า ดูท่าว่าอะไรต่อมิอะไรจะเป็นใจเหลือเกิน มันคงเป็นพรหมลิขิตสิน่ะ อ่ะไปก็ไป เป็นการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานความพร้อมมาก 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง หาข้อมูลรัวๆ เจอข้อมูลของคุณแม่คุณลูกคู่หนึ่งน่าสนใจได้ email มา Mr.Dan :dantamang177@gmail.com ลองไปขอข้อมูล และได้ราคานี้มา USD 395 รายละเอียดตามนี้
Day 1, 25th March 15 . Arrive International airports Kathmandu.transfer to hotel and city tour to Moneky temple and Durbar squire city sightseeing tour. If you need Sight seeing same day. Then check to trekking gear.
Day 2, 26 March 15 . Morning flight to Pokhara and drive to Nayapul by private car then trek to hille/ Ulleri (over night at htl.
Day 3, 27 March 15 . Hille/ Ulleri to Ghorepani/ (2856m Over night at Ghorepani.
Day 4, 28 March 15 Early in the morning explore Poonhill Treks to Ghandruk Village(over night at Ghandruk)
Day 5, 29 March 15 . Ghandruk to Nayapool/Drive to Pokhara/ (over night at Pokhara.)
Day 6, 30 March 15 Micro Bus to Katmandhu (7 hrs) morning bus dep at 08:00 hrs.
Day 7 31 March 15 Pick up fr hotel to airport
ราคานี้รวม
1. Hotel in Kathmandu and pokhara, with B/B basic. Sightseeing at monkey temple and dhabar square if enough time.
2. Airport pickup and drop off,
3. One English Speaking Porter/Guide.
4. Annapurna Conservation fee, TIMS card, Porter Guide insurance incld his food and salary.
5. Flight ticket from Kathmandu to pokhara..
6. Drive by Pokhara to Na ya pull pokhara both way by private transportation.
7. Pokhara to Marco bus to Kathmandhu (drive both way Nayapull starting point/ ending point private vehicle)
ตอนท้ายเราจะมาชำแหล่ะราคากันน่ะ
รายละเอียดเยอะไปเดี๋ยวน่าเบื่อ เบรกสาระมาชักภาพรัวๆ กับกล้องโปรโคตรเทพ 4S เสื่อมๆกันดีกว่า ถ่ายไปชาร์ทไปแบบผ่านมาหลายสมรภูมิ
มองจากมุมสูงบนเครื่อง ตื่นเต้นจุง จะเจอของจริงล่ะ คิดในใจเดี๋ยวรู้ ว่าตรูจะรอดมั้ย ทริปนี้ เครื่องลง ทักทายด้วยสนามบินไซด์มินิ จงจินตนาการสนามบิน ตจว เล็กๆแต่มีสไตล์ พอดีไม่มีรูปสนามบินสวยๆเลยไม่มีภาพประกอบ หากู๋เอาน่า ออกจากสนามบิน มีคนมารับพร้อมชูป้ายชื่ออยู่ด้านนอกตัวอาคาร ขึ้นรถไปโรงแรม คืนแรก ร ร รวมในแพคเกจ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ถึงปุ้บเช็คอิน เก็บของ ไปจ่ายค่าแพคเกจทัวร์ ไปแลกเงิน ต่อด้วยซื่งมอเตอไซด์ไปแว้นในกาฐมาณฑุ เก๋ๆ การจราจรที่นี่ ไม่เบาเลยทีเดียว
