เรื่องราวที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเอง มันผ่านมาเพียงไม่นาน ตอนนี้ผมก็ยังเสียใจอยู่ แต่ไม่รู้จะพูดกับใคร ที่มาเขียนก็แค่อยากระบายอารมณ์ เพื่อให้มันเป็นอุทาหรณืกับทุกคนที่หลงผิดแบบผม และคิดที่จะกลับตัว ผมอาจจะไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่ออยู่เสมอคือ เรื่องบาป บุญ คุณ และโทษ
ครับผมเป็นแค่เด็กมหาลัยชื่อดังในจังหวัดอุดรธานีคนหนึ่ง ผมเป็นคนตัวเล็กครับ ผิวคล่ำได้พ่อ ผอมได้แม่ หน้าไทยๆ ผมเป็นคนที่หน้าตาบ้านๆเวลาไม่ยิ้มจะเหมือนคนโกรธ แต่เวลายิ้มจะน่ารัก(เขาบอกมานะไม่ได้คิดเอง)ตัดผมสั้น ชอบไว้หนวด ผมสูงแค่ 167 น้ำหนัก 54 คือมันก็จะออกไปทางพอดีๆหน่อย ครับในชีวิตผมอกหักมาหลายครั้ง แต่บอกก่อนนะครับว่าผมนะ รักใคร รักจริง ผมทุ่มเทเพื่อคนที่ผมรักมากด้วย แน่นอนครับ ในช่วงที่ผมมีแฟนที่ผ่านมา ผมเคยเป็นทั้งรุก และรับ แต่คนที่ผมจะตัดสินใจจะคบจริงๆ ไม่ได้ขออะไรมากเลย สิ่งที่ผมต้องการมีแค่ เป็นผู้ใหญ่พอ คุยกันรู้เรื่อง และที่สำคัญ ไม่เอาเปรียบผม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ผมเรียนยุปี 4 เรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์ครับ เป็นคนเรียนกลางๆ แต่ชอบอ่าน ชอบอะไรใหม่ๆ แน่นอนครับ ผมมีโซเชียลมีเดีย เป็นของตัวเอง ครับผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องมีพื้นที่นี้เป็นของตัวเองนั้นคือ facebook ผมก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบเล่นเฟส ต่างกันแค่ผมจะโลบกส่วนตัวสูงมาก ไม่ชอบไปไหนที่มีคนเยอะ ชอบอยู่กะตัวเอง ในการเล่นเฟสบุ๊คของผมนั่นเอง ทำให้ผมได้เจอกับรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยคนหนึ่งครับ เขาเรียนคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษา.... น้องเขาชื่อ ว (ขอบอกแค่ตัวย่อนะครับ)ครับผมยอมรับเต็มปากเลยว่าผมเป็นคนแอ็ดน้องเขาไป แรกๆก็คุยกันปกตินะครับ เพราะผมไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นไม่อยากคบใครด้วย และน้องเขาก็หายไป นานมากครับ ประมาณเดือนนึงได้ครับ ตอนนั้นผมก็ใช้ชีวิตปีสุดท้ายธรรมดา ทำงาน เรียน ส่งงาน กลับหอ แค่นั้น จนวันหนึ่ง ผมก็เห็นน้อง ว คนนี้แหละ ที่ผมเคยคุย โพสในกลุ่มเฉพาะเพศที่สาม ไม่ขอออกชื่อกลุ่มนะครับ ผมเห็นผมเลยทักไปคุยด้วย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะครับ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าน้องเค้ามีแฟนอยู่แล้ว เลยไม่คิดอะไรมาก เราก็คุยกันปกตินะครับ จนมีช่วงหนึ่งผมขี้เกียจพิมพ์ครับ ผมเลยโทรเฟสไป เราก็คุยกันปกตินะครับ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เกือบสองชั่วโมงได้ครับ เขาเลยบอกผมว่า
*แฟนเขาจะเลิกงานแล้วแค่นี้นะ* ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับ ก็วางปกติ คุยกะเพื่อนในแก๊งปากหมาของผมต่อ
วันต่อมา
วันนี้ไม่รู้เป็นรอะไร ไม่มีใครทักเฟสผมมาเลย ผมก็ดูยูทูปปกติครับ แล้วอยู่ดีๆ เสียงข้อความจากเฟสก็ดังขึ้น น้อง ว นั้นแหละครับ ผมคุยกับน้องเขาแบบไม่เคยเห็นหน้าอยู่ประมาณอาทิตย์นึงได้ครับก็คุยกันปกติ มีคุยทะลึ่งบ้างครับ แต่แล้ววันนึง น้องเขาก็ทักผมมาแบบผมไม่เคยคิดว่าน้องเขาจะทักมา
