*หมายเหตุตัวโตโต*
กระทู้นี้มิได้จัดทำเพื่อมีเจตนาแซะวิถีชีวิตของใครแต่อย่างใด 555
เกิดจากการที่เราพยายามหาข้อมูลเที่ยวในเซินเจิ้นด้วยคำว่า hipster จึงได้เป็นผลลัพธ์กระทู้นี้ออกมา
ต่อไปนี้จะเป็นการอารัมภบทที่เยิ่นเย้อของเรา หากต้องการอ่านเนื้อหาที่จำเป็น โปรดเลื่อนเม้าส์ข้ามไปยังความคิดเห็นที่ 1 เลยค่ะ : ))
ทริปนี้เกิดจากการที่เราตามป๊าไปเชงเม้งที่ซัวเถาและทำธุระที่เซินเจิ้น
อย่างที่รู้กันว่าเซินเจิ้นเป็นเมืองของก็อป เราพักอยู่ในย่าน Luohu ศูนย์กลางขายสินค้าแบรนด์เนมปลอม
รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในมาบุญครอง(ที่ขนาดใหญ่X2) ก็ไม่ปาน เราจึงถามตัวเองว่า ถ้าจะมาเดินมาบุญครองแบบนี้...เราจะมาทำไมนะ..........
ภาพจึงตัดมาที่ วันต่อมาป๊าพาเราไป Window of the world เมืองจำลองที่ก็อปปี้สถานที่สำคัญบนโลกมาไว้ที่นี่
เรามองพิพิธภัณฑ์ลูฟเว่อร์ชั่นจีนแดงด้วยสายตาที่ว่างเปล่า....นี่มันเมืองโบราณเว่อร์ชั่น international.........
จุดหักเหของทริปนี้จึงอยู่ที่ วันต่อมา เรากับป๊าเดินอยู่บนย่าน Huaqiangbei แหล่งจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดในเซินเจิ้น
(มันคือการรวมร่างกันของ มาบุญครองชั้นมือถือ + พันธุ์ทิพย์พลาซ่า + คลองถมอีกนิดหน่อย = ได้ออกมาเป็นถนนHuaqianbei)
ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนกัน (คำเตือน : โปรดระวังกระเป๋าและทรัพย์สินของท่าน) อบอวลด้วยหมอกควัน(ร้อยละ 95เกิดจากบุหรี่) ในอุณหภูมิ 15 องศาเราบอกกับป๊าว่า
“ป๊า หนูจะไปตามหาความเป็นฮิปสเตอร์ในเซินเจิ้น”
ป๊าตกตะลึงในอุดมการณ์อันแรงกล้าของเรา ก่อนถามว่า
“ฮิปสเตอร์คืออะไรน่ะ”
ตึง
สรุป เราเลยต้องอธิบายความเป็นฮิปสเตอร์ให้ป๊าฟังไป ซึ่งป๊าก็เข้าใจในวิถีของฮิปสเตอร์ดีมาก ด้วยการ....ปล่อยให้เราไปคนเดียว....555
(จริงๆตอนเราขอป๊าไปเที่ยวเอง มันไม่โอเวอร์ขนาดนี้หรอก 555 เราคุยกันง่ายๆ สบายๆในบ้าน แต่ป๊าก็ถามด้วยความงงงวยแบบนี้แหละว่า ฮิปสเตอร์คืออะไรว่ะ ลูก)
ทริปเซินเจิ้นแบบฮิปสเตอร์จึงเกิดขึ้นได้ด้วยประการฉะนี้
ก็ไม่น่าหวาดหวั่นเท่าไหร่หรอก ก็แค่เราพูดภาษาจีนไม่ได้
.....และเมืองนี้ก็ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษกับเราเลยก็เท่านั้นเอง!!
[CR] มินิรีวิว 1 วัน (trying to be a) Hipster ใน เซินเจิ้น
*หมายเหตุตัวโตโต*
กระทู้นี้มิได้จัดทำเพื่อมีเจตนาแซะวิถีชีวิตของใครแต่อย่างใด 555
เกิดจากการที่เราพยายามหาข้อมูลเที่ยวในเซินเจิ้นด้วยคำว่า hipster จึงได้เป็นผลลัพธ์กระทู้นี้ออกมา
ต่อไปนี้จะเป็นการอารัมภบทที่เยิ่นเย้อของเรา หากต้องการอ่านเนื้อหาที่จำเป็น โปรดเลื่อนเม้าส์ข้ามไปยังความคิดเห็นที่ 1 เลยค่ะ : ))
ทริปนี้เกิดจากการที่เราตามป๊าไปเชงเม้งที่ซัวเถาและทำธุระที่เซินเจิ้น
อย่างที่รู้กันว่าเซินเจิ้นเป็นเมืองของก็อป เราพักอยู่ในย่าน Luohu ศูนย์กลางขายสินค้าแบรนด์เนมปลอม
รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในมาบุญครอง(ที่ขนาดใหญ่X2) ก็ไม่ปาน เราจึงถามตัวเองว่า ถ้าจะมาเดินมาบุญครองแบบนี้...เราจะมาทำไมนะ..........
ภาพจึงตัดมาที่ วันต่อมาป๊าพาเราไป Window of the world เมืองจำลองที่ก็อปปี้สถานที่สำคัญบนโลกมาไว้ที่นี่
เรามองพิพิธภัณฑ์ลูฟเว่อร์ชั่นจีนแดงด้วยสายตาที่ว่างเปล่า....นี่มันเมืองโบราณเว่อร์ชั่น international.........
จุดหักเหของทริปนี้จึงอยู่ที่ วันต่อมา เรากับป๊าเดินอยู่บนย่าน Huaqiangbei แหล่งจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดในเซินเจิ้น
(มันคือการรวมร่างกันของ มาบุญครองชั้นมือถือ + พันธุ์ทิพย์พลาซ่า + คลองถมอีกนิดหน่อย = ได้ออกมาเป็นถนนHuaqianbei)
ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนกัน (คำเตือน : โปรดระวังกระเป๋าและทรัพย์สินของท่าน) อบอวลด้วยหมอกควัน(ร้อยละ 95เกิดจากบุหรี่) ในอุณหภูมิ 15 องศาเราบอกกับป๊าว่า
“ป๊า หนูจะไปตามหาความเป็นฮิปสเตอร์ในเซินเจิ้น”
ป๊าตกตะลึงในอุดมการณ์อันแรงกล้าของเรา ก่อนถามว่า
“ฮิปสเตอร์คืออะไรน่ะ”
ตึง
สรุป เราเลยต้องอธิบายความเป็นฮิปสเตอร์ให้ป๊าฟังไป ซึ่งป๊าก็เข้าใจในวิถีของฮิปสเตอร์ดีมาก ด้วยการ....ปล่อยให้เราไปคนเดียว....555
(จริงๆตอนเราขอป๊าไปเที่ยวเอง มันไม่โอเวอร์ขนาดนี้หรอก 555 เราคุยกันง่ายๆ สบายๆในบ้าน แต่ป๊าก็ถามด้วยความงงงวยแบบนี้แหละว่า ฮิปสเตอร์คืออะไรว่ะ ลูก)
ทริปเซินเจิ้นแบบฮิปสเตอร์จึงเกิดขึ้นได้ด้วยประการฉะนี้
ก็ไม่น่าหวาดหวั่นเท่าไหร่หรอก ก็แค่เราพูดภาษาจีนไม่ได้
.....และเมืองนี้ก็ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษกับเราเลยก็เท่านั้นเอง!!
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น