เหตุการณ์เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานะคะ อันที่จริงเคยเจอเหตุการณ์ไม่เหมาะสมมาบ้างในสถานที่ เฉพาะสำหรับแม่และเด็ก และคนพิการ อันได้แก่ ห้องให้นมหรือ ห้องสำหรับแม่และเด็ก ที่จอดรถสำหรับแม่และเด็ก //ที่จอดรถสุภาพสตรี /ที่จอดรถคนพิการ แต่ที่เจอล่าสุดคิดว่าไม่ควรอย่างยิ่งค่ะ
ดิฉันคุณแม่ลูกสอง ลูกคนโต4ขวบคนที่สอง2ขวบ ติดตามสามีไปอบรมที่จังหวัดหนึ่ง และระหว่างรอ พวกเราสามชีวิตก็หอบหิ้วกันไปเดินเล่น shoppingที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง....
เดินเล่น shoppingกันเพลิดเพลิน ของเริ่มเยอะ ลูกเริ่มเหนื่อย เจ้าตัวเล็กเริ่มอยากกินนมนอน ดิฉันเลยพุ่งตรงไปยังห้องให้นม .... พอเปิดประตูเข้าไป ห้องให้นมดูแปลกไป ปกติไปใช้บริการบ่อยอยู่ค่ะ ที่นี่ เพราะไปเที่ยวจังหวัดนี้บ่อย .... ที่แปลกคือ ในห้องโถง โซฟาปกติมี2ตัว นี่หายไป1ตัว ห้องให้นมที่มีม่านปิด มี2ห้อง 1ห้องปิดม่าน อีก1ห้องว่าง ห้องที่ปิดม่านมีเสียงคนหญิงชาย คุยกัน หัวเราะกันสนุกสนาน!!!! นาทีนั้นดิฉันมั่นใจเกิน80%ว่า คงไม่ใช่แม่กำลังให้นมทารก แล้วคืออะไร???
ดิฉัน เดินไปห้องว่าง ซึ่งอยู่ติดกัน เข็นรถเข็นลูกเข้าไป ตอนนี้คนโตหลับแล้ว เลยคว้าคนเล็กที่กำลังนอนบนตักพี่สาว มากินนม ระหว่างให้นมน้อง ได้ยินเสียงห้องข้างๆ คุยหยอกล้อกัน หัวเราะกันฟังดูhappyมาก ด้วยอารมณ์ เหนื่อย กลัวลูกตื่น กลัวเจ้าตัวเล็กจะสอดรู้สอดเห็นไม่ยอมกินนม ไปทะลึ่งเปิดม่านห้องข้างๆ เพราะเสียงค่อนข้างดัง เลยตัดสินใจ เปิดม่านห้องตัวเองไว้ เดินมาเปิดประตูห้องให้นม และเดินไปหาพนักงานห้างที่ใกล้ที่สุด,...ระหว่างฟ้อง สายตาก็จับอยู่ที่ลูกคนโตที่นอนหลับตลอดเวลา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ดิฉัน:โทษนะคะ ห้องให้นมนี่ผู้ชายเข้าได้ด้วยเหรอคะ?
พนักงาน: หมายถึงพ่อเด็กเหรอคะ?
ดิฉัน: คิดว่า ไม่ใช่ค่ะ เพราะเสียงหยอกล้อกัน คือกลัวไม้ปลอดภัยน่ะค่ะ อีกอย่างถึงพ่อเด็ก เค้าก็คงไม่ต้องเข้าไช่วยให้นมในม่านนะคะ
พนักงาน;สักครู่นะคะ
.................