*มาเล่นด้วยหน่อยดิที่หอ* ผมก็นึกว่าน้องเขาพูดขำๆ เลยตอบกลับไปว่า
*กลัวแฟนนายมาเหยียบหน้าพี่* น้องเขาเลยตอบกลับมาว่า
*แฟนไปทำงานแล้ว มาๆ * ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดว่าน้องเขาพูดจริงนะ เลยถามกลับไปว่า
*ไปเล่นเฉยๆนะ ตอนนี้ยังไม่อาบน้ำเลย ขอเวลาอาบน้ำชั่วโมงนึง* น้องเขาเลยตอบกลับมาพร้อมเบอร์โทรว่า
*เสร็จแล้วโทรมานะ*
ครับตอนนั้นผมคิดว่าไอ้นี้
ใจว่ะ กล้าท้ากูก็กล้าไปว่ะ ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วแหละ
หอน้องเค้าอยู่หลังมอนะครับ อยู่ในซอยโรงเรียนช่างชื่อดังแห่งหนึ่งในอุดร
พอผมไปถึงผมก็โทรหาเค้าปกตินะครับ ว่าหอไหน ห้องไหน ครับผมไปถึงเขาก็เปิดทีวีให้ดู ผมก็นอนดูทีวีกะน้องเค้าครับ ซักพักน้องเค้าก็จับมือผม แล้วหอมมือผม ผมก็เลยอึ้งนิดๆ แน่นอนว่าถ้ามาไม้นี้มันต้องมากกว่ามาเล่น เป็นไงเป็นกันว่ะ ครับสุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยการมีอะไรกัน ในสองผมตอนนั้นนะครับ เอาตรงๆนะผมคิดแบบนี้จริงๆ
*ไอ้นี้
เลวว่ะมีแฟนอยู่แล้วยังชวนกูมาเอากันอีก*
ทีแรกผมก็จะกลับหอผมเลยนะครับ แต่เขาก็ไม่ให้ผมกลับ อ่ะผมก็ไม่กลับผมก็เล่นๆ นอนๆอยู่นั่นแหละ จนประมาณ 3 ทุ่ม ผมเลยบอกเขาว่าผมจะกลับ น้องเขาเลยบอกผมว่า งั้นสี่ทุ่มจะโทรหานะ รักนะ
สมองผมมันก็มาอีกทีครับ *ไอ้นี้เลวโคตรๆว่ะ ใครรัก...ก็บ้าแล้ว มีแฟนอยู่แล้วยังจะมาบอกรักกูอีก เอาเถอะถ้า...อยากเล่นกับไฟกูก็จะให้...ลองไฟดู แล้ว...จะรู้ว่ามันแสบ มันร้อนขนาดไหน* ผมคิดแบบนี้จริงๆ
ครับผมกลับหอผมกินข้าวนั่งดูหนังในคอมปกติ วันนั้นเป็นอะไรไม่รู้นะครับ แต่ที่ผมรู้ๆคือ รูมเมทกลับบ้านหมด เฟสเงียบ คนที่หอก็เงียบ วงไพ่ก็เงียบ วงไฮโลก็เงียบ ไม่มีท่าทีว่าจะมีใครมาเล่นกะผมเลย ไม่เหมือนปกติ
22.17 น. เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นครับ (ที่จำได้เพราะจดไว้ในไดอะรี่ส่วนตัวนะครับ)
ครับแน่นอนมีคนเดียวน้อง ว ผมคุยกับน้องเขาไปจนประมาณ 5 ทุ่มก็วาง น้องเขาก็บอกว่าจะกลับบ้านกะแฟน ซึ่งบ้านเขาห่างจากหอที่เขาพักอยู่ประมาณ 40 กว่ากิโล เขาก็บอกผมว่า ว่างๆจะโทรหา ผมก็ไม่ได้มีอะไรครับ วางก็วาง เพราะบอกเลยตอนนั้นไม่คิดอะไร
ครับน้อง ว โทรหาผมตลอด จากที่เรียกชื่อผมธรรมดา ก็เรียกผมแบบที่พ่อผมเรียกผมคนเดียว นั้นก็คือฉายาที่พ่อชอบเรียกนั่นคือ แหมบ เพราะเมื่อก่อนผมจมูกแบนมาก เราคุยกันตลอดจนผมเริ่มรู้สึกใจไม่ดีแล้วครับ จากที่คิดว่าจะเล่นๆ มันกลายเป็นจริงเพราะคำพูดที่เขาชอบพูดบอกผมและถามผมว่า รักเค้ามั๊ย คิดถึงเค้ามั๊ย เค้ารักแหมบนะ
จนวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจที่จะเลิกกับเค้าครับ ผมก็เอาของที่ผมเอาของเขามา มีชุดกีฬานี้แหละ แล้วก็ข้าวที่ผมซื้อไปฝากเขาบ่อยๆ นั่นคือ คะน้าหมูกรอบที่เขาชอบ และเป็นเมนูที่ผมเกลียด ครับผมทำวีดีโอจากรูปที่เราถ่ายด้วยกันในโทสับผมไปบอกเค้า ทีแรกกะว่าจะให้ตอนที่กลับแต่เขาเจอก่อน ตอนที่เขาเปิดดู ผมอ่ะร้องให้ผมเลยบอกว่าไปมอไซต์แปป แต่เขาก็เอาโทสับผมไว้ พอเขาดูจบผมก็ขอโทสับคืน
ตอนนั้นผมร้องไห้นะครับ ร้องแบบหนักมากๆ ไม่คิดว่าจะร้องไห้ขนาดนี้ เขาก็ร้องนิดนึงครับ เราก็คุยกัน คุยไปคุยมาเขาเลยถามผมว่า
*รักเค้ามั๊ย* ผมตอบไปแบบเต็มปากเลยนะครับตอนนั้นว่า