ที่แรกที่ไปแว้นกับลูกชาย Mr. Dan เป็น Signature ที่ต้องไปของกาฐมาณฑุ Monky Temple
โฉมหน้าแวนบอย เพ่ซื่งได้หัวใจจะวายมาก ภาษาอังกฤษดีเลย ถามโน่นถามนี่ถามๆๆ นางคงเพลียกะคนช่างถาม ว่าแล้วก็ไปต่อ ป้ายหน้า Durbar squire
เสร็จสรรพกลับที่พัก Mr.Dan พาไปเลี้ยงข้าวเย็น พูดคุยกรุบกริบ แยกย้ายสลายวง แล้วก็ไปตั้งวงต่อคนเดียวเบาๆ ที่ล็อบบี้ กับ Mojito เพื่อนคนสนิท แก้วเดียวขำๆ พร้อมเสียงเกากีต้าเคล้าอารมณ์ ประกอบการดื่มจากหนุ่มญี่ปุ่นโต๊ะข้างๆ ก่อนนอนกับอากาศที่เย็นสบาย ฟินน่ะ ดื่มแล้วก็ไปนอนสะ ปล ร ร นี่เหมาะกะวางของและนอนพอน่ะ มีไวไฟพอจะอัพเดทสถานะการณ์การเดินทางได้
ตื่นเช้า อาหารเช้า ออมเลท ปังปิ้ง รวมในแพคเกจ สั่งกาแฟมากระชากวิญญาณสะหน่อย อันนี้จ่ายเอง สนน 150 รุปี ประมาณ 50 บ. ตื่นล่ะก็นั่งรถไปสนามบิน นั่งบินเล็กไปโพคารา สารการบินมีหลายสายให้เลือกตามภาพ
สภาพภายใน ค่อนข้างแออัด แบบเล็กกะทัดรัด ปล ถ้าอากาศแย่ ทัศนะวิสัยไม่ดี ไฟล์ทที่นี่ยกเลิก หรือ ดีเลย์ บ่อยเอาการอยู่น่ะ อาจจะขึ้นกับช่วงที่มาด้วยหรือที่ดวงหึหึ วันที่ไปดีเลย์นิดหน่อยประมาณ 30 นาที
บินเล็ก เล็กจริงๆ นั่งไปประมาณ 30 นาที เร็วเฟ่อร์
นั่งรถต่อไปที่ Nayapul อีกประมาณ 1 ชม กว่าๆ ถึงแล้วก็เริ่มกันเลย เดินสิค่า ไปค่า
นำหน้าด้วยผู้ชายคนนี เป็นทั้งไกด์และPorter ตลอดทริปนี้ เมื่อวานนางแวะมาแนะนำตัวที่ ร ร ล่ะ ดูเงียบๆเชียบๆ เป็นคนขี้อาย ดูไร้ซึ่งพิษสง แตกต่างกับคนที่นางไปด้วยมากมาย 3-4 วันที่เหลือเรามาให้คะแนนกัน นางจะได้ 10 กะโหลกจากแม่นางติติงรึเปล่า
ได้แต่มองเธอข้างหลัง ได้แต่เดินตามเธอข้างหลัง 555 เดิน เดิน และเดิน พี่ไกด์ของเรานางเริ่มพูดล่ะ พูดไปเรื่อย คุยเรื่องนั้นไปเรื่องนี้ ภาษาอังกฤษดีงามสามตลบมากคุยไปขำไปเม้าท์ไป แวะชักภาพเป็นระยะๆ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าใครเคยไปซาปา เวียดนามมาตอนเทรคต้นๆเนี่ยคล้ายกันเลย สวยงามกรุบกริบเบาๆ พักเที่ยงกินข้าว กราดตามองเมนูไม่มีอะไรเหมาะสมเท่า ข้าวไข่เจียวพร้อมกับงัดน้ำพริกมา เหลือบตาไปเห็น Dharbhat ของคุณไกด์ เอิ่มลืมบอก นางชื่อ Pemba ก็ปฏิบัติการ หน้าซื่อ ตาใส ขอชิมกันเลยทันที รสชาติใช้ได้ เด่วรอสั่งมั้งมื้อถัดไป เดินไปเรื่อยๆ ฝนตกจ้า แนะนำหยิบเสื้อกันฝน 7 11 ติดมือมาก็ดีน่ะค่ะ โชคดีได้จากชาวบ้านแถวนั้นมาคลุมร่างได้อย่างทุลักทุเล