ดิฉัน รีบกลับมาประจำที่ ม่านไม่ปิดนะคะ อยากรู้อยากเห็นค่ะ สักครู่เดียว มีพนักงานห้างเดินเข้ามา แบบ ก้าวฉับๆๆ ฟังเสียงที่ห้องนั้นคุยกัน ก่อนและตรงไปยังห้องเจ้าปัญหา เปิดม่านอย่างไว... ดิฉันได้ยินชัดเจน
ไม่ต้องเงี่ยหูให้เหนื่อย อิอิ
พนักงาน: โทษนะคะ ที่นี่คือห้องสำหรับแม่และเด็ก ไม่ใช่ห้องที่คุณจะมารีแล็กซ์ มาพักผ่อนกัน เชิญออกไปค่ะ
คนมักง่าย: ..........
พนักงาน: และการยกขาขึ้นแบบนั้นเป็นกิริยาที่น่าเกลียดมากเลยค่ะ ช่วยเอาโซฟาไปคืนที่เดิมด้วยนะคะ และที่นี่ติดป้ายชัดเจนแล้วว่า ห้องสำหรับแม่และเด็กนะคะ อ่านด้วยนะคะ
มีวัยรุ่นมักง่ายชาย2 หญิง1 เดินออกมา ยังหัวร่อ ต่อกระซิกกัน เหมือนเป็นเรื่องตลก !!!!! เข็นโซฟามาวางคืนในห้องโถง และเดินหัวเราะออกไป!!!!!
ในฐานะ คนที่มีสิทธิ์ใช้บริการสถานที่ตรงนั้นโดยชอบธรรม ดิฉันรู้สึกละอายแทนกลุ่นคนเหล่านั้นอย่างมาก พวกเค้าไม่รู้สึกกระดากใจบ้างเหรอ?? จิตสำนึกดีๆ หายไปไหนหมดแล้ว ??? หรือ อ่านหนังสือไม่ออก ??? หรืออ่านป้ายสัญลักษณ์ไม่เข้าใจ??
ถ้ามีคุณแม่ลูกท่านอื่นเข้ามา แล้วห้องเต็ม โซฟาที่โถงก็หายไป เค้าจะทำอย่างไร ไม่ต้องนั่งพื้นให้นมลูกหรอกเหรอ???? ปกติดิฉันขนาดลูก2 เวลาจะเข้าห้องแม่และเด็ก ถ้าสามีมาด้วย เค้ายังไม่เคยก้าวเข้าไปเลยค่ะ เพราะสามีดิฉันอ่านหนังสือออก ......
ตอนแรก ดิฉันตั้งใจจะ นั่งที่ห้องโถง เพราะดิฉันลูก2แล้ว ยางอายเรื่องควักนมให้ลูกกินหายไปหมดแล้วค่ะ ว่าจะเว้นห้องให้คนอื่นที่เข้ามา เพราะเข้าใจเลยว่า ตอนมีลูกคนแรก เวลาจะให้นมลูกที มันเขิน อาย มันต้องหลบมุม และเด็กเล็กๆ พอกินนม คือจะหลับ เค้าต้องการความสงบ.... แต่นี่ คนเหล่านั้นคิดได้อย่างไร????มาแย่งห้องให้นมทารก???เอามานั่งคุย ตากแอร์ห้าง!!
ดูจากสารร่างแล้ว น่าจะอายุราวๆ20 ก็ไม่เด็กแล้วนะคะ .... เข้าไปนั่งทำอะไรกัน??? แล้วที่พนักงานว่าไปว่า นั่งไม่สุภาพ มันอย่างไรกัน???