*รักสิ แต่รักของเรามันผิด ผมจะไม่รอบกัดใครไม่ทำร้ายใคร* เค้าเลยพูดกลับมาว่า
*แล้วอยู่กับเค้า เพิ่ลมีความสุขมั๊ย* ผมเลยตอบกลับไปว่า
*มีดิ มากด้วย * เค้าเลยพูดมาว่า
*ถ้าอยู่แล้วมีความสุขจะเลิกทำมัย ในเมื่อเค้าก็มีความสุข ตัวเองก็มีความสุข *
ครับทุกอย่างจบลงแบบไม่ต้องคิด คือไม่เลิก
ครับผมคบกับเค้าแบบแอบๆมาตลอด คือ เราจะเจอกันทุกวันในเวลาที่แฟนเขาไปทำงาน 14.30-23.00 ซึ่งแฟนเขาจะทำงานที่ 7-11 ในซอยนะแหละ ผมรักเขานะครับ ผมบอกเลยรักมากๆด้วย แต่เวลาที่ผมเสียใจหรือน้อยใจผมจะชอบมาระบายอารมณ์ในเฟสบุ๊ค และผมก็พอจะรู้อยู่ว่าแฟนเขาก็รักเขามากๆ แน่นอนครับแฟนเขาก็เคยเกือบจับได้ว่าผมกะเขาเป็นอะไรกัน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี คือก็ยังจับไม่ได้ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะมีคนมาคุยด้วยเยอะ ซึ่งบ้างครั้งผมก็น้อยใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมันสิทธิของเขา ก็มีแต่พูดแล้วก้ทำเป็นโกรธ แต่จริงๆก็ไม่ได้โกรธ
เวลาผ่านไปไม่นานนะครับ วันนั้นเขามีสอบ ตอนเช้าเราคุยกันในเฟสแต่เช้ามากๆ ผมเลยบอกเขาว่าสอบเสร็จ เฟสมาบอกหน่อยนะ เขาเลยบอกผมว่า วันนี้จะกลับบ้านกะแฟน ซึ่งเขาก็บอกผมไว้นานแล้วแหละ ครับ ประมาณ 11 โมง อยู่ดีๆแฟนเขาก็เอาเฟสเขา ทักผมมา ผมก็รู้งานครับ เพราะรักเขาไม่อยากให้เขามีปัญหา รู้สถานะของตัวเองด้วยแหละ เลยทำเป็นบอกว่าเป็นเพื่อน เขาก็ทะเลาะกันแต่ก็ไม่หนักมากนะครับ ตอนนั้นผมเลยถามตัวเองคำถามนึงว่า
*ดี ชั่ว รู้หมด แต่ทำมัยไม่ยับยั้งชั่งใจว่ะกู*
วันเดียวกันเอง ประมานบ่ายๆ3กว่าๆ เขาก็โทรมาหาผม โดยทีแรกทักไลน์มาก่อน
ครับเราคุยกันต่อ บางครั้งผมก็ไปรับเขาที่บ้านบ้างโดยที่แฟนเขาไม่รู้ ถึงมันจะร้อนแดด แต่ผมเย็นใจนะ ที่ได้ไปรับเขา เราคบกันลับๆ โดยมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องของผม
เราคบกันมาหลังๆ ผมไม่รู้ทำมัย ผมเริ่มรู้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งที่แฟนเขารักเขามาก เขาก็รักแฟนเขามาก แน่นอนครับ สำหรับผมแล้ว รักมันไม่ใช่การเอามาครอบครอง แต่มันเป็นการที่เราได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ผมนอนคิดอยู่หลายวัน ระหว่างที่คิดก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยที่ผมจะได้ไม่เสียใจที่ไม่ได้ทำให้เขา
03/12/57
ผมไปหาเขา วันนี้เป็นวันที่ผมตัดสินใจเด็ดขาด ว่า ระหว่างถูกใจ กะ ถูกต้อง ผมขอเลือกความถูกต้อง เพราะผมไม่อยากให้มันติดตัวผมไป ผมก็ไปกินข้าว ทำทุกอย่างให้ 3 ทุ่มผมก็ขอตัวกลับ ตอนนั้นเขาโกรธนะครับ ผมรู้ว่าเขาโกรธที่ผมขอตัวกลับ พอผมกลับถึงหอผมก็โทรหาเขา แต่เขาไม่รับ ผมเลยตัดสินใจเด็ดขาด ด้วยการเอาของทุกอย่างที่เอามาจากเขาไปไว้ที่หน้าห้องของเขา แล้วผมก็ลงไลน์ไปหาเขาว่า
*ขอโทษนะที่ทำแบบนี้ ที่มาโดยไม่ได้ลา ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้ และความรู้สึกดีๆ คำพูดๆ ที่มีให้ แต่...ไม่อยากทำร้ายใคร ไม่อยากรอบกัดใคร เรารู้ว่าพี่เขารัก ว มาก และ ว ก็รักพี่เขามากๆเช่นกัน เรารัก ว นะ พระเจ้าทรงให้เรามาพบกัน รักกัน รู้สึกดีต่อกัน แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงต้องการให้เราได้อยู่ด้วยกัน ไม่ทรงให้เราได้ครอบครองกัน ต่อไปนี้ดูแลตัวเองดีๆนะ มีอะไรก็ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ลาก่อน รัก ว มากนะ และจะเก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำที่ดี ตลอดไป *
