คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
1.)การทำงาน ทำงานหลายอย่างได้ แต่ถ้าถามเรื่องงานใน รพ. ก็มีหลายงานที่ต้องทำ แต่หลักๆ คือการจ่ายยาตาม order ของแพทย์ (ซึ่งเภสัชกรประเมินแล้ววว่าเหมาะสมตึงจ่ายนะครับ คือต้องคิดไปด้วยทำไปด้วยอ่ะครับ) และเป็นศูนย์ข้อมูทางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพให้กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ แล้วงาน รพ. มีหลายอย่าง
1.) งานคนไข้นอก (ประเมินยาที่แพทย์สั่งกับคนไข้เป็นรายๆ case by case , ทบทวนประวัติการใช้ยาคนไข้ , สนการใช้ยาเทคนิคพิเศษ ยาพ่น ยาสอด ยาเหน็บ ยาหยอดตา ยาที่ใช้แบบแปลกๆ แม้แต่เรื่องกินยาว่ากินแบบไหนปลอดภัยสุด )
ปล.เรื่องนี้ งง ว่าคนส่วนใหญ่ คิดว่าแค่พบหมอก็พอ รับยาใครรับแทนก็ได้ พออธิบายกะญาติไป ถึงวันนัดติดตามผล พออาการไม่ดีขึ้นมาโทษว่าหมอไม่ดี กว่า 30% คือหมอดี วินิจฉัยโรคถูก จ่ายยาถูก และคนไข้เแงอ่ะดื้อ หรือใช้ยาไม่ถูกเพราะไม่ฟังเภสัชกรอธิบาย
ปล2. ถ้าวันไหนคนไข้เยอะ จ่ายยาอธิบายยาจนเมื่อกรามเหมือนเป็นคางทูม พูดตลอดตั้งแต่แปดโมงยันบ่ายโมง 555
2.)งานคนไข้ใน (ประเมินการสั่งใช้ยา case by case โดยอิงข้อมูลจากผลตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ เช่น ผลตรวจเลือด ผลการเพราะเชื้อที่ต้องได้ยาปฏิชีวนะ และอื่นๆ ที่ใช้อ้างอิง วอร์ดราวน์ร่วมกับสหวิชาชีพ ติดตามประเมินผลการใช้ยาและการตอบสนองต่อยา
3.) งานเภสัชกรรมสนเทศ (Drug Information Service) คือเป็นศูนย์ข้อมูลทางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอ่ะครับ เช่น หาข้อมูลแก้ปัญหาการใช้ยา หาข้อมูลยาใหม่ เสนอยาเข้า รพ. ตามที่หมอต้องการ หรือ นายคนนั้นอกหักรักคุด กินยาฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นสารเคมี ต้องใช้อะไรแก้ แพทย์ห
ก็แก้ไขเบื่องต้นที่ห้องฉุกเฉิน เภสัชกรส่วนนี้ก็มีสติหาข้อมูลให้เร็วที่สุด โดยใช้ evidence base medicine (ไม่ใช้การเสิชในกูเกิ้ลนะครับ 5555) หรือง่ายๆ ก็ติดต่อศูนย์พิษวิทยา หรือ สาวคนนั้นอยากสวยใช้ครีมไม่มี อย. หน้าพัง มาหาหมอ ก็ต้องหาข้อมูลแก้ไขกันไป
4.)งานคุ้มครองผู้บริโภค อันนี้เภสัชต้องเกี่ยวเต็มๆ เพราะ พรบ. สุขภาพ 8 อย่างเสภชกรต้องรู้ และดูแลได้ เช่น ยา อาหาร สารเคมี เครือางมือแพทย์ เครื่อองสำอาง ฯลฯ
และง่ายอื่นๆ เช่น ประเมินคนไข้แพ้ยา ยายาคลินิคพิเศษเฉพาะโรค (เบาหวาน ความดัน เอดส์ วัณโรค ฯลฯ) ออกเยี่ยมบ้าน และงานบริหารความเสี่ยง งายบริหาร รพ.