และไหนๆก็พูดกันถึงเรื่องพื้นที่เฉพาะแบบนี้แล้ว อีกเรื่องที่น่าตกใจคือ ที่จอดรถที่มีป้ายเขียนหรือสัญลักษณ์ว่า สำหรับสุภาพสตรี สำหรับแม่และเด็ก สำหรับคนพิการ มันเป็นที่จอดที่ใกล้ทางเข้าห้างที่สุด สะดวกที่สุด ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ กลุ่มบุคคลตามที่ป้ายเค้าแจ้งไว้....แต่ไม่น่าเชื่อว่า
....... ประชากรกำลังจะล้นโลก เพราะที่จอดรถแม่และเด็กจะเต็มตลอด ไม่น่าเชื่อว่า มีผู้ชายมาคนเดียวบ้าง สองสามคนบ้าง มาจอดรถในที่จอดแม่และเด็ก!!!!! นี่ประเทศเรา ผู้ชายเป็นแม่ได้แล้วเหรอ??? แถมไม่มีลูกมาด้วยอีกต่างหาก!!!! แล้วบางครั้งเคยเห็นผู้หญิง มาจอด แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่แม่และไม่มีทีท่าว่าจะเป็นแม่เพราะไม่เหมือนคนท้องสักนิด เพราะล่อส้นสูงปรี๊ดขนาดนั้น มาจอดในที่แม่และเด็ก!!!!แล้วลูกเค้าล่ะ หรือจะเป็นกุมาร ไม่มีใครเห็น ตัวเองเห็นคนเดียว !!!!
ดิฉัน ในฐานะคุณแม่ลูกสอง ถ้าว่างจะพาลูกๆไปห้างค่ะ เพราะ
1. ดิฉันเลี้ยงลูกเอง ไม่ไว้ใจใคร ไม่สามารถฝากใครไว้ได้ ไม่มีผู้ช่วย ไปไหนก็หอบหิ้วกันไป ไปทำงานก็พาไป
2. ดิฉันเคยดีใจ ที่ทางห้างสรรพสินค้าเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มลูกค้าตัวเล็กๆ อย่างดิฉัน อุตส่าห์กันที่จอดรถไว้ให้ แต่ ไม่เคยได้ใช้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่า มีผู้ชาย มีผู้หญิงที่มีลูกเป็นกุมาร มาแย่งตลอดๆ
.....หลายคนอาจบอกว่า ...ก็ที่ว่างอ่ะ แบบรีบ แบบมันสะดวก แบบมักง่าย แบบไม่เห็นมีใครจอด แล้วคุณเคยลองนึกไปไหม ว่า อาจจะมีคนที่เค้ามีสิทธิ์มาจอดที่ตรงนี้จริงๆ เค้าต้องการมาจอด แต่โดนคนมักง่ายแบบนั้นแย่งไปแล้ว บ่อยครั้งที่ดิฉัน ต้องหอบทั้งลูก ทั้งของ เดินแสนไกล เพื่อเข้าห้าง หรืออาจมีคนถามอีก ว่า แล้วจะมาทำไม ในเมื่อลำบาก.... ตอบไว้ก่อนเลยว่า ขอแสดงความเวทนาด้วยสำหรับคนที่คิดจะถามคำถามนี้ เพราะคุณคงไม่เคยมีความรัก คงไม่เคยได้รู้ซึ้งถึงคำว่า ครอบครัว และตราบใดที่คุณยังไม่มีลูก คุณจะไม่รู้เลยว่า ไม่ว่ามนุษย์แม่ไปไหน ก็อยากหอบลูกไปด้วย.... ห้างก็คงยินดีต้อนรับเหล่ามนุษย์แม่ ไม่งั้นจะมีที่จอดเฉพาะให้เหรอคะ ไม่งั้นจะมีพื้นที่ /ห้องเฉพาะให้เหรอคะ จริงไหม???
....ที่จอดรถคนพิการอีกอย่าง น่าตกใจมากว่า คนปัจจุบันพิการกันมากขึ้น ที่จอดเต็มตลอด แต่พอเดินมาขึ้นรถ หรือพอก้าวลงจากรถ...ดูไปก็ไม่น่าพิการ หรือพิการสมอง????
