มั่นใจโกยรายได้ทะลุ 6 หมื่นล้าน ‘หมอเสริฐ’ ลุยซื้อกิจการ
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 12:05:26 น.
โรงพยาบาลกรุงเทพโตไม่หยุด “หมอเสริฐ” ทุ่มงบลงทุน 6-7,000 ล้านบาท ลุยซื้อกิจการเพิ่มตามเป้าปีนี้ครบ 50 แห่ง ระบุกฎอัยการศึกไร้ผลกระทบ ลูกค้าต่างชาติยังแห่ใช้บริการเพียบ หวังปั้นรายได้สิ้นปีทะลุ 60,000 ล้านบาท
นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้วางงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% จากรายได้ทั้งหมดที่คาดว่าจะทำได้ในปีนี้กว่า 60,000 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการโรงพยาบาลและสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ตามเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้ว่าในปีนี้จะมีโรงพยาบาลทั้งหมด 50 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 43 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลเปาโล-รังสิต โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี และโรงพยาบาลหาดจอมเทียน-พัทยา ส่วนแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท การกู้ยืมจากสถาบันการเงินหรือการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ในปี 2557 บริษัทมีโรงพยาบาล 38 แห่ง และตั้งแต่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยเปิดโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง คือโรงพยาบาลเมืองเพชร ขนาด 255 เตียง และโรงพยาบาลศรีระยอง 195 เตียง และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 3 แห่ง ซึ่งทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลทั้งสิ้น 43 แห่งในปัจจุบัน ส่วนที่เหลือจะมาจากการซื้อกิจการและการสร้างใหม่
ทั้งนี้ ในส่วนของกลยุทธ์การซื้อกิจการโรงพยาบาล ข้อดีคือสามารถสร้างกำไรได้ทันที แต่หลังจากนั้น 2-3 ปีจะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับปรุง เนื่องจากโรงพยาบาลที่เปิดดำเนินการมาแล้วเป็นเวลานานจะต้องมีการปรับปรุงเป็นเรื่องปกติ ส่วนการลงทุนเพื่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่นั้น ในช่วง 2-3 ปีแรกจะต้องแบกรับผลขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องมีการปรับปรุงอีก
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1 ปีนี้คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้นในสัดส่วนถึง 60% และผู้ป่วยในประเทศ 40%
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการประกาศกฎอัยการศึกที่ผ่านมาไม่กระทบมาก เพราะคนไข้ต่างชาติยังเดินทางมารักษาตามปกติ โดยปัจจุบันบริษัทต่างชาติที่มาใช้บริการเป็นอันดับหนึ่งคือ ญี่ปุ่นรองลงมาเป็นพม่า อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และออสเตรเลีย
ด้านนางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการฯ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาออกหุ้นกู้ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่ง และหากการเจรจาซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ เหมือนเมื่อปีที่แล้วที่บริษัทซื้อกลุ่มโรงพยาบาลสนามจันทร์และกลุ่มโรงพยาบาลสิริโรจน์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มูลค่าแห่งละ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ค่อนข้างถูก ประกอบกับอันดับเครดิตของบริษัทดีขึ้นจาก A+ เป็น AA- ทำให้ออกหุ้นกู้ได้ง่าย
ที่มา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1429419301
มั่นใจโกยรายได้ทะลุ 6 หมื่นล้าน ‘หมอเสริฐ’ ลุยซื้อกิจการ
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 12:05:26 น.
โรงพยาบาลกรุงเทพโตไม่หยุด “หมอเสริฐ” ทุ่มงบลงทุน 6-7,000 ล้านบาท ลุยซื้อกิจการเพิ่มตามเป้าปีนี้ครบ 50 แห่ง ระบุกฎอัยการศึกไร้ผลกระทบ ลูกค้าต่างชาติยังแห่ใช้บริการเพียบ หวังปั้นรายได้สิ้นปีทะลุ 60,000 ล้านบาท
นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้วางงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% จากรายได้ทั้งหมดที่คาดว่าจะทำได้ในปีนี้กว่า 60,000 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการโรงพยาบาลและสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ตามเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้ว่าในปีนี้จะมีโรงพยาบาลทั้งหมด 50 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 43 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงพยาบาลเปาโล-รังสิต โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี และโรงพยาบาลหาดจอมเทียน-พัทยา ส่วนแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท การกู้ยืมจากสถาบันการเงินหรือการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ในปี 2557 บริษัทมีโรงพยาบาล 38 แห่ง และตั้งแต่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยเปิดโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง คือโรงพยาบาลเมืองเพชร ขนาด 255 เตียง และโรงพยาบาลศรีระยอง 195 เตียง และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 3 แห่ง ซึ่งทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลทั้งสิ้น 43 แห่งในปัจจุบัน ส่วนที่เหลือจะมาจากการซื้อกิจการและการสร้างใหม่
ทั้งนี้ ในส่วนของกลยุทธ์การซื้อกิจการโรงพยาบาล ข้อดีคือสามารถสร้างกำไรได้ทันที แต่หลังจากนั้น 2-3 ปีจะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับปรุง เนื่องจากโรงพยาบาลที่เปิดดำเนินการมาแล้วเป็นเวลานานจะต้องมีการปรับปรุงเป็นเรื่องปกติ ส่วนการลงทุนเพื่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่นั้น ในช่วง 2-3 ปีแรกจะต้องแบกรับผลขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องมีการปรับปรุงอีก
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1 ปีนี้คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้นในสัดส่วนถึง 60% และผู้ป่วยในประเทศ 40%
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการประกาศกฎอัยการศึกที่ผ่านมาไม่กระทบมาก เพราะคนไข้ต่างชาติยังเดินทางมารักษาตามปกติ โดยปัจจุบันบริษัทต่างชาติที่มาใช้บริการเป็นอันดับหนึ่งคือ ญี่ปุ่นรองลงมาเป็นพม่า อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และออสเตรเลีย
ด้านนางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการฯ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาออกหุ้นกู้ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินประเภทหนึ่ง และหากการเจรจาซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ เหมือนเมื่อปีที่แล้วที่บริษัทซื้อกลุ่มโรงพยาบาลสนามจันทร์และกลุ่มโรงพยาบาลสิริโรจน์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มูลค่าแห่งละ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ค่อนข้างถูก ประกอบกับอันดับเครดิตของบริษัทดีขึ้นจาก A+ เป็น AA- ทำให้ออกหุ้นกู้ได้ง่าย
ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1429419301