-- ตามธรรมเนียม (ของผมเอง) ครับ ที่สงกรานต์ต้องลงใต้ ส่วนปีใหม่ต้องขึ้นเหนือ กับ วันหยุดที่มีแค่ 4 วัน (12 – 15) ทีแรกว่าจะไป เกาะตาชัย แต่ก็นะ ถ้าจะไปเกาะ ก็ต้องนอนเขาหลัก 2 คืนแน่ะ ซึ่งเบื่อเขาหลักแล้วล่ะ ไปติดๆกันมา 3 ปีละ จะให้ลงไปนครศรีธรรมราช ก็ไกลไปหน่อย
แล้วจะไปไหนดีล่ะ ?
ขับรถไม่ไกล (ไม่เกิน 1,000 กม.)
ค่าใช้จ่ายไม่แพง
เงียบสงบ
คิดไป คิดมา หวยเลยมาออกที่ “เกาะพยาม จังหวัดระนอง” ครับ
รู้จักชื่อเกาะนี้ เมื่อสัก 5 – 6 ปีก่อน จากรีวิวอันโด่งดังของห้อง Blue นี่แหละ แล้วก็อยากจะไป แต่ไม่มีโอกาสสักทีครับ คราวนี้ เวลาได้ โอกาสมี จะรออะไรล่ะ ? ก็ลุยเลยสิ !!!
ใครว่ารถสีขาวเงายาก ต้องคอยหามุมกล้อง … รูปนี้ ยกถ่ายเฉยๆ ไม่ได้หามุมเลย ฝ่าฝนมาแล้วด้วย
12 เมษายน 2558
-- คราวนี้เริ่มเดินทางจาก กทม. กว่าจะออกกันจริงๆก็เกือบเที่ยงคืนครับ ออกมาพร้อมกับฝนพรำๆ ก็ หนักบ้าง เบาบ้าง เลยทำให้ใช้ความเร็วได้ไม่สูงนัก ประมาณ 90 – 100 กม./ช.ม. บนเลนกลางครับ เนื่องจาก เลนขวาน้ำขังเป็นช่วงๆ เจ้ายางที่ใส่อยู่ (Toyo T1 Sport SUV) เจอแอ่งน้ำหนักๆมันจะเหินเอาน่ะครับ
-- และจากการที่ออกหลังชาวบ้าน การจราจรก็เลยโล่งสบายครับ รถไม่ติดเลย … มาเริ่มออกอาการง่วงแถวๆประจวบคีรีขันธ์ครับ ก็เลยหาปั๊มจอดนอนสักหน่อย หลับไป 1 ช.ม.พอดี ก็ลุยต่อครับ ถึงชุมพรประมาณ 6.30น. อยากกินติ่มซำ เลยตั้ง GPS พาไป โรงแรมจันทร์สมชุมพร แล้วก็ได้ทานสมใจอยาก
-- สภาพถนนตั้งแต่ปราณบุรีมา ก็ สมคำร่ำรือ ครับ ปุปะตลอด วันนั้นที่วิ่ง รถในฝั่งเดียวกัน ร้อยละ 80 เปิดไฟสูงกันหมด จะรถใหญ่ รถเล็ก เปิดกันพรึ่บเลย อาศัยมีเจ้ากระจกตัดแสงอัตโนมัติ ก็เลยไม่อะไรกับพวกนั้นสักเท่าไหร่ครับ จะมารำคาญก็พวกช้าแช่ขวาครับ คลานอยู่ 60 – 70 กม./ช.ม. ไม่มีลงซ้ายให้ ไม่ไหวจริงๆพวกนี้
-- จัดไป 6 เข่ง กับ กาแฟแก้วนึง เบ็ดเสร็จแถวๆ 200 บาทครับ อิ่มดี … โชคดีที่มาเร็ว เพราะพอกินเสร็จ คนก็รอคิว รอโต๊ะกันยาวเลยล่ะ
จากนั้นก็ไปต่อครับ … แวะไปหาดทรายรี สักการะกรมหลวงชุมพร ครับ
แวะชมวิวสวยๆ ของหาดทรายรี สักหน่อย (แต่ตอนนั้น ตาจะปิดละ ไม่มีอารมณ์จะชมวิวสักเท่าไหร่)
-- ว่าแล้วก็หาที่นอนดีกว่า ดูเวลา แค่ 8 โมงกว่าเอง … มองซ้าย มองขวา หาปั๊มเล็กๆแล้วนอนดีกว่า จัดการลดกระจกลงมาหน่อย ไม่ให้พ้นกันสาด เปิดสัญญาณกันขโมย จากนั้น ปรับเบาะลงสุด แล้วก็นอนครับ
