...เมืองจันทน์เป็นเมืองเล็กๆ แต่น่ารัก
มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจค่อนข้างเยอะแม้จะเรียบๆไม่หวือหวา
แต่ทุกที่ที่เราไป เราสัมผัสได้ว่ามีเสน่ห์อยู่ในตัวทุกที่
อาจด้วยที่จังหวัดของเขาสามารถอนุรักษ์ความเป็นเอกลักษณ์ของเขาไว้ได้ดีด้วยแน่ๆ
เลยทำให้เรารู้สึกอินในการท่องเที่ยวไปด้วยจริงๆ
แม้เราจะไม่ได้ไปทานอาหารแนะนำขึ้นชื่อของจังหวัด ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ที่
และเหตุผลในการไปของเราคือไปร่วมเฉลิมฉลองงานมงคลสมรสของเพื่อน
แต่ก็เป็นเมืองที่ทำให้เราตกหลุมรักได้อย่างง่ายดายอย่างแท้จริง....
................................................
ดังนั้นเพียงแค่ 2 วัน 1คืน นี่ขอแนะนำเลยค่ะ กำลังดีต่อการพักผ่อนและชาร์ตแบตให้กับร่างกาย
มุ่งสู่จุดหมายแรก ถนนของจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด เส้นทางเลียบชายหาดหาดคุ้งวิมาน
“ถนนเฉลิมบูรพาทิต” เส้นทางที่วิ่งสบายๆตลอดทั้งเส้น
มีจุดจอดรถให้พักเที่ยวกันง่ายๆ เราก็เลยได้แวะถ่ายรูปกันแบบสบายๆ
ลมพัดเย็นสบายๆ มีแดดร้อนๆ ขัดกัน จัดว่าดีงามมากมาย
เดินไม่ระวัง มีตกร่องหินแน่ๆ
ระหว่างกลางเส้นถนน มีจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยและนี่คือ "จุดชมวิวเนินนางพญา" มีที่จอดรถสะดวกสบายอีกเช่นเคย
ในส่วนของวิวนั้นงดงามตามท้องเรื่องค่ะ
เราเลือกพักที่ "Seashell Village” หาดเจ้าหลาว ( ได้ราคาพิเศษมาจากงานท่องเที่ยวไทยพอดี )
บรรยากาศภายในรีสอร์ทเรียบง่ายสบายตาสุดๆ เสมือนมีหาดส่วนตัวเลยทีเดียว
มีเรือให้เราได้พายเล่นด้วย แต่ตอนลงน้ำทะเลอาจต้องระวังหินหรือเศษหอยบาดเท้าด้วยนะคะ
ดูเป็นที่พักที่เหมาะแก่การพักผ่อนมาก จนอยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายมาก
แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะวางมือจาก Social Network ต่างๆเลยได้ไหม อดไม่ได้ที่จะหยิบมาเล่นอยู่ดี
แสงแดดยามเช้า ช่วยเติมความซ่าให้กับชีวิต
ห้องพักของเรามีระเบียงติดทะเล คือเดินออกจากห้องมาก็เจอทะเลเลยด้วย เย้ยย
โดยในรีสอร์ทนี้ยังมีส่วนของการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้เราได้ศึกษาดูชมด้วย
และสะพานไม้ที่ยื่นไปในทะเล ก็ได้มุมถ่ายรูปไปสิคะ คริๆ
วันที่ 2 หลังจาก Check Out ขับรถเลยจากรีสอร์ทขึ้นมาจะเป็น "สะพานตากสินมหาราช (สะพานแหลมสิงห์)"