อัมเพลงเบาๆ เดินท่ามกลางลมฝน รถชนตายห่า เห้ย เนื้อเพลงไม่ใช่อย่างงี้นี้หว่า ร้องเพลงบ้างเม้าท์บ้าง แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคุณ Pemba พูดถึง Ong-bak พร้อม Pronounce แบบ Nepali Style องแบ็ค ดูปาก Pemba น่าค่า องแบ๊ค ต่อด้วย TonyJaa 555 รู้ล่ะ องบาก ไม่รู้เป็นไงแต่ล่ะชาติที่เคยเสวนาด้วยโดยเฉพาะ เกาหลี ญี่ปุ่น อินโด และนี่ เนปาล ออกเสียงหนังเรื่องนี้แบบเดียวกันหมดเลย องแบค จนคิดไปว่านี่ตรูออกเสียงผิดชร้ะ พี่จาของเรานางมาไกลจริงๆ เป็นที่คลั่งใคล้ของใครหลายๆคน
วันแรกจบลงด้วยการถึงที่พักประมาณห้าโมงเย็น สภาพหมาตกน้ำต้องรีบอาบน้ำ ที่นี่ระหว่างเทรค ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำใช้รวมน่ะค่ะ เตรียมถุง All in one อุปกรณ์การอาบมาให้พร้อม น้ำอุ่นมี จัดการเสร็จมองหาไวไฟอัพเดทสถานการณ์ชีวิตให้ที่บ้านทราบ ค่าไวไฟจ่ายเพิมน่ะ 100-200 Rupee แล้วแต่ที่ อีกอย่างที่นี่ไฟดับบ่อย ที่ชาร์ท Power Bank ต้องเตรียมมาให้พร้อม พร้อมเสียบหากมีไฟ มาแล้วก็ประเดิมไฟดับกันเลยจากทุ่มถึงตีสี่กว่า นอนไป ยาวไป หลับๆตื่นๆ เช้ามาทานอาหารเช้าเค้าจะรับออเดอร์ไว้ตั้งแต่กลางคืน สนนราคามือค่ำเมื่อคืน ค่า ร ร บวกอาหารเช้าใช้ไป 1200 Rupee อันนี้ต้องจ่ายเอง ค่า ร ร อย่างเดียวถ้าจำไม่ผิด 300 Rupee
ยกที่สองเริ่มได้ วันนี้คาดว่าต้องเดิน 7-8 ชม Pemba นางว่าอย่างนั้น โชคดีเมื่อวานฝนตกอากาศก็เลยเย็นสบาย วันนี้ ทั้งวันไต่ระดับตลอดเลย ปีนขึ้น ขึ้น ขึ้น ยาวไปลวกเพ่ แนะนำพกเสบียงติดเป้ไปด้วยน่ะ
เดินมาทั้งวัน ขาสั้นๆสั่นระรัวๆ แล้วเราก็เจอสิ่งนี้ กรี๊ดดด กรีดร้องอยู่ในใจ ดูอะไรตรงหน้านั่นสิ นั้นมันแนวเทือกเขาหิมาลัยนี่ ขุ่นพระ โอวพระเจ้า โอว์จอช์จ มือทาบอก อิชั้นเห็นมันแล้ว มันช่างงามเหลือเกินอ่ะ ชักภาพรัวๆ และนี่คือวิวที่พักคืนนี้ เลอค่าในราคา 300 Rupee อีกแล้วครับท่าน สวยงามตามเทือกเขา ชมวิวกันไป อากาศเย็น จัดมายิ่งเย็นยิ่งดีพี่ชอบ อุณหภูมิน่าจะสิบนิดๆ สำหรับคนที่ขี้หนาวเตรียมเสือผ้าหนาๆอุ่นๆมาด้วยน่ะ
พรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่กว่าเพื่อปีนขึ้นยอด Poon Hill นี่คือ ปย บอกเล่าของคุณไกด์ Yes Sir รับคำบัญชา แต่ว่านอนไม่หลับ ชา กาแฟ ช้อคโกแลตที่กระชากวิญญาณไปทั้งวันดีดอยู่เนืองๆ จนนอนไม่หลับ งานเข้าล่ะสิ ตื่นมาเป็นซอมบี้เดินแบบ Walker กันเลยทีเดียว ออกปีนตอนตีห้า แนะนำติดไฟฉายเล็กๆมาด้วย ทางปีนชันมาก ชันสถานเดียว น้ำก็ลืมพกมา ไอ้คุณ Pemba ก็ปีนเร็วมาก นึกในใจคุณจะไปตามควายที่หายไปเหรอว่ะค่ะ เคืองว้อยย เพ่เพลีย เพ่หอบบบบบหนักมาก ใจจะขาด หัวใจเต็นรัวๆ ณ ความสุงสามพันกว่าๆเหนือน้ำทะเล ใจจะขาดแล้วว้อยยย ใจจะขาดแล้วเอย ชะนีไทยจะมาพลาดท่าเสียทีตรงนี้ท่าจะไม่ดีนัก ปีนมันขึ้นไป ไอ้คุณ Pemba ก็มาลากถูแถไถกันไป และแล้ว 45 นาทีชีวิต ก็ถึงสะที
[CR] Poonhill ลุยเดี่ยว เปรี้ยวได้ สบายใจ ไปกันเเถอะสาวๆ
ที่มารีวิวครั้งนี้ แบบว่าอยากบอกสาวๆที่กำลังติดสินใจจะไปลำพังว่าจะไปไม่ไปดี กล้าๆ กลัวๆ สะตรงนี้ว่าไปเหอะ ทำไมต้องไปน่ะเรอะ ลองตามไปดูน่ะ
มาเริ่มกันเลย ปกติเป็นคนเที่ยวบ่อย ก็ไปตามที่ชาวบ้านชาวช่องเค้าไปกัน ข้อมูลก็มาหาในพันทิปนี้แหล่ะ แต่สำหรับเนปาลโดยส่วยตัวไม่มีความรู้สำหรับประเทศนี้เลย มันดูห่างไกล ไกลตัวเหลือเกิน จนมีน้องมาชวนเทรคก็เลยเข้ามารีวิวหาข้อมูล ดูแล้วชอบเลย ปักหมุดยังใงก็ต้องไปล่ะประเทศนี้ รีวิวไปมโนไปชั้นจะไปหายอดยาหยีหิมาลัย ผ่านไปไม่กี่วันน้องตัวดีเกิดทรยศหักหลัง แผนพัง เหลือตัวคนเดียว ยังไงล่ะ ก็ไปมาหลายที่ก็คนเดียวมันจะอะไรหนักหนาก็ไปมันคนเดียวเหมือนเดิมนี่แหล่ะ แต่ลึกๆก็แอบเสียวเหมือนกัน มโนภาพมีแต่ข่าวร้ายจากอินเดียแม้จะคนล่ะประเทศแต่มันก็ใกล้กันอ่ะน่ะ จะโหดแบบนั้นมั้ย ก็ยังคงกล้าๆกลัวๆ วันหยุดก็พร้อมล่ะ ล็อคไว้ 7 วัน ตั๋วโปรจาก TG ราคาก็แสนจะงาม 13,250 THB แอร์เอเชีย ตั้ง 20,000 กว่า ดูท่าว่าอะไรต่อมิอะไรจะเป็นใจเหลือเกิน มันคงเป็นพรหมลิขิตสิน่ะ อ่ะไปก็ไป เป็นการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานความพร้อมมาก 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง หาข้อมูลรัวๆ เจอข้อมูลของคุณแม่คุณลูกคู่หนึ่งน่าสนใจได้ email มา Mr.Dan :dantamang177@gmail.com ลองไปขอข้อมูล และได้ราคานี้มา USD 395 รายละเอียดตามนี้
Day 1, 25th March 15 . Arrive International airports Kathmandu.transfer to hotel and city tour to Moneky temple and Durbar squire city sightseeing tour. If you need Sight seeing same day. Then check to trekking gear.
Day 2, 26 March 15 . Morning flight to Pokhara and drive to Nayapul by private car then trek to hille/ Ulleri (over night at htl.
Day 3, 27 March 15 . Hille/ Ulleri to Ghorepani/ (2856m Over night at Ghorepani.