บางคนอาจคิดว่า เรื่องนี้คือปัญหาเล็กๆน้อยๆ แต่ดิฉันคิดว่า มันคือปัญหาใหญ่มาก เพราะมันสื่อให้เห็นถึงความมักง่าย ความเห็นแก่ตัว ความไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่น คนเหล่านี้ อาจเป็นหนึ่งในพวกที่ทิ้งขยะไม่ลงถัง ทำให้บ้านเมืองสกปรก อาจเป็นหนึ่งในคนที่แอบกินของ ขนม ที่วางขายในห้างแล้วเอาเปลือกซุกตามชั้นวางของ อาจเป็นหนึ่งในคนที่ เอาเปลือกขนม แก้วน้ำดื่มที่แจกในห้าง ใส่ทิ้งไว้ในตะกร้าหรือรถเข็นของห้าง แบบกินเสร็จแล้วทิ้งเปลือก คิดเงินเสร็จเอาไปแต่ของตัวเอง ขยะใส่ไว้ช่าง
มัน คนข้างหลังค่อยเอาทิ้งเอง อาจเป็นหนึ่งในคนที่เอาหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้ว ป้ายตามเบาะรถเมย์ เบาะรถสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะ คนเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในคนที่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลอง คนเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในคนที่เอาหมาแมว มาเดินเล่น แล้วปล่อยให้ถ่ายเรี่ยราด ในที่สาธารณะแล้วสะบัดก้นจากไป โดยไม่คิดเลยว่าคนที่เดินมาอาจเหยียบได้ คนเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในคนที่สูบบุหรี่พ่นควันในที่สาธารณะ ในที่ห้ามสูบ แล้วปล่อยควันพิษมาฆ่าคนอื่น แบบเห็นแก่ตัวไม่ยอมตายไปคนเดียว......
อันที่จริง ปัญหาเหล่านี้ ปัญหาที่มีคนแบบนี้ มันแก้ไม่ยากเลยค่ะ เริ่มที่ตัวเราก่อน สอนลูกหลานคนใกล้ชิด ปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้มีสามัญสำนึกและคำนึงถึงส่วนรวมบ้าง อย่าลืมนะคะ ....ทางห้างจะส่งคนมาคอยดักพวกแอบแฝงมาใช้ห้องให้นมก็ใช่เรื่อง แค่คอยดูความปลอดภัยคาร์บอม พนักงานก็เหนื่อยตากแดด กันหน้ามืดหมดแล้ว....
คำนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ..... ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน นะคะ.....อยากให้สังคมนี้ ปลอดคนมักง่ายจังค่ะ
ก่อนคุณจะใช้บริการห้องแม่และเด็ก/ที่จอดรถแม่และเด็ก ที่จอดคนพิการ...ถ้าคุณไม่ใช่แม่และเด็ก กรุณามีสามัญสำนึกสักนิด
ดิฉันคุณแม่ลูกสอง ลูกคนโต4ขวบคนที่สอง2ขวบ ติดตามสามีไปอบรมที่จังหวัดหนึ่ง และระหว่างรอ พวกเราสามชีวิตก็หอบหิ้วกันไปเดินเล่น shoppingที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง....
เดินเล่น shoppingกันเพลิดเพลิน ของเริ่มเยอะ ลูกเริ่มเหนื่อย เจ้าตัวเล็กเริ่มอยากกินนมนอน ดิฉันเลยพุ่งตรงไปยังห้องให้นม .... พอเปิดประตูเข้าไป ห้องให้นมดูแปลกไป ปกติไปใช้บริการบ่อยอยู่ค่ะ ที่นี่ เพราะไปเที่ยวจังหวัดนี้บ่อย .... ที่แปลกคือ ในห้องโถง โซฟาปกติมี2ตัว นี่หายไป1ตัว ห้องให้นมที่มีม่านปิด มี2ห้อง 1ห้องปิดม่าน อีก1ห้องว่าง ห้องที่ปิดม่านมีเสียงคนหญิงชาย คุยกัน หัวเราะกันสนุกสนาน!!!! นาทีนั้นดิฉันมั่นใจเกิน80%ว่า คงไม่ใช่แม่กำลังให้นมทารก แล้วคืออะไร???