เขาว่ากันว่าสะพานนี้เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออกกันเลยทีเดียวเชียว กลั้นหายใจข้ามสะพานแล้วอธิษฐานก็จะสมหวังด้วย
แต่เนื่องจากเราจะจอดแวะถ่ายรูปชมวิว กลั้นหายใจในจุดนี้คงไม่เวิร์คแน่
วิวจากบนสะพานตากสินมหาราช กับวิถีการประมงของชาวบ้าน
กว้างไกลสุดสายตา
เราแวะไปไหว้พระในวัดบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ภายในหมู่บ้านหลังจากลงสะพานแหลมสิงห์มาพอดี
ภายในวัดมีการบูรณะบริเวณโบส์ถใหม่อยู่พอดีค่ะ หลวงพี่ให้พวกเราขึ้นไปเยี่ยมชมได้ค่ะ
และท่านยังพาเราเดินชมไปทั่วๆวัดด้วย ในวัดนี้จะมีท่าเทียบเรือสำหรับเรือประมงของชาวบ้านด้วยนะคะ
เด็กๆต่างพากันให้ความสนใจค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับเข้าไปยังตัวเมือง
แม้อากาศร้อนแต่ก็ยังรู้สึกดีกับการวิ่งตามรถไอติมมิ้งๆของลุงอยู่
ไม่มีอะไรจะจัดการกับความร้อนระดับนี้ไปได้ดีเท่ากับไอติมใส่ขนมปัง 10 บาทละลายลงมือได้อีกแล้ว
ต่อไปก็เดินหา "ชุมชนริมน้ำจันทบูร”
เดินวนหากันเป็นวงกลมรอบเมืองเลย
และเมื่อได้เข้าไปในชุมชนแล้วเราจะสัมผัสได้กับวิถีชีวิตที่ยังคงแบบดั้งเดิมและเรียบง่ายทันที
เดินไปก็พาลให้นึกถึงสมัยยังเป็นเด็ก หัวข้อในการคุยระหว่างเดินเลยหนีไม่พ้นเรื่องราวในอดีตนั่นเอง ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
ในชุมชนนี้ยังมีที่พัก และร้านอาหารรองรับสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
และสถานที่สุดท้ายที่จะพลาดไม่ได้ "อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
เป็นสถานทีที่งดงามมากจริงๆ
หลังจากนั้นก็เดินชมเมืองกันต่ออีกหน่อยพอเรียกเหงื่อ
ซึ่งจริงๆก็คือเดินอ้อมเพราะหลงนั่นแหละค่า แต่ยังไงก็สบายๆ
สุดท้ายนี้อยากจะบอก "หลงเสน่ห์เมืองจันท์" เมืองต้องห้าม...พลาด
หลง “มนต์เสน่ห์เมืองจันท์”
...เมืองจันทน์เป็นเมืองเล็กๆ แต่น่ารัก
มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจค่อนข้างเยอะแม้จะเรียบๆไม่หวือหวา
แต่ทุกที่ที่เราไป เราสัมผัสได้ว่ามีเสน่ห์อยู่ในตัวทุกที่
อาจด้วยที่จังหวัดของเขาสามารถอนุรักษ์ความเป็นเอกลักษณ์ของเขาไว้ได้ดีด้วยแน่ๆ
เลยทำให้เรารู้สึกอินในการท่องเที่ยวไปด้วยจริงๆ
แม้เราจะไม่ได้ไปทานอาหารแนะนำขึ้นชื่อของจังหวัด ไปเที่ยวแค่ไม่กี่ที่
และเหตุผลในการไปของเราคือไปร่วมเฉลิมฉลองงานมงคลสมรสของเพื่อน
แต่ก็เป็นเมืองที่ทำให้เราตกหลุมรักได้อย่างง่ายดายอย่างแท้จริง....
................................................
