เมื่อราวๆเดือนก่อน เพื่อนผมคนนึง ที่เรียน ม.ต้น ด้วยกัน(ขณะนี้ผมทำงานแล้ว) เป็นเพื่อนที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันสมัยก่อนที่ รร. ไม่ได้เจอกันมาประมาณ 10 ปี แอด FB มา ผมดีใจมาก เพราะเป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน สมัยก่อนกลุ่มเพื่อนผมก็มีอยู่ประมาณ 5-6 นี่แหละ ที่ไปไหนไปกัน ติวหนังสือเรียน ทำกิจกรรมด้วยกันมาตลอด ไม่ได้เจอกันนานมากๆ
หลังจากที่ผมแอดเพื่อนคนนี้ ผมก็เจอกลุ่มเพื่อนสมัย ม.ต้นอีกสองสามคนใน list ของเค้า ก็เลย add ต่อเนื่องไป ได้เพื่อนสมัยเด็กเพิ่มมาอีก รวมเป็นสามคน ดีใจมากๆ
เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน เพื่อนผมคนนี้ขอ add line และเบอร์โทร ทาง FB หลังจากให้เบอร์โทรไปก็แอดไลน์ พูดคุยกันบ้าง ถามสารทุกข์สุขดิบ เป็นยังไงบ้าง ทำงานที่ไหน เสาร์อาทิตย์ทำงานไหม เหนื่อยหรือเปล่า เรื่องทั่วๆไป แต่งงานหรือยัง อะไรแบบนี้ทั่วไป
จนกระทั่งเพื่อนผมนัดกินข้าวกัน บอกว่า ไม่ได้เจอกันนาน จะได้คุยกันซะที ตอนแรกก็เลือกระหว่างวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ ผมก็เสนอว่าน่าจะลองนัดเจอเพื่อนหลายๆคนไปเลยเหมือนมีตติ้งกัน เพื่อนบอกว่าหลายคนนัดยาก และอีกอย่างเค้าว่าง นัดเมื่อไรก็ได้ นั่งรถไฟฟ้าไปหา เมื่อมีวันที่ว่างก็ตกลงว่าจะนัดเจอกันที่ห้างแห่งหนึ่ง
เพื่อนดูเปลี่ยนไปมาก สมัยก่อนอ้วนท้วนสมบูรณ์ใส่แว่น เป็นพวกรักเรียนมากๆ ตอนนี้ผมลงเยอะเลยทีเดียว
เราเจอกันตอนเย็นวันหนึ่ง นัดกินข้าวกัน ก็คุยกันว่าร้านอะไรดี เพื่อนบอกว่า อยากเอาร้านที่นั่งสบายๆ ไม่ได้เจอกันนาน จะได้คุยกันสบายๆสนุกๆ ก็เลยเลือกร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างนั้น (ตอนแรกกะจะชวนกินเนื้อย่างละ 5555)
หลังจากที่เข้าร้านกัน สั่งอาหาร ระหว่างกินกัน ก็ถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไป จนกระทั่งกินเสร็จ...... เพื่อนผมก็สั่งของหวานมา แล้วถามว่าผมจะสั่งของหวานอะไรไหม ปกติผมไม่กินของหวานอ่ะนะ แต่ก็เลยตามเลย......... ดีกว่าดูเพื่อนกินคนเดียว
เพื่อนๆเดาได้ไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ..............
ในขณะที่รอของหวานอยู่นั่น เพื่อนผมก็เอ่ยประโยคยอดฮิตสุดคลาสสิค ติดลมบน.......
"นายๆ เราอยากชวนนายไปทำโปรเจค... เป็นโปรเจคที่ดีมากๆเลย.... เราว่ามันดีและเราสนใจ เราเห็นว่านายเป็นเพื่อนรักของเรา เราเลยอยากชวนมาทำโปรเจคด้วยกัน .............................."
จบเลยครับ...... สรุปเพื่อนผมจะชวนผมไปทำธุรกิจลูกโซ่ หรือ MLM แน่แล้ว...... ผมก็หน้าชาไปเลย........ ฟังเพื่อนผมพูดไปเรื่อยๆ
มันเอา ipad ขึ้นมาโชว์แผนภาพ โชว์ว่าโปรเจคของมันดียังไง อะไรแค่ไหน แถมยังบอกว่า มีดารา นักธุรกิจ หมอ อะไรสารพัดที่ทำโปรเจคร่วมกันอยู่...