Day 4, 28 March 15 Early in the morning explore Poonhill Treks to Ghandruk Village(over night at Ghandruk)
Day 5, 29 March 15 . Ghandruk to Nayapool/Drive to Pokhara/ (over night at Pokhara.)
Day 6, 30 March 15 Micro Bus to Katmandhu (7 hrs) morning bus dep at 08:00 hrs.
Day 7 31 March 15 Pick up fr hotel to airport
ราคานี้รวม
1. Hotel in Kathmandu and pokhara, with B/B basic. Sightseeing at monkey temple and dhabar square if enough time.
2. Airport pickup and drop off,
3. One English Speaking Porter/Guide.
4. Annapurna Conservation fee, TIMS card, Porter Guide insurance incld his food and salary.
5. Flight ticket from Kathmandu to pokhara..
6. Drive by Pokhara to Na ya pull pokhara both way by private transportation.
7. Pokhara to Marco bus to Kathmandhu (drive both way Nayapull starting point/ ending point private vehicle)
ตอนท้ายเราจะมาชำแหล่ะราคากันน่ะ
รายละเอียดเยอะไปเดี๋ยวน่าเบื่อ เบรกสาระมาชักภาพรัวๆ กับกล้องโปรโคตรเทพ 4S เสื่อมๆกันดีกว่า ถ่ายไปชาร์ทไปแบบผ่านมาหลายสมรภูมิ
มองจากมุมสูงบนเครื่อง ตื่นเต้นจุง จะเจอของจริงล่ะ คิดในใจเดี๋ยวรู้ ว่าตรูจะรอดมั้ย ทริปนี้ เครื่องลง ทักทายด้วยสนามบินไซด์มินิ จงจินตนาการสนามบิน ตจว เล็กๆแต่มีสไตล์ พอดีไม่มีรูปสนามบินสวยๆเลยไม่มีภาพประกอบ หากู๋เอาน่า ออกจากสนามบิน มีคนมารับพร้อมชูป้ายชื่ออยู่ด้านนอกตัวอาคาร ขึ้นรถไปโรงแรม คืนแรก ร ร รวมในแพคเกจ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ถึงปุ้บเช็คอิน เก็บของ ไปจ่ายค่าแพคเกจทัวร์ ไปแลกเงิน ต่อด้วยซื่งมอเตอไซด์ไปแว้นในกาฐมาณฑุ เก๋ๆ การจราจรที่นี่ ไม่เบาเลยทีเดียว
ที่แรกที่ไปแว้นกับลูกชาย Mr. Dan เป็น Signature ที่ต้องไปของกาฐมาณฑุ Monky Temple
โฉมหน้าแวนบอย เพ่ซื่งได้หัวใจจะวายมาก ภาษาอังกฤษดีเลย ถามโน่นถามนี่ถามๆๆ นางคงเพลียกะคนช่างถาม ว่าแล้วก็ไปต่อ ป้ายหน้า Durbar squire
เสร็จสรรพกลับที่พัก Mr.Dan พาไปเลี้ยงข้าวเย็น พูดคุยกรุบกริบ แยกย้ายสลายวง แล้วก็ไปตั้งวงต่อคนเดียวเบาๆ ที่ล็อบบี้ กับ Mojito เพื่อนคนสนิท แก้วเดียวขำๆ พร้อมเสียงเกากีต้าเคล้าอารมณ์ ประกอบการดื่มจากหนุ่มญี่ปุ่นโต๊ะข้างๆ ก่อนนอนกับอากาศที่เย็นสบาย ฟินน่ะ ดื่มแล้วก็ไปนอนสะ ปล ร ร นี่เหมาะกะวางของและนอนพอน่ะ มีไวไฟพอจะอัพเดทสถานะการณ์การเดินทางได้