ดิฉัน เดินไปห้องว่าง ซึ่งอยู่ติดกัน เข็นรถเข็นลูกเข้าไป ตอนนี้คนโตหลับแล้ว เลยคว้าคนเล็กที่กำลังนอนบนตักพี่สาว มากินนม ระหว่างให้นมน้อง ได้ยินเสียงห้องข้างๆ คุยหยอกล้อกัน หัวเราะกันฟังดูhappyมาก ด้วยอารมณ์ เหนื่อย กลัวลูกตื่น กลัวเจ้าตัวเล็กจะสอดรู้สอดเห็นไม่ยอมกินนม ไปทะลึ่งเปิดม่านห้องข้างๆ เพราะเสียงค่อนข้างดัง เลยตัดสินใจ เปิดม่านห้องตัวเองไว้ เดินมาเปิดประตูห้องให้นม และเดินไปหาพนักงานห้างที่ใกล้ที่สุด,...ระหว่างฟ้อง สายตาก็จับอยู่ที่ลูกคนโตที่นอนหลับตลอดเวลา เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ดิฉัน:โทษนะคะ ห้องให้นมนี่ผู้ชายเข้าได้ด้วยเหรอคะ?
พนักงาน: หมายถึงพ่อเด็กเหรอคะ?
ดิฉัน: คิดว่า ไม่ใช่ค่ะ เพราะเสียงหยอกล้อกัน คือกลัวไม้ปลอดภัยน่ะค่ะ อีกอย่างถึงพ่อเด็ก เค้าก็คงไม่ต้องเข้าไช่วยให้นมในม่านนะคะ
พนักงาน;สักครู่นะคะ
.................
ดิฉัน รีบกลับมาประจำที่ ม่านไม่ปิดนะคะ อยากรู้อยากเห็นค่ะ สักครู่เดียว มีพนักงานห้างเดินเข้ามา แบบ ก้าวฉับๆๆ ฟังเสียงที่ห้องนั้นคุยกัน ก่อนและตรงไปยังห้องเจ้าปัญหา เปิดม่านอย่างไว... ดิฉันได้ยินชัดเจน
ไม่ต้องเงี่ยหูให้เหนื่อย อิอิ
พนักงาน: โทษนะคะ ที่นี่คือห้องสำหรับแม่และเด็ก ไม่ใช่ห้องที่คุณจะมารีแล็กซ์ มาพักผ่อนกัน เชิญออกไปค่ะ
คนมักง่าย: ..........
พนักงาน: และการยกขาขึ้นแบบนั้นเป็นกิริยาที่น่าเกลียดมากเลยค่ะ ช่วยเอาโซฟาไปคืนที่เดิมด้วยนะคะ และที่นี่ติดป้ายชัดเจนแล้วว่า ห้องสำหรับแม่และเด็กนะคะ อ่านด้วยนะคะ
มีวัยรุ่นมักง่ายชาย2 หญิง1 เดินออกมา ยังหัวร่อ ต่อกระซิกกัน เหมือนเป็นเรื่องตลก !!!!! เข็นโซฟามาวางคืนในห้องโถง และเดินหัวเราะออกไป!!!!!
ในฐานะ คนที่มีสิทธิ์ใช้บริการสถานที่ตรงนั้นโดยชอบธรรม ดิฉันรู้สึกละอายแทนกลุ่นคนเหล่านั้นอย่างมาก พวกเค้าไม่รู้สึกกระดากใจบ้างเหรอ?? จิตสำนึกดีๆ หายไปไหนหมดแล้ว ??? หรือ อ่านหนังสือไม่ออก ??? หรืออ่านป้ายสัญลักษณ์ไม่เข้าใจ??
ถ้ามีคุณแม่ลูกท่านอื่นเข้ามา แล้วห้องเต็ม โซฟาที่โถงก็หายไป เค้าจะทำอย่างไร ไม่ต้องนั่งพื้นให้นมลูกหรอกเหรอ???? ปกติดิฉันขนาดลูก2 เวลาจะเข้าห้องแม่และเด็ก ถ้าสามีมาด้วย เค้ายังไม่เคยก้าวเข้าไปเลยค่ะ เพราะสามีดิฉันอ่านหนังสือออก ......