กลายเป็นว่า บทสนทนาหลักหลักจากนี้กลายเป็น ชวนผมเข้าทำธุรกิจซะงั้น...... ซึ่งผมไม่สนอยู่แล้ว
ทนฟังจนเพื่อนพูดจบ เพื่อนก็ถามว่าสนใจไหม
ผมถามอะไรก็ไม่ตอบ บริษัทอะไรก็ยังไม่บอก พอถามก็บอกว่า ยังบอกไม่ได้ อยากให้ไปดูด้วยกัน แต่รับรองว่าดีมาก แล้วก็บอกว่า ถ้าสนใจ จะชวนไปดูงานที่บริษัทด้วยกันเลย จะได้มีทีมบรรยายแผนธุรกิจให้ฟังด้วย....... ผมก็ได้แต่ตอบว่า ขอคิดดูก่อน ยังไม่แน่ใจ
กลายเป็นว่า วันที่เจอเพื่อนครั้งแรกในรอบ 10 ปี คือจะชวนเข้าทำธุรกิจเครือข่ายนั่นเอง.......
เราแยกกันด้วยความรู้สึกไม่ดีนัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอแบบนี้ เมื่อประมาณปีก่อน มีเพื่อนผมอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนสมัยมหาลัยที่อยู่ชมรมเดียวกันก็โทรมาหาผม ไลน์คุยกัน คุยสักพัก ไม่กี่ครั้งชวนทำธุรกิจ พอปฏิเสธไปก็ไม่เคยติดต่อกันอีก (ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คุยกันสารพัดทุกข์สุขดิบ) สมัยก่อนหน้านี้ตอนอยู่มหาลัย ก็เคยมีเพื่อน ม.ปลาย โทรมาชวนทำธุรกิจแบบนี้
หลังจากวันนั้น เวลาเพื่อนผมคนนี้ไลน์มา ผมก็ไม่ค่อยอยากจะอ่านนัก พออ่านดู ก็มีแบบ ดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนเก่าอีก ทั่วๆไป แต่พอตอบได้ไปไม่กี่คำ ก็วกเข้าเรื่องว่า ตัดสินใจเรื่องธุรกิจได้หรือยัง ถ้าสนใจจัดนัดไป
ด้วยความสงสัย ผมก็เลยคุยกับเพื่อนที่เป้นเพื่อนสมัยเรียนนั้นแหละ ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน สรุปได้ว่า เพื่อนคนนี้จะชวนไปทำธุรกิจขายตรงครับ บริษัท Uni...... เพื่อนคนนี้มันชวนทุกคนที่รู้จักสมัยก่อนแทบจะหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครไปทำกับมัน........
วันสองวันหลังจากนั้น ไอ้เพื่อนผมคนนี้โทรมาหาผม บอกตรงๆเลยว่าไม่อยากรับ เดาได้เลยว่าจะคุยอะไร .......... แล้วก็เป็นจริง ก็คุยเรื่องเดิมน่ะแหละ ตกลงสนใจเรื่องธุรกิจไหม ผมก็บอกไปตรงๆแล้วว่าไม่สนใจ คุยกันนานมาก ไม่ยอมลดราวาศอก กว่าจะยอม เป็นสิบนาที....
สุดท้าย มันก็ไม่ติดต่อผมมาอีกเลย ทั้งไลน์ และ FB (มีกดไลค์นานๆมากๆที) ..........
ผมก็พยายามทำตัวกลางๆ ไม่อยากเสียเพื่อน ไลน์คุยบ้าง กลายเป็นโดนดึงเข้าเรื่องเก่า แถมเพื่อนมันยังบอกจะนัดเอาซีดีให้กลับไปดูที่บ้านอีก (ตอนแรกมันไม่เอามา)
นี่สรุปว่าเพื่อนเก่า มีค่าก็ต่อเมื่ออยากจะชวนทำธุรกิจเครือข่ายแค่นั้นเอง เสียความรู้สึกมากๆ คือพอเริ่มเรื่องนี้แล้ว เรายังจะเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ไหมเนี่ย คุยกับเพื่อนกลุ่มเดิม ก็ไม่มีใครอยากติดต่อกับนายนี่แล้ว เพราะหายใจเข้าออกเป็นธุรกิจเครือข่ายไปหมด คือโทรไปนี่ไม่อยากรับสายเลยทีเดียว......
มีใครเคยเจออย่างผมบ้าง กับเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันนานมาก สุดท้ายติดต่อกัน ชวนไปทำธุรกิจเฉย....... ไม่มีเรื่องอื่นเจือปน ???
ที่ผ่านมา พยายามติดต่อ ชวนคุย เหมือนกับหาโอกาสที่จะเอ่ยปากชวนเข้าทำร่วมทำธุรกิจด้วยนี่แหละ....