-- ตื่นขึ้นมา 9 โมงพอดี ล้างหน้า ล้างตา แล้วลุยต่อเลย (รอบนี้ นอนหลายรอบหน่อย เพราะช่วงเย็นก่อนเดินทางไม่ได้นอนครับ) วนกลับเข้า ถนนเพชรเกษม อีกรอบ มุ่งหน้า จังหวัดระนอง ครับ ถนนมีการทำเป็นช่วงช่วง สลับกับทางเบี่ยง แต่สภาพผิวถนนค่อนข้างดี ขับได้สบาย เพียงแต่ โค้งจะเยอะหน่อย ถ้าใครเที่ยวเหนือ ขึ้นแม่ฮ่องสอนบ่อยๆ จะบอกว่า โค้งพวกนี้เด็กๆครับ
-- ช่วงเลยบ้านทับหลีมาสักหน่อย ถนนกำลังก่อสร้าง มีช่วงนึง เป็นทางต่างระดับ ไม่มีป้ายบอกครับ พอดีตามกระบะ Navara มาห่างๆ เห็นกระบะเบรคแล้วตกลงไปอย่างแรง ก็เลยมองกระจกหลัง เห็นไม่มีรถ ก็เลยกระทืบเบรคเต็มแรง แล้วค่อยๆหยอดลงไปครับ … ทันใดนั้น ก็มี Jazz ตามหลังมา ไม่มีเบรคครับ รูดซ้ายแซงผมไป อืมมม … ค่าซ่อมช่วงล่าง CR-V มันแพงแฮะ ขับแบบนั้นไม่ไหว
-- เลย น้ำตกปุญญปาล ไปหน่อย จะเป็นแยก มีอุโมงค์ ผมไม่ลงอุโมงค์นะครับ ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวขวา ตามป้ายไปท่าเรือครับ แวะไปหาอะไรกิน กับ ถ่ายรูปประภาคารสักหน่อย
-- จริงๆตรงนี้ก็เป็น ท่าเรือสำหรับการข้ามไปเกาะสอง ประเทศพม่า แหละ จะให้สวยต้องมาถ่ายรูปตอนเย็น แสงกำลังสวยเลย พอดีดันไปตอนเที่ยง เมฆเยอะ ฟ้าครึ้ม (แต่ร้อนมาก) เลยถ่ายรูปได้ไม่สวยเท่าไหร่
-- ถ่ายรูปเรียบร้อย ขับรถย้อนกลับทางเดิมไปสัก 1 – 2 กม. แวะหามื้อเที่ยงทานครับ แถวนั้น มีหลายร้านเลย ผมเลือกร้านเดิมที่เคยมาทานเมื่อ 8 ปีก่อนแหละ รายการที่สั่ง
1. หอยนางรมสด 2 ตัว (ถามแล้วนะว่า ตัวใหญ่ไหม ? เค้าบอกว่า ไม่ใหญ่ … คือ นึกว่า เหมือนที่เคยมากิน ตัวละ 30 บาท)
2. ผักเหลียงผัดไข่
3.ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ
นั่งเล่นซักพัก พนง. ยกหอยมาก่อน เฮ้ยยยย …
-- โคตรบิดา โคตรมารดา หอยเหรอนั่น … ตัวขนาดนี้ เล่นซะสองเลยตรู หุหุ (พนง. เห็นผมตกใจ ยืนขำอยู่ 55) ใหญ่แค่ไหน ลองเทียบกับช้อนนะครับ … ใหญ่กว่า มือถือ จอ 6.4 นิ้ว ผมอีกอ่ะ
-- ทำเอาจุก กินผักเหลียงไม่หมดเลย … เสียดาย มื้อนี้ หมดไปราวๆ 500 บาท หอยตัวละ 90 บาทครับ กินเสร็จฝนตกลงมาพอดีครับ จะไปท่าเรือที่ข้ามไปเกาะพยาม เพื่อ survey ที่จอดรถ กับ หาตั๋วเรือไว้ก่อน
ถามคนพื้นที่ … เค้าบอกว่า ให้ตั้ง GPS ไปถนนเฉลิมพระเกียรติ … วางสายเสร็จ ตั้งปุ๊บ GPS บอกว่า “ไม่รู้จัก” อืมมม Sygic เล่นตรูอีกแล้ว !!!
