(ต้องขออภัยจริงๆนะค่ะที่Cr ขึ้นหลายอันใครรู้วิธีแก้ช่วยบอกด้วยค่ะ^^)
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะเพื่อนๆ(ย้อนหลัง)
สงกรานต์ครั้งนี้เราหยุดยาวถึง 5 วันเลยทีเดียว
เดิมทีคิดว่าจะไม่ไปไหนช่วงเทศกาลคนเยอะ แต่บังเอิญเพื่อนเรานางอยากไปบ้านกกกอดเดิมทีว่ากันว่าจะไป
แค่สองวันไปๆมาๆงอกเป็นสามและเป็นสี่วันสมใจนางจ้า 5555 บ้านกกกอดเคยเห็นในรูปวิวสวยดีแต่ไม่เคยมา
แล้วโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นมาคือสังขละบุรี จริงๆเราเพิ่งไปมาเมื่อต้นปีนี่เองแต่การไปที่เดิมซำ้ๆรายละเอียดมัก
ไม่เหมือนกันทั้งหมด^^ เพื่อนเราจองที่พักที่บ้านกกกอดไว้สองหลังติดวิว ชื่อกอดตะวันและกอดฟ้า(ชื่อเพราะมาก)
สำหรับที่สังขละนางไม่ได้จองคิดว่ามีแน่นอนแม้เป็นช่วงเทศกาล5555(มั่นใจมาก....) การเดินทางเรานัดแนะกัน
ว่าจะไปรถไฟฟรีขึ้นที่สถานีธนบุรี
วันแรกของการเดินทางเรานัดกันที่สถานีธนบุรี
ไปรับตั๋วฟรีที่ช่องจำหน่ายตั๋วและขึ้นรถไฟ
ไปน้ำตกในรอบ 07.55 น.
รถไฟออกเดินทางเราเลือกนั่งฝั่งซ้ายค่ะเขาว่าวิวสวย
เรามาถึงสถานีกาญจนบุรีแล้วแต่ยังไม่สุดสายน่ะเราลงกันก่อน
จากนั้นเราแวะกินข้าวข้างทางกันก่อนเป็นร้านอาหารใต้เดินออกมาจากสถานี
แล้วเดินข้ามถนน
อิ่มท้องแล้วเดินทางต่อจ้า เรานั่งรถกาญ-ด่านช้างไปลงท่ารถ บขส.คนละ 10 บาท
ลุงกระเป๋ารถเมล์แนะนำรถสองแถวรับจ้างให้เพื่อนเราบอกว่าเป็นญาติคิดราคาญาติ555
ตรงบขส.เราได้รู้จักลุงสมศักดิ์(จากการแนะนำของลุงกระเป๋ารถ) ลุงคิดราคาเรา600บาท
ถ้าไปส่งบ้านกกกอดอย่างเดียว แต่เพื่อนเราเลือกเที่ยวสองที่ทางไปบ้านกกกอดคือวัดถ้ำมังกรทอง
และต้นจามจุรียักษ์และลุงแถมพาไปสักการะศาลหลักเมืองเพราะเพื่อนเราบอกให้ลุงพาไปด้วย
ลุงคิดเพิ่ม200บาทเป็น800บาทหารสี่ตกคนละ 200บาท
ลุงมีเมนูให้เลือกด้วยว่าจะไปไหนชี้เลยจ๊ะ555แล้วจ่ายเพิ่มแกไป
สถานที่แรกที่ลุงพาไปคือต้นจามจุรียักษ์เราแวะถ่ายรูปกัน
เสร็จจากถ่ายรูปเล่นเราก็ไปไหว้พระที่วัดถ้ำมังกรทองค่ะ วัดนี้มีชื่อเสียงใน
เรื่องแม่ชีลอยน้ำค่ะ แต่วันที่เราไปไม่เห็น เราขึ้นไปไหว้พระบันไดสูงมากแดดร้อน
มากแต่มีศรัทธาต้องไปให้ถึง
เหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำมังกรทองก็เนื่องจากมีบันไดสีแดงสดจำนวน 95 ขั้นที่สร้างเป็นรูปมังกร
ขนาดใหญ่สองตัวขนานกันไปจนสุดทางข้างบนปากถ้ำ
มีสิงโตติดอยู่กับหินแท่งใหญ่ตรงปากถ้ำ
ภายในถ้ำมีหินงอกสลับซับซ้อนสวยงามมากมีพระพุทธรูปอายุร้อยกว่าปีและรอย
พระพุทธบาท ตอนเราไปภายในถ้ำรู้สึกเย็น
ภายในถ้ำยังมีทางให้เราเดินชมธรรมชาติภายในถ้ำแล้วปีนป่ายออกอีกทางหนึ่ง
ด้วยแรงศรัทธาเราจึงจัดไป
เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ค่ะ
เจอทางออกแล้วเย้.....ปีนป่ายออกมา
ออกมาเจอหลักธรรม
หลังจากแวะวัดถ้ำมังกรทองแล้วลุงก็พาเราไปไหว้ศาลหลักเมืองและถ่ายรูปกันตรงซุ้ม
ประตูเมือง
เที่ยวจนพอใจเราก็เข้าบ้านในฝันของเราแล้วค่ะบ้านที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำ ท้องฟ้า ขุนเขา
ต้นไม้