ครับแน่นอนว่าเขาโกรธมากๆ เขาก็ไลน์กลับมาหาผมก็บอก เลิกก็เลิก ตอนนั้นผมเสียใจมากๆนะ แต่ผมก็ต้องเลือกความถูกต้อง ครับ แล้วเขาก็เฟสมาว่าผม บอกผมไม่ต้องทักไปอีก บอกผมต่างๆนาๆ ด่าผมแล้วก็ห้ามผมทักเขาไปอีก นั่นยิ่งทำให้ผมเสียใจ มีทางเดียวที่ผมจะทำให้ทุกอย่างมันจบลงได้ ผมต้องลบทุกอย่างที่มีเขา ทุกอย่างจบลงในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมง ผมนั้งร้องไห้เสียใจ แน่นอนครับผมบอกใครไม่ได้เรื่องนี้เพราะให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ ผมร้องไห้จนหลับ ตื่นมาร้องไห้อีก เพื่อนในหอก็ไม่มีใครมาเลย กลับบ้านหมด ยิ่งคิดผมก็ยิ่งร้องไห้ เสียใจ
ผ่านไปไม่กี่วันผมก็เริ่มใจอ่อนกลับไปคบกับเค้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เริ่มคบกันนานหน่อย เราคบกันไปเรื่อยๆ แบบไม่ให้ใครรู้ แต่ก็จะมีเพื่อนเขาอีกคนที่รู้อยู่บ้างว่าเรากลับมาคบกัน แน่นอนครับ เวลาผ่านไปทุกอย่างเริ่มจะไม่ดีแบบเดิม แฟนเขาเริ่มรู้เรื่อง เริ่มจับได้ครับ แรกๆผมก็ไม่ยอมรับว่าไม่ได้เป็นไรกันครับ ผมคุยกับเค้าหลายครั้งว่าผมสงสารแฟนเค้าและอยากเลิก แต่เค้าก็ชอบพูดจนทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนหลังๆ แฟนเค้าก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น ว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน จนถึงขั้น ไลน์มาถาม โทรมาถาม แต่ก็เหมือนเดิม ครับ ผมก็ไม่ยอมรับ ไม่ใช่ว่าผมมีความสุขนะครับ จนเกือบจะปีใหม่ที่ผ่านมา เค้าสัญญาว่าจะซื้อแหวนให้ผม แต่ผมก็ไม่ได้อยากได้นะครับ ก็บอกเค้าไปว่าไม่ต้อง เค้าสัญญากับผมว่าวันที่ 4 มกรา จะเอาแหวนมาให้แน่นอนครับ ผมรู้เค้าทำได้แน่นอน ผมกับเค้าก็ทะเลาะกันเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็แบบเดิม เค้าเคยพูดกับผมไว้ว่า
*ถ้ากูไม่อยากเลิก ไม่มีวันได้เลิกกับกูแน่*
แน่นอครับ ใกล้ปีใหม่ ผมเลยซื้อนาฬิกาให้เค้าเรือนเนึง ราคาพันต้นๆ มีคนถามผมนะครับ ว่าซื้อนาฬิกาให้ใครผมเลยบอกว่า เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน มีหลายคนทักท้วงว่า ให้นาฬิกากันไม่กลัวได้หยุดเวลาลงหรอ ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยแหละ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแน่นอนครับ ผมต้องคอยเป็นทั้งที่ปรึกษาไม่ให้เค้าเลิกกันเพราะผมก็รู้ว่า ว ก็รักแฟนเค้ามาก อีกอย่างคือ เค้าก็คบกันมานานกว่าผม ผมไม่อย่ากให้คนที่ผมรักต้องเสียคนที่เค้ารักไป
แต่เหตุการณืที่ไม่คาดคิดบางครั้งก็เกิดขึ้น เวาลาเค้าอยู่กับผมเค้าจะไม่ชอบรับโทรศัพท์ ใครโทรมาก็จะไม่รับเลย ครับ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นตอน เราสองคนไปดูหนังกัน แล้วเค้าไม่รับโทศัพท์ แฟนเค้าเลยสงสัย เลยมาที่หอเค้า แน่นอนครับ เพื่อนเค้าก็เนียนไป เค้าฝากห้องไว้กะเพื่อนอ่ะครับ แล้วโทรมาบอก ตอนนั้นผมนิจี๊ดในใจเลยครับ ว่าผมทำอะไรลงไป คิดแล้วคิดอีก แต่ก็คุยกันปกติ กลับหอผมเวลาเดิมปกติ แฟนเค้าก็สงสัย ไลน์มาถามผม โทรมาบ้างแต่ผมไม่รับ แต่ไม่ใช่ผมไม่คิดนะ ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าผมควรเลิกหรือควรทำไงดี บางครั้งผมท้อ
