นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติให้อายัดทรัพย์สิน 40.9 ล้านบาทกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ว่า ตนและนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจากป.ป.ช.มาตั้งแต่วันที่16 มี.ค.ที่ผ่านมา หรือประมาณ 1 เดือนเศษว่า มีการอายัดทรัพย์ของตน 1.7 ล้านบาท ของภรรยา 39.2 ล้านบาท รวมกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งตนทราบมติก่อนหน้าที่ป.ป.ช.จะแถลงข่าว
ทั้งนี้หลังได้รับหนังสือจากป.ป.ช.ได้ยื่นเอกสารขอเลื่อนการชี้แจงต่อออกไป 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าสามารถชี้แจงต่อป.ป.ช.ถึงที่มาทรัพย์สินได้ทุกรายการ การที่ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดทรัพย์เป็นเพียงการอายัดชั่วคราวในทางทะเบียน เช่นเดียวกับที่ตนเคยมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาไว้ในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ ปัจจุบันตนยังอยู่บ้านและที่ดินได้ตามปกติ

“ผมมีข้อสังเกตว่า ในปี 52 เมื่อครั้งได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ผมและภรรยาได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้ต่อป.ป.ช. มีทรัพย์มูลค่า 37.3 ล้านบาท ผ่านไป 5 ปี ผมมีทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านบาทเท่านั้น เป็นการร่ำรวยผิดปกติอย่างไร นอกจากนี้กรณีที่ถูกร้องให้ตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะผมตกเป็นเป้าหมายถูกดำเนินการ จากบทบาทอธิบดีดีเอสไอที่เข้าไปรับผิดชอบคดีสำคัญหลายคดี ทำให้ถูกฟ้องมากถึง 30 คดี และศาลตัดสินยกฟ้องไปแล้ว 19 คดี ผมจึงมั่นใจในศาลยุติธรรม ทุกคดีผมพร้อมต่อสู้จนถึงชั้นฎีกา ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน” นายธาริต กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ตั้งแต่วันที่16 มี.ค.เหตุใดจึงเพิ่งแถลงข่าวหลังเวลาผ่านมานานกว่า 1 เดือน นายธาริต กล่าวว่า ตนสันนิษฐานว่าการแถลงข่าวว่ามีการอายัดทรัพย์จากการร่ำรวยผิดปกติ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ตนออกจากราชการระหว่างการอายัดทรัพย์สินของป.ป.ช. ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรายชื่อข้าราชการพัวพันกับการทุจริต 100 รายชื่อ ที่ส่งให้นายกฯพิจารณาดำเนินการทางวินัยเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีชื่อตนปรากฏอยู่ จึงนำมาสู่การแถลงข่าวในวันนี้ (19 เม.ย.)

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/643460#sthash.BrBUiE5x.dpuf