ตื่นเช้า อาหารเช้า ออมเลท ปังปิ้ง รวมในแพคเกจ สั่งกาแฟมากระชากวิญญาณสะหน่อย อันนี้จ่ายเอง สนน 150 รุปี ประมาณ 50 บ. ตื่นล่ะก็นั่งรถไปสนามบิน นั่งบินเล็กไปโพคารา สารการบินมีหลายสายให้เลือกตามภาพ
สภาพภายใน ค่อนข้างแออัด แบบเล็กกะทัดรัด ปล ถ้าอากาศแย่ ทัศนะวิสัยไม่ดี ไฟล์ทที่นี่ยกเลิก หรือ ดีเลย์ บ่อยเอาการอยู่น่ะ อาจจะขึ้นกับช่วงที่มาด้วยหรือที่ดวงหึหึ วันที่ไปดีเลย์นิดหน่อยประมาณ 30 นาที
บินเล็ก เล็กจริงๆ นั่งไปประมาณ 30 นาที เร็วเฟ่อร์
นั่งรถต่อไปที่ Nayapul อีกประมาณ 1 ชม กว่าๆ ถึงแล้วก็เริ่มกันเลย เดินสิค่า ไปค่า
นำหน้าด้วยผู้ชายคนนี เป็นทั้งไกด์และPorter ตลอดทริปนี้ เมื่อวานนางแวะมาแนะนำตัวที่ ร ร ล่ะ ดูเงียบๆเชียบๆ เป็นคนขี้อาย ดูไร้ซึ่งพิษสง แตกต่างกับคนที่นางไปด้วยมากมาย 3-4 วันที่เหลือเรามาให้คะแนนกัน นางจะได้ 10 กะโหลกจากแม่นางติติงรึเปล่า
ได้แต่มองเธอข้างหลัง ได้แต่เดินตามเธอข้างหลัง 555 เดิน เดิน และเดิน พี่ไกด์ของเรานางเริ่มพูดล่ะ พูดไปเรื่อย คุยเรื่องนั้นไปเรื่องนี้ ภาษาอังกฤษดีงามสามตลบมากคุยไปขำไปเม้าท์ไป แวะชักภาพเป็นระยะๆ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ถ้าใครเคยไปซาปา เวียดนามมาตอนเทรคต้นๆเนี่ยคล้ายกันเลย สวยงามกรุบกริบเบาๆ พักเที่ยงกินข้าว กราดตามองเมนูไม่มีอะไรเหมาะสมเท่า ข้าวไข่เจียวพร้อมกับงัดน้ำพริกมา เหลือบตาไปเห็น Dharbhat ของคุณไกด์ เอิ่มลืมบอก นางชื่อ Pemba ก็ปฏิบัติการ หน้าซื่อ ตาใส ขอชิมกันเลยทันที รสชาติใช้ได้ เด่วรอสั่งมั้งมื้อถัดไป เดินไปเรื่อยๆ ฝนตกจ้า แนะนำหยิบเสื้อกันฝน 7 11 ติดมือมาก็ดีน่ะค่ะ โชคดีได้จากชาวบ้านแถวนั้นมาคลุมร่างได้อย่างทุลักทุเล
อัมเพลงเบาๆ เดินท่ามกลางลมฝน รถชนตายห่า เห้ย เนื้อเพลงไม่ใช่อย่างงี้นี้หว่า ร้องเพลงบ้างเม้าท์บ้าง แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคุณ Pemba พูดถึง Ong-bak พร้อม Pronounce แบบ Nepali Style องแบ็ค ดูปาก Pemba น่าค่า องแบ๊ค ต่อด้วย TonyJaa 555 รู้ล่ะ องบาก ไม่รู้เป็นไงแต่ล่ะชาติที่เคยเสวนาด้วยโดยเฉพาะ เกาหลี ญี่ปุ่น อินโด และนี่ เนปาล ออกเสียงหนังเรื่องนี้แบบเดียวกันหมดเลย องแบค จนคิดไปว่านี่ตรูออกเสียงผิดชร้ะ พี่จาของเรานางมาไกลจริงๆ เป็นที่คลั่งใคล้ของใครหลายๆคน