ถูกต้อง กะ ถูกใจ เลือกอะไรครับ
ครับผมเป็นแค่เด็กมหาลัยชื่อดังในจังหวัดอุดรธานีคนหนึ่ง ผมเป็นคนตัวเล็กครับ ผิวคล่ำได้พ่อ ผอมได้แม่ หน้าไทยๆ ผมเป็นคนที่หน้าตาบ้านๆเวลาไม่ยิ้มจะเหมือนคนโกรธ แต่เวลายิ้มจะน่ารัก(เขาบอกมานะไม่ได้คิดเอง)ตัดผมสั้น ชอบไว้หนวด ผมสูงแค่ 167 น้ำหนัก 54 คือมันก็จะออกไปทางพอดีๆหน่อย ครับในชีวิตผมอกหักมาหลายครั้ง แต่บอกก่อนนะครับว่าผมนะ รักใคร รักจริง ผมทุ่มเทเพื่อคนที่ผมรักมากด้วย แน่นอนครับ ในช่วงที่ผมมีแฟนที่ผ่านมา ผมเคยเป็นทั้งรุก และรับ แต่คนที่ผมจะตัดสินใจจะคบจริงๆ ไม่ได้ขออะไรมากเลย สิ่งที่ผมต้องการมีแค่ เป็นผู้ใหญ่พอ คุยกันรู้เรื่อง และที่สำคัญ ไม่เอาเปรียบผม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ผมเรียนยุปี 4 เรียนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์ครับ เป็นคนเรียนกลางๆ แต่ชอบอ่าน ชอบอะไรใหม่ๆ แน่นอนครับ ผมมีโซเชียลมีเดีย เป็นของตัวเอง ครับผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องมีพื้นที่นี้เป็นของตัวเองนั้นคือ facebook ผมก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบเล่นเฟส ต่างกันแค่ผมจะโลบกส่วนตัวสูงมาก ไม่ชอบไปไหนที่มีคนเยอะ ชอบอยู่กะตัวเอง ในการเล่นเฟสบุ๊คของผมนั่นเอง ทำให้ผมได้เจอกับรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยคนหนึ่งครับ เขาเรียนคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษา.... น้องเขาชื่อ ว (ขอบอกแค่ตัวย่อนะครับ)ครับผมยอมรับเต็มปากเลยว่าผมเป็นคนแอ็ดน้องเขาไป แรกๆก็คุยกันปกตินะครับ เพราะผมไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นไม่อยากคบใครด้วย และน้องเขาก็หายไป นานมากครับ ประมาณเดือนนึงได้ครับ ตอนนั้นผมก็ใช้ชีวิตปีสุดท้ายธรรมดา ทำงาน เรียน ส่งงาน กลับหอ แค่นั้น จนวันหนึ่ง ผมก็เห็นน้อง ว คนนี้แหละ ที่ผมเคยคุย โพสในกลุ่มเฉพาะเพศที่สาม ไม่ขอออกชื่อกลุ่มนะครับ ผมเห็นผมเลยทักไปคุยด้วย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะครับ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าน้องเค้ามีแฟนอยู่แล้ว เลยไม่คิดอะไรมาก เราก็คุยกันปกตินะครับ จนมีช่วงหนึ่งผมขี้เกียจพิมพ์ครับ ผมเลยโทรเฟสไป เราก็คุยกันปกตินะครับ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เกือบสองชั่วโมงได้ครับ เขาเลยบอกผมว่า
*แฟนเขาจะเลิกงานแล้วแค่นี้นะ* ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับ ก็วางปกติ คุยกะเพื่อนในแก๊งปากหมาของผมต่อ
วันต่อมา
วันนี้ไม่รู้เป็นรอะไร ไม่มีใครทักเฟสผมมาเลย ผมก็ดูยูทูปปกติครับ แล้วอยู่ดีๆ เสียงข้อความจากเฟสก็ดังขึ้น น้อง ว นั้นแหละครับ ผมคุยกับน้องเขาแบบไม่เคยเห็นหน้าอยู่ประมาณอาทิตย์นึงได้ครับก็คุยกันปกติ มีคุยทะลึ่งบ้างครับ แต่แล้ววันนึง น้องเขาก็ทักผมมาแบบผมไม่เคยคิดว่าน้องเขาจะทักมา
*มาเล่นด้วยหน่อยดิที่หอ* ผมก็นึกว่าน้องเขาพูดขำๆ เลยตอบกลับไปว่า
*กลัวแฟนนายมาเหยียบหน้าพี่* น้องเขาเลยตอบกลับมาว่า