ในแง่ของความก้าวหน้า ถ้าเป็นหัวหน้าฝ่ายใน รพ. ใหญ่ๆ มากๆ อาจได้ถึงซี 8 แต่ก็ส่วนน้อย หรืออาจเป็น ผอ. รพ. ก็เป็นได้ แต่หัวหน้าตาม รพช. จะตันที่ซี 7 นะ อิอิ (อันนี้ไม่ค่อยมันใจ ขออภัยหากผิดพลาด เพราะผู้ตอบออกจากระบบราชการมาสักพักล่ะครับ)
เรื่องเกีรติยศศักดิ์ศรี ผมเข้าใจว่าที่คนก็มีเหมือนกันมั้ยครับ อยู่ที่การวางตัว ถ้าเราวางตัวดี การได้รับการเคารพนับถือให้เกียรติ ถ้าเราทำตัวไม่ดี ย่อมไม่ได้รับเกียรติจากคนรอบข้างเช่นกัน
ปล.เป็นเภสัชกร (ก็ยังนับว่าเป็นมนุษย์เงินเดือน) ซึ่งเรามองว่ามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไม่แพ้วิชาชีพอื่นๆ ใน รพ. หรอก ซึ่งไม่ทำให้รวยเช่นกัน แต่ก็ไม่ทำให้จน หากเป็นผู้ชาย คิดว่าอาชีพนี้เลี้ยงลูกและภรรยาได้คนับ หากเป็นผู้หญิง คิดว่าอาชีพนี้หากเป็น single mom ก็ยังสามารถเลี้ยงลูกได้ (ปล.ต้องรู้จักใช้ดงินด้วยนะ)
ท้ายที่สุด หากข้อมูลส่วนใดผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ
"รวมใจกันยึดมั่นคุณธรรมเภสัชกรรมเพื่อปวงชน
ปวงโรคามีมากหลากล้นเราเสาะเราค้นคิดยามาป้อง
ทั้งฉีดกินหมดสิ้นทั้งผอง เพื่อป้องกันโรคภัยนับคณา.."
1.) งานคนไข้นอก (ประเมินยาที่แพทย์สั่งกับคนไข้เป็นรายๆ case by case , ทบทวนประวัติการใช้ยาคนไข้ , สนการใช้ยาเทคนิคพิเศษ ยาพ่น ยาสอด ยาเหน็บ ยาหยอดตา ยาที่ใช้แบบแปลกๆ แม้แต่เรื่องกินยาว่ากินแบบไหนปลอดภัยสุด )
ปล.เรื่องนี้ งง ว่าคนส่วนใหญ่ คิดว่าแค่พบหมอก็พอ รับยาใครรับแทนก็ได้ พออธิบายกะญาติไป ถึงวันนัดติดตามผล พออาการไม่ดีขึ้นมาโทษว่าหมอไม่ดี กว่า 30% คือหมอดี วินิจฉัยโรคถูก จ่ายยาถูก และคนไข้เแงอ่ะดื้อ หรือใช้ยาไม่ถูกเพราะไม่ฟังเภสัชกรอธิบาย
ปล2. ถ้าวันไหนคนไข้เยอะ จ่ายยาอธิบายยาจนเมื่อกรามเหมือนเป็นคางทูม พูดตลอดตั้งแต่แปดโมงยันบ่ายโมง 555
2.)งานคนไข้ใน (ประเมินการสั่งใช้ยา case by case โดยอิงข้อมูลจากผลตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ เช่น ผลตรวจเลือด ผลการเพราะเชื้อที่ต้องได้ยาปฏิชีวนะ และอื่นๆ ที่ใช้อ้างอิง วอร์ดราวน์ร่วมกับสหวิชาชีพ ติดตามประเมินผลการใช้ยาและการตอบสนองต่อยา