ดังนั้นเพียงแค่ 2 วัน 1คืน นี่ขอแนะนำเลยค่ะ กำลังดีต่อการพักผ่อนและชาร์ตแบตให้กับร่างกาย
มุ่งสู่จุดหมายแรก ถนนของจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด เส้นทางเลียบชายหาดหาดคุ้งวิมาน
“ถนนเฉลิมบูรพาทิต” เส้นทางที่วิ่งสบายๆตลอดทั้งเส้น
มีจุดจอดรถให้พักเที่ยวกันง่ายๆ เราก็เลยได้แวะถ่ายรูปกันแบบสบายๆ
ลมพัดเย็นสบายๆ มีแดดร้อนๆ ขัดกัน จัดว่าดีงามมากมาย
เดินไม่ระวัง มีตกร่องหินแน่ๆ
ระหว่างกลางเส้นถนน มีจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยและนี่คือ "จุดชมวิวเนินนางพญา" มีที่จอดรถสะดวกสบายอีกเช่นเคย
ในส่วนของวิวนั้นงดงามตามท้องเรื่องค่ะ
เราเลือกพักที่ "Seashell Village” หาดเจ้าหลาว ( ได้ราคาพิเศษมาจากงานท่องเที่ยวไทยพอดี )
บรรยากาศภายในรีสอร์ทเรียบง่ายสบายตาสุดๆ เสมือนมีหาดส่วนตัวเลยทีเดียว
มีเรือให้เราได้พายเล่นด้วย แต่ตอนลงน้ำทะเลอาจต้องระวังหินหรือเศษหอยบาดเท้าด้วยนะคะ
ดูเป็นที่พักที่เหมาะแก่การพักผ่อนมาก จนอยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายมาก
แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะวางมือจาก Social Network ต่างๆเลยได้ไหม อดไม่ได้ที่จะหยิบมาเล่นอยู่ดี
แสงแดดยามเช้า ช่วยเติมความซ่าให้กับชีวิต
ห้องพักของเรามีระเบียงติดทะเล คือเดินออกจากห้องมาก็เจอทะเลเลยด้วย เย้ยย
โดยในรีสอร์ทนี้ยังมีส่วนของการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้เราได้ศึกษาดูชมด้วย
และสะพานไม้ที่ยื่นไปในทะเล ก็ได้มุมถ่ายรูปไปสิคะ คริๆ
วันที่ 2 หลังจาก Check Out ขับรถเลยจากรีสอร์ทขึ้นมาจะเป็น "สะพานตากสินมหาราช (สะพานแหลมสิงห์)"
เขาว่ากันว่าสะพานนี้เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออกกันเลยทีเดียวเชียว กลั้นหายใจข้ามสะพานแล้วอธิษฐานก็จะสมหวังด้วย
แต่เนื่องจากเราจะจอดแวะถ่ายรูปชมวิว กลั้นหายใจในจุดนี้คงไม่เวิร์คแน่
วิวจากบนสะพานตากสินมหาราช กับวิถีการประมงของชาวบ้าน
กว้างไกลสุดสายตา
เราแวะไปไหว้พระในวัดบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ภายในหมู่บ้านหลังจากลงสะพานแหลมสิงห์มาพอดี
ภายในวัดมีการบูรณะบริเวณโบส์ถใหม่อยู่พอดีค่ะ หลวงพี่ให้พวกเราขึ้นไปเยี่ยมชมได้ค่ะ
และท่านยังพาเราเดินชมไปทั่วๆวัดด้วย ในวัดนี้จะมีท่าเทียบเรือสำหรับเรือประมงของชาวบ้านด้วยนะคะ
เด็กๆต่างพากันให้ความสนใจค่ะ
หลังจากนั้นเราก็กลับเข้าไปยังตัวเมือง
แม้อากาศร้อนแต่ก็ยังรู้สึกดีกับการวิ่งตามรถไอติมมิ้งๆของลุงอยู่
ไม่มีอะไรจะจัดการกับความร้อนระดับนี้ไปได้ดีเท่ากับไอติมใส่ขนมปัง 10 บาทละลายลงมือได้อีกแล้ว
ต่อไปก็เดินหา "ชุมชนริมน้ำจันทบูร”
เดินวนหากันเป็นวงกลมรอบเมืองเลย
และเมื่อได้เข้าไปในชุมชนแล้วเราจะสัมผัสได้กับวิถีชีวิตที่ยังคงแบบดั้งเดิมและเรียบง่ายทันที
เดินไปก็พาลให้นึกถึงสมัยยังเป็นเด็ก หัวข้อในการคุยระหว่างเดินเลยหนีไม่พ้นเรื่องราวในอดีตนั่นเอง ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
ในชุมชนนี้ยังมีที่พัก และร้านอาหารรองรับสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
และสถานที่สุดท้ายที่จะพลาดไม่ได้ "อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
เป็นสถานทีที่งดงามมากจริงๆ
หลังจากนั้นก็เดินชมเมืองกันต่ออีกหน่อยพอเรียกเหงื่อ
ซึ่งจริงๆก็คือเดินอ้อมเพราะหลงนั่นแหละค่า แต่ยังไงก็สบายๆ
สุดท้ายนี้อยากจะบอก "หลงเสน่ห์เมืองจันท์" เมืองต้องห้าม...พลาด