-- หันซ้าย หันขวา ถามเจ้าของร้านอาหารดีกว่า … เค้าบอกว่า ให้ตรงไปทางประภาคาร ตามป้ายไประนอง เลย สุสานเจ้าเมืองระนอง ไปหน่อย มีป้ายไป สะพานปลา ให้เลี้ยวขวาตามนั้นไป … OK ครับ
-- ขับไป เลยสถานีตำรวจ ที่อยู่ซ้ายมือ ไปสักหน่อย จะมีซอย เขียนป้ายว่า ท่าเรือไปเกาะพยาม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยครับ … เข้าซอยไป จะเต็มไปด้วยที่ฝากรถครับ รถเยอะมากๆ แน่นทุกเจ้า … ว่าแล้ว เห็นป้ายท่าเรือ เลยเลี้ยวเข้าไปซื้อตั๋วไว้ก่อน ได้รอบ 9.30 น. มาครับ (เที่ยวแรก 7.30น.)
-- เรือที่จะข้ามไปเกาะพยาม มีหลายบริษัท หลายเจ้ามากครับ เลือกได้ตามสะดวก ส่วนถ้าใครพักหรู The Blue Sky Resort เค้าก็จะมีเรือของเค้าเองแหละ
-- วนรถออกมาจากซอย แล้วเลี้ยวขวา วิ่งย้อนกลับ กะว่า จะไปเริ่มที่ สุสานเจ้าเมืองระนอง เพราะพอจะคุ้นตาอยู่บ้าง ขับไปได้หน่อย เจอแยก เขียนว่า ขวาไปบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน … โอเคครับ เลี้ยวตามนั้น แล้วก็มุดไปมุดมา มาออกตรง CAT พอดี … อ้าว น้ำใสเขาสวยรีสอร์ท ที่เราจะพัก อยู่ข้างหน้านี่หว่า 55+ มาแบบงงๆ
-- ค่าห้อง จองผ่าน agoda คืนละพันปลายๆครับ ข้อดีของที่นี่คือ อยู่ใจกลางเมือง ตรงข้ามเป็นตลาด หาของกินมื้อเย็นง่าย ตลอดจน น้ำภายในรีสอร์ท จะเป็นน้ำแร่ครับ (ถ้าห้องแพงกว่านี้ จะมีอ่างอาบน้ำ ให้นอนแช่เล่นได้)
น้ำแร่ ของ ระนอง มีข้อดีคือ มีความสะอาดสูง ไม่มีกลิ่นกำมะถัน เหมือนที่อื่นครับ หรือ ใครอยากไปแช่ที่บ่อเลย ก็อยู่ไม่ไกลจาก บ่อรักษะวาริน ครับ
-- มาดูห้องพักดีกว่า … เตียงนอนสบาย ไม่ปวดหลังครับ, แอร์เป็น Mitsubishi econo เงียบกริบ เย็นฉ่ำครับ
ประตูห้องน้ำ เป็น ประตูไม้แบบโบราณ ใช้กลอนแบบขัด ครับ คลาสสิคดี
-- ขอนอนก่อนนะครับ … หลับสนิท เพราะความเหนื่อยล้าแหละ ระหว่างหลับก็ได้ยินเสียงฝน ค่อนข้างหนักทีเดียว ฟื้นมาอีกที บ่ายสี่โมงกว่าละ … แวะไปสุสานเจ้าเมืองระนองดีกว่า เรียบร้อยแล้วก็กลับรีสอร์ท ไปเดินตลาดหาของกินครับ (แต่จริงๆก็ไม่ได้อะไรมา เพราะยังอืดหอยเมื่อเที่ยงอยู่เลย)
[CR] * * * ชวนเที่ยว เกาะพยาม ในวันสงกรานต์ ครับ * * *
แล้วจะไปไหนดีล่ะ ?