*แฟนไปทำงานแล้ว มาๆ * ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดว่าน้องเขาพูดจริงนะ เลยถามกลับไปว่า
*ไปเล่นเฉยๆนะ ตอนนี้ยังไม่อาบน้ำเลย ขอเวลาอาบน้ำชั่วโมงนึง* น้องเขาเลยตอบกลับมาพร้อมเบอร์โทรว่า
*เสร็จแล้วโทรมานะ*
ครับตอนนั้นผมคิดว่าไอ้นี้ใจว่ะ กล้าท้ากูก็กล้าไปว่ะ ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วแหละ
หอน้องเค้าอยู่หลังมอนะครับ อยู่ในซอยโรงเรียนช่างชื่อดังแห่งหนึ่งในอุดร
พอผมไปถึงผมก็โทรหาเค้าปกตินะครับ ว่าหอไหน ห้องไหน ครับผมไปถึงเขาก็เปิดทีวีให้ดู ผมก็นอนดูทีวีกะน้องเค้าครับ ซักพักน้องเค้าก็จับมือผม แล้วหอมมือผม ผมก็เลยอึ้งนิดๆ แน่นอนว่าถ้ามาไม้นี้มันต้องมากกว่ามาเล่น เป็นไงเป็นกันว่ะ ครับสุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยการมีอะไรกัน ในสองผมตอนนั้นนะครับ เอาตรงๆนะผมคิดแบบนี้จริงๆ
*ไอ้นี้เลวว่ะมีแฟนอยู่แล้วยังชวนกูมาเอากันอีก*
ทีแรกผมก็จะกลับหอผมเลยนะครับ แต่เขาก็ไม่ให้ผมกลับ อ่ะผมก็ไม่กลับผมก็เล่นๆ นอนๆอยู่นั่นแหละ จนประมาณ 3 ทุ่ม ผมเลยบอกเขาว่าผมจะกลับ น้องเขาเลยบอกผมว่า งั้นสี่ทุ่มจะโทรหานะ รักนะ
สมองผมมันก็มาอีกทีครับ *ไอ้นี้เลวโคตรๆว่ะ ใครรัก...ก็บ้าแล้ว มีแฟนอยู่แล้วยังจะมาบอกรักกูอีก เอาเถอะถ้า...อยากเล่นกับไฟกูก็จะให้...ลองไฟดู แล้ว...จะรู้ว่ามันแสบ มันร้อนขนาดไหน* ผมคิดแบบนี้จริงๆ
ครับผมกลับหอผมกินข้าวนั่งดูหนังในคอมปกติ วันนั้นเป็นอะไรไม่รู้นะครับ แต่ที่ผมรู้ๆคือ รูมเมทกลับบ้านหมด เฟสเงียบ คนที่หอก็เงียบ วงไพ่ก็เงียบ วงไฮโลก็เงียบ ไม่มีท่าทีว่าจะมีใครมาเล่นกะผมเลย ไม่เหมือนปกติ
22.17 น. เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นครับ (ที่จำได้เพราะจดไว้ในไดอะรี่ส่วนตัวนะครับ)
ครับแน่นอนมีคนเดียวน้อง ว ผมคุยกับน้องเขาไปจนประมาณ 5 ทุ่มก็วาง น้องเขาก็บอกว่าจะกลับบ้านกะแฟน ซึ่งบ้านเขาห่างจากหอที่เขาพักอยู่ประมาณ 40 กว่ากิโล เขาก็บอกผมว่า ว่างๆจะโทรหา ผมก็ไม่ได้มีอะไรครับ วางก็วาง เพราะบอกเลยตอนนั้นไม่คิดอะไร
ครับน้อง ว โทรหาผมตลอด จากที่เรียกชื่อผมธรรมดา ก็เรียกผมแบบที่พ่อผมเรียกผมคนเดียว นั้นก็คือฉายาที่พ่อชอบเรียกนั่นคือ แหมบ เพราะเมื่อก่อนผมจมูกแบนมาก เราคุยกันตลอดจนผมเริ่มรู้สึกใจไม่ดีแล้วครับ จากที่คิดว่าจะเล่นๆ มันกลายเป็นจริงเพราะคำพูดที่เขาชอบพูดบอกผมและถามผมว่า รักเค้ามั๊ย คิดถึงเค้ามั๊ย เค้ารักแหมบนะ
จนวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจที่จะเลิกกับเค้าครับ ผมก็เอาของที่ผมเอาของเขามา มีชุดกีฬานี้แหละ แล้วก็ข้าวที่ผมซื้อไปฝากเขาบ่อยๆ นั่นคือ คะน้าหมูกรอบที่เขาชอบ และเป็นเมนูที่ผมเกลียด ครับผมทำวีดีโอจากรูปที่เราถ่ายด้วยกันในโทสับผมไปบอกเค้า ทีแรกกะว่าจะให้ตอนที่กลับแต่เขาเจอก่อน ตอนที่เขาเปิดดู ผมอ่ะร้องให้ผมเลยบอกว่าไปมอไซต์แปป แต่เขาก็เอาโทสับผมไว้ พอเขาดูจบผมก็ขอโทสับคืน
ตอนนั้นผมร้องไห้นะครับ ร้องแบบหนักมากๆ ไม่คิดว่าจะร้องไห้ขนาดนี้ เขาก็ร้องนิดนึงครับ เราก็คุยกัน คุยไปคุยมาเขาเลยถามผมว่า
*รักเค้ามั๊ย* ผมตอบไปแบบเต็มปากเลยนะครับตอนนั้นว่า
*รักสิ แต่รักของเรามันผิด ผมจะไม่รอบกัดใครไม่ทำร้ายใคร* เค้าเลยพูดกลับมาว่า
*แล้วอยู่กับเค้า เพิ่ลมีความสุขมั๊ย* ผมเลยตอบกลับไปว่า