อย่างน้อยผมก็เห็นข้อเสียของการทำธุรกิจแบบนี้หนึ่งอย่างละคือ "เสียเพื่อน" ต่อไปถ้าเพื่อนคนนี้มีอะไรให้ช่วยเหลือติดต่อมาในอนาคต ผมก็คงจะระแวงอยู่ดีแหละครับ
จบแล้วครับ ขอระบายหน่อย เซ็งเพื่อน
เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานเจอกันแล้วทำแบบนี้ เสียความรู้สึกจริงๆ เคยเจอแบบนี้กันไหมครับ ??
หลังจากที่ผมแอดเพื่อนคนนี้ ผมก็เจอกลุ่มเพื่อนสมัย ม.ต้นอีกสองสามคนใน list ของเค้า ก็เลย add ต่อเนื่องไป ได้เพื่อนสมัยเด็กเพิ่มมาอีก รวมเป็นสามคน ดีใจมากๆ
เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน เพื่อนผมคนนี้ขอ add line และเบอร์โทร ทาง FB หลังจากให้เบอร์โทรไปก็แอดไลน์ พูดคุยกันบ้าง ถามสารทุกข์สุขดิบ เป็นยังไงบ้าง ทำงานที่ไหน เสาร์อาทิตย์ทำงานไหม เหนื่อยหรือเปล่า เรื่องทั่วๆไป แต่งงานหรือยัง อะไรแบบนี้ทั่วไป
จนกระทั่งเพื่อนผมนัดกินข้าวกัน บอกว่า ไม่ได้เจอกันนาน จะได้คุยกันซะที ตอนแรกก็เลือกระหว่างวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ ผมก็เสนอว่าน่าจะลองนัดเจอเพื่อนหลายๆคนไปเลยเหมือนมีตติ้งกัน เพื่อนบอกว่าหลายคนนัดยาก และอีกอย่างเค้าว่าง นัดเมื่อไรก็ได้ นั่งรถไฟฟ้าไปหา เมื่อมีวันที่ว่างก็ตกลงว่าจะนัดเจอกันที่ห้างแห่งหนึ่ง
เพื่อนดูเปลี่ยนไปมาก สมัยก่อนอ้วนท้วนสมบูรณ์ใส่แว่น เป็นพวกรักเรียนมากๆ ตอนนี้ผมลงเยอะเลยทีเดียว
เราเจอกันตอนเย็นวันหนึ่ง นัดกินข้าวกัน ก็คุยกันว่าร้านอะไรดี เพื่อนบอกว่า อยากเอาร้านที่นั่งสบายๆ ไม่ได้เจอกันนาน จะได้คุยกันสบายๆสนุกๆ ก็เลยเลือกร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างนั้น (ตอนแรกกะจะชวนกินเนื้อย่างละ 5555)
หลังจากที่เข้าร้านกัน สั่งอาหาร ระหว่างกินกัน ก็ถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไป จนกระทั่งกินเสร็จ...... เพื่อนผมก็สั่งของหวานมา แล้วถามว่าผมจะสั่งของหวานอะไรไหม ปกติผมไม่กินของหวานอ่ะนะ แต่ก็เลยตามเลย......... ดีกว่าดูเพื่อนกินคนเดียว
เพื่อนๆเดาได้ไหมครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ..............
ในขณะที่รอของหวานอยู่นั่น เพื่อนผมก็เอ่ยประโยคยอดฮิตสุดคลาสสิค ติดลมบน.......
"นายๆ เราอยากชวนนายไปทำโปรเจค... เป็นโปรเจคที่ดีมากๆเลย.... เราว่ามันดีและเราสนใจ เราเห็นว่านายเป็นเพื่อนรักของเรา เราเลยอยากชวนมาทำโปรเจคด้วยกัน .............................."
จบเลยครับ...... สรุปเพื่อนผมจะชวนผมไปทำธุรกิจลูกโซ่ หรือ MLM แน่แล้ว...... ผมก็หน้าชาไปเลย........ ฟังเพื่อนผมพูดไปเรื่อยๆ
มันเอา ipad ขึ้นมาโชว์แผนภาพ โชว์ว่าโปรเจคของมันดียังไง อะไรแค่ไหน แถมยังบอกว่า มีดารา นักธุรกิจ หมอ อะไรสารพัดที่ทำโปรเจคร่วมกันอยู่...