[CR] [CR][CR][CR][CR]วันฟ้าใส...พาใจไปบ้านกกกอด...บอกรักสังขละในวันสงกรานต์😄😄😄
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะเพื่อนๆ(ย้อนหลัง) สงกรานต์ครั้งนี้เราหยุดยาวถึง 5 วันเลยทีเดียว
เดิมทีคิดว่าจะไม่ไปไหนช่วงเทศกาลคนเยอะ แต่บังเอิญเพื่อนเรานางอยากไปบ้านกกกอดเดิมทีว่ากันว่าจะไป
แค่สองวันไปๆมาๆงอกเป็นสามและเป็นสี่วันสมใจนางจ้า 5555 บ้านกกกอดเคยเห็นในรูปวิวสวยดีแต่ไม่เคยมา
แล้วโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นมาคือสังขละบุรี จริงๆเราเพิ่งไปมาเมื่อต้นปีนี่เองแต่การไปที่เดิมซำ้ๆรายละเอียดมัก
ไม่เหมือนกันทั้งหมด^^ เพื่อนเราจองที่พักที่บ้านกกกอดไว้สองหลังติดวิว ชื่อกอดตะวันและกอดฟ้า(ชื่อเพราะมาก)
สำหรับที่สังขละนางไม่ได้จองคิดว่ามีแน่นอนแม้เป็นช่วงเทศกาล5555(มั่นใจมาก....) การเดินทางเรานัดแนะกัน
ว่าจะไปรถไฟฟรีขึ้นที่สถานีธนบุรี
วันแรกของการเดินทางเรานัดกันที่สถานีธนบุรีไปรับตั๋วฟรีที่ช่องจำหน่ายตั๋วและขึ้นรถไฟ
ไปน้ำตกในรอบ 07.55 น.
รถไฟออกเดินทางเราเลือกนั่งฝั่งซ้ายค่ะเขาว่าวิวสวย
เรามาถึงสถานีกาญจนบุรีแล้วแต่ยังไม่สุดสายน่ะเราลงกันก่อน
จากนั้นเราแวะกินข้าวข้างทางกันก่อนเป็นร้านอาหารใต้เดินออกมาจากสถานี
แล้วเดินข้ามถนน
อิ่มท้องแล้วเดินทางต่อจ้า เรานั่งรถกาญ-ด่านช้างไปลงท่ารถ บขส.คนละ 10 บาท
ลุงกระเป๋ารถเมล์แนะนำรถสองแถวรับจ้างให้เพื่อนเราบอกว่าเป็นญาติคิดราคาญาติ555
ตรงบขส.เราได้รู้จักลุงสมศักดิ์(จากการแนะนำของลุงกระเป๋ารถ) ลุงคิดราคาเรา600บาท
ถ้าไปส่งบ้านกกกอดอย่างเดียว แต่เพื่อนเราเลือกเที่ยวสองที่ทางไปบ้านกกกอดคือวัดถ้ำมังกรทอง
และต้นจามจุรียักษ์และลุงแถมพาไปสักการะศาลหลักเมืองเพราะเพื่อนเราบอกให้ลุงพาไปด้วย
ลุงคิดเพิ่ม200บาทเป็น800บาทหารสี่ตกคนละ 200บาท
ลุงมีเมนูให้เลือกด้วยว่าจะไปไหนชี้เลยจ๊ะ555แล้วจ่ายเพิ่มแกไป
สถานที่แรกที่ลุงพาไปคือต้นจามจุรียักษ์เราแวะถ่ายรูปกัน
เสร็จจากถ่ายรูปเล่นเราก็ไปไหว้พระที่วัดถ้ำมังกรทองค่ะ วัดนี้มีชื่อเสียงใน
เรื่องแม่ชีลอยน้ำค่ะ แต่วันที่เราไปไม่เห็น เราขึ้นไปไหว้พระบันไดสูงมากแดดร้อน
มากแต่มีศรัทธาต้องไปให้ถึง
เหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำมังกรทองก็เนื่องจากมีบันไดสีแดงสดจำนวน 95 ขั้นที่สร้างเป็นรูปมังกร
ขนาดใหญ่สองตัวขนานกันไปจนสุดทางข้างบนปากถ้ำ
มีสิงโตติดอยู่กับหินแท่งใหญ่ตรงปากถ้ำ
ภายในถ้ำมีหินงอกสลับซับซ้อนสวยงามมากมีพระพุทธรูปอายุร้อยกว่าปีและรอย
พระพุทธบาท ตอนเราไปภายในถ้ำรู้สึกเย็น
ภายในถ้ำยังมีทางให้เราเดินชมธรรมชาติภายในถ้ำแล้วปีนป่ายออกอีกทางหนึ่ง
ด้วยแรงศรัทธาเราจึงจัดไป
เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ค่ะ
เจอทางออกแล้วเย้.....ปีนป่ายออกมา
ออกมาเจอหลักธรรม
หลังจากแวะวัดถ้ำมังกรทองแล้วลุงก็พาเราไปไหว้ศาลหลักเมืองและถ่ายรูปกันตรงซุ้ม
ประตูเมือง
เที่ยวจนพอใจเราก็เข้าบ้านในฝันของเราแล้วค่ะบ้านที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสายน้ำ ท้องฟ้า ขุนเขา
ต้นไม้