*มีดิ มากด้วย * เค้าเลยพูดมาว่า
*ถ้าอยู่แล้วมีความสุขจะเลิกทำมัย ในเมื่อเค้าก็มีความสุข ตัวเองก็มีความสุข *
ครับทุกอย่างจบลงแบบไม่ต้องคิด คือไม่เลิก
ครับผมคบกับเค้าแบบแอบๆมาตลอด คือ เราจะเจอกันทุกวันในเวลาที่แฟนเขาไปทำงาน 14.30-23.00 ซึ่งแฟนเขาจะทำงานที่ 7-11 ในซอยนะแหละ ผมรักเขานะครับ ผมบอกเลยรักมากๆด้วย แต่เวลาที่ผมเสียใจหรือน้อยใจผมจะชอบมาระบายอารมณ์ในเฟสบุ๊ค และผมก็พอจะรู้อยู่ว่าแฟนเขาก็รักเขามากๆ แน่นอนครับแฟนเขาก็เคยเกือบจับได้ว่าผมกะเขาเป็นอะไรกัน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี คือก็ยังจับไม่ได้ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะมีคนมาคุยด้วยเยอะ ซึ่งบ้างครั้งผมก็น้อยใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมันสิทธิของเขา ก็มีแต่พูดแล้วก้ทำเป็นโกรธ แต่จริงๆก็ไม่ได้โกรธ
เวลาผ่านไปไม่นานนะครับ วันนั้นเขามีสอบ ตอนเช้าเราคุยกันในเฟสแต่เช้ามากๆ ผมเลยบอกเขาว่าสอบเสร็จ เฟสมาบอกหน่อยนะ เขาเลยบอกผมว่า วันนี้จะกลับบ้านกะแฟน ซึ่งเขาก็บอกผมไว้นานแล้วแหละ ครับ ประมาณ 11 โมง อยู่ดีๆแฟนเขาก็เอาเฟสเขา ทักผมมา ผมก็รู้งานครับ เพราะรักเขาไม่อยากให้เขามีปัญหา รู้สถานะของตัวเองด้วยแหละ เลยทำเป็นบอกว่าเป็นเพื่อน เขาก็ทะเลาะกันแต่ก็ไม่หนักมากนะครับ ตอนนั้นผมเลยถามตัวเองคำถามนึงว่า
*ดี ชั่ว รู้หมด แต่ทำมัยไม่ยับยั้งชั่งใจว่ะกู*
วันเดียวกันเอง ประมานบ่ายๆ3กว่าๆ เขาก็โทรมาหาผม โดยทีแรกทักไลน์มาก่อน
ครับเราคุยกันต่อ บางครั้งผมก็ไปรับเขาที่บ้านบ้างโดยที่แฟนเขาไม่รู้ ถึงมันจะร้อนแดด แต่ผมเย็นใจนะ ที่ได้ไปรับเขา เราคบกันลับๆ โดยมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องของผม
เราคบกันมาหลังๆ ผมไม่รู้ทำมัย ผมเริ่มรู้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งที่แฟนเขารักเขามาก เขาก็รักแฟนเขามาก แน่นอนครับ สำหรับผมแล้ว รักมันไม่ใช่การเอามาครอบครอง แต่มันเป็นการที่เราได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ผมนอนคิดอยู่หลายวัน ระหว่างที่คิดก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยที่ผมจะได้ไม่เสียใจที่ไม่ได้ทำให้เขา
03/12/57
ผมไปหาเขา วันนี้เป็นวันที่ผมตัดสินใจเด็ดขาด ว่า ระหว่างถูกใจ กะ ถูกต้อง ผมขอเลือกความถูกต้อง เพราะผมไม่อยากให้มันติดตัวผมไป ผมก็ไปกินข้าว ทำทุกอย่างให้ 3 ทุ่มผมก็ขอตัวกลับ ตอนนั้นเขาโกรธนะครับ ผมรู้ว่าเขาโกรธที่ผมขอตัวกลับ พอผมกลับถึงหอผมก็โทรหาเขา แต่เขาไม่รับ ผมเลยตัดสินใจเด็ดขาด ด้วยการเอาของทุกอย่างที่เอามาจากเขาไปไว้ที่หน้าห้องของเขา แล้วผมก็ลงไลน์ไปหาเขาว่า
*ขอโทษนะที่ทำแบบนี้ ที่มาโดยไม่ได้ลา ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้ และความรู้สึกดีๆ คำพูดๆ ที่มีให้ แต่...ไม่อยากทำร้ายใคร ไม่อยากรอบกัดใคร เรารู้ว่าพี่เขารัก ว มาก และ ว ก็รักพี่เขามากๆเช่นกัน เรารัก ว นะ พระเจ้าทรงให้เรามาพบกัน รักกัน รู้สึกดีต่อกัน แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงต้องการให้เราได้อยู่ด้วยกัน ไม่ทรงให้เราได้ครอบครองกัน ต่อไปนี้ดูแลตัวเองดีๆนะ มีอะไรก็ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ลาก่อน รัก ว มากนะ และจะเก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำที่ดี ตลอดไป *