ตอนแรก ดิฉันตั้งใจจะ นั่งที่ห้องโถง เพราะดิฉันลูก2แล้ว ยางอายเรื่องควักนมให้ลูกกินหายไปหมดแล้วค่ะ ว่าจะเว้นห้องให้คนอื่นที่เข้ามา เพราะเข้าใจเลยว่า ตอนมีลูกคนแรก เวลาจะให้นมลูกที มันเขิน อาย มันต้องหลบมุม และเด็กเล็กๆ พอกินนม คือจะหลับ เค้าต้องการความสงบ.... แต่นี่ คนเหล่านั้นคิดได้อย่างไร????มาแย่งห้องให้นมทารก???เอามานั่งคุย ตากแอร์ห้าง!!
ดูจากสารร่างแล้ว น่าจะอายุราวๆ20 ก็ไม่เด็กแล้วนะคะ .... เข้าไปนั่งทำอะไรกัน??? แล้วที่พนักงานว่าไปว่า นั่งไม่สุภาพ มันอย่างไรกัน???
และไหนๆก็พูดกันถึงเรื่องพื้นที่เฉพาะแบบนี้แล้ว อีกเรื่องที่น่าตกใจคือ ที่จอดรถที่มีป้ายเขียนหรือสัญลักษณ์ว่า สำหรับสุภาพสตรี สำหรับแม่และเด็ก สำหรับคนพิการ มันเป็นที่จอดที่ใกล้ทางเข้าห้างที่สุด สะดวกที่สุด ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ กลุ่มบุคคลตามที่ป้ายเค้าแจ้งไว้....แต่ไม่น่าเชื่อว่า
....... ประชากรกำลังจะล้นโลก เพราะที่จอดรถแม่และเด็กจะเต็มตลอด ไม่น่าเชื่อว่า มีผู้ชายมาคนเดียวบ้าง สองสามคนบ้าง มาจอดรถในที่จอดแม่และเด็ก!!!!! นี่ประเทศเรา ผู้ชายเป็นแม่ได้แล้วเหรอ??? แถมไม่มีลูกมาด้วยอีกต่างหาก!!!! แล้วบางครั้งเคยเห็นผู้หญิง มาจอด แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่แม่และไม่มีทีท่าว่าจะเป็นแม่เพราะไม่เหมือนคนท้องสักนิด เพราะล่อส้นสูงปรี๊ดขนาดนั้น มาจอดในที่แม่และเด็ก!!!!แล้วลูกเค้าล่ะ หรือจะเป็นกุมาร ไม่มีใครเห็น ตัวเองเห็นคนเดียว !!!!
ดิฉัน ในฐานะคุณแม่ลูกสอง ถ้าว่างจะพาลูกๆไปห้างค่ะ เพราะ
1. ดิฉันเลี้ยงลูกเอง ไม่ไว้ใจใคร ไม่สามารถฝากใครไว้ได้ ไม่มีผู้ช่วย ไปไหนก็หอบหิ้วกันไป ไปทำงานก็พาไป
2. ดิฉันเคยดีใจ ที่ทางห้างสรรพสินค้าเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มลูกค้าตัวเล็กๆ อย่างดิฉัน อุตส่าห์กันที่จอดรถไว้ให้ แต่ ไม่เคยได้ใช้เลยค่ะ อย่างที่บอกว่า มีผู้ชาย มีผู้หญิงที่มีลูกเป็นกุมาร มาแย่งตลอดๆ
.....หลายคนอาจบอกว่า ...ก็ที่ว่างอ่ะ แบบรีบ แบบมันสะดวก แบบมักง่าย แบบไม่เห็นมีใครจอด แล้วคุณเคยลองนึกไปไหม ว่า อาจจะมีคนที่เค้ามีสิทธิ์มาจอดที่ตรงนี้จริงๆ เค้าต้องการมาจอด แต่โดนคนมักง่ายแบบนั้นแย่งไปแล้ว บ่อยครั้งที่ดิฉัน ต้องหอบทั้งลูก ทั้งของ เดินแสนไกล เพื่อเข้าห้าง หรืออาจมีคนถามอีก ว่า แล้วจะมาทำไม ในเมื่อลำบาก.... ตอบไว้ก่อนเลยว่า ขอแสดงความเวทนาด้วยสำหรับคนที่คิดจะถามคำถามนี้ เพราะคุณคงไม่เคยมีความรัก คงไม่เคยได้รู้ซึ้งถึงคำว่า ครอบครัว และตราบใดที่คุณยังไม่มีลูก คุณจะไม่รู้เลยว่า ไม่ว่ามนุษย์แม่ไปไหน ก็อยากหอบลูกไปด้วย.... ห้างก็คงยินดีต้อนรับเหล่ามนุษย์แม่ ไม่งั้นจะมีที่จอดเฉพาะให้เหรอคะ ไม่งั้นจะมีพื้นที่ /ห้องเฉพาะให้เหรอคะ จริงไหม???