ขับรถไม่ไกล (ไม่เกิน 1,000 กม.)
ค่าใช้จ่ายไม่แพง
เงียบสงบ
คิดไป คิดมา หวยเลยมาออกที่ “เกาะพยาม จังหวัดระนอง” ครับ
รู้จักชื่อเกาะนี้ เมื่อสัก 5 – 6 ปีก่อน จากรีวิวอันโด่งดังของห้อง Blue นี่แหละ แล้วก็อยากจะไป แต่ไม่มีโอกาสสักทีครับ คราวนี้ เวลาได้ โอกาสมี จะรออะไรล่ะ ? ก็ลุยเลยสิ !!!
ใครว่ารถสีขาวเงายาก ต้องคอยหามุมกล้อง … รูปนี้ ยกถ่ายเฉยๆ ไม่ได้หามุมเลย ฝ่าฝนมาแล้วด้วย
12 เมษายน 2558
-- คราวนี้เริ่มเดินทางจาก กทม. กว่าจะออกกันจริงๆก็เกือบเที่ยงคืนครับ ออกมาพร้อมกับฝนพรำๆ ก็ หนักบ้าง เบาบ้าง เลยทำให้ใช้ความเร็วได้ไม่สูงนัก ประมาณ 90 – 100 กม./ช.ม. บนเลนกลางครับ เนื่องจาก เลนขวาน้ำขังเป็นช่วงๆ เจ้ายางที่ใส่อยู่ (Toyo T1 Sport SUV) เจอแอ่งน้ำหนักๆมันจะเหินเอาน่ะครับ
-- และจากการที่ออกหลังชาวบ้าน การจราจรก็เลยโล่งสบายครับ รถไม่ติดเลย … มาเริ่มออกอาการง่วงแถวๆประจวบคีรีขันธ์ครับ ก็เลยหาปั๊มจอดนอนสักหน่อย หลับไป 1 ช.ม.พอดี ก็ลุยต่อครับ ถึงชุมพรประมาณ 6.30น. อยากกินติ่มซำ เลยตั้ง GPS พาไป โรงแรมจันทร์สมชุมพร แล้วก็ได้ทานสมใจอยาก
-- สภาพถนนตั้งแต่ปราณบุรีมา ก็ สมคำร่ำรือ ครับ ปุปะตลอด วันนั้นที่วิ่ง รถในฝั่งเดียวกัน ร้อยละ 80 เปิดไฟสูงกันหมด จะรถใหญ่ รถเล็ก เปิดกันพรึ่บเลย อาศัยมีเจ้ากระจกตัดแสงอัตโนมัติ ก็เลยไม่อะไรกับพวกนั้นสักเท่าไหร่ครับ จะมารำคาญก็พวกช้าแช่ขวาครับ คลานอยู่ 60 – 70 กม./ช.ม. ไม่มีลงซ้ายให้ ไม่ไหวจริงๆพวกนี้
-- จัดไป 6 เข่ง กับ กาแฟแก้วนึง เบ็ดเสร็จแถวๆ 200 บาทครับ อิ่มดี … โชคดีที่มาเร็ว เพราะพอกินเสร็จ คนก็รอคิว รอโต๊ะกันยาวเลยล่ะ
จากนั้นก็ไปต่อครับ … แวะไปหาดทรายรี สักการะกรมหลวงชุมพร ครับ
แวะชมวิวสวยๆ ของหาดทรายรี สักหน่อย (แต่ตอนนั้น ตาจะปิดละ ไม่มีอารมณ์จะชมวิวสักเท่าไหร่)
-- ว่าแล้วก็หาที่นอนดีกว่า ดูเวลา แค่ 8 โมงกว่าเอง … มองซ้าย มองขวา หาปั๊มเล็กๆแล้วนอนดีกว่า จัดการลดกระจกลงมาหน่อย ไม่ให้พ้นกันสาด เปิดสัญญาณกันขโมย จากนั้น ปรับเบาะลงสุด แล้วก็นอนครับ