3.) งานเภสัชกรรมสนเทศ (Drug Information Service) คือเป็นศูนย์ข้อมูลทางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอ่ะครับ เช่น หาข้อมูลแก้ปัญหาการใช้ยา หาข้อมูลยาใหม่ เสนอยาเข้า รพ. ตามที่หมอต้องการ หรือ นายคนนั้นอกหักรักคุด กินยาฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นสารเคมี ต้องใช้อะไรแก้ แพทย์ห
ก็แก้ไขเบื่องต้นที่ห้องฉุกเฉิน เภสัชกรส่วนนี้ก็มีสติหาข้อมูลให้เร็วที่สุด โดยใช้ evidence base medicine (ไม่ใช้การเสิชในกูเกิ้ลนะครับ 5555) หรือง่ายๆ ก็ติดต่อศูนย์พิษวิทยา หรือ สาวคนนั้นอยากสวยใช้ครีมไม่มี อย. หน้าพัง มาหาหมอ ก็ต้องหาข้อมูลแก้ไขกันไป
4.)งานคุ้มครองผู้บริโภค อันนี้เภสัชต้องเกี่ยวเต็มๆ เพราะ พรบ. สุขภาพ 8 อย่างเสภชกรต้องรู้ และดูแลได้ เช่น ยา อาหาร สารเคมี เครือางมือแพทย์ เครื่อองสำอาง ฯลฯ
และง่ายอื่นๆ เช่น ประเมินคนไข้แพ้ยา ยายาคลินิคพิเศษเฉพาะโรค (เบาหวาน ความดัน เอดส์ วัณโรค ฯลฯ) ออกเยี่ยมบ้าน และงานบริหารความเสี่ยง งายบริหาร รพ.
ในแง่ของความก้าวหน้า ถ้าเป็นหัวหน้าฝ่ายใน รพ. ใหญ่ๆ มากๆ อาจได้ถึงซี 8 แต่ก็ส่วนน้อย หรืออาจเป็น ผอ. รพ. ก็เป็นได้ แต่หัวหน้าตาม รพช. จะตันที่ซี 7 นะ อิอิ (อันนี้ไม่ค่อยมันใจ ขออภัยหากผิดพลาด เพราะผู้ตอบออกจากระบบราชการมาสักพักล่ะครับ)
เรื่องเกีรติยศศักดิ์ศรี ผมเข้าใจว่าที่คนก็มีเหมือนกันมั้ยครับ อยู่ที่การวางตัว ถ้าเราวางตัวดี การได้รับการเคารพนับถือให้เกียรติ ถ้าเราทำตัวไม่ดี ย่อมไม่ได้รับเกียรติจากคนรอบข้างเช่นกัน
ปล.เป็นเภสัชกร (ก็ยังนับว่าเป็นมนุษย์เงินเดือน) ซึ่งเรามองว่ามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไม่แพ้วิชาชีพอื่นๆ ใน รพ. หรอก ซึ่งไม่ทำให้รวยเช่นกัน แต่ก็ไม่ทำให้จน หากเป็นผู้ชาย คิดว่าอาชีพนี้เลี้ยงลูกและภรรยาได้คนับ หากเป็นผู้หญิง คิดว่าอาชีพนี้หากเป็น single mom ก็ยังสามารถเลี้ยงลูกได้ (ปล.ต้องรู้จักใช้ดงินด้วยนะ)
ท้ายที่สุด หากข้อมูลส่วนใดผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ
"รวมใจกันยึดมั่นคุณธรรมเภสัชกรรมเพื่อปวงชน
ปวงโรคามีมากหลากล้นเราเสาะเราค้นคิดยามาป้อง
ทั้งฉีดกินหมดสิ้นทั้งผอง เพื่อป้องกันโรคภัยนับคณา.."
แสดงความคิดเห็น
เภสัชกร การทำงาน ความก้าวหน้าเป็นยังไงบ้าง
ความก้าวหน้าเงินเดือนการเรียนต่อเป็นอย่างไรบ้างค้ะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ขอบคุณมากน้ะค้ะ