ครับแน่นอนว่าเขาโกรธมากๆ เขาก็ไลน์กลับมาหาผมก็บอก เลิกก็เลิก ตอนนั้นผมเสียใจมากๆนะ แต่ผมก็ต้องเลือกความถูกต้อง ครับ แล้วเขาก็เฟสมาว่าผม บอกผมไม่ต้องทักไปอีก บอกผมต่างๆนาๆ ด่าผมแล้วก็ห้ามผมทักเขาไปอีก นั่นยิ่งทำให้ผมเสียใจ มีทางเดียวที่ผมจะทำให้ทุกอย่างมันจบลงได้ ผมต้องลบทุกอย่างที่มีเขา ทุกอย่างจบลงในระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมง ผมนั้งร้องไห้เสียใจ แน่นอนครับผมบอกใครไม่ได้เรื่องนี้เพราะให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ ผมร้องไห้จนหลับ ตื่นมาร้องไห้อีก เพื่อนในหอก็ไม่มีใครมาเลย กลับบ้านหมด ยิ่งคิดผมก็ยิ่งร้องไห้ เสียใจ
ผ่านไปไม่กี่วันผมก็เริ่มใจอ่อนกลับไปคบกับเค้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เริ่มคบกันนานหน่อย เราคบกันไปเรื่อยๆ แบบไม่ให้ใครรู้ แต่ก็จะมีเพื่อนเขาอีกคนที่รู้อยู่บ้างว่าเรากลับมาคบกัน แน่นอนครับ เวลาผ่านไปทุกอย่างเริ่มจะไม่ดีแบบเดิม แฟนเขาเริ่มรู้เรื่อง เริ่มจับได้ครับ แรกๆผมก็ไม่ยอมรับว่าไม่ได้เป็นไรกันครับ ผมคุยกับเค้าหลายครั้งว่าผมสงสารแฟนเค้าและอยากเลิก แต่เค้าก็ชอบพูดจนทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนหลังๆ แฟนเค้าก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น ว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน จนถึงขั้น ไลน์มาถาม โทรมาถาม แต่ก็เหมือนเดิม ครับ ผมก็ไม่ยอมรับ ไม่ใช่ว่าผมมีความสุขนะครับ จนเกือบจะปีใหม่ที่ผ่านมา เค้าสัญญาว่าจะซื้อแหวนให้ผม แต่ผมก็ไม่ได้อยากได้นะครับ ก็บอกเค้าไปว่าไม่ต้อง เค้าสัญญากับผมว่าวันที่ 4 มกรา จะเอาแหวนมาให้แน่นอนครับ ผมรู้เค้าทำได้แน่นอน ผมกับเค้าก็ทะเลาะกันเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็แบบเดิม เค้าเคยพูดกับผมไว้ว่า
*ถ้ากูไม่อยากเลิก ไม่มีวันได้เลิกกับกูแน่*
แน่นอครับ ใกล้ปีใหม่ ผมเลยซื้อนาฬิกาให้เค้าเรือนเนึง ราคาพันต้นๆ มีคนถามผมนะครับ ว่าซื้อนาฬิกาให้ใครผมเลยบอกว่า เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน มีหลายคนทักท้วงว่า ให้นาฬิกากันไม่กลัวได้หยุดเวลาลงหรอ ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยแหละ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแน่นอนครับ ผมต้องคอยเป็นทั้งที่ปรึกษาไม่ให้เค้าเลิกกันเพราะผมก็รู้ว่า ว ก็รักแฟนเค้ามาก อีกอย่างคือ เค้าก็คบกันมานานกว่าผม ผมไม่อย่ากให้คนที่ผมรักต้องเสียคนที่เค้ารักไป
แต่เหตุการณืที่ไม่คาดคิดบางครั้งก็เกิดขึ้น เวาลาเค้าอยู่กับผมเค้าจะไม่ชอบรับโทรศัพท์ ใครโทรมาก็จะไม่รับเลย ครับ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นตอน เราสองคนไปดูหนังกัน แล้วเค้าไม่รับโทศัพท์ แฟนเค้าเลยสงสัย เลยมาที่หอเค้า แน่นอนครับ เพื่อนเค้าก็เนียนไป เค้าฝากห้องไว้กะเพื่อนอ่ะครับ แล้วโทรมาบอก ตอนนั้นผมนิจี๊ดในใจเลยครับ ว่าผมทำอะไรลงไป คิดแล้วคิดอีก แต่ก็คุยกันปกติ กลับหอผมเวลาเดิมปกติ แฟนเค้าก็สงสัย ไลน์มาถามผม โทรมาบ้างแต่ผมไม่รับ แต่ไม่ใช่ผมไม่คิดนะ ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าผมควรเลิกหรือควรทำไงดี บางครั้งผมท้อ