-- ตื่นขึ้นมา 9 โมงพอดี ล้างหน้า ล้างตา แล้วลุยต่อเลย (รอบนี้ นอนหลายรอบหน่อย เพราะช่วงเย็นก่อนเดินทางไม่ได้นอนครับ) วนกลับเข้า ถนนเพชรเกษม อีกรอบ มุ่งหน้า จังหวัดระนอง ครับ ถนนมีการทำเป็นช่วงช่วง สลับกับทางเบี่ยง แต่สภาพผิวถนนค่อนข้างดี ขับได้สบาย เพียงแต่ โค้งจะเยอะหน่อย ถ้าใครเที่ยวเหนือ ขึ้นแม่ฮ่องสอนบ่อยๆ จะบอกว่า โค้งพวกนี้เด็กๆครับ
-- ช่วงเลยบ้านทับหลีมาสักหน่อย ถนนกำลังก่อสร้าง มีช่วงนึง เป็นทางต่างระดับ ไม่มีป้ายบอกครับ พอดีตามกระบะ Navara มาห่างๆ เห็นกระบะเบรคแล้วตกลงไปอย่างแรง ก็เลยมองกระจกหลัง เห็นไม่มีรถ ก็เลยกระทืบเบรคเต็มแรง แล้วค่อยๆหยอดลงไปครับ … ทันใดนั้น ก็มี Jazz ตามหลังมา ไม่มีเบรคครับ รูดซ้ายแซงผมไป อืมมม … ค่าซ่อมช่วงล่าง CR-V มันแพงแฮะ ขับแบบนั้นไม่ไหว
-- เลย น้ำตกปุญญปาล ไปหน่อย จะเป็นแยก มีอุโมงค์ ผมไม่ลงอุโมงค์นะครับ ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวขวา ตามป้ายไปท่าเรือครับ แวะไปหาอะไรกิน กับ ถ่ายรูปประภาคารสักหน่อย
-- จริงๆตรงนี้ก็เป็น ท่าเรือสำหรับการข้ามไปเกาะสอง ประเทศพม่า แหละ จะให้สวยต้องมาถ่ายรูปตอนเย็น แสงกำลังสวยเลย พอดีดันไปตอนเที่ยง เมฆเยอะ ฟ้าครึ้ม (แต่ร้อนมาก) เลยถ่ายรูปได้ไม่สวยเท่าไหร่
-- ถ่ายรูปเรียบร้อย ขับรถย้อนกลับทางเดิมไปสัก 1 – 2 กม. แวะหามื้อเที่ยงทานครับ แถวนั้น มีหลายร้านเลย ผมเลือกร้านเดิมที่เคยมาทานเมื่อ 8 ปีก่อนแหละ รายการที่สั่ง
1. หอยนางรมสด 2 ตัว (ถามแล้วนะว่า ตัวใหญ่ไหม ? เค้าบอกว่า ไม่ใหญ่ … คือ นึกว่า เหมือนที่เคยมากิน ตัวละ 30 บาท)
2. ผักเหลียงผัดไข่
3.ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ
นั่งเล่นซักพัก พนง. ยกหอยมาก่อน เฮ้ยยยย …
-- โคตรบิดา โคตรมารดา หอยเหรอนั่น … ตัวขนาดนี้ เล่นซะสองเลยตรู หุหุ (พนง. เห็นผมตกใจ ยืนขำอยู่ 55) ใหญ่แค่ไหน ลองเทียบกับช้อนนะครับ … ใหญ่กว่า มือถือ จอ 6.4 นิ้ว ผมอีกอ่ะ
-- ทำเอาจุก กินผักเหลียงไม่หมดเลย … เสียดาย มื้อนี้ หมดไปราวๆ 500 บาท หอยตัวละ 90 บาทครับ กินเสร็จฝนตกลงมาพอดีครับ จะไปท่าเรือที่ข้ามไปเกาะพยาม เพื่อ survey ที่จอดรถ กับ หาตั๋วเรือไว้ก่อน
ถามคนพื้นที่ … เค้าบอกว่า ให้ตั้ง GPS ไปถนนเฉลิมพระเกียรติ … วางสายเสร็จ ตั้งปุ๊บ GPS บอกว่า “ไม่รู้จัก” อืมมม Sygic เล่นตรูอีกแล้ว !!!