....ที่จอดรถคนพิการอีกอย่าง น่าตกใจมากว่า คนปัจจุบันพิการกันมากขึ้น ที่จอดเต็มตลอด แต่พอเดินมาขึ้นรถ หรือพอก้าวลงจากรถ...ดูไปก็ไม่น่าพิการ หรือพิการสมอง????
บางคนอาจคิดว่า เรื่องนี้คือปัญหาเล็กๆน้อยๆ แต่ดิฉันคิดว่า มันคือปัญหาใหญ่มาก เพราะมันสื่อให้เห็นถึงความมักง่าย ความเห็นแก่ตัว ความไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่น คนเหล่านี้ อาจเป็นหนึ่งในพวกที่ทิ้งขยะไม่ลงถัง ทำให้บ้านเมืองสกปรก อาจเป็นหนึ่งในคนที่แอบกินของ ขนม ที่วางขายในห้างแล้วเอาเปลือกซุกตามชั้นวางของ อาจเป็นหนึ่งในคนที่ เอาเปลือกขนม แก้วน้ำดื่มที่แจกในห้าง ใส่ทิ้งไว้ในตะกร้าหรือรถเข็นของห้าง แบบกินเสร็จแล้วทิ้งเปลือก คิดเงินเสร็จเอาไปแต่ของตัวเอง ขยะใส่ไว้ช่างมัน คนข้างหลังค่อยเอาทิ้งเอง อาจเป็นหนึ่งในคนที่เอาหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้ว ป้ายตามเบาะรถเมย์ เบาะรถสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะ คนเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในคนที่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลอง คนเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในคนที่เอาหมาแมว มาเดินเล่น แล้วปล่อยให้ถ่ายเรี่ยราด ในที่สาธารณะแล้วสะบัดก้นจากไป โดยไม่คิดเลยว่าคนที่เดินมาอาจเหยียบได้ คนเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในคนที่สูบบุหรี่พ่นควันในที่สาธารณะ ในที่ห้ามสูบ แล้วปล่อยควันพิษมาฆ่าคนอื่น แบบเห็นแก่ตัวไม่ยอมตายไปคนเดียว......
อันที่จริง ปัญหาเหล่านี้ ปัญหาที่มีคนแบบนี้ มันแก้ไม่ยากเลยค่ะ เริ่มที่ตัวเราก่อน สอนลูกหลานคนใกล้ชิด ปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้มีสามัญสำนึกและคำนึงถึงส่วนรวมบ้าง อย่าลืมนะคะ ....ทางห้างจะส่งคนมาคอยดักพวกแอบแฝงมาใช้ห้องให้นมก็ใช่เรื่อง แค่คอยดูความปลอดภัยคาร์บอม พนักงานก็เหนื่อยตากแดด กันหน้ามืดหมดแล้ว....
คำนี้ยังใช้ได้ดีเสมอ..... ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน นะคะ.....อยากให้สังคมนี้ ปลอดคนมักง่ายจังค่ะ