กลายเป็นว่า บทสนทนาหลักหลักจากนี้กลายเป็น ชวนผมเข้าทำธุรกิจซะงั้น...... ซึ่งผมไม่สนอยู่แล้ว
ทนฟังจนเพื่อนพูดจบ เพื่อนก็ถามว่าสนใจไหม
ผมถามอะไรก็ไม่ตอบ บริษัทอะไรก็ยังไม่บอก พอถามก็บอกว่า ยังบอกไม่ได้ อยากให้ไปดูด้วยกัน แต่รับรองว่าดีมาก แล้วก็บอกว่า ถ้าสนใจ จะชวนไปดูงานที่บริษัทด้วยกันเลย จะได้มีทีมบรรยายแผนธุรกิจให้ฟังด้วย....... ผมก็ได้แต่ตอบว่า ขอคิดดูก่อน ยังไม่แน่ใจ
กลายเป็นว่า วันที่เจอเพื่อนครั้งแรกในรอบ 10 ปี คือจะชวนเข้าทำธุรกิจเครือข่ายนั่นเอง.......
เราแยกกันด้วยความรู้สึกไม่ดีนัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอแบบนี้ เมื่อประมาณปีก่อน มีเพื่อนผมอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนสมัยมหาลัยที่อยู่ชมรมเดียวกันก็โทรมาหาผม ไลน์คุยกัน คุยสักพัก ไม่กี่ครั้งชวนทำธุรกิจ พอปฏิเสธไปก็ไม่เคยติดต่อกันอีก (ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คุยกันสารพัดทุกข์สุขดิบ) สมัยก่อนหน้านี้ตอนอยู่มหาลัย ก็เคยมีเพื่อน ม.ปลาย โทรมาชวนทำธุรกิจแบบนี้
หลังจากวันนั้น เวลาเพื่อนผมคนนี้ไลน์มา ผมก็ไม่ค่อยอยากจะอ่านนัก พออ่านดู ก็มีแบบ ดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนเก่าอีก ทั่วๆไป แต่พอตอบได้ไปไม่กี่คำ ก็วกเข้าเรื่องว่า ตัดสินใจเรื่องธุรกิจได้หรือยัง ถ้าสนใจจัดนัดไป
ด้วยความสงสัย ผมก็เลยคุยกับเพื่อนที่เป้นเพื่อนสมัยเรียนนั้นแหละ ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน สรุปได้ว่า เพื่อนคนนี้จะชวนไปทำธุรกิจขายตรงครับ บริษัท Uni...... เพื่อนคนนี้มันชวนทุกคนที่รู้จักสมัยก่อนแทบจะหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครไปทำกับมัน........
วันสองวันหลังจากนั้น ไอ้เพื่อนผมคนนี้โทรมาหาผม บอกตรงๆเลยว่าไม่อยากรับ เดาได้เลยว่าจะคุยอะไร .......... แล้วก็เป็นจริง ก็คุยเรื่องเดิมน่ะแหละ ตกลงสนใจเรื่องธุรกิจไหม ผมก็บอกไปตรงๆแล้วว่าไม่สนใจ คุยกันนานมาก ไม่ยอมลดราวาศอก กว่าจะยอม เป็นสิบนาที....
สุดท้าย มันก็ไม่ติดต่อผมมาอีกเลย ทั้งไลน์ และ FB (มีกดไลค์นานๆมากๆที) ..........
ผมก็พยายามทำตัวกลางๆ ไม่อยากเสียเพื่อน ไลน์คุยบ้าง กลายเป็นโดนดึงเข้าเรื่องเก่า แถมเพื่อนมันยังบอกจะนัดเอาซีดีให้กลับไปดูที่บ้านอีก (ตอนแรกมันไม่เอามา)
นี่สรุปว่าเพื่อนเก่า มีค่าก็ต่อเมื่ออยากจะชวนทำธุรกิจเครือข่ายแค่นั้นเอง เสียความรู้สึกมากๆ คือพอเริ่มเรื่องนี้แล้ว เรายังจะเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ไหมเนี่ย คุยกับเพื่อนกลุ่มเดิม ก็ไม่มีใครอยากติดต่อกับนายนี่แล้ว เพราะหายใจเข้าออกเป็นธุรกิจเครือข่ายไปหมด คือโทรไปนี่ไม่อยากรับสายเลยทีเดียว......
มีใครเคยเจออย่างผมบ้าง กับเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันนานมาก สุดท้ายติดต่อกัน ชวนไปทำธุรกิจเฉย....... ไม่มีเรื่องอื่นเจือปน ???
ที่ผ่านมา พยายามติดต่อ ชวนคุย เหมือนกับหาโอกาสที่จะเอ่ยปากชวนเข้าทำร่วมทำธุรกิจด้วยนี่แหละ....
อย่างน้อยผมก็เห็นข้อเสียของการทำธุรกิจแบบนี้หนึ่งอย่างละคือ "เสียเพื่อน" ต่อไปถ้าเพื่อนคนนี้มีอะไรให้ช่วยเหลือติดต่อมาในอนาคต ผมก็คงจะระแวงอยู่ดีแหละครับ
จบแล้วครับ ขอระบายหน่อย เซ็งเพื่อน