-- หันซ้าย หันขวา ถามเจ้าของร้านอาหารดีกว่า … เค้าบอกว่า ให้ตรงไปทางประภาคาร ตามป้ายไประนอง เลย สุสานเจ้าเมืองระนอง ไปหน่อย มีป้ายไป สะพานปลา ให้เลี้ยวขวาตามนั้นไป … OK ครับ
-- ขับไป เลยสถานีตำรวจ ที่อยู่ซ้ายมือ ไปสักหน่อย จะมีซอย เขียนป้ายว่า ท่าเรือไปเกาะพยาม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยครับ … เข้าซอยไป จะเต็มไปด้วยที่ฝากรถครับ รถเยอะมากๆ แน่นทุกเจ้า … ว่าแล้ว เห็นป้ายท่าเรือ เลยเลี้ยวเข้าไปซื้อตั๋วไว้ก่อน ได้รอบ 9.30 น. มาครับ (เที่ยวแรก 7.30น.)
-- เรือที่จะข้ามไปเกาะพยาม มีหลายบริษัท หลายเจ้ามากครับ เลือกได้ตามสะดวก ส่วนถ้าใครพักหรู The Blue Sky Resort เค้าก็จะมีเรือของเค้าเองแหละ
-- วนรถออกมาจากซอย แล้วเลี้ยวขวา วิ่งย้อนกลับ กะว่า จะไปเริ่มที่ สุสานเจ้าเมืองระนอง เพราะพอจะคุ้นตาอยู่บ้าง ขับไปได้หน่อย เจอแยก เขียนว่า ขวาไปบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน … โอเคครับ เลี้ยวตามนั้น แล้วก็มุดไปมุดมา มาออกตรง CAT พอดี … อ้าว น้ำใสเขาสวยรีสอร์ท ที่เราจะพัก อยู่ข้างหน้านี่หว่า 55+ มาแบบงงๆ
-- ค่าห้อง จองผ่าน agoda คืนละพันปลายๆครับ ข้อดีของที่นี่คือ อยู่ใจกลางเมือง ตรงข้ามเป็นตลาด หาของกินมื้อเย็นง่าย ตลอดจน น้ำภายในรีสอร์ท จะเป็นน้ำแร่ครับ (ถ้าห้องแพงกว่านี้ จะมีอ่างอาบน้ำ ให้นอนแช่เล่นได้)
น้ำแร่ ของ ระนอง มีข้อดีคือ มีความสะอาดสูง ไม่มีกลิ่นกำมะถัน เหมือนที่อื่นครับ หรือ ใครอยากไปแช่ที่บ่อเลย ก็อยู่ไม่ไกลจาก บ่อรักษะวาริน ครับ
-- มาดูห้องพักดีกว่า … เตียงนอนสบาย ไม่ปวดหลังครับ, แอร์เป็น Mitsubishi econo เงียบกริบ เย็นฉ่ำครับ
ประตูห้องน้ำ เป็น ประตูไม้แบบโบราณ ใช้กลอนแบบขัด ครับ คลาสสิคดี
-- ขอนอนก่อนนะครับ … หลับสนิท เพราะความเหนื่อยล้าแหละ ระหว่างหลับก็ได้ยินเสียงฝน ค่อนข้างหนักทีเดียว ฟื้นมาอีกที บ่ายสี่โมงกว่าละ … แวะไปสุสานเจ้าเมืองระนองดีกว่า เรียบร้อยแล้วก็กลับรีสอร์ท ไปเดินตลาดหาของกินครับ (แต่จริงๆก็ไม่ได้อะไรมา เพราะยังอืดหอยเมื่อเที่ยงอยู่เลย)