วันแรกจบลงด้วยการถึงที่พักประมาณห้าโมงเย็น สภาพหมาตกน้ำต้องรีบอาบน้ำ ที่นี่ระหว่างเทรค ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำใช้รวมน่ะค่ะ เตรียมถุง All in one อุปกรณ์การอาบมาให้พร้อม น้ำอุ่นมี จัดการเสร็จมองหาไวไฟอัพเดทสถานการณ์ชีวิตให้ที่บ้านทราบ ค่าไวไฟจ่ายเพิมน่ะ 100-200 Rupee แล้วแต่ที่ อีกอย่างที่นี่ไฟดับบ่อย ที่ชาร์ท Power Bank ต้องเตรียมมาให้พร้อม พร้อมเสียบหากมีไฟ มาแล้วก็ประเดิมไฟดับกันเลยจากทุ่มถึงตีสี่กว่า นอนไป ยาวไป หลับๆตื่นๆ เช้ามาทานอาหารเช้าเค้าจะรับออเดอร์ไว้ตั้งแต่กลางคืน สนนราคามือค่ำเมื่อคืน ค่า ร ร บวกอาหารเช้าใช้ไป 1200 Rupee อันนี้ต้องจ่ายเอง ค่า ร ร อย่างเดียวถ้าจำไม่ผิด 300 Rupee
ยกที่สองเริ่มได้ วันนี้คาดว่าต้องเดิน 7-8 ชม Pemba นางว่าอย่างนั้น โชคดีเมื่อวานฝนตกอากาศก็เลยเย็นสบาย วันนี้ ทั้งวันไต่ระดับตลอดเลย ปีนขึ้น ขึ้น ขึ้น ยาวไปลวกเพ่ แนะนำพกเสบียงติดเป้ไปด้วยน่ะ
เดินมาทั้งวัน ขาสั้นๆสั่นระรัวๆ แล้วเราก็เจอสิ่งนี้ กรี๊ดดด กรีดร้องอยู่ในใจ ดูอะไรตรงหน้านั่นสิ นั้นมันแนวเทือกเขาหิมาลัยนี่ ขุ่นพระ โอวพระเจ้า โอว์จอช์จ มือทาบอก อิชั้นเห็นมันแล้ว มันช่างงามเหลือเกินอ่ะ ชักภาพรัวๆ และนี่คือวิวที่พักคืนนี้ เลอค่าในราคา 300 Rupee อีกแล้วครับท่าน สวยงามตามเทือกเขา ชมวิวกันไป อากาศเย็น จัดมายิ่งเย็นยิ่งดีพี่ชอบ อุณหภูมิน่าจะสิบนิดๆ สำหรับคนที่ขี้หนาวเตรียมเสือผ้าหนาๆอุ่นๆมาด้วยน่ะ
พรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่กว่าเพื่อปีนขึ้นยอด Poon Hill นี่คือ ปย บอกเล่าของคุณไกด์ Yes Sir รับคำบัญชา แต่ว่านอนไม่หลับ ชา กาแฟ ช้อคโกแลตที่กระชากวิญญาณไปทั้งวันดีดอยู่เนืองๆ จนนอนไม่หลับ งานเข้าล่ะสิ ตื่นมาเป็นซอมบี้เดินแบบ Walker กันเลยทีเดียว ออกปีนตอนตีห้า แนะนำติดไฟฉายเล็กๆมาด้วย ทางปีนชันมาก ชันสถานเดียว น้ำก็ลืมพกมา ไอ้คุณ Pemba ก็ปีนเร็วมาก นึกในใจคุณจะไปตามควายที่หายไปเหรอว่ะค่ะ เคืองว้อยย เพ่เพลีย เพ่หอบบบบบหนักมาก ใจจะขาด หัวใจเต็นรัวๆ ณ ความสุงสามพันกว่าๆเหนือน้ำทะเล ใจจะขาดแล้วว้อยยย ใจจะขาดแล้วเอย ชะนีไทยจะมาพลาดท่าเสียทีตรงนี้ท่าจะไม่ดีนัก ปีนมันขึ้นไป ไอ้คุณ Pemba ก็มาลากถูแถไถกันไป และแล้ว 45 นาทีชีวิต ก